บทที่ 99-100
บทที่ 99
เดินไปอย่างเงียบ ๆ
แม่บ้านซ่งถือผ้าขนหนู ก้าวมายืนอยู่ข้าง ๆ เตียง เห็นว่าสภาพของถังซือซือค่อนข้างแย่ทีเดียว เหงื่อออกเยอะจนชุ่มโชก แม้แต่หมอนและผ้าขนหนูที่เธอนำมาให้ก่อนหน้านี้ยังเปียกชุ่มไปหมด เธอนึกลังเลว่าจะเข้าไปช่วยดีไหม แต่เมื่อเห็น เซียวเฉินเยวียนนั่งอยู่ขอบเตียง เธอก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้
ในทางกลับกัน เซียวเฉินเยวียนรับรู้ถึงเจตนาของ แม่บ้านซ่ง เขาจึงหันไปหาเธอ ก่อนโบกมือให้เธอยื่นผ้าขนหนูมาให้เขาแทน
แม่บ้านซ่งสวมถุงมือสีขาว ยื่นผ้าขนหนูให้ เซียวเฉินเยวียนด้วยความเคารพ แล้วหันหลังกลับไปสังเกตอาการของถังซือซือ หลังจากนั้นเธอเห็นว่าเขาเริ่มเช็ดเหงื่อตามข้างแก้มและหน้าผากของเธอเบา ๆ ด้วยความอ่อนโยน
ความรู้สึกแปลก ๆ ในใจของแม่บ้านซ่งได้ก่อตัวขึ้น
เธอแสดงสีหน้าแปลกใจระคนสงสัย
เธอทำงานในคฤหาสน์ซินหยวนมาหลายปี เกือบจะสามสิบปีได้ ตั้งแต่เซียวเฉินเยวียนเกิด เธอไม่เคยเห็นเจ้านายคนนี้เข้าใกล้กับบุคคลอื่นหรือยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือด้วยตัวเองเลย
จากคำบอกเล่าของกู่ชวน ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้ มีแนวโน้มที่จะเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลเซียวพอสมควร
แม้ว่าจนถึงตอนนี้ ในใจของเธอจะมีแต่ความสงสัยเต็มไปหมด เพราะเธอยังไม่เห็นวี่แววใด ๆ เลยว่าหญิงสาวคนนี้จะเป็นคุณผู้หญิงได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากพอสมควรที่จะยอมรับ แต่เธอเชื่อว่าตัวเองสามารถปรับตัวตามผู้เป็นนายได้
ตอนดึก ภายในคฤหาสน์ซินหยวน แสงไฟค่อย ๆ ดับลง สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่หรูหราสวยงาม แม้ในยามค่ำคืนก็ยังดูงดงามไม่น้อย
ภายในห้องบนชั้นสอง ถังซือซือห่มผ้าที่ไม่หนาไม่บางจนเกินไป เตาผิงที่ยังลุกไหม้ให้ความอบอุ่นกับร่างกายเธอได้ดีทีเดียว เธอจึงหลับได้อย่างสบายใจ
หลังจากการฝังเข็มของหมอซู อาการของเธอดีขึ้นมาก เส้นเลือดไหลเวียนได้ดี อุณหภูมิร่างกายกลับมาเป็นปกติ
ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาถูกรักษาโดยทักษะทางการแพทย์อันยอดเยี่ยมของหมอซู ตอนนี้เธอแทบจะหายดีเป็นปลิดทิ้ง
กลางดึก เปลือกตาของถังซือซือขยับสองถึงสามครั้ง และทันใดนั้นเธอก็รู้สึกตัวตื่นขึ้น
เธอพยายามเพ่งมองไปในความมืดรอบ ๆ ตัว ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ
เดี๋ยวนะ ที่นี่มัน…
เธอเห็นได้ชัดว่าที่นี่ไม่ใช่หอพักในมหาวิทยาลัย
และไม่ใช่ห้องเช่าที่คอนโดเฟิงตันอีกด้วย
นี่เราปวดท้องจนไม่สบายแล้วหลับไปโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย? เธออาจถึงตายได้เลยนะยัยโง่ แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
จริงสิ พอรื้อฟื้นความทรงจำของเจ้าของร่างคนก่อนก็เหมือนจะจำอะไรขึ้นมาได้ มันเรียกว่าประจำเดือนสินะ? เหมือนว่า... จะไม่ปวดแล้ว? ปกติอาการปวดหายไปเร็วแบบนี้เลยเหรอ เพราะในความทรงจำบอกไว้ว่าเวลาเธอเป็นประจำเดือน จะต้องนอนป่วยเป็นศพอยู่หลายวันนี่นา
ยังมีอีกหลายอย่างด้วย…
แต่เดี๋ยว สถานที่นี้ดูคุ้นตาอยู่นะ
ถังซือซือยกมือตบแก้มทั้งสองข้างเบา ๆ แล้วจำขึ้นได้ว่า ที่นี่มันห้องตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาบนโลกนี้เป็นวันแรกหลังจากดาวเคปเลอร์ระเบิดนี่นา?
แปลว่าตอนนี้ฉัน…
ฉันอยู่ในคฤหาสน์ของคุณชายปีศาจเซียวเฉินเยวียน
ที่แท้ตอนที่ฉันนอนซมอยู่บนเตียงอย่างกับคนใกล้ตาย เสียงเคาะประตูนั่นเป็นฝีมือเขานี่เอง...
ถังซือซือไล่ย้อนคิดไปเรื่อย ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เมื่อรู้แล้วก็ไม่ได้ช่วยให้เธอหายกังวล เพราะไม่รู้ว่าเธอถูกพาตัวมาที่นี่ได้ยังไง?
ถึงจะไม่รู้ว่าตัวเองถูกพาตัวมาที่นี่ด้วยวิธีไหน แต่อย่างน้อยก็รู้สึกโล่งอกมากขึ้น
เมื่อเธอเหยียดมือไปด้านข้าง ก็พบว่าโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่ใกล้ ๆ
คุณชายปีศาจนั่นใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ก็เป็นด้วย
แต่เดี๋ยว? ทำไมหน้าจอเปิดไม่ติด สงสัยคงปิดเองอัตโนมัติเพราะแบตหมดสินะ
ไม่แปลกใจเลย... ตอนที่เธอได้ยินเสียงเคาะประตูยังแอบบ่นในใจว่าทำไมคนข้างนอกถึงไม่โทรมา ปรากฏว่าโทรศัพท์ของเธอแบตหมดนี่เอง
ถังซือซือลุกขึ้นจากเตียง เส้นผมยาวสีดำสนิทปลิวไสวราวกับน้ำตก เท้าเปลือยเปล่าเหยียบลงบนผืนพรมหนา ๆ ก่อนเดินไปเปิดประตูแล้วเดินออกไป
พอเดินออกจากประตูมา หน้าห้องจะเป็นทางเดินที่สามารถมองเห็นระเบียงของคฤหาสน์ซึ่งอยู่สุดทางเดิน
ถังซือซือเดินไปตามทางเดินอย่างเงียบ ๆ จนเดินไปหยุดที่ตรงระเบียง จึงยืนมองทิวทัศน์รอบ ๆ
เมื่อเซียวเฉินเยวียนเดินขึ้นมาบนชั้นสอง เขาเดินผ่านโคมไฟตามทางเดินที่สว่างไสว มองตรงไปแล้วเห็นหญิงสาวร่างผอมบางยืนอยู่ตรงระเบียงสุดทางเดิน ใบหน้าธรรมดาทั่วไป เส้นผมยาวสีดำสนิทพาดอยู่บนบ่าทั้งสอง แขนขาเรียวเล็ก เท้าที่เปลือยเปล่ากำลังยืนอยู่บนพรมลวดลายสวยงาม สวมชุดนอนหลวม ๆ ดีไซน์เรียบง่าย เขาเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังเธอย่าง เงียบ ๆ แล้วโอบกอดเธออย่างนิ่มนวล
บทที่ 100
ทำอะไรให้เขาโกรธ
เมื่อได้รู้สึกถึงมือใครบางคน ถังซือซือพลิกตัวกลับมาดูด้วยความตกใจ
ชายหนุ่มผู้มีคิ้วเข้มเรียงตัวสวยงาม นัยส์ตาสีน้ำทะเล สันจมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากเหมือนสีดอกซากุระยามค่ำคืน ความหล่อเหลานี้สามารถทำให้ใครที่ได้เห็นยากจะต้านทาน ประกอบกับฉากหลังของคฤหาสน์ในยามค่ำคืน เสริมให้เขาดูมีเสน่ห์แบบลึกลับ ราวกับเจ้าชายเอลฟ์ปริศนาที่เดินเล่นอยู่ท่ามกลางราตรีอันมืดมิด
ขาเรียวยาวของเซียวเฉินเยวียนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอด้วยท่าทีที่สง่างาม รูปร่างสูงสง่า ยกกระติกน้ำร้อนในมือขึ้นมา
“จิบน้ำอุ่นสักหน่อยสิ”
ถังซือซือตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง ยังคงตกตะลึงเหมือนได้เห็นเทพบุตรตัวเป็น ๆ
อยู่ดี ๆ คุณชายปีศาจก็มาพบเธอกลางดึกด้วยท่าทีสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เธอคิดว่าเขาจะหงุดหงิดซะอีกที่เห็นว่าเธอเดินออกมาจากห้องตามอำเภอใจ
เมื่อมองดูกระติกน้ำร้อนสีดำในมือของเซียวเฉินเยวียน ตอนนี้เธอเองก็รู้สึกกระหายน้ำเล็กน้อย ใจหนึ่งก็คิดว่า ช่างเป็นเรื่องบังเอิญอะไรขนาดนี้
เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “นี่... นี่เป็นของใช้ส่วนตัวของคุณไม่ใช่เหรอ?”
เธอคิดว่าของใช้ส่วนตัวเป็นสิ่งที่ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้...
“ทำไมล่ะ คนเป็นสามีภรรยากันจะแบ่งปันของใช้ส่วนตัวกันไม่ได้เหรอ?”
เดี๋ยว…
ประโยคนั้นเกือบทำให้ถังซือซือสำลักไอออกมา
จู่ ๆ ก็พูดอะไรออกมาน่ะ รู้ตัวบ้างไหมเนี่ย? พูดสองแง่สองง่ามกับฉันอีกแล้ว ขยันพูดจริง ๆ เลย ความสัมพันธ์ของเราก็แค่สัญญาฉบับหนึ่ง ไม่เห็นต้องเอาใส่ใจคู่หมั้นจอมปลอมอย่างฉันเลยนี่.....
“หมอซูบอกว่าถ้าคุณตื่นขึ้นกลางดึกอาจจะกระหายน้ำได้”
แม้ในใจจะเกิดความกังวลบางอย่าง แต่เมื่อมองสบเข้าไปในตาคู่นั้นของเซียวเฉินเยวียนขณะที่เขาพูด
เธอกลับรู้สึกได้ถึงสิ่งหนึ่ง คาดไม่ถึงเลยว่าคุณชายปีศาจของเธอจะอ่อนโยนได้ขนาดนี้...
เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงอนาคตหลังเวลาผ่านไปสามปี ผู้หญิงคนไหนที่ได้อยู่กับเขาคงจะมีความสุขจนทุกคนต้องอิจฉาอย่างแน่นอน
ถังซือซือครุ่นคิดในใจ ก่อนหยิบกระติกน้ำขึ้นมาจิบอย่างรวดเร็ว
“อย่ารีบจิบสิ น้ำทั้งกระติกเป็นของคุณ ไม่มีใครมาแย่งคุณหรอก”
ถังซือซือเหลือบมองสายตาของเขาอีกครั้ง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เขาเริ่มพูดหยอกล้อกับเธอ
“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ฉันควรอยู่ที่หอพักไม่ใช่เหรอ?” หลังจากเรียบเรียงคำถามในใจแล้ว เธอก็ถามขึ้นมาทันที
ก็เขาทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ
เธอจ้องตาของเซียวเฉินเยวียนอย่างใจจดใจจ่อ หวังว่าจะได้ยินคำตอบว่า ‘ผมเป็นคนพาคุณมาที่นี่เองแหละ’ จากปากเขา
จะเป็นอย่างที่ฉันคิดหรือเปล่านะ...
โดยไม่คาดคิด เมื่อเขาได้ฟังคำถามนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเรียบเฉย กลับมามีท่าทีเย็นชาเหมือนทุกครั้ง
“คนจากโรงพยาบาลพาตัวคุณมาที่นี่ พวกเขากลับไปแล้ว”
นั่นสินะ นึกแล้วว่าต้องตอบกลับมาแนวนี้ ถึงฉันจะหลับไปแต่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกตัวนะ ว่ากำลังจับมือใครบางคนอยู่ตลอดเวลาน่ะ
หลังจากที่ถังซือซือได้ยินคำตอบ แสงสว่างในดวงตาของเธอก็หรี่ลง
รู้แต่แรกอยู่แล้ว จะคาดหวังอะไรกัน
ให้ตายสิ เราไปคาดหวังอะไรแบบนั้นเนี่ยนะ...
“รีบกลับไปเข้านอนได้แล้ว!” เซียวเฉินเยวียนสั่งให้เธอกลับไปนอนพักผ่อนต่อ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา
ถังซือซือรู้สึกแปลกใจขึ้นมา คิดในใจว่าตัวเองเผลอ... ไปทำอะไรให้เขาโกรธรึเปล่า?
หรือเขาไม่พอใจคำถามของฉัน?
พอมองไปที่กระติกน้ำร้อนของเซียวเฉินเยวียนในมือ ถังซือซือก็ยืนนิ่งเงียบไป
เช้าวันต่อมา
คฤหาสน์ซินหยวนอาบไล้ด้วยแสงแดดในยามเช้าอย่างอบอุ่น
บรรดาคนรับใช้กำลังยุ่งอยู่กับการทำงานกันแต่เช้า
ภายในห้องครัวเองก็มีบรรยากาศคึกคักเช่นกัน
คนรับใช้หลายคนยืนรวมตัวกันอยู่ตรงมุมหนึ่งของ สวนดอกไม้ แล้วซุบซิบกันจากระยะไกล
“คุณหนูซือซือเข้ามาทำอะไรในครัว? เดินไปมาทำนู่นทำนี่วุ่นวายไปหมดเพื่ออะไร?”
แม้ว่าแม่บ้านซ่งจะเตือนให้พวกเธอปฏิบัติต่อถังซือซือเหมือนเจ้านายคนอื่น แต่พวกเธอก็ไม่สามารถขจัดอคติในใจที่มีต่อถังซือซือได้ เพราะจู่ ๆ เธอก็เดินเข้าไปในห้องครัวแล้วตระเตรียมข้าวของมากมาย บรรดาคนรับใช้จึงอดไม่ได้ที่จะนินทา
“เธอสมควรได้เข้ามาในครัวแบบนี้เหรอ? คงจงใจมาที่นี่เพื่อเอาชนะใจคุณผู้ชายแน่ ๆ เห็นทีคงมาที่นี่เพื่อทำอาหารเช้าสินะ?”
“เดี๋ยวคงได้ทำเละไม่เป็นท่า ในซินหยวนมีพ่อครัวที่เก่งที่สุดทั้งจากในและต่างประเทศ คุณท่านฝางทุ่มเทจ่ายเงินไปมากมายเพื่อเชิญพวกเขามาทำอาหารให้คุณผู้ชาย แต่พวกเขาก็มักจะทำอะไรเดิม ๆ ซ้ำซากจำเจ หลังจากท่านกินไปได้ไม่ถึงสามคำก็วางแล้ว ขนาดพ่อครัวระดับนั้นยังไม่รอด แล้วเธอจะทำดีไปกว่าพวกเขาได้ยังไง?”