บทที่ 239-240
บทที่ 239
ไม่เคยเป็นมาก่อน
เซียวเฉินเยวียนที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มกำลังเดินเข้ามาในห้องทำงาน เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาเห็นถังซือซือกำลังพิมพ์บทสัมภาษณ์อย่างจริงจังอยู่บนโต๊ะ
เห็นได้ชัดว่าหลังจากอาบน้ำ ใบหน้าของหญิงสาวผ่องใสขึ้นกว่าเดิมมาก เส้นผมที่ยังคงความชื้นไว้อยู่ แผ่สยายกระจัดกระจายอยู่ข้างหลัง ทำให้เธอดูมีเสน่ห์อีกแบบในมุมนี้
ความมืดในแววตาพลันสว่างขึ้นมา เซียวเฉินเยวียนเดินเข้าไปด้วยท่าทางสุขุม
ถังซือซือสัมผัสถึงลมหายใจของเซียวเฉินเยวียน จึงอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้น
เวลานี้ทั้งสองเงยหน้าขึ้นสบตากันและกันอย่างหวานชื่น
ไม่นาน เธอก็นึกถึงสิ่งที่ตัวเองคิดไว้ในตอนแรก จนแก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ ก่อนแกล้งทำเป็นไม่สนใจแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ แต่หางตาของเธอนั้นยังคงสังเกตทุกอิริยาบถของเซียวเฉินเยวียนทุกฝีก้าว
มาแล้ว มาแล้ว…
คุณชายปีศาจกำลังเดินเข้ามาหาฉัน...
อ่าวๆๆ จู่ ๆ ก็ทำอะไรของเขาเนี่ย?!
ตอนแรกเธอประหม่าเล็กน้อย
จนวินาทีต่อมา เซียวเฉินเยวียนเดินเข้ามาใกล้เธอ พร้อมกับหยิบเสื้อคลุมตัวหนาอีกตัวหนึ่งมาห่มคลุมให้เธอ แล้วพูดว่า
“มันหนาวนะ อย่าใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นนักสิ”
หา?!
ไม่เห็นเหมือนในหนังที่เพิ่งไปดูมาเลยสักนิด!
ถังซือซือจินตนาการถึงฉากวาบหวิวมากมาย แต่เธอไม่เคยคาดหวังว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้
น่าหงุดหงิดอะไรอย่างนี้
เธอจึงส่งเสียงตอบรับไปว่า “อืม”
ดี!
ช่างเป็นสุภาพบุรุษอะไรขนาดนี้!
ฉันน่าจะเดาได้แต่แรกว่าเขาต้องมาทรงนี้แน่นอน...
แต่เดี๋ยวก่อน!
ข้างนอกมันหนาวก็จริง แต่ในบ้านมันอุ่นนี่นา!
เหมือนเขาจะไม่ได้เปิดฮีตเตอร์ด้วย! แต่อุณหภูมิก็ไม่หนาวมาก นี่ขนาดนั่งทำงานมาสักพักยังไม่รู้สึกหนาวเลย...
เซียวเฉินเยวียนเงยหน้าขึ้นพร้อมกลืนน้ำลายลงคอดัง “อึก” ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะทำงาน แล้วตรวจสอบคุณภาพงานของบริษัทต่อไป
ทันใดนั้นถังซือซือก็ดึงเสื้อคลุมออกอย่างเงียบ ๆ และยืนขึ้น ก่อนเดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว
เซียวเฉินเยวียนสัมผัสได้ถึงเงาของหญิงสาวที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เขาเห็นถังซือซือสวมชุดลายลูกไม้บาง ๆ อย่างชัดเจน เธอยืนอยู่หน้าโต๊ะพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาไว้ที่แก้ม พร้อมกับส่งสายตาที่ไร้เดียงสา ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า
“ในห้องอุ่นจะตาย ฉันไม่รู้สึกหนาวเลย พอดีฉันก็ถอดบทสัมภาษณ์เสร็จแล้วด้วยสิ แต่ฉันอยากดูคุณทำงานต่อ จะเป็นการรบกวนคุณไหม?”
เซียวเฉินเยวียนรู้สึกเลิ่กลั่กเล็กน้อย
“ก็ไม่นะ”
เสียงของเขาเบามาก ก่อนกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง
จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าเอกสารที่อยู่ตรงหน้านั้นอ่านแล้วไม่ค่อยจะเข้าหัวเท่าไหร่
เห็นได้ชัดว่าข้อมูลที่เข้าใจง่ายมาตลอด จู่ ๆ กลับเข้าใจยากขึ้นมาซะอย่างนั้น เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
ถังซือซือเอียงศีรษะ แล้วคาดเดาการกระทำต่อไปของเขา
ดูเหมือนคุณชายปีศาจจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลยแฮะ แผนยั่วอารมณ์เขาดูเหมือนจะล้มเหลวซะแล้วสิ
ดังนั้นเธอจึงยืดตัวขึ้น กำลังเดินกลับไปที่โต๊ะตัวเดิมเพื่อเก็บของให้เข้าที่
ขณะที่เธอกำลังเดินไปนั้น โดยไม่คาดคิด เซียวเฉินเยวียนยื่นมือออกไปคว้าแขนของเธอ ก่อนรวบเอวแล้วดึงเข้ามาหาตัวเองอย่างรวดเร็ว
เดี๋ยว?
ทำอะไรของเขาเนี่ย?!
วินาทีต่อมา ถังซือซือรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองถูกดึงไปข้างหลังโดยไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับริมฝีปากของเธอที่ถูก เซียวเฉินเยวียนครอบครองลงมาโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
ภายในสมองของเธอว่างเปล่าไปครู่หนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นาน ถังซือซือก็เหลือบตามองขึ้นไป ขณะที่สัมผัสได้ถึงความอุ่นและชื้นตรงริมฝีปาก
ฉันถูกเขาจูบ กรี๊ดๆๆ!
คุณชายปีศาจจูบฉันในห้องทำงาน!
สุดยอดไปเลย!
ตื่นเต้นมาก น่าตื่นเต้นจริง ๆ...
ไม่นานถังซือซือก็หลับตาลงโดยไม่รู้ตัว ก่อนจมดิ่งลงในความละมุนละไมจากจุมพิตของเซียวเฉินเยวียน
“คุณผู้...”
กู่ชวนผลักประตูและเดินเข้ามา เพื่อรายงานอะไรบางอย่างกับเซียวเฉินเยวียน ซึ่งเกี่ยวกับนัดหมายของเขาในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า
วินาทีถัดมา กู่ชวนก็หยุดชะงักในทันที
หลังจากที่ได้เห็นฉากดูดดื่มอย่างร้อนแรงตรงหน้าระหว่างเจ้านายทั้งสอง กู่ชวนก็รีบดึงลูกบิดประตูกลับไปในทันทีด้วยความร้อนรน!
บทที่ 240
ภาพลักษณ์ที่พังทลาย
ทำไมฉันถึงไม่มาตอนเช้านะ ไม่น่าเข้าไปหาคุณผู้ชายตอนนี้เลย...
นี่เพิ่งกินข้าวอิ่มไปได้ไม่นาน...
ไม่ทันไรโดนป้อนอาหารสุนัขซะแล้ว...
ไม่ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ที่สำคัญคือฉันดันไปรบกวนเวลาส่วนตัวอันหวานแหววของคุณผู้ชายกับคุณหนูซือซือ!
ขณะที่กู่ชวนกำลังเดินออกจากห้องทำงานไปอย่างรีบร้อน เขาก็พูดในใจว่า “พระเจ้าช่วย” หวังว่าเซียวเฉินเยวียนจะไม่คิดบัญชีกับเขาในภายหลัง
ในเวลาเดียวกัน เขาก็คิดอีกอย่างในใจว่า ความสัมพันธ์นี้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจริง ๆ เลย!
ใครว่าคุณผู้ชายไม่มีทางชอบคนอย่างคุณหนูซือซือได้ คุณผู้ชายตาแหลมมากต่างหากล่ะ
กู่ชวนคิดว่าเขาควรไปหาที่นั่งรออยู่ในห้องโถงสักพัก ก่อนจะยิ้มแห้งออกมา
ในขณะเดียวกัน ภาพที่เขาได้เห็นก็ชวนให้นึกถึงช่วงเวลาก่อนหน้านี้
หลังจากที่ได้เห็นเซียวเฉินเยวียนและถังซือซือดูรักกันมากปานจะกลืนกิน ก็ทำให้เขานึกถึงช่วงก่อนหน้านั้นที่ทุกคนไม่ยอมรับและตำหนิเธออย่างมากมาย คิดแล้วก็น่าละอายใจจริง ๆ!
เมื่อกู่ชวนปิดประตูและรีบวิ่งจากไปแล้ว ถังซือซือก็รีบผละออกจากอ้อมกอดของเขา ก่อนจะวิ่งปรู๊ดไปที่โซฟาริมหน้าต่าง แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวให้มิดชิด
ราวกับต้องการหายตัวไปจากตรงนี้ซะให้ได้
นี่มันแย่มาก ๆ เลย แย่แล้ว แย่แล้ว แย่แล้ว
ตึกตักๆๆ!
หัวใจของเธอเต้นแรงมาก!
ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด! สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ!
กู่ชวนคงเข้ามารายงานให้คุณชายปีศาจตามปกติ ฉันหวังว่าเขาคงมองไม่เห็นภาพเมื่อกี้นี้หรอกนะ!
แต่แม้ว่าเธอจะครุ่นคิดและพยายามเข้าข้างตัวเองสักเท่าไหร่ ถึงยังไงก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี…
ถังซือซือขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ยังคงขดตัวจนงอเป็นกุ้งด้วยความอับอาย
จบกัน ภาพลักษณ์ของฉัน
เดี๋ยวสิ! แต่ผมของฉันก็ยาวมากนี่นา มันน่าจะปิดแผ่นหลังของฉันได้มิดอยู่นะ ต่อให้กู่ชวนมองจากด้านหลังก็ไม่รู้หรอกว่าเรากำลังจูบกัน!
คิดในแง่ดีเข้าไว้!
แต่ไม่ว่าถังซือซือจะพยายามคิดยังไงก็ตาม เธอกลับไม่กล้ามุดออกมาจากผ้าห่มในเวลานี้เลย
เซียวเฉินเยวียนมองถังซือซือที่กำลังตกใจและซ่อนตัวอย่างมิดชิดอยู่ในผ้าห่ม มุมปากของเขาอมยิ้มเล็กน้อย
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เซียวเฉินเยวียนหยิบขึ้นมาดู ก่อนพบว่าเป็นคำขอวิดีโอคอลจากคุณยายของเขา ฝางเสวี่ยหลาน
เขาคลิกตอบรับคำขอวิดีโอโดยไม่ลังเล
ใบหน้าของฝางเสวี่ยหลานปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์
“เจ้าหลานรัก เมื่อไหร่จะจัดงานแต่งงานซะทีเนี่ย?”
ทันทีที่ฝางเสวี่ยหลานพูดขึ้น ก็ทักท้วงเรื่องแต่งงานทันที
เซียวเฉินเยวียนตอบอย่างใจเย็นว่า “ใกล้ถึงเวลาแล้วครับ”
“รอจนกว่าซือซือจะเรียนจบ ก็... คุณยายรอหน่อยนะครับ”
ฝางเสวี่ยหลานพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเบา ๆ ขึ้นว่า
“หลานช่วยมีให้เหลนชายให้ยายหน่อยได้ไหม? ยายอยากอุ้มเหลนใจจะขาดแล้วเนี่ย”
เซียวเฉินเยวียนมีเครื่องหมายคำถามเด้งขึ้นมาในสมองทันที
ความคิดคุณยายนี่ล้าสมัยจริง ๆ...
ซือซือยังไม่ทันจะเรียนจบเลย...
ขณะเดียวกัน เมื่อถังซือซือได้ยินเสียงของฝางเสวี่ยหลาน มุดตัวเองออกมาจากผ้าห่มทั้งที่ร่างกายยังสั่นเทา
เนื่องจากเธอไม่ได้พบฝางเสวี่ยหลานมาสักพักแล้ว
ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้น และเดินตรงไปที่ด้านข้างของ เซียวเฉินเยวียนทันที
เซียวเฉินเยวียนเห็นถังซือซือเดินเข้ามา รอยยิ้มอันเปล่งประกายของเขาก็ปรากฏขึ้น ก่อนจะหันหน้าจอโทรศัพท์มือถือไปทางถังซือซือโดยไม่ลังเล
“ห๊ะ?”
ถังซือซือตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง เมื่อรู้ว่านี่ไม่ใช่การโทรธรรมดา แต่เป็นการวิดีโอคอล!
เดี๋ยวๆๆ!
ฝางเสวี่ยหลานยิ้มกว้างทันทีเมื่อเห็นถังซือซือ หมายความว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตอนนี้เหรอ? ดีมาก ดีมากเลย ถือเป็นสัญญาณที่ดี อีกไม่นานฉันคงได้อุ้มเหลนแล้วสินะ....
“สวัสดีค่ะคุณยาย”
ถังซือซือทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส
ฝางเสวี่ยหลานพยักหน้าอย่างมีความสุข ดวงตาเบิกกว้างในทันที
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังรบกวนเวลาส่วนตัวของทั้งสองรึเปล่า
ฝางเสวี่ยหลานจึงตอบกลับไปว่า
“โอเค นี่ก็ดึกมากแล้ว รีบไปพักผ่อนกันนะ ยายเองก็จะเข้านอนแล้วล่ะ”
“งั้นราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณยาย!”
ฝางเสวี่ยหลานรีบวางสายวิดีโอคอลทันทีด้วยรอยยิ้ม
ก่อนแอบส่งข้อความถึงเซียวเฉินเยวียนว่า
“หลานรัก! ดูเหมือนยายเฒ่าคนนี้จะรบกวนเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มเข้าสินะ พยายามเข้า! ปีหน้ายายจะได้อุ้มเหลนสักที!”
เซียวเฉินเยวียนอ่านข้อความนี้ ก็นิ่งคิดไปสักพัก
ถังซือซือชะเง้อหน้าเข้ามาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น...
อะไรกันๆๆ!
นี่มันหมายความว่ายังไงล่ะเนี่ย!
คุณยายคงเข้าใจอะไรผิดไปแน่ ๆ!
คุณยายคะ! ไม่ใช่อย่างที่คุณยายคิดซะหน่อย!
ยังไม่ทันได้อธิบายอะไรเลย ฮือๆๆ!
ไม่นะ ภาพลักษณ์ของฉัน! คืนนี้มันพังทลายลงไปหมดแล้ว!