บทที่ 269-270
บทที่ 269
นี่แหละสิ่งที่ฉันต้องการ
ถังซือซือขมวดคิ้วทันที เมื่อมีปลายดาบพุ่งเข้ามา ก่อนเอียงหัวหลบไปทางขวาอย่างรวดเร็ว
แต่ถึงอย่างนั้นเจียงหลี่ว์รุ่ยก็ไม่ละความพยายาม เธอจึงเหวี่ยงดาบไปทางขวาของถังซือซือ
คราวนี้ถังซือซือเอียงหัวหลบไปทางซ้าย
ด้านลี่หานที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มผู้ร้ายอยู่เมื่อหันไปมองพวกเธอ เดี๋ยว ทำไมจู่ ๆ สองคนนั้นถึงได้แอ็คชั่นกันเข้มข้นขนาดนี้?
ขณะนั้นไม่ว่าใครก็ต่างพากันหยุดนิ่งและมองไปที่สองคนนั้น
เจียงหลี่ว์รุ่ยในเวลานี้... ดูเหมือนมีความแค้นที่ฝังใจเอามาก ๆ กับนางเอกคนที่สอง...
บรรดาแฟนคลับที่คอยมาให้กำลังใจ ต่างจ้องไปที่ทั้งสองคนด้วยความประหลาดใจก่อนซุบซิบกันว่า
“ฉันว่าจะพูดเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว เจียงหลี่ว์รุ่ยโพสต์ใน Weibo ไม่ใช่เหรอว่าเธอจะได้รับบทมู่ฮั่นหยาน? แต่วันนี้กลายเป็นว่าไม่ใช่แบบนั้นเลย และตอนนี้เจียงหลี่ว์รุ่ยยังแสดงแอ็คชั่นแปลก ๆ ด้วย เป็นไปได้ไหมว่าเธอแค้นใจที่ไม่ได้รับบทนี้?”
“ฉันว่าเธอพูดถูกแล้วแหละ… ตอนนี้เราก็ได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเหมาะกับบทมู่ฮั่นหยานมากกว่าจริง ๆ และเจียงหลี่ว์รุ่ยก็เทียบไม่ติดเลย งั้นเธอลองย้อนกลับไปดูสิ เรื่องประกาศในโพสต์น่ะ... สตาฟของทางสตูดิโอยังไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการเลยว่าใครจะได้เป็นมู่ฮั่นหยาน”
…
เมื่อซินฮั่นไห่สังเกตท่าทางของเจียงหลี่ว์รุ่ย ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร เขาจึงตะโกนออกไปว่า “NG!”*
*NG = ศัพท์ในทางถ่ายทำภาพยนตร์แปลว่า No Good ใช้ในกรณีแทนสั่งคัทฉากกลางคันเมื่อการถ่ายทำนั้นไม่ดี ไม่เวิร์ก ไม่ตรงตามความต้องการของผู้กำกับ
ถังซือซือได้ยินผู้กำกับตะโกนว่า “NG” หลังจากนั้น เธอก็หยุดแสดงต่อทันที ก่อนเดินถอยหลังไปไม่กี่ก้าว...
“หืม?” เจียงหลี่ว์รุ่ยที่กำลังสวมสายสลิงสำหรับโรยตัวอยู่ ยังคงต้องการฟันดาบใส่ถังซือซือต่อ แต่ทันใดนั้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายถอยหลังออกไป ขณะพุ่งตัวตามไปเธอก็รู้สึกว่าตัวเองร่วงลงมาบนพื้น...
“ตุบ!”
เหล่านักแสดงที่อยู่รอบ ๆ ต่างเดินถอยกันออกมา ส่วนสตาฟบางคนตกใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
เสียงของร่างที่ตกลงบนน้ำโคลน ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งสตูดิโอ
ซินฮั่นไห่ไม่ได้พูดอะไรก่อนเงยมองขึ้นไปบนเพดานของสตูดิโอ ชายหนุ่มคนหนึ่งมีหน้าที่คุมสายสลิงพูดขึ้นมาว่า
“อืม... พอดีว่าสลิงมีปัญหานิดหน่อยครับ...”
ซินฮั่นไห่ส่ายหน้าแล้วโบกมือกลับ ขณะนั้นผู้จัดการส่วนตัวของเจียงหลี่ว์รุ่ยรีบวิ่งเข้าไปช่วยทันที พร้อมกับให้สตาฟไปหาผ้าขนหนูเตรียมเอาไว้
การถ่ายทำฉากแอ็คชั่นนี้ถูกสั่งคัทชั่วคราว จากนั้นผู้กำกับได้สั่งให้สตาฟเตรียมถ่ายทำฉากอื่นไปก่อน
ระหว่างที่ทั้งตัวของเจียงหลี่ว์รุ่ยเต็มไปด้วยน้ำโคลนสกปรก เธอได้รับการช่วยเหลือจากผู้จัดการส่วนตัวอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เธอรู้สึกอับอายมาก... แต่ก็รู้ดีว่าเรื่องนี้คงไม่สามารถโทษว่าเป็นความผิดของใครได้...
“ระวังอย่าให้ใครเอาเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปนะ!” ถ้ามีคนรู้ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!
“ดะ ได้ค่ะ…” ผู้จัดการส่วนตัวรีบตอบ
ขณะเช็ดน้ำโคลนที่เลอะเสื้อผ้า มีสตาฟคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเจียงหลี่ว์รุ่ย
“ฉันสร้างโพสต์ด้วยบัญชีของคุณใน Weibo ไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ คุณสามารถตรวจสอบดูได้เลย”
เจียงหลี่ว์รุ่ยสั่งให้ผู้จัดการเช็ดตัวให้เธอต่อไป ก่อนรีบหันกลับไปเข้าสู่ระบบ Weibo ในโทรศัพท์ เมื่ออ่านโพสต์ Weibo ล่าสุดของเธอ ซึ่งหลังจากเผยแพร่ออกไปเพียงไม่กี่นาที ตอนนี้มีจำนวนการรีโพสต์และการแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากจนน่าตกใจ และตัวเลขเหล่านั้นยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เนื้อหาของโพสต์ใน Weibo เขียนไว้ว่า
“วันนี้เริ่มการถ่ายทำแล้ว... ฉันได้รับบทหลินอันชิง ทุกคนช่วยสนับสนุนฉันด้วยนะคะ!”
รูปภาพประกอบคือภาพเจียงหลี่ว์รุ่ยแต่งกายด้วยชุดโบราณ ถือดาบยาว แสดงท่าทางที่แข็งแกร่ง ราวกับว่าเธอขัดเกลาการออกท่าต่อสู้มาอย่างดี
ด้านล่างโพสต์มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือด
“ตอนแรกได้เป็นมู่ฮั่นหยานนี่… ทำไมถึงกลายมาเป็นหลินอันชิงได้ล่ะ?”
“ไม่จริงใช่ไหม? ไม่เห็นเหมือนอย่างที่ประกาศไว้เลย! ใครกันที่มาขโมยบทมู่ฮั่นหยานจากเจียงหลี่ว์รุ่ย? จะมีใครอีกที่เหมาะกับบทมู่ฮั่นหยานมากกว่า? ถ้าผู้กำกับซินทำแบบนี้หนังจะดังไหมเนี่ย?”
“ไม่เห็นแปลกเลย… ถือว่าเป็นเรื่องปกติ… วงการบันเทิงเป็นแบบนี้ตลอด… แต่แอบเสียดายหลี่ว์รุ่ยอยู่นะ!”
“ลดบทหลี่ว์รุ่ยไปเยอะมาก บอกเลย ฉันยอมรับไม่ได้ จริง ๆ”
…
หลังจากอ่านความคิดเห็นมากมาย มีการพูดถึงเจียงหลี่ว์รุ่ยที่ถูก ‘ปล้น’ บทมู่ฮั่นหยานไปเยอะมาก และยังมีคนบางส่วนประณามบุคคลที่ได้รับบทนี้ไปแทนอีกด้วย
เมื่อเห็นบรรดาแฟนคลับแสดงความคิดเห็นเห็นอกเห็นใจ ทำให้เจียงหลี่ว์รุ่ยรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่อง
นี่แหละสิ่งที่ฉันต้องการ!
บทที่ 270
จะรอดไปได้สักกี่น้ำ
เรื่องนี้ยังคงเป็นที่พูดถึงกันหนาหูใน Weibo แค่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งวัน มีคนเข้ามาแสดงความเห็นอกเห็นใจเจียงหลี่ว์รุ่ยและตำหนิคนที่ได้รับบทนั้นแทนว่า
“จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครออกมาชี้แจงอะไรเลยเกี่ยวกับคนที่ได้รับบทแทน อยากรู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น เจียงหลี่ว์รุ่ยไม่ดีตรงไหน? แต่เห็นแก่เธอหรอกนะ ฉันจะดูหนังเรื่องนี้อยู่...”
“ใคร ๆ ก็รู้ว่าวงการบันเทิงก็เป็นซะแบบนี้ นี่ขนาดเป็นถึงดาราที่สวยและมีความสามารถเยอะแบบนี้ แถมไม่เคยมีข่าวหรือผลตอบรับในแง่ลบด้วย สุดท้ายกลับโดนลดบทบาทแล้วโดนใครไม่รู้เข้ามาเสียบแทน ฉันรู้สึกเสียใจกับเจียงหลี่ว์รุ่ยจริง ๆ นี่มันไม่ยุติธรรมเลย!”
“ทุกคน ฉันมีข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่แต่ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ ยังไงก็คอยติดตามกันนะ! รอลุ้นได้เลย”
…
ขณะเดียวกันโทรศัพท์ของผู้จัดการส่วนตัวดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด ซึ่งเป็นการติดต่อมาจากสื่อต่าง ๆ ที่มุ่งหมายจะขอสัมภาษณ์เจียงหลี่ว์รุ่ยเป็นคนแรก
ตอนนี้ ดูเหมือนว่าการเล่นงานคู่แข่งของตัวเองใน Weibo นั้นเป็นไปตามคาดมาก ๆ
“เป็นอย่างที่คุณจ้าวบอกไว้ไม่มีผิด ถ้าโพสต์แบบนี้ออกไปเราจะกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง”
เจียงหลี่ว์รุ่ยพูดขึ้นด้วยความเย้ยหยัน
“พี่หลี่ว์รุ่ย คุณจ้าวอ่านเกมขาดมาก แต่ก็ต้องยกความดีความชอบให้พี่เหมือนกัน ที่ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อการนี้” ผู้จัดการส่วนตัวรีบพูดประจบสอพลอในทันที
ในอดีต จ้าวหรูอี้ไม่ค่อยให้ความสนใจเธอมากเท่าไหร่ แต่ตอนนี้กลับมาช่วยเหลือเรื่องของเธออย่างเต็มที่ ทำให้ เจียงหลี่ว์รุ่ยอดดีใจไม่ได้จนหลงคิดไปว่าเป็นเพราะความสามารถของตัวเอง จ้าวหรูอี้ถึงกลับมาช่วยเธอ
วงการบันเทิงในปัจจุบัน มักมีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้ตลอด และเจียงหลี่ว์รุ่ยเองก็รอคอยวันนี้มานานเพื่อสร้างแสงให้ตกลงมาที่ตัวเธอเอง
ตอนนี้เธอพึงพอใจมากจนความอับอายจากการเปื้อนน้ำโคลนได้หายไป
เจียงหลี่ว์รุ่ยรู้สึกมีความสุข และเพ้อฝันจนตัวลอยเมื่อนึกถึงความโด่งดังที่จะได้รับอย่างล้นหลาม ทั้งยังรู้สึกปลื้มปริ่มเมื่อคิดว่าตัวเองจะได้บทเดิมกลับคืนมาในไม่ช้า
เมื่อสิ้นสุดการถ่ายทำ นักแสดงแต่ละคนกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อลบเครื่องสำอางและเปลี่ยนเสื้อผ้า
ก่อนหน้านั้นลี่หานรีบเดินเข้าไปหาถังซือซือ
เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าทึ่งมาก ฉากในวันนี้ก็ถูกถ่ายทำได้อย่างสมบูรณ์แบบและแทบจะไม่มีการถ่ายแก้เลย ซึ่งทำให้เขาสงสัยว่าจริง ๆ แล้วเธอเป็น ‘ดาราลับ’ ที่แอบเดบิวต์เข้าวงการมาแล้วหลายปีรึเปล่า
ถังซือซือหยุดเดินแล้วหันมาพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทาย
ลี่หานยืนนึกคำพูดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพูดชื่นชมเธอออกไปว่า
“ผมคิดว่าคุณน่าทึ่งมาก ๆ เลยครับ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณแสดงหนังจริง ๆ รึเปล่า?”
ถังซือซือพยักหน้า “ใช่แล้วค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้แสดงหนัง”
“คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณแน่ ๆ แต่พอได้เห็นว่าคุณทุ่มเทกับมันมาก แปลว่าคุณต้องทำการบ้านล่วงหน้ามาไม่น้อยเลยสินะ?”
ทางด้านถังซือซือรู้สึกว่าในฐานะที่ลี่หานเป็นดาราชายระดับซูเปอร์สตาร์แบบนี้ กลับเป็นคนช่างพูดและดูเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่ายมาก นี่ถือเป็นสิ่งที่หาได้ยากเช่นกัน เธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการมานานหลายปี
“ฉันว่าคงทำการบ้านมาไม่ดีเท่าของคุณหรอกค่ะ ฉันก็แค่ทำมันไปตามสัญชาตญาณ”
ถังซือซือตอบอย่างตรงไปตรงมา แต่ดูเหมือนว่าคำตอบของเธอจะไม่ถูกใจเท่าไหร่เมื่อมันลอยไปเข้าหูของหมินฮวาจือและเจียงหลี่ว์รุ่ย
“คำพูดเสแสร้งแบบนั้น ฉันไม่ชอบเลยจริง ๆ” หมินฮวาจือพูดเยาะเย้ยขึ้นมาทันที
เจียงหลี่ว์รุ่ยรีบขยิบตาให้เธอ ก่อนกระซิบอะไรบางอย่าง แล้วรีบเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว
เมื่อรู้ว่าหมินฮวาจือไม่ชอบถังซือซือ ทำให้เธอรู้สึกว่าพระเจ้าเข้าข้างได้ถูกเวลามาก!
ดูซิว่าผู้หญิงอย่างเธอจะรอดไปได้สักกี่น้ำ!
เธอรีบเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว แล้วตรงไปที่ราวแขวนเสื้อในทันที ก่อนหยิบชุดเดรสแขนกุดสีแดงของถังซือซือออกมา แล้วโยนทิ้งลงบนพื้น หลังจากนั้นเธอก็บรรจงย่ำเท้าลงไปเหยียบอย่างโกรธแค้น ก่อนวิ่งกลับไปที่โต๊ะแต่งหน้าของถังซือซือ แล้วหยิบแป้งรองพื้นไปโรยใส่ชุดเดรสจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด
นอกจากนี้เธอยังเอาเสื้อคลุมออกมาทำแบบนั้นเหมือนกันอีกตัวหนึ่ง เพราะข้างนอกอากาศหนาวมาก จึงตัดสินใจทำลายเสื้อผ้าของถังซือซือทั้งหมด แล้วคอยดูว่าวันนี้หญิงสาวจะเดินออกจากสตูดิโอไปด้วยสภาพแบบไหน