บทที่ 936 (57) ถูกเลียนแบบ(ตอนฟรี)
บทที่ 936 (57) ถูกเลียนแบบ
จี้เฟิงชูพวงกุญแจในมือขึ้นมาเขย่าแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันมีกุญแจด้วย?”
ซูหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอกพลางตบหน้าอกและพูดอย่างกลัวๆ “ฉันคิดว่าที่ล็อกประตูจะพังซะอีก ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะแย่เลย ทีนี้ไม่ว่าใครก็เข้ามาได้!”
ในห้องทำงานของเธอมีข้อมูลสำคัญอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความลับทางการค้า โดยเฉพาะข้อมูลจำพวกช่องทางการขายที่จัดตั้งขึ้นในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง หรือจำนวนค่าธรรมเนียมของตัวแทนขายเป็นต้น สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเปิดเผยให้ผู้อื่นรับรู้ได้ หากล็อกของประตูสำนักงานพัง เธอเกรงว่าข้อมูลเหล่านี้อาจถูกใครมาแอบดูหรือขโมยไปได้โดยง่าย
จี้เฟิงขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ “แล้วเธอเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้ที่สำนักงานเหรอ?”
“ไม่! นี่เป็นข้อมูลที่เพิ่งมีการลงนามเมื่อเร็วๆนี้ ฉันวางแผนที่จะเก็บพวกมันไว้ในที่ปลอดภัยของบริษัทหลังจากคัดแยกประเภทเรียบร้อยแล้ว และนี่ก็คือสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่!” ซูหยวนกล่าว
“เอาล่ะ ฉันจะช่วยเธอเอง!” จี้เฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสามคนช่วยกันคัดแยกเอกสาร ทำให้งานเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว จี้เฟิงที่อ่านหนังสือสิบบรรทัดภายในไม่กี่วินาทีแยกแยะเอกสารและจัดเรียงเข้าแฟ้ม ความเร็วของเขาเพียงคนเดียวนั้นเร็วกว่าซูหยวนและผู้ช่วยของเธอรวมกันเสียอีก!
หลังจากนั้นไม่นั้น เอกสารต่างๆก็ได้รับการแยกและจัดเรียงเสร็จเรียบร้อย ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้จี้เฟิงได้รู้ถึงสถานการณ์ของลูกค้าบางรายอย่างละเอียดจากการแยกเอกสารในครั้งนี้
เขามองไปที่กองแฟ้มเอกสารและพบว่าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากทางภาคใต้ ในขณะที่ทางภาคเหนือมีน้อยกว่ามาก
“ซูหยวน ทำไมลูกค้าทางภาคเหนือถึงน้อยกว่าที่อื่น?” จี้เฟิงถาม
ซูหยวนกล่าวว่า “ตัวแทนระดับจังหวัดได้กระจายออกไปแล้ว เอกสารที่เรารวบรวมกันอยู่ตอนนี้เป็นของระดับจังหวัดและเมืองที่ถูกส่งโดยตัวแทนจังหวัด เราจะเห็นได้ว่าเมืองทางตอนใต้มีการพัฒนาที่มากขึ้น ทำให้ยอดขายคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ของเราเฟื่องฟูตามไปด้วย ดังนั้นการจัดตั้งเครือข่ายการตลาดจึงค่อนข้างง่าย”
“แล้วภาคเหนือล่ะ?” จี้เฟิงถาม
“สถานการณ์โดยรวมของทางภาคเหนือค่อนข้างล้าหลังกว่า ซึ่งเป็นผลมาจากความแตกต่างทางภูมิศาสตร์” ซูหยวนกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “การทำโปรโมชั่นทางภาคเหนือจึงช้ากว่าที่อื่นๆเล็กน้อย แน่นอนว่าเมืองชั้นสองบางแห่งเน้นขายสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก แต่ตามเมืองหลวงเราได้ทำการเปิดตลาดแล้ว จะเหลือก็แค่เมืองเล็กๆบางเมืองที่คนของเรายังเข้าไม่ถึง”
“อืม!”
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อย สถานการณ์นี้ถูกกำหนดโดยสถานการณ์การพัฒนาในปัจจุบันของประเทศเป็นหลัก ในความเป็นจริง ตอนที่เขาตามหาหลีเยี่ยฉิน ระหว่างทางเขาได้ผ่านไปหลายเมือง ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วมันจึงทำให้เขาได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างภาคเหนือและภาคใต้
บางทีถ้าอยู่ในเมืองหลวง คุณอาจยังไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเท่าไหร่นัก เพราะทุกที่เต็มไปด้วยอาคารสูง แต่เมื่อใดที่คุณไปเขตเล็กๆหรือไปยังพื้นที่ชนบท คุณจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
เช่นเดียวกับเมืองอุตสาหกรรมบางแห่งในมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง เดิมทีมันเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่เล็ก ๆ แต่รายได้รวมของเมืองเล็ก ๆ นั้นเป็นผลรวมของเมืองชั้นสามหลายแห่งทางตอนเหนือ!
ช่องว่างนี้ใหญ่เกินไปจริงๆ
ในกรณีนี้ ระดับการบริโภคของทั้งสองฝ่ายย่อมแตกต่างกันโดยธรรมชาติ ดังนั้นสำหรับสถานการณ์นี้ จี้เฟิงที่คาดเดาไว้ตั้งแต่แรกจึงไม่ค่อยแปลกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้
อันที่จริง การกระจายคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ให้ได้อย่างในระดับปัจจุบันนี้ภายในระยะเวลาสั้นๆแค่ 1 ปี ก็ถือว่าดีมากแล้ว
“สู้ต่อไป! ตอนนี้เมืองทางเหนือก็กำลังพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ตลาดในชนบทอาจจะกว้างใหญ่กว่าที่เราคิด ทั้งหมดนี้เราค่อยๆทำอย่างช้าๆก็ได้ เอาให้รู้ลึกรู้จริงก็พอ!” จี้เฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “อย่างน้อย ชื่อเสียงของคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ก็ได้มีการกระจายออกไปแล้ว รวมถึงคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของมันก็ยังไม่มีใครเทียบได้ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่จะรับประกันยอดขายในอนาคตให้แก่เราได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเธอไม่ต้องกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักคังหยวน”
“อื้ม ตอนนี้ตลาดเติบโตเต็มที่แล้ว ทุกคนรู้ถึงผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมของคังหยวนสลิมมิ่ง!” ซูหยวนกล่าว “อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาอย่างอื่นอีก และเป็นปัญหาที่ชวนปวดหัวมากทีเดียว”
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะตกใจ “ปัญหาอะไร?!”
“ของปลอม!” ซูหยวนยิ้มอย่างขมขื่น “ช่วงหลังมานี้ฉันได้รับโทรศัพท์จากตัวแทนหลายราย พวกเขาถามว่าเรามีผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวหรือเปล่า... ถ้ามีทำไมพวกเราไม่เจรจากับพวกเขาก่อนตามสิทธิ์ในสัญญาที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้... เฮ้อ! เราพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่โดยไม่บอกที่ไหนกันล่ะ พวกนั้นล้วนเป็นของเลียนแบบเราทั้งสิ้น!”
เธอหันหน้าไปหาผู้ช่วยและพูดว่า “เสี่ยวผิง ไปเอาเอกสารมา!”
“ค่ะ” ผู้ช่วยพยักหน้าทันที จากนั้นก็ไปหยิบเอกสารปึกหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก
“มาดูกันดีกว่า” ซูหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม “โดยพื้นฐานแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นการเลียนแบบผลิตภัณฑ์ของเรา มีทุกชนิด ทุกแบบ!”
จี้เฟิงหยิบเอกสารขึ้นมาดูอย่างสงสัยและอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วทันที
《 คังกังสลิมมิ่งพาวเดอร์ ผงมหัศจรรย์ ลดพุงได้ใน 1 เดือน! 》
《คังฟิตแอนด์สลิม》
《คัง...》
...............
เมื่อมองแวบแรก เอกสารเหล่านี้เหมือนเป็นโบรชัวร์หรือสื่อส่งเสริมการขายต่างๆ ตลอดจนคู่มือการกินและผลลัพธ์ที่จะได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ถูกระบุในเอกสารเหล่านี้ล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือพวกเขาใช้คำที่ใกล้เคียงกับคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ โดยเฉพาะชื่อผลิตภัณฑ์ ซึ่งจงใจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าอันไหนคือของแท้อันไหนคือของปลอม?!
“สิ่งเหล่านี้..” จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อยและยิ้มอย่างขมขื่น “หัวเซี่ยของเรานี่มันเป็นเจ้าพ่อแห่งการลอกเลียนแบบจริงๆ!”
“พวกผงลดความอ้วนและผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับ อย. ไม่มีแม้แต่ข้อมูลผู้ผลิต แต่บางส่วนจงใจลอกเลียนแบบทุกอย่างเหมือนคังหยวนสลิมมิ่งของเรา แค่เปลี่ยนชื่อเล่นคำนิดหน่อย และมีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการ”
ซูหยวนยิ้มอย่างขมขื่น “นอกจากนี้ราคาของพวกเขาก็ตั้งเท่ากับของเราด้วย บางอย่างแพงกว่าด้วยซ้ำ คุณคิดว่าผู้บริโภคจะซื้อของพวกเขาหรือไม่?”
“พวกเราขายราคาถูกไปงั้นเหรอ?” จี้เฟิงถามพร้อมขมวดคิ้ว
เป็นเพราะการขายของเอากำไรที่มากเกินไปทำให้เขารู้สึกละอาย บวกกับต้องการให้การโปรโมตในช่วงแรกเป็นไปได้ด้วยดี จี้เฟิงจึงตั้งราคาของคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ไว้ต่ำมาก กำไรที่โรงงานเซียวได้จะตกอยู่ที่ประมาณ 2 % เท่านั้น และถ้าบางช่วงวัตถุดิบมีราคาแพงมากกำไรก็จะเหลือแค่ 1%
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าการตั้งราคาต่ำจะกลายเป็นข้อเสีย
ใช่ไม่ใช่ไม่รู้ ซื้ออันที่แพงไว้ก่อน!
นี่คือความคิดของคนจีนส่วนใหญ่ ในสินค้ายี่ห้อเดียวกัน ของถูกคือของไม่ดี พวกเขาคิดว่าของแพงคือของที่มีคุณภาพระดับไฮเอนด์ ส่วนของถูกสำหรับคนจน ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกซื้อของที่แพงกว่า!
“ยากที่จะบอกว่าราคาที่เราตั้งถูกไปหรือเปล่า แต่อย่างน้อยเมื่อเทียบกับสินค้าลอกเลียนแบบ เราได้รับความเดือดร้อนมากเพราะราคา!” ซูหยวนกล่าวว่า “แต่ตอนนี้ฉันได้เริ่มให้คนทำการวิจัยการตลาดเพื่อดูว่าสินค้าลอกเลียนแบบส่งผลกระทบต่อเรามากแค่ไหน น่าจะอีกไม่นานก่อนที่รายงานผลการสำรวจจะออก หลังจากนั้นเราจะหารือเกี่ยวกับราคาและเรื่องอื่นๆกันทันที”
จี้เฟิงขมวดคิ้วและถามว่า “เราไม่สามารถฟ้องร้องพวกเขาได้เลยเหรอ? พวกเขาลอกเลียนแบบผลิตภัณฑ์ของเราหน้าด้านๆแบบนี้ เราควรจะฟ้องร้องพวกเขาไม่ใช่เหรอ?”
“นายน้อย นี่ไม่ใช่วันแรกที่คุณทำธุรกิจนะคะ ทำไมถึงยังไร้เดียงสาอยู่อีก” ซูหยวนยิ้มและส่ายหัว “ไม่ต้องพูดถึงข้อกฎหมายในประเทศเราที่ไม่มีข้อบังคับชัดเจนเกี่ยวกับการลอกเลียนแบบ เอาแค่การที่คนพวกนั้นกล้าทำของปลอมออกมา สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือให้เราฟ้องร้องนี่แหละ!”
“จริงด้วย พวกเขาต้องการให้เราฟ้องร้อง...” จี้เฟิงยิ้มอย่างขมขื่น แน่นอนว่าเขาเข้าใจเหตุผล
ผู้ผลิตสินค้าลอกเลียนแบบเหล่านั้นต้องการให้ผู้ผลิตทั่วไปฟ้องร้องพวกเขา ในแง่หนึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะแพ้คดีความก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะต้องจ่ายเงินเพราะกฎหมายไม่เข้มงวดและการปลอมแปลงไม่ใช่อาชญากรรมร้ายแรง แต่ปัญหาคือในกระบวนการฟ้องร้องพวกเขาจะประโคมข่าวและเผยแพร่อย่างใหญ่โตและอาจยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของตนเป็นของแท้ด้วยซ้ำ
ด้วยวิธีนี้ การรายงานของสื่อควบคู่ไปกับการบอกปากต่อปากจึงเทียบเท่ากับการโฆษณาสำหรับผู้ผลิตของปลอมอย่างไม่ต้องสงสัย ยอดขายที่เกิดจากเอฟเฟกต์โฆษณานี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ผลิตเหล่านั้นทำเงินได้มากมาย
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะเกาหัวของเขา “กับผู้ผลิตเลียนแบบเหล่านี้ เราทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ หรือ?”
“อย่างน้อยก็ในสถานการณ์ปัจจุบัน เรายังไม่มีทางออกที่ดีไปกว่ารอผลการวิจัยออกมาและปรับเปลี่ยนแก้ไขทางเราเอง อย่างเช่น เจาะกลุ่มตลาดลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่มีกำลังซื้อสูง เหมือนสินค้า Apple ที่ไม่กลัวของเลียนแบบ หรือเราจะใช้ทางอื่นก็ได้ แต่ยังไงมันก็ยังเร็วไปที่จะพูดเรื่องนี้ในตอนนี้ ทุกอย่างต้องดูตลาด!” ซูหยวนกล่าว
จี้เฟิงพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “จริงๆแล้วไม่ใช่แค่โรงงานของเราที่เจอสถานการณ์แบบนี้ เราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นแล้วมาประยุกต์กับสถานการณ์จริงของเราเองและพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด... หลังจากผลการตรวจสอบตลาดออกแล้ว แจ้งให้ฉันทราบทันทีเลยนะ นอกจากนี้ เธอสามารถติดต่อหาฮั่นจงได้ เขาน่าจะมีทางออกที่ดี”
“ค่ะ ไว้ฉันจะติดต่อเขา” ซูหยวนพยักหน้า
“งั้นก็ตามนี้ สำหรับตอนนี้ เรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ค่อยๆจัดการกันไป” จี้เฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่ทั้งสามคนคัดแยกเอกสารทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เอาเอกสารและแฟ้มเอกสารไปยังตู้เซฟและล็อกไว้ จากนั้นจี้เฟิงและซูหยวนก็เดินไปรอบๆโรงงาน โดยมีจุดหมายหลักคือห้องปฏิบัติการ โรงงานผลิตและคลังสินค้า สำหรับสถานที่ทั้งสามแห่งนี้ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดและจี้เฟิงก็ให้ความสำคัญมากที่สุดด้วยเช่นกัน
ซูหยวนที่เดินเคียงข้างจี้เฟิงมีใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม
แต่เป็นเพราะพวกเขายังอยู่โรงงาน พฤติกรรมของพวกเขาสองคนจึงไม่สามารถสนิทสนมกันได้มากนัก แต่ถึงอย่างนั้น การได้เดินเคียงคู่กันแบบนี้ก็ทำให้ซูหยวนมีความสุขมากแล้ว
หลังจากนั้น จี้เฟิงได้พบกับหยางเต๋อจ้าว พวกเขาทักทายและพูดคุยกันสั้นๆเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรงงานผลิตยา ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงแล้ว และกลุ่มคนงานในโรงงานก็เริ่มทยอยกันเดินออกมา
“ไปกันเถอะ ไปหาอาหารอร่อยๆกินกัน พักผ่อนซักหน่อย อย่าเครียดและมัวแต่ก้มหน้าทำงานทั้งวัน พวกคุณควรผ่อนคลายกันบ้างนะ” จี้เฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาชวนหยางเต๋อจ้าว กัวเถา ซูหยวนและผู้ช่วยของเธอไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน แต่หยางเต๋อจ้าวปฏิเสธเพราะมีบางอย่างที่ต้องทำในโรงงาน เขาจึงไม่ได้ไปด้วย
..... จบบทที่ 936 ~