บทที่ 359-360
บทที่ 359
รับลมหนาว
“นั่นสิ! ใช่! ใช่แล้ว!” อันธพาลสวมเสื้อแจ็กเกตและคนที่มีรอยสักรีบพูดเสริมขึ้นพร้อมกัน เพราะต้องการประจบถังซือซือ เพื่อหวังให้เธอไม่ตบหน้าพวกเขาอีก
ถังซือซือส่งสายตาเย็นชาอย่างน่ากลัวอีกครั้ง “พูดทีละคน!”
“ดะ! ได้เลย!” อันธพาลทั้งสามตัวสั่นเทาอีกครั้งด้วยความตกใจ ให้ตายเถอะ จะน่ากลัวไปไหนเนี่ย...
“ช่วยอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับลักษณะของผู้หญิงคนนั้นที”
“ชะ ใช่สิ... ดูเหมือนว่าเธอจะมาจากกองถ่ายนี่แหละ ต้องเป็นดาราเหมือนคุณแน่ ๆ! แต่ดูแล้วคงไม่ได้มีชื่อเสียงมาก! นอกจากชื่อที่ไม่รู้แล้ว เธอมีคางแหลม ดวงตากลมโต เส้นผมดำสนิท…” อันธพาลอีกคนบอกรายละเอียดเท่าที่จำได้
ถังซือซือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนถามอีกว่า “มีไฝใต้ตาข้างขวาด้วยรึเปล่า?”
“โอ ใช่! ใช่เลย!” เขารีบยืนยันข้อมูลนี้ทันที และหวังว่าตอนนี้พวกเขาคงปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ที่ยอมทำตามคำสั่งของหญิงสาวตรงหน้า
ถังซือซือยกมือขึ้นมาลูบคางของตัวเอง เป็น ซ่งเนี่ยนหยานจริง ๆ ด้วย...
น่าจะเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วเชียว...
เธอคาดไม่ถึงเลยว่าซ่งเนี่ยนหยานจะกล้าทำถึงขนาดนี้ ถึงขั้นว่าจ้างอันธพาลให้มาดักทำร้ายเธอ หวังให้เธอโดนคนพวกนี้ฉุดไป
ตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่น่ามีอะไร แต่ครั้งนี้มันมากเกินไป ไม่ใช่แค่การกลั่นแกล้งไร้สาระแล้ว
คาดไม่ถึงเลยว่าจะเล่นงานกันด้วยวิธีสกปรกแบบนี้
เมื่อพวกเขาเห็นถังซือซือเงียบไป อันธพาลที่มีรอยสักถามอย่างประหม่าว่า
“คุณ... คุณผู้หญิง ปล่อยพวกเราไปได้รึยัง?”
วันนี้แย่พอแล้ว นอกจากงานที่ทำไม่สำเร็จ เงินก็ไม่ได้ แถมยังถูกตบและเตะจนช้ำไปทั้งตัว นี่ไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลยสักนิด ไหน ๆ ก็สารภาพไปหมดแล้ว ขอร้องล่ะนะ อย่าแจ้งตำรวจเลย ผู้หญิงคนนี้จะยอมปล่อยพวกเราไปง่าย ๆ ไหมนะ?
“ลุกขึ้นแล้วถอดเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้”
ถังซือซือออกคำสั่งอย่างเย็นชา
หา?
อะ... อะไรนะ?
โถ่คุณผู้หญิง... นี่ไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เลยนะ!
อันธพาลคนหนึ่งร้องไห้อีกครั้ง “ฮือๆๆ” แล้วพูดว่า
“ฉันไม่อยากถอดเลย มันน่าอับอายเกินไป ขอร้องล่ะ ฉันยังมีแฟนสาวนะ ถ้าฉันกลับไปหาเธอในสภาพแบบนี้... ฉะ... ฉัน... ฉันต้องถูกแฟนทิ้งเพราะคิดว่าโรคจิตแน่ ๆ… ไม่ๆๆ….”
อันธพาลสวมเสื้อแจ็กเกตลุกขึ้นยืนด้วยความเจ็บปวด ก่อนตบหน้าอันธพาลที่เพิ่งพูดจบไป
“ทำตัวให้เหมือนเป็นผู้ชายหน่อยได้ไหมวะ?! ถอดเสื้อผ้ามันดีกว่าถูกตบไหมล่ะ?! ถอด ๆ ตามที่เธอสั่งไปเหอะน่า!”
อันธพาลที่มีรอยสักรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกมาวางบนพื้นอย่างเชื่อฟัง จนเหลือเพียงแต่กางเกงบ็อกเซอร์
เมื่ออันธพาลสวมเสื้อแจ็กเกตและอันธพาลอีกคนเห็นว่าลูกพี่ของพวกเขาถอดเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว พวกเขาจึงรีบถอดเสื้อผ้าออกมากองไว้บนพื้น ก่อนยืนนิ่งพร้อมกับแสดงสีหน้าอับอาย
“แกน่ะ เอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปฝังบนเนินทรายตรงนั้นซะ” ถังซือซือออกคำสั่งอย่างเย็นชาแล้วชี้ไปทางเนินทราย
อันธพาลที่ดูขี้ขลาดยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี แม้ในใจจะหวาดกลัวมากก็ตาม
เขาไม่กล้าสร้างปัญหาเพิ่มให้กับพวกพ้อง จึงได้แต่ร้องไห้เบา ๆ ยกกองเสื้อผ้าของพวกเขาเองขึ้นมา ก่อนจะเดินไปยังเนินทรายที่ว่านั้น แล้วฝังเสื้อผ้าลงไปตามคำสั่งของถังซือซือ
“ฝังลงไปให้ลึกกว่านี้” ถังซือซือย้ำคำสั่งอีกครั้ง
หลังจากฝังเสื้อผ้าเสร็จ เขาก็รีบวิ่งกลับมายืนที่เดิมทันที ต่อมาอันธพาลสวมเสื้อแจ็กเกตและคนที่มีรอยสักต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยว่าถังซือซือจะทำอะไรต่อ
“โอเค” ถังซือซือปรบมือแล้วพูดว่า “แยกย้ายได้”
หา?
อะไรนะ?
ปล่อยพวกเราแล้วเหรอ?
“ทำไม ไม่อยากไปแล้วเหรอ?” ถังซือซือถามขึ้นมา
“ไป! ไป! เราจะไม่อยู่แล้ว! และจะไม่ยุ่งกับคุณอีก! ขอบคุณมาก ๆ!”
อันธพาลที่มีรอยสักเป็นคนแรกที่แสดงปฏิกิริยา ก่อนหันไปบอกให้อีกสองคนรีบวิ่งหนี
ทั้งสามคนรีบลุกขึ้นและวิ่งหนีไปทางที่พวกเขาวิ่งตามเธอมา ด้วยสีหน้าดีใจราวกับได้รับอิสรภาพ
ถังซือซือยืนมองพวกเขาจนวิ่งไปได้ไกลพอ ก่อน จะค่อย ๆ เดินกลับไปที่โรงแรมอย่างสบายใจ
ผ่านไปได้ครึ่งทาง ในที่สุด พวกอันธพาลทั้งสามพากันโอดครวญขึ้นมาว่า ‘โอ้ พระเจ้า หนาวชะมัดยาด!’
บทที่ 360
ผู้ประสงค์ร้ายได้ใจ
เมื่อตกกลางคืน อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ ถังซือซือเดินอยู่นั้น พวกอันธพาลทั้งสามเดินกอดกันอย่างน่าสังเวช เนื่องจากทั้งตัวของพวกเขามีเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว ซึ่งท่ามกลางลมหนาวแบบนี้ ทำให้พวกเขาสั่นสะท้านแล้วกอดกันแน่นมากขึ้นเหมือนกับลูกบอล
แต่ที่แย่ไปกว่านั้น หลังจากพวกเขาเดินมาถึงตัวเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่าน และส่วนใหญ่เป็นคนคุ้นหน้าพวกเขากันทั้งนั้น ด้วยความอับอายจึงได้แต่ยกมือขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเองเพื่อไม่ให้ใครจำได้
ถึงพวกเขาจะอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วก็ตาม แต่คงน่าอับอายมากถ้าต้องให้คนเห็นพวกเขาในสภาพนี้ แล้วพวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน?
คาดไม่ถึงแท้ ๆ ผู้หญิงคนนั้นน่ากลัวเกินไป... โชคร้ายจริง ๆ ที่เห็นแก่เงินจนไปเจอปีศาจแบบนั้น!
จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่เราจะไม่รับงานทำนองนี้อีก...
“เป็นความผิดของนายคนเดียว! แทนที่จะย้อนกลับไปเอาเสื้อผ้า!” อันธพาลที่มีรอยสักตำหนิอันธพาลที่ขี้ขลาด
“ด่าฉันไปเถอะ!” เขานึกอะไรขึ้นได้ “นั่นสิ” ก่อนทักท้วงขึ้นมาว่า “ไม่... ลูกพี่ไม่น่ารับงานนี้เลย แล้วจะเอายังไงต่อ? ถ้าปล่อยให้ตัวเองล่อนจ้อนอยู่แบบนี้ไม่ดีแน่!”
“หุบปาก! นอกจากขี้ขลาดแล้วยังคิดโทษลูกพี่อีก!” อันธพาลที่มีรอยสักตบหน้าอันธพาลขี้ขลาด
เขาจึงบ่นออกมาว่า “พอสักที” แล้วพูดต่อว่า “ฉัน... ฉันจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว! ไม่อยากเจอผู้หญิงคนนั้นอีกด้วย! ฉันจะออกจากแก๊งแล้วกลับไปหาแม่!”
หลังพูดจบเขาก็มุ่งตรงกลับบ้านทันที
คุณป้าคนหนึ่งเดินผ่านทางมา จึงสาปแช่งพวกเขาเสียงดังว่า “พวกบ้า! เล่นอะไรกันอยู่!” หลังจากนั้นเธอเดินไปหยิบไม้กวาดตามข้างทางขึ้นมา ก่อนวิ่งไล่ตีทั้งสามพลางดุด่าไปด้วยว่า
“พวกพ่อแม่ไม่สั่งสอน! ไร้ศีลธรรมสิ้นดี! ไร้ยางอาย!”
พวกเขายกมือขึ้นปิดใบหน้าอีกครั้ง ก่อนวิ่งหนีอุตลุดจนเกิดความวุ่นวายไปทั่วตามท้องถนน
ผู้คนตามบ้านและละแวกใกล้เคียงได้ยินเสียงวุ่นวายนี้ จึงวิ่งออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนเห็นภาพคุณป้าคนหนึ่งกำลังไล่ตีชายเปลือยเปล่าสามคน
ไม่นานเหตุการณ์นี้ก็ชุลมุนมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่คาดคิด
คืนนี้คงเป็นคืนที่พวกอันธพาลทั้งสามลืมไม่ลงอย่างแน่นอน
อีกด้านหนึ่ง ท่ามกลางพระจันทร์เสี้ยวยามพลบค่ำ ถังซือซือเดินกลับมาถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย
ขณะที่ซ่งเนี่ยนหยานเฝ้ามองประตูห้องของถังซือซือเป็นระยะ ซึ่งเธอดีใจมากเมื่อเห็นว่าถังซือซือยังไม่กลับมา
อืม ป่านนี้ยัยถังซือซือคงเสียโฉมและเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วล่ะมั้ง เธอจะได้ถอนตัวจากกองถ่ายนี้ไปสักที
ถ้าแฟนหนุ่มสุดหล่อเห็นเธอแบบนี้ เขาคงไม่อยากได้ตัวเธอแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ
ในพื้นที่ทะเลทรายที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แบบนี้ ยัยถังซือซือโทรแจ้งตำรวจไม่ได้ทันทีแน่ นี่ก็เที่ยงคืนแล้ว ยังไงก็เสร็จตามแผน ต่อให้กลับมาแล้วแจ้งตำรวจไป คงตามจับพวกอันธพาลไม่ได้หรอก ไหนจะหลักฐานที่หาไม่ได้อีก
ถึงเธอจะเล่าให้คนในกองถ่ายฟัง แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่าเธอถูกคนแปลกหน้าสามคนรุมทำร้าย? บังอาจทำให้ฉันไม่พอใจก็ต้องเจอแบบนี้แหละ ต่อให้เก่งแค่ไหน ตราบใดที่โง่ก็ไม่มีประโยชน์
พอเธอถูกทำร้ายจนเสียโฉม กองถ่ายคงไม่เลี้ยงหล่อนไว้แน่ แล้วถ้าแฟนหนุ่มรู้ว่าเธอไม่บริสุทธิ์ล่ะ ยังไงเธอก็ต้องโดนทิ้ง!
ไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านมาจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่บทสรุปนี้ ผู้ชายดี ๆ ต้องเป็นของฉันเท่านั้น ชักอดใจรอไม่ไหวแล้วสิ อยากรู้จังว่าเธอจะทำหน้ายังไงเมื่อถูกแฟนหนุ่มทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย?
คิดแล้วอดดีใจไม่ได้จริง ๆ
ซ่งเนี่ยนหยานรู้สึกพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก ก่อนเปิดประตูกลับเข้าห้องของตัวเอง แล้วปิดประตูเสียงดัง “ตุบ” หลังจากนั้นเธอทิ้งตัวลงนอนอย่างสบายใจ
ด้านถังซือซือ เธอเดินกลับมาถึงห้องพักส่วนตัวแล้ว ขณะเดียวกันสาวใช้ทั้งสองต่างเฝ้ารอเธออยู่ในห้องด้วยสีหน้าเป็นกังวล วินาทีต่อมานี้พวกเธอกำลังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรไปรายงานเซียวเฉินเยวียน ทันใดนั้นถังซือซือเปิดประตูเข้ามาพอดี พวกเธอเห็นดังนั้นก็ดีใจกันมาก ก่อนเดินไปเตรียมน้ำชาให้เธอดื่ม
“ฉันปลอดภัยดี ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ ฉันแค่เดินเล่นแถวโรงแรมเพลินไปหน่อยน่ะ แต่โอเคดี พวกเธอกลับไปพักผ่อนกันเถอะ วันนี้ทำงานหนักมามากแล้ว” ถังซือซือบอกพวกเธออย่างใจเย็นแล้วสั่งให้กลับไปพักผ่อน
หลังจากนั้นเธอรีบเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำให้สบายตัว
เมื่อเธอนอนเล่นอยู่บนเตียงได้สักพัก เธอก็เริ่มวางแผนการอะไรบางอย่าง