บทที่ 59-60
บทที่ 59
รถกระป๋องโทรม ๆ
ถังซือซือทิ้งตัวนอนลงบนเตียง
จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้เป็นงานหมั้นของฟู่ม่านโหรว
เธอไม่รู้ว่ามู่เชี่ยนลี่และลูกสาววางกลอุบายอะไรไว้รึเปล่าที่จะทำให้เธอกับมู่ซูเสียนอับอาย?
แต่จะว่าไป งานหมั้นเป็นงานแห่งความสุขที่สำคัญมากนี่นา คงไม่มีใครมาใส่ใจเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอกมั้ง?
แต่ช่างมันเถอะ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา ฉันจัดการได้อยู่แล้ว
ถังซือซือหลับตาลง แล้วผล็อยหลับไปช้า ๆ
วันเสาร์ตอนสี่โมงเย็น โรงแรมระดับห้าดาวดูหรูหราและแพงที่สุดในเมืองหลวง งานหมั้นของครอบครัวที่มีชื่อเสียงกำลังดำเนินอยู่อย่างครึกครื้น
คู่หมั้นบ่าวสาวทั้งสอง เดวิด ฉื่อ ลูกชายของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ฉื่อเจียนหยาง กับฟู่ม่านโหรว ลูกสาวนักธุรกิจผู้มั่งคั่งของบริษัทฟู่ซิวเจี๋ย และแม่ของเธอมู่เชี่ยนลี่ หนึ่งในนักธุรกิจชื่อดังในเมืองหลวง
รถยนต์หรูทุกประเภทมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์ ขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของโรงแรมทีละคัน
แขกทุกคนพากันก้าวลงจากรถ พวกเขาล้วนเป็นญาติและเพื่อนของสองครอบครัว รวมถึงหุ้นส่วนทางธุรกิจ
พวกเขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรา ผู้ชายสวมสูทและรองเท้าหนัง ผู้หญิงสวมชุดเดรสและฉีดน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ต่าง ๆ ภายในงานมีบรรยากาศคึกคัก การดื่มชาและไวน์สักแก้วช่างเหมาะสมสำหรับช่วงเวลาแห่งการร่วมยินดี
ฟู่ม่านโหรวปรากฏตัวด้วยชุดราตรีสีขาวดูหรูหราสวยงาม เส้นผมสีดำสนิทถูกตกแต่งทรงผมด้วยช่างทำผมมากฝีมือ ทรงผมทำให้เห็นหน้าผากที่ขาวเนียนสดใส การแต่งหน้าอันละเอียดอ่อนช่วยชูใบหน้าให้มีเสน่ห์และน่าดึงดูด
ต่างหูรูปเพชรพลอยและสร้อยคอเพชรที่ส่องประกาย ผู้ที่มีความรู้เรื่องเพชรเห็นก็รับรู้ได้ทันทีว่านี่คือเครื่องประดับซีรีส์ดอกไม้หิมะสุดคลาสสิกซึ่งมีราคาแพงมาก
ไม่ต้องพูดถึงแหวนเพชรเม็ดโตบนแต่ละนิ้ว เพชรแต่ละเม็ดมีค่าเต็มถึงสิบกะรัต ทำให้แขกทุกคนถึงกับต้องหยุดยืนชื่นชมความงามนี้
เมื่อได้ยินคำชมและคำอวยพรจากแขกอย่างไม่หยุดปาก มู่เชี่ยนลี่และฟู่ม่านโหรวก็รู้สึกรำคาญเล็กน้อย
มู่เชี่ยนลี่แต่งตัวและประดับด้วยอัญมณีดูสง่างามและหรูหรา เธอพยายามอย่างเต็มที่ในวันนี้เพื่อทำให้ลูกสาวของเธอเป็นเหมือนดวงดาวที่เปล่งประกายที่สุดในงาน แต่ที่พวกเธอต้องลงทุนขนาดนี้ เพราะต้องการแสดงฐานะทางการเงินมหาศาลของบริษัท เพื่อดึงดูดนักธุรกิจและคนดังที่ร่ำรวยให้หันมาร่วมมือกับบริษัทของตนเอง
ส่วนเดวิด ฉื่อ เขามาในชุดสูทขาวทรงพิเศษดูสง่างาม ความสูงของเขาอยู่ที่หนึ่งร้อยแปดสิบสามเซนติเมตร ทำให้เขาดูเหมือนเจ้าชายในนวนิยายเมื่อสวมมัน
เขาถือแก้วไวน์แดงด้วยมือข้างหนึ่ง ให้ฟู่ม่านโหรวคล้องแขนอีกข้างหนึ่ง ทั้งสองยืนอยู่ด้วยเพื่อต้อนรับแขก
แขกทุกคนทยอยมานั่งโต๊ะของตัวเอง มู่เชี่ยนลี่และ ฟู่ม่านโหรวขอแยกตัวมารอรับแขกที่ยังมาไม่ถึงตรงหน้าทางเข้างาน
ฟู่ม่านโหรวหันซ้ายหันขวา เพราะอดสงสัยไม่ได้ ก่อนถามไปว่าทำไมป่านนี้แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอยังมาไม่ถึงอีก
“แม่คะ ทำไมคุณป้ากับซือซือยังมาไม่ถึงอีก?”
มู่เชี่ยนลี่หัวเราะเบา ๆ “ฮ่า ๆ บางทีพวกเธออาจกังวลว่าวันนี้จะใส่ชุดแผงลอยตัวไหนมางานล่ะมั้งลูก”
เสียงรถยนต์เก่า ๆ ดังขึ้น ตอนนี้มีรถคันหนึ่งกำลังขับมาจอดที่หน้าโรงแรม เทียบกับรถราคาแพงของบรรดาแขกเหรื่อที่ขับมาร่วมงานไม่ได้เลย เพราะมันดูเก่าและทรุดโทรมมาก
ใครกันขับรถกระป๋องโทรมแบบนั้นเข้ามา?
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอนุญาตให้เข้ามาได้เนี่ยนะ
สองแม่ลูกกำลังก้าวลงจากรถ ถังซือซือและมู่ซูเสียนในชุดเดรสกำลังเดินมาที่หน้างาน
มู่เชี่ยนลี่แทบอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นพี่สาวของตัวเอง
เป็นเพราะเธอคิดอยู่แล้ว ว่าในบรรดาแขกรับเชิญในวันนี้ นอกจากมู่ซูเสียน จะมีใครกล้านั่งรถกระป๋องโทรม ๆ ขนาดนี้เข้ามาในงาน
ฮ่าๆๆ ผู้หญิงที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลถัง คนที่เคยได้รับการยกย่องจากทุกคนตั้งแต่เด็ก บุตรสาวสุดสวยของตระกูลถัง ก่อนหย่าร้าง ทุกอย่างเคยดีกว่านี้นะ แต่ตอนนี้เหมือนจะตกต่ำกว่าที่คิดไว้แฮะ
บทที่ 60
รถเบนซ์ของฉัน
แต่ชุดก็ดูมีราคานี่ รุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์หรูของตระกูลเซียว ดูไม่เหมือนใครและเลียนแบบยาก ฉันไม่รู้หรอกนะว่าได้มันมายังไง คงไปยืมมาจากใครสักคนตอนไปทำความสะอาดบ้านเศรษฐีสินะ?
หน้าตาโทรมอย่างกับผี ความงามของพี่ใหญ่ตระกูลถังหายไปไหนหมดแล้วล่ะ?
แล้วไหนจะมือที่หยาบกระด้างนั่นอีก เมื่อก่อนเนียนขาวไร้ที่ติเลยนี่ แล้วหายไปไหน เอาไปโยนทิ้งแล้วรึไง?
เครื่องประดับก็น้อย คงจะไม่มีเงินซื้อ เหม็นกลิ่นคนจนจริง ๆ ดูน่าเวทนาไปมากนะซูเสียน
เมื่อฟู่ม่านโหรวเห็นถังซือซือ ในใจของเธอกำลังด่าทอและเย้ยหยันครั้งแล้วครั้งเล่า
ลูกพี่ลูกน้องสองคนนี้เคยเจอกันหลายครั้งแล้วสมัยยังเด็ก หน้าตาของถังซือซือสมัยเรียนมัธยมต้นยังไม่มีสิว ฝ้าหรือกระมากนัก จึงดูน่ารักกว่าตอนนี้มาก
จนกระทั่งย้ายมาเมืองหลวงแล้วได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ถังซือซือคนนี้ดูน่าเกลียดขึ้นทุกวันด้วยสิว ฝ้า และกระที่ขึ้นเต็มทั้งหน้า เธอต้องวิ่งหนี พยายามหลบหน้า ต้องทนต่อเสียงด่าทอ หยอกล้อ และสารพัดคำดูถูก
ตอนนี้รูปร่างสัดส่วนก็ไม่ดีเท่าเมื่อก่อน แม้แต่นิ้วเดียวของเธอก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับฟู่ม่านโหรวได้
ฉันก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเธอมากหรอกนะที่ต้องลดตัวไปเปรียบเทียบด้วย แต่ถ้าแม่ของฉันไม่ปลูกฝังเรื่องนี้ตอนเด็ก เธอจะเก่งกว่าลูกพี่ลูกน้องในทุกเรื่อง ซึ่งฉันไม่ยอมแน่ ใครจะไปยอมรับให้ครอบครัวเธอเหนือกว่าตลอดล่ะ?
ฉันไม่ยอมรับเธอหรอกซือซือ!
มู่เชี่ยนลี่และฟู่ม่านโหรวยิ้มให้กัน การดูถูกในสายตาของพวกเธอเริ่มชัดเจนขึ้น หลังจากนั้นก็เสแสร้งยิ้มออกมา ก่อนเดินเข้าไปต้อนรับทักทาย
ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ มู่เชี่ยนลี่และฟู่ม่านโหรวหยุดชะงักทันที แล้วทักทายอย่างห่าง ๆ เพราะไม่อยากเข้าไปใกล้มู่ซูเสียนและถังซือซือเกินไป
แต่ฝั่งของถังซือซือและแม่ของเธอ กลับทักทายด้วยความยินดี แล้วกล่าวอวยพรสองถึงสามคำ
มู่เชี่ยนลี่พยักหน้ารับและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม แล้วมองมู่ซูเสียนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนแสร้งทำเป็นพูดเกินจริงว่า
“พี่สาวที่แสนดีของน้อง! ทำไมพี่ถึงมาด้วยรถโทรม ๆ แบบนั้นล่ะ? แค่บอกว่าไม่มีรถ เดี๋ยวทางนี้ให้คนขับไปรับได้ ถึงรถเบนซ์ของฉันจะไม่ใช่รถหรูหราหมาเห่าอะไร แต่ก็เพียงพอที่รับพี่กับหลานมาได้นะ!”
มู่ซูเสียนยืนฟังการเสียดสีทางคำพูดของมู่เชี่ยนลี่ เธอพยายามสงบอารมณ์ไม่ตอบกลับไป แล้วถังซือซือก็ตอบแทนไปว่า
“ก็ดีนะคะคุณน้า! เยี่ยมมากเลยถ้าเป็นแบบนั้น! พอดีเรากังวลว่าจะกลับยังไงดีด้วยสิ? เพราะบ้านของคุณน้ามีทั้งรถทั้งคนขับ ฉันกับแม่ก็จะได้ประหยัดค่าแท็กซี่ไปสักพักใหญ่เลย!”
มู่เชี่ยนลี่ตกใจเมื่อฟังคำตอบของถังซือซือ เธอคิดว่าแม่ลูกคู่นี้คงไม่กล้าโต้ตอบอะไรแล้วได้แต่ยืนนิ่งให้โดนดูถูก แต่นี่ ถังซือซือตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่ดูมีชั้นเชิง ทำให้เธอประหม่าเล็กน้อย
ฟู่ม่านโหรวรีบแก้เกมกลับจึงพูดสวนขึ้นมาว่า
“น่าเสียดายจัง! พอดีหลังจบงานฉันว่าจะให้คนขับไปส่งญาติกลับน่ะ! เกรงว่าจะไปส่งพวกเธอไม่ได้แล้ว! ขอโทษด้วยแล้วกัน ฉันผิดเองแหละ”
หลังจากเธอพูดสวนกลับไป เธอคิดว่าถังซือซือคงไม่กล้าขอยืมใช้รถของบ้านเธออย่างหน้าด้าน ๆ อีก
เพราะไม่ต้องการให้ญาติที่มีฐานะยากจนมานั่งรถเบนซ์หรูหราของเธอ!
ถังซือซือยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนแสร้งทำเป็นตอบกลับด้วยความกันเอง “ไม่เป็นไร ไม่อยากรบกวนคุณน้ามากหรอก แต่ครอบครัวของคุณน้ามีรถมากกว่าหนึ่งคันใช่ไหมคะ? พอดีฉันเพิ่งได้ใบขับขี่มา ฉันขับรถกลับเองก็ได้! ไม่ต้องโทษตัวเองไปหรอกม่านโหรว!”
อะไรของยัยนี่?
จะขับรถของบ้านฉันเนี่ยนะ?
เห็นรถหรูหราเป็นรถอะไรกัน?
เห็นเป็นรถเช่าราคาถูกให้คนจนอย่างเธอมาขับเล่นรึไง!
“ซือซือ เธอไม่รู้เหรอว่าวันนี้มีญาติและเพื่อนของฉันมากันหลายคน รถทั้งหกคันของบ้านฉันถูกจัดไว้หมดแล้ว คงให้เธอยืมไปขับไม่ได้หรอก”
ฟู่ม่านโหรวตอบกลับด้วยสีหน้าบูดบึ้ง