ตอนที่แล้วบทที่ 87-88
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 91-92

บทที่ 89-90


บทที่ 89

ความแคลงใจที่ก่อตัวขึ้น

มือของถังซือซือยังคงตบหน้าพวกเธอไม่หยุด อีกมือหนึ่งลบรูปภาพทั้งหมดบน Weibo และในคลังรูปภาพทั้งหมดในอัลบั้มที่มีในโทรศัพท์ แล้วเปิดดูในกล่องจดหมาย QQ ของเย่ปี้ถงว่าส่งต่อให้ใครบ้าง...

“คิดให้ดี ๆ อีกสักรอบสิ เธอส่งรูปพวกนี้ให้ใครอีกบ้าง?”

เย่ปี้ถงส่ายหัวโดยที่ร่างกายสั่นเทา

“ไม่มี! ฉัน... ฉันสาบาน ไม่ได้ส่งให้ใคร...”

ถังซือซือเหลือบมองด้วยหางตา คราวนี้เธอเชื่อคำตอบของอีกฝ่าย เพราะคนอย่างเย่ปี้ถงคงไม่ให้ใครมายุ่งเรื่องนี้ในโทรศัพท์ของตัวเองแน่ ๆ

“โอเค ต่อไปก็ถึงเวลา ชำระบิลกันแล้ว”

ถังซือซือโยนโทรศัพท์ของเย่ปี้ถงทิ้งลงพื้นต่อหน้าเธอ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วที่       เซียวเฉินเยวียนซื้อให้ใหม่ขึ้นมา เธอจิ้มโทรศัพท์ดัง “ตึกๆๆ” แล้วพูดขึ้นว่า

“สามปีแรกที่ผ่านมา เธอ ‘ไถ’ เงินฉันไปทั้งหมดหนึ่งร้อยหยวนต่อสัปดาห์ คิดเป็นสี่สิบสัปดาห์ต่อปีการศึกษา รวมแล้วทั้งหมดร้อยยี่สิบสัปดาห์ นั่นแปลว่าเธอ ‘ไถ’ เงินฉันไปรวม ๆ แล้วหนึ่งหมื่นสองพันหยวน ติดต่อกันสามปี คิดดอกเบี้ยแล้ว เธอต้องใช้คืนฉันมาหนึ่งหมื่นสามพันหยวน”

พูดได้เลยว่า โทรศัพท์มือถือที่เซียวเฉินเยวียนให้มาใช้งานได้คล่องมาก ๆ

อะไร... อะไรนะ?

หนึ่ง...  หมื่นสามพันหยวน?

เย่ปี้ถงคิดว่าตัวเองได้ยินอะไรผิดไปรึเปล่า ก่อนนิ่งเงียบ นั่งเหม่อลอยอยู่เป็นเวลานาน

“ฉันมีความอดทนจำกัดนะ”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ไม่กี่วินาที เย่ปี้ถงก็สะดุ้งด้วยความตกใจและตกอยู่ในความกลัวอีกครั้ง

“โอเค… เข้าใจแล้ว ถังซือซือ… ฉะ ฉันจะคืนเงินให้เธอ…”

เย่ปี้ถงเปิดโทรศัพท์ด้วยความยากลำบาก หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้น แล้วพูดต่อว่า

“ถัง... ถังซือซือ... ฉันไม่มี... ไม่มีเงินพอจะคืน... ฉัน... ขอคืนพรุ่งนี้...”

เมื่อถูกสายตาเย็นชาจากถังซือซือจ้องมา เพียงไม่นาน ร่างของเธอก็สั่นสะท้านไปด้วยความกลัว ก่อนหันไปตะโกนใส่ผู้ติดตามของเธอว่า

“เร็วเข้า! หยิบโทรศัพท์ของพวกแกออกมา! เอาเงินมาให้ฉัน! เอาเงินมา!”

บัตรเอทีเอ็ม กระเป๋าสตางค์ และเงินทั้งหมดในแอป WeChat รวมทั้งในมือถือของเธอรวมกันแล้วเป็นจำนวนแค่แปดพันหยวนเท่านั้น!

หลินหงและผู้ติดตามหน้าซีดเซียวอีกครั้ง ความหวาดกลัวเกิดขึ้นในจิตใจของพวกเธอ ก่อนจะกระวีกระวาดควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองเพื่อเปิดทุกแอปที่มีเงินอยู่ แล้วโอนเงินทั้งหมดในโทรศัพท์มือถือไปให้เย่ปี้ถง

“โอนแล้ว”

“โอนไปแล้ว”

...

เสียงโอนเงินเข้าบัญชีดังขึ้นทีละเครื่อง ความรู้สึกของ    เย่ปี้ถงโล่งใจมากขึ้น ความกังวลของเธอสงบลงเล็กน้อย ก่อนสั่งให้ผู้ติดตามเอาเงินสดที่ติดตัวออกมาให้เธอเพิ่ม หลินหงหยิบเงินออกมาห้าร้อยหยวน เฉินเจินจูมีหนึ่งพันหยวน หลั่วจิ้งมีแปดร้อยหยวน และกงซีหร่านมีหกร้อยหยวน...

“ได้เงินเพิ่มมาแค่สามพันหนึ่งร้อยหยวนเอง บ้าที่สุด!”

สีหน้าของเย่ปี้ถงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เมื่อเห็นว่าไม่สามารถรวมเงินได้ครบ หัวใจของเธอเต้นแรงและกลับมามีความกังวลอีกครั้ง จึงหันไปด่าทอผู้ติดตามของเธอ

ในขณะเดียวกันหลินหงก็เกิดความแคลงใจขึ้นมา แอบต่อว่าเย่ปี้ถงในใจ

ใครเป็นคนสั่งให้พวกเราไปไถเงินนังคางคกกันล่ะ? ก็แกไงเย่ปี้ถง!

ทั้งไถเงินและกลั่นแกล้งสารพัด เป็นใครที่ออกคำสั่ง? ก็ยังเป็นแก เย่ปี้ถง!

เอาเงินไปกินของแพง ๆ และให้เรากินแต่ของถูก ๆ กับน้ำซุปกระดูกโง่ ๆ!

ตอนนี้แกโดนนังคางคกสั่งสอนแล้วยังไม่สำนึกผิดอีก มาตะคอกใส่พวกเราทำไม แถมยังรีดไถเงินของพวกเราอีก?

ฉันให้เงินไปหมดแล้ว ยังไงแม่ของแกก็โอนเงินให้เรื่อย ๆ อยู่แล้วนี่? มาไถเงินพวกฉันแบบนี้ คิดว่าพวกฉันไม่ต้องใช้เงินกินข้าวรึไง?

เมื่อก่อนฉันยอมติดตามแกเพราะเห็นว่าแกไม่เคยกลัวใคร แต่ตอนนี้แกถูกคนที่อ่อนแอกว่าสั่งสอนเข้า กลับหมดปัญญาโต้กลับต้องนั่งคุกเข่าขอความเมตตา แล้วยังมีหน้ามาข่มเหงพวกฉันอีกงั้นเหรอ ยัยโง่?

หลินหงจ้องเขม็งไปที่เย่ปี้ถงด้วยสายตาเคียดแค้น เกลียดชัง และไม่พอใจ แต่ด้วยสถานะของเธอที่ตกเป็นเบี้ยล่างของเย่ปี้ถงตลอดมา ทำให้เธอไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาในเวลานี้ ดังนั้นเธอจึงได้แต่กัดฟันอดทนต่อไป

เย่ปี้ถงอยากจะตบหลินหงมากที่กล้าส่งสายตาแบบนั้นใส่เธอ แต่เพราะมือขวาของเธอยังเจ็บอยู่ จึงทำให้เธอตอบโต้อะไรใครไม่ได้เลย

เธอเอาแต่ถลึงตาใส่ผู้ติดตามทุกคน หลังจากนั้นก็หันหน้ากลับมา แล้วแสร้งทำเป็นตีหน้าเศร้าพูดจาอ้อนวอนขอความเมตตาจากถังซือซือ

“ถะ... ถังซือซือ... ฉันขอโทษ... ฉันยอมรับผิดทุกอย่างแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ...”

เธอบีบเสียงให้เล็กน่าสงสารแล้วร้องไห้ออกมา ระหว่างนั้นก็กดโทรศัพท์ส่งแชทไปหาพี่ชายของตัวเองว่า

“พี่... โอนเงินให้ฉันสองพันหยวนเดี๋ยวนี้เลย อย่าเพิ่งถามว่าทำไม รีบโอนมาก่อน!”

บทที่ 90

ผีที่ต่ำต้อย

“ได้” คำตอบจากอีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเย่ปี้ถงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ถะ... ถังซือซือ ฉัน... ขอสแกนรหัสโอนเงินคืนให้ได้ไหม?...”

ฮ่าๆๆ... ฉันจะหลุดพ้นจากความอับอายนี้สักที...

จากหน้ามือกลายเป็นหลังมือ... เธอที่ไม่เคยกลัวใคร ตอนนี้กลับเจอคนที่ตัวเองทำร้ายมาตลอดสวนกลับ จนเธอต้องพ่ายแพ้ แล้วตกอยู่ในสภาพเหมือนผีที่ต่ำต้อยคอยรับใช้เจ้านาย

แต่มันคงสายเกินแก้แล้ว เพราะเธอล้ำเส้นมากเกินไปจึงต้องเจอบทเรียนแบบนี้!

นับตั้งแต่วันนี้ ถังซือซือจะกลายเป็นความน่ากลัวที่ฝังใจตลอดไป...

ถังซือซือมองไปที่การแจ้งเตือนทางโทรศัพท์ แต่เธอก็ยังแสดงสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม

“เสร็จแล้วก็เข้าแถวเดินตามฉันมา เราจะไปเที่ยวฝ่ายกิจการนักศึกษากัน”

อะไรนะ?

ฝะ... ฝ่ายกิจการนักศึกษา?

สีหน้าของเย่ปี้ถงและผู้ติดตามซีดเผือดเป็นไก่ต้มทันที

นี่... จะให้พวกฉันถึงขั้นโดนไล่ออกเลยเหรอ?

“ถังซือซือ... ฉันมีเรื่องจะพูด หยุดฟังฉันก่อน พวกเราจะจ่ายเงินให้เธอเพิ่ม! อย่าเอาเราไปส่งฝ่ายกิจการนักศึกษาเลย...”

ทุกคนรู้ดีว่าถ้าไปฝ่ายกิจการนักศึกษา จะต้องเจอกับอะไรบ้าง?

โทษขั้นร้ายแรง อาจโดนไล่ออก หรือไม่ก็ซ้ำชั้นปีการศึกษา...

ถ้าโดนไล่ออกแล้วไปสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ในชั้นปีสุดท้ายคงยุ่งยากมาก และถ้าไม่ใช่มหาวิทยาลัยเอกชนพวกเธอคงสอบเข้าไม่ติดแน่ ๆ

แต่เพราะหนานซานเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน พวกเธอสามารถเข้ามาเรียนได้โดยยัดเงินใต้โต๊ะ ทำให้ไม่ต้องสอบวัดผล

แล้วปีนี้ก็เป็นปีสุดท้ายแล้ว ใกล้จะได้รับใบปริญญาอยู่รอมร่อ แต่ถ้าไม่ได้ใบปริญญา พวกเธอจะเอาหลักฐานวัดระดับผลการศึกษาจากไหนไปสมัครหางานทำ?

ขอร้องล่ะ...  ไม่ไปห้องนั้นไม่ได้เหรอ?

“พวกเราจะจ่ายด้วย” คนที่เหลือพูดออกมาพร้อมกัน

อะไรเนี่ย?

นี่... ฉันได้ยินถูกใช่รึเปล่า?

หมายความว่า พวกเธอยอมทำทุกอย่างเลยสินะเพื่อที่จะไม่ไปที่ห้องนั้น?

ชั่วพริบตานี้ แน่นอนว่าเงินสามารถทำให้ผีทำตามคำสั่งคนได้... ไม่ว่าถังซือซือจะโกรธมากแค่ไหน พวกเธอก็คิดว่าเงินสามารถช่วยชีวิตได้ แล้วด้วยเหตุผลอะไรถังซือซือจะไม่สนใจข้อเสนอนี้

พวกเธอยังคิดว่าเงินคือตัวแทนความชนะ และทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการ

หลินหงและคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ด้วยกันถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อคิดได้แบบนั้น เนื่องจากใบรับรองการศึกษาของพวกเธอจะไม่หายไปไหน เมื่อข้อเสนอนี้สำเร็จ!

เย่ปี้ถงอดทนต่อความเจ็บปวด ก่อนฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นว่า

“ถังซือซือ อยากได้เท่าไหร่ บอกมาได้เลย...”

“ไม่เป็นไร ถ้าไม่ไปฝ่ายกิจการนักศึกษา งั้นก็ไปสถานีตำรวจกัน”

อะไรนะ?

รอยยิ้มของเย่ปี้ถงหายไปทันทีเมื่อได้ยิน

เพื่อนร่วมคลาสด้านนอกรู้สึกว่าห้องน้ำเงียบสนิทไปอย่างน่ากลัวหลังจากสิ้นเสียงกรีดร้อง จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่พวกเขากำลังสับสน ก็มีเสียงคร่ำครวญดังขึ้นมาว่า

“ยกโทษให้ฉันด้วย...”

เพื่อนร่วมคลาสที่อยู่รอบ ๆ ต่างพากันตกใจมากจนหัวใจเต้นแรง รีบถอยห่างออกไปจากหน้าห้องน้ำทันที ก่อนพยายามเงี่ยหูฟังอีกครั้งเพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ข้างในเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?

ขณะที่พวกเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งกระเด็นออกมาจากห้องน้ำ

ผมสั้น เสื้อเชิ้ตยับยู่ยี่ นั่นคือเย่ปี้ถง

“ออกมา ออกมาเร็ว...”

กลุ่มคนกรูกันออกมาจากห้องน้ำในสภาพบ้าคลั่ง ต่างวิ่งหนีอย่างหัวซุกหัวซุน นักศึกษาบางคนปรี่เข้าไปดึงแขนเสื้อของ   เย่ปี้ถง แล้วถามขึ้นว่า

“เดี๋ยวก่อนสิพวกเธอ! เมื่อกี้ข้างในเกิดอะไรขึ้น? บอกพวกเราหน่อย!”

วินาทีถัดมา ทุกคนในละแวกนั้นยืนนิ่งพร้อมกัน แล้วแสดงสีหน้าตกใจเพราะความเหลือเชื่อ

อะไรกันเนี่ย?

นี่ใช่เย่ปี้ถงคนนั้นจริง ๆ เหรอ?

ผมสั้นของเธอยุ่งเหยิงเหมือนเล้าไก่ เสื้อและกระโปรงสั้นเต็มไปด้วยคราบโคลนสกปรกที่ฝังแน่นอยู่ตามซอกกระเบื้องพื้นห้องน้ำ

สิ่งที่ยากยิ่งกว่าที่จะมองข้าม ก็คือใบหน้าด้านซ้ายของเธอที่บวมเป็นสีม่วงคล้ำ มีรอยนิ้วมือติดอยู่ชัดเจน

สภาพของเธอไม่ต่างจากสุนัขจรจัด สีหน้าซีดเซียว พวกเธอวิ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ย่ำแย่ บางคนเดินขา      กระเผลก บางคนแขนห้อยลงถึงพื้น ทำให้ทุกคนประหลาดใจมาก

ความเย่อหยิ่งของพวกเธอ และความน่ากลัวที่สร้างขึ้นมาตลอดหลายปีไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป