บทที่ 279-280
บทที่ 279
ไปดื่มด้วยกันสักหน่อย
ต่างจากหมินฮวาจือและเจียงหลี่ว์รุ่ยที่มีแฟนคลับเพียงไม่กี่คนมายืนรอถ่ายรูป กลับกลายเป็นว่าออร่านักแสดงหน้าใหม่อย่างถังซือซือดันบดบังออร่านักแสดงรุ่น ‘เก่า’ ทั้งสองโดยสิ้นเชิง ตอนนี้ใบหน้าของพวกเธอบูดบึ้งและเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมเขียว
ขณะที่การถ่ายรูปยังคงดำเนินต่อไป
เจียงหลี่ว์รุ่ยรู้สึกอารมณ์เสียทันทีเมื่อเธอเห็นถังซือซือ แต่น่าเสียดายที่เธอแก้แค้นไม่ได้ เพราะวันนี้ไม่มีฉากที่ต้องร่วม ซีนด้วยกัน
ระหว่างพักเบรก ในตอนนั้นเอง
เจียงหลี่ว์รุ่ยนั่งพักอยู่คนเดียว จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาหาเธอ
เมื่อเธอมองย้อนกลับไป ปรากฏว่าเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ เฉิงเจิ้งเสียง
อีกฝ่ายยื่นมือที่มันเยิ้มออกมา แล้ววางลงบนระหว่างต้นขาและชายกระโปรงของเธอ
“อ้าว ผู้ช่วยเฉิง ลมอะไรพัดคุณมาหาฉันได้คะ?”
เฉิงเจิ้งเสียงหรี่ตาเล็ก ๆ ราวกับถั่วเขียวแล้วพูดขึ้นว่า
“พอดีผมเพิ่งได้รับหนังเรื่องหนึ่งมา แล้วกำลังมองหานางเอกอยู่ครับ แต่ผมกังวลมากเลยว่าจะหาคนที่เหมาะสมไม่ได้”
เจียงหลี่ว์รุ่ยตาโตขึ้นมาทันที ก่อนตอบด้วยรอยยิ้มว่า
“ผู้ช่วยเฉิง คืนนี้คุณว่างไหมคะ? ถ้าสะดวกเราไปดื่มด้วยกันสักหน่อยไหมคะ?”
“มีสาวสวยชักชวนแบบนี้ ต่อให้วันนี้ผมไม่ว่าง แต่สำหรับคุณ ผมสามารถเคลียร์ตัวเองให้ว่างได้เสมอ”
“หืม? หลี่ว์รุ่ยไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด งั้นช่วยขยายความหน่อยสิคะ”
เฉิงเจิ้งเสียงส่งสัญญาณให้เจียงหลี่ว์รุ่ยหันไปมองทุกคนในสตูดิโอ...
เธอเข้าใจอย่างหลังได้ในทันที
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรื่องนี้ฉันจัดการเองได้”
เจียงหลี่ว์รุ่ยยิ้มมุมปากขึ้นมาพร้อมกับเผยสีหน้าที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม
เฉิงเจิ้งเสียงยุยงอะไรบางอย่างกับเจียงหลี่ว์รุ่ยอีกครั้ง ราวกับมีเจตนาแอบแฝงที่ชั่วร้าย ก่อนเดินจากไปอย่างพอใจ
หลังจากนั้น ประกายแสงแห่งความเกลียดชังวาบเข้ามาในดวงตาของเธอ ก่อนหัวเราะเบา ๆ ขณะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ในช่วงบ่ายหลังการถ่ายทำจบลง ทันทีที่หมินฮวาจือและลี่หานกลับไป เจียงหลี่ว์รุ่ยรีบเดินเข้ามาทักทายนักแสดงและ สตาฟคนอื่น ๆ
“ทุกคนคะ ผู้ช่วยเฉิงมีข่าวมาบอก คืนนี้ขอเชิญชวนทุกคนไปฉลองปาร์ตี้เล็ก ๆ ในโอกาสที่ถ่ายทำไปได้ด้วยดี มีข้อแม้ว่าห้ามเมามากนะคะ!”
เฉิงเจิ้งเสียงหรี่ตาแล้วเดินออกมาโดยไขว้มือไว้ข้างหลัง เดิมที เขาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์และนักทาบทามดารา เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นคนชอบสังสรรค์ แต่ก็ไม่ควรทำให้ผู้กำกับขุ่นเคือง ไม่อย่างนั้นจะส่งผลต่ออาชีพการงานของเขาในอนาคตได้
ดังนั้นทุกคนจึงตอบรับไปแต่ก็ไม่ได้เต็มใจนัก บางคนปรบมือและเสแสร้งทำเป็นเห็นด้วย
“ขอบคุณค่ะผู้ช่วยเฉิง!”
“ยินดีเลยครับ! คืนนี้ผมจะไม่เมาแน่นอน!”
“ตามไปปาร์ตี้กับผู้ช่วยเฉิงกันนะทุกคน!”
ถังซือซือจับผิดปฏิกิริยาแปลก ๆ ของทุกคน ก่อนพูดขัดจังหวะขึ้นมาว่า
“ฉันขอโทษนะคะ แต่ฉัน...”
ทันใดนั้นเจียงหลี่ว์รุ่ยรีบวิ่งเข้ามาหาถังซือซือราวกับคุ้นเคยกันดี แล้วพูดขึ้นว่า
“แต่อะไร ถังซือซือเองก็ต้องมาด้วยนะ เป็นถึงน้องใหม่ที่เปิดตัวได้ดีไม่เบา มาด้วยกันเถอะ เดี๋ยวพวกเราดูแลเธอเอง!”
หลังจากนั้น ทุกคนก็หันมาให้ความสนใจทั้งสอง
บางคนพึมพำขึ้นมาว่า “เจียงหลี่ว์รุ่ยสนิทกับเธอด้วยเหรอ”
“คงพยายามทำตัวให้คนอื่นพอใจหลังจากถูกชาวเน็ตจับได้ว่าโพสต์โกหกแน่เลย มาทำดีด้วยแบบนี้ เธอแอบวางแผนอะไรไว้กันแน่นะ?”
ตอนนี้สายตาของคนอื่น ๆ มองว่าเจียงหลี่ว์รุ่ยดูปลอมเกินไป แต่เธอไม่ได้สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว
อีกด้านหนึ่ง
หึ... หลังจบเรื่องนี้ เดี๋ยวฉันก็จะไปเป็นนางเอกภาพยนตร์คนแรกของเฉิงเจิ้งเสียงแล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นัยน์ตาลึก ๆ ของเธอก็ลุกโชนราวกับไฟที่ร้อนแรง
หลังจากชักชวนกันเสร็จ แม้ว่าถังซือซือจะรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จะถอนตัวตอนนี้ เธอจึงวางแผนไว้ว่าจะตามน้ำพวกเขาไปก่อน แล้วค่อยหาข้ออ้างถอนตัวออกมา
กลุ่มคนทยอยกันขึ้นรถตู้สำหรับกองถ่าย ระหว่างนั้น ถังซือซือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วส่งข้อความถึง เซียวเฉินเยวียน โดยบอกเขาว่าตัวเองจะไปที่ไหนและจะไม่สามารถติดต่อได้สักพักใหญ่ ก่อนเดินตามกลุ่มคนไปขึ้นรถ
สิบนาทีต่อมา รถตู้แล่นออกมาจากสตูดิโอ ไม่นานก็มาถึงบาร์แห่งหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าเจียงหลี่ว์รุ่ยมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีในการพูดคุย หลังจากนั้นเธอเข้าไปรินไวน์ให้กับทุกคนอย่างเป็นกันเอง ก่อนตะโกนเรียกทุกคนให้หันมาหาเฉิงเจิ้งเสียง แล้วชูแก้วไวน์ขึ้นพร้อมส่งเสียงดังชื่นชมเขา
บทที่ 280
เป็นอย่างที่คิดไว้
ทุกคนหันหน้ากลับมาชนแก้วกันและกัน ก่อนดื่มไวน์จนหมดแก้วแล้วเริ่มพูดคุยอย่างสนุกสนาน
ทางด้านถังซือซือปกติเธอเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มสังสรรค์อยู่แล้ว แต่เธอคิดว่าคงต้องดื่มพอเป็นพิธีบ้าง ก่อนหันไปมองรอบ ๆ โดยที่ทุกคนไม่ทันสังเกต เธอจึงยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบเล็กน้อยแล้ววางลงอย่างเงียบ ๆ
แต่ไม่ใช่กับเจียงหลี่ว์รุ่ย เธอคอยเฝ้าดูท่าทีทุกอย่างราวกับจิ้งจอก เมื่อเห็นว่าถังซือซือจิบไวน์แค่นิดเดียว เธอจึงเดินเข้าไปหาแล้วพูดว่า
“เดี๋ยว เธอก็ต้องดื่มให้หมดแก้วด้วยสิ ถ้าไม่เมา ก็ไม่ได้กลับบ้านนะโอเคไหม?”
เพียงชั่วพริบตาทุกคนก็หันมาให้ความสนใจที่ถังซือซือ
ถังซือซือยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า
“ขอโทษนะคะ พอดีฉันไม่ค่อยดื่มน่ะ”
ไม่ค่อยดื่มงั้นเหรอ? งั้นเสร็จฉันแน่! เจียงหลี่ว์รุ่ยตา ลุกวาวในทันที ก่อนรีบก้าวไปข้างหน้าแล้วเอื้อมมือไปโอบไหล่ถังซือซือ
ถังซือซือเอื้อมมือไปยกมือของเจียงหลี่ว์รุ่ยออก ก่อนยิ้มตอบกลับ
เจียงหลี่ว์รุ่ยแอบกำหมัดด้วยความไม่พอใจ ไม่เป็นไร เผลอตัวเมื่อไหร่ฉันจะจัดการเธอให้สาแก่ใจเลย!
“เดี๋ยวสิ ถึงไม่ค่อยดื่มก็ต้องดื่ม งั้นบอกได้ไหมว่าดื่มได้แค่ไหนเธอถึงจะไม่เมามาก? เราจะได้ช่วยดูแลเรื่องเครื่องดื่มให้ ไหน ๆ ก็อยู่แวดวงนี้แล้วจะไม่ดื่มเลยได้ยังไง? ถูกไหมล่ะ? แล้วนี่ผู้ช่วยเฉิงอุตส่าห์เลี้ยงทั้งที เธอจะปฏิเสธน้ำใจเขาเหรอ?”
เพราะเฉิงเจิ้งเสียงก็อยู่ในปาร์ตี้ด้วย ทุกคนจึงพูดโต้แย้งอะไรไม่ได้ มีแต่ต้องเห็นพ้องกับสิ่งที่เจียงหลี่ว์รุ่ยพูด
หลังจากนั้น เฉิงเจิ้งเสียงหรี่ตาถั่วเขียวเล็ก ๆ ของเขา ก่อนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดเสริมว่า
“เสี่ยวถัง ถูกของเสี่ยวเจียงนะครับ อย่าปฏิเสธน้ำใจของผมในครั้งนี้เลย”
ถังซือซือเริ่มหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้ช่วยผู้กำกับคงไม่มีทางเลือก เธอคิดว่าดื่มแค่แก้วเดียวคงไม่เป็นอะไรมากนัก
ไม่นานเธอก็เอื้อมไปหยิบแก้วไวน์แล้วดื่มจนหมด
หลังจากดื่มหมดอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกในตอนแรกนั้นค่อนข้างแสบร้อนในหน้าอกเล็กน้อย ผ่านไปสักพักก็มีรสหวานปนขมตามมา ในตอนนี้เธอได้รู้แล้วว่ารสชาติของไวน์เป็นยังไง แต่รสชาติก็ยังไม่ถูกใจเธออยู่ดี
ในฐานะคนทำอาหาร เธอรู้สึกว่าแค่ชิมไปแก้วเดียวคงไม่มีปัญหา
ยังไงก็ตาม เธอรู้อยู่แล้วว่าเซียวเฉินเยวียนเตรียมรถมารับเธอในอีกไม่ช้านี้ แต่เธอก็แอบกังวลว่าจะมีสติอยู่ครบจนถึงตอนนั้นไหม?
หลังจากเห็นเธอดื่มจนหมด หญิงสาวข้าง ๆ ปรบมือด้วยความดีใจ “เยี่ยมเลย!”
วินาทีนี้เจียงหลี่ว์รุ่ยและเฉิงเจิ้งเสียงหันมายิ้มให้กัน
“มาเถอะ มาดื่มกันอีก” เจียงหลี่ว์รุ่ยรีบเติมไวน์รอบโต๊ะทีละคนในทันที ราวกับคนที่ใส่ใจผู้อื่น
ขณะที่ทุกคนดื่มต่อไปไม่กี่แก้ว ใบหน้าของถังซือซือเริ่มเปลี่ยนไป หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอเงยหน้าขึ้นก่อน เจียงหลี่ว์รุ่ยจะหันมาพูดว่า
“ซือซือ เธอมองหาอะไรอยู่เหรอ?”
“ขอโทษนะ ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน”
ฮิฮิ เหมือนว่าโอกาสจะมาถึงแล้ว
เจียงหลี่ว์รุ่ยรีบชี้นิ้วบอกทางไปห้องน้ำ
ถังซือซือลุกขึ้นแล้วรีบเดินไปทันที
เมื่อเห็นถังซือซือเดินลับสายตาไป เจียงหลี่ว์รุ่ยรีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า
“ผู้ช่วยเฉิงจองห้องคาราโอเกะในโซนข้างในบาร์ไว้ด้วย พวกเราไปร้องเพลงกันเถอะ คืนนี้เรามาสนุกให้เต็มที่เลย!”
ทุกคนต่างให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี เมื่อได้ยินว่าจองห้องคาราโอเกะไว้
นักแสดงตัวประกอบสาวคนหนึ่งจำได้ว่าถังซือซือเข้าห้องน้ำอยู่ จึงถามขึ้นว่า
“พี่หลี่ว์รุ่ย ให้ฉันอยู่รอเธอก่อนไหมคะ?”
เจียงหลี่ว์รุ่ยโบกมืออย่างเร่งรีบ “เธอไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันอยู่รอเอง”
คนที่เหลือไม่ได้สังเกตอะไร ก่อนลุกขึ้นแล้วพากันเดินไปห้องคาราโอเกะด้วยความตื่นเต้น
ต่อมาเจียงหลี่ว์รุ่ยขยิบตาให้เฉิงเจิ้งเสียง อีกฝ่ายขยิบตาถั่วเขียวเล็ก ๆ ก่อนยิ้มอย่างขยะแขยงออกมาราวกับคนหื่นกระหาย ก่อนลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ
หลังจากนั้นเจียงหลี่ว์รุ่ยรีบเดินตามคนอื่น ๆ ไป แล้วบอกกับทุกคนไปว่าถังซือซือรู้สึกเมามากแล้วจึงขอตัวกลับก่อน
เฉิงเจิ้งเสียงล่ะ? ระหว่างที่เขาบอกให้พวกเราสนุกได้เต็มที่ แล้วจู่ ๆ ก็หายตัวไป นี่มันเป็นอย่างที่พวกเราคิดไว้ไม่มีผิด
ทางด้านเจียงหลี่ว์รุ่ย เธอสูดหายใจยาวด้วยความโล่งอก ก่อนเพ้อฝันขึ้นมาว่าบทนางเอกคนที่สองกำลังกวักมือเรียกเธออยู่