บทที่ 169-170
บทที่ 169
คำสารภาพรักกะทันหัน
สิ่งที่เซียวเฉินเยวียนแสดงให้เห็นในตอนนี้คือสมาธิในการทำงาน โดยที่ไม่มีจุดบกพร่องเลย
ขณะที่เขาฟังรายงานอยู่ ก็ซักซ้อมขั้นตอนในการชวนออกเดตในหัวไปด้วย
ระหว่างทางกลับหอพัก ถังซือซือได้รับข้อความจาก เซียวเฉินเยวียนว่า
“ผมจะมารับคุณตอนหนึ่งทุ่ม”
นี่... หรือนี่คือจังหวะเวลาที่ดีในการออกเดต?
ประโยคฟังดูธรรมดาและเรียบง่าย แต่ถังซือซืออ่านและพยายามทำความเข้าใจหลายครั้ง เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย
ชายหนุ่มข้างถนนกำลังมองความสวยของถังซือซือ เขาเดินไม่มองทางจนเกือบชนกับต้นแปะก๊วยข้างหน้า
พอรู้ตัวอีกทีก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์ ชายหนุ่มยืนนิ่ง ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ถังซือซือ จนละสายตาจากไปไม่ได้
ฉันควรใส่ชุดอะไร หรือแต่งตัวยังไงไปเจอเขาดี?
ถังซือซือผู้ไม่เคยสนใจเรื่องเสื้อผ้าจึงเริ่มกังวลเป็นอย่างมาก
เธอนึกขึ้นได้ว่าสมัยเจ้าของร่างเดิมย้ายมาอาศัยอยู่ในเมืองใหม่ ๆ ด้วยความที่เธอเป็นลูกสาวเศรษฐี จึงไม่แปลกที่จะพกเสื้อผ้าสวยงามติดตัวมาด้วยมากมาย
แต่หลังจากเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เจ้าของร่างเดิมก็ไม่เคยคิดจะกลับไปใส่ชุดเก่าพวกนั้นอีกเลย เพราะกลัวถูกหัวเราะเยาะ บวกกับที่เธออ้วนขึ้นเล็กน้อย ถ้าใส่ชุดเดรสรัดรูปหรือชุดสวยงามออกมาข้างนอก คงต้องถูกสังคมหัวเราะเยาะ
ปิ๊ง!
ในความทรงจำบอกว่าชุดกระโปรงสวย ๆ มากมายถูกพับทิ้งไว้ในตู้เสื้อผ้า ด้วยรูปร่างในตอนนี้ เธอสามารถสวมใส่มันได้แล้ว
ถึงอย่างไรเสื้อผ้าชุดเก่าของเธอเมื่อหลายปีก่อนก็ยังคงมีคุณภาพดีอยู่ สไตล์ของมันยังไม่ตกยุคไปเสียทีเดียว
หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ถังซือซือรีบกลับไปที่หอพักเพื่อเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วรื้อกระโปรงออกมาลองใส่ทีละตัว
เธอเลือกชุดอัดพลีทสีน้ำเงินอ่อนตัวหนึ่ง ด้วยความไม่มั่นใจเล็กน้อย จึงเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด
ปรากฏว่าถึงแม้จะผ่านไปหลายปี แต่เสื้อผ้าชุดนี้ยังใส่ได้พอดีตัว
ร่างของหญิงสาวสะท้อนภาพเงาในกระจก
เมื่อสวมใส่แล้วเธอดูสูงและผอมเพรียวทีเดียว เส้นผมยาวสีดำสนิทราวกับน้ำตกพาดอยู่บนบ่าทั้งสองข้าง ดวงตาสดใส ฟันขาวสะอาด ผิวขาวราวกับหิมะขับให้ยิ่งสวยงามราวกับดอกไม้ประจำฤดูหนาว ชุดสีฟ้าอ่อนนั้นก็ทำให้เธอดูสง่างามไม่น้อยหน้าใครเลย
ถังซือซือยิ้มอย่างมีความสุข พึงพอใจเป็นอย่างมาก
ช่วงเย็น
ตอนนี้เริ่มใกล้มืดแล้ว ช่วงเวลาก่อนห้าโมงเย็น อาคารหอพักต่าง ๆ เปิดไฟสว่างไสวไปทุกพื้นที่
ถังซือซือนั่งที่โต๊ะริมระเบียง กางหนังสือออกและตั้งใจอ่านหนังสือ
เดิมทีเจ้าของร่างเดิมชอบอ่านหนังสือมาก จึงพกหนังสือมือสองจำนวนมากมาเก็บไว้ในหอพัก ถังซือซือเองก็สนใจหนังสือพวกนี้เช่นกัน ในเวลานี้ยังไม่ถึงหนึ่งทุ่มตามที่เซียวเฉินเยวียนนัดเธอไว้ จึงหาหนังสือมาอ่านเพื่อฆ่าเวลาไปพลาง ๆ
ไม่รู้ว่าตอนนี้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ถังซือซือยังรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย แต่ก็พยายามก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อไป ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงที่มีชีวิตชีวาดังขึ้นมาจากชั้นล่างของหอพัก ดูเหมือนว่ามีกลุ่มชายหนุ่มกำลังตะโกนเรียกใครสักคนอยู่
เธอไม่สนใจเสียงนั้นเท่าไหร่ แต่สักพักหนึ่งเสียงก็เริ่มดังขึ้น จึงลุกขึ้นยืนเพื่อกลับเข้าห้องแล้วปิดประตูระเบียง
ทันทีที่เธอลุกขึ้นมาจนโผล่พ้นขอบระเบียง เสียงของพวกผู้ชายที่อยู่ด้านล่างก็ยิ่งดังมากขึ้น
“ลงมาเร็ว! ลงมาเร็ว!”
“เทพธิดา! เทพธิดา!”
“โอ้พระเจ้า เทพธิดาช่างงดงามเหลือเกิน!”
ถังซือซือขมวดคิ้ว พวกเขามาทำบ้าอะไรแถวหอพักหญิงกันเนี่ย?
เธอเห็นคนกลุ่มใหญ่ที่ชั้นล่าง ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่เป็นส่วนน้อย ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองหอพักตรงชั้นสามที่ถังซือซือพักอยู่ เมื่อนักศึกษาที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ยินเสียงนี้ ทุกคนต่างพากันเดินเข้ามามุงดูกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ท่ามกลางบรรดานักศึกษา มีพื้นที่โล่งหนึ่งเว้นว่างเอาไว้ พื้นที่ดังกล่าวกำลังส่องแสงจ้าเพราะเทียนสีแดงหลายเล่มที่เรียงกันเป็นรูปหัวใจ
ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่กลางเทียนรูปหัวใจ เขาพูดใส่ลำโพงให้ถังซือซือฟังว่า
“พระเจ้า ลูกชอบเธอจริง ๆ! ตอนนี้ถึงเธออาจจะยังไม่รู้จักฉัน แต่ฉันตกหลุมรักเธอตั้งแต่เดินสวนกันบนทางเดินเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานี้! หัวใจของฉันไม่เคยเต้นแรงขนาดนี้มาก่อนเลย มันบอกฉันอย่างเดียวเลยว่า มันกำลังคลั่งรักก็เพราะเธอ!”
บทที่ 170
ความรุนแรงในอนาคต
“ฉันเชื่อว่าเธอคือผู้หญิงที่ฉันตามหามานาน บางทีคำสารภาพรักของฉันอาจดูเกินจริงไปสักหน่อย มันก็เหมือนกับตอนที่หลาย ๆ คนยังเป็นเด็ก ใครบ้างที่ไม่เคยรู้สึกคลั่งไคล้กับอะไรบางอย่างที่ตัวเองชอบ?
เทพธิดา ถ้าเธอยอมรับรักฉันได้ ฉันจะสรรหาทุกอย่างมาปรนเปรอเพื่อเธอคนเดียว ฉันจะรักคุณตลอดจนกว่าจะหมดลมหายใจ!”
คิ้วของถังซือซือขมวดเข้าหากันจนแทบรวมเป็นเส้นเดียวกัน
การถูกสารภาพรักอย่างเกินจริงต่อสายตาคนมากมายในรั้วมหาวิทยาลัยแบบนี้ เป็นเรื่องที่เธอคาดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าจะได้พบเจอกับตัวเอง
เพียงแค่เห็นกันบนทางเดินไม่กี่วินาที เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะเกิดความรักขึ้นมาได้ง่าย ๆ แต่มันสมควรรึเปล่าที่มาสารภาพรักกันด้วยวิธีแบบนี้?
เดี๋ยว ๆ... เทพธิดางั้นเหรอ? ขนาดชื่อจริงของฉันนายยังไม่รู้จักเลย...
ความรักไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นง่าย ๆ สักหน่อย
หนุ่มสาวในโลกนี้มีแต่คนที่มีความคิดแปลก ๆ ทำความเข้าใจยากชะมัด
ถังซือซือส่ายหัวทันที ก่อนหันหลังเดินกลับเข้าห้อง แล้วปิดประตูระเบียงเสียงดังปัง
เสียงภายนอกเงียบลงทันที
เธอกลับมาสู่โลกหนังสือดังเดิม
ถึงอย่างนั้น ชายหนุ่มที่อยู่ชั้นล่างยังคงไม่ยอมแพ้ เขารู้แล้วว่าเทพธิดานั้นโสดมาหลายปี ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนจีบมาก่อนเลย ตอนนี้เขาจะต้องเข้มแข็งไว้ก่อน เพราะยังมีศัตรูทางความรักอีกมากมาย!
ชายหนุ่มหลายคนในแผนกวรรณกรรมเริ่มบ่นว่า
“บ้าจริง! ไอ้เบื้อกนั้นล้ำหน้าพวกเราไปก้าวหนึ่งแล้ว! นี่มันหยามหน้ากันชัด ๆ! แถมมันไม่ได้มาจากแผนกวรรณกรรมเหมือนเราด้วย! ประมาทไม่ได้เลยจริง ๆ! เราต่างหากที่อยู่ใกล้ชิดกับเทพธิดาซือซือมากที่สุด! ฉันจะคว้าใจเธอมาครองให้ได้!”
“นายอย่าไปกังวลให้มากเลย ก็แค่วิธีสารภาพรักล้าสมัยแบบนั้น นายคิดเหรอว่าเทพธิดาซือซือจะใจอ่อน? แน่นอนว่าพวกเราเองก็ต้องทุ่มเทด้วยความจริงใจและมานะอดทน ยังไงซะพวกเราก็ได้เปรียบกว่าเห็น ๆ เดี๋ยวฉันจะโทรไปถามน้องสาวว่าควรเข้าหาผู้หญิงยังไงถึงจะดี”
“เห็นด้วย! วิธีนี้แหละที่จะเอาชนะใจเธอได้ ถ้าเรารู้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบอะไรไม่ชอบอะไร แต่เป็นห่วงว่าเทพธิดาจะเครียดมากเกินไปจนไม่กล้าออกไปไหนนี่สิ ไอ้เบื้อกนั่นไม่กลัวโดนดักกระทืบรึไง”
หญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่มกลุ่มนี้ เธอรู้สึกรังเกียจมากจึงพูดประชดประชันออกไปว่า
“ดูเหมือนว่าพวกนายจะรู้จักถังซือซือเป็นอย่างดีเลยนะ ก่อนหน้านั้นยังหัวเราะเยาะเย้ยเธอทุกวัน แถมยังบอกว่าคงไม่มีผู้ชายไหนมองและคิดจะจีบด้วยนี่ ต่อให้เปลี่ยนแปลงตัวเองยังไง เธอก็จะน่าเกลียดแบบเดิมอยู่วันยังค่ำไม่ใช่เหรอ? ทำไมทีงี้ถึงลืมคำพูดตัวเองกันง่ายจัง ละอายใจบ้างไหม?”
ในอดีตพวกเขาเคยเยาะเย้ยเธอว่าเป็นนังคางคกที่ไม่มีวันมีผู้ชายคนไหนเข้าหาและจีบเธอเลยสักคน แต่ตอนนี้เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นเทพธิดาที่สะกดใจชายหนุ่มทุกคน
ถึงพวกเขาจะคิดว่าคำพูดประชดประชันนั้นแรงเกินไป แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจ
ตราบใดที่พวกเขามีโอกาสได้รู้จักกับเทพธิดาซือซือ ลองคิดดูว่าเขาจะได้รับอะไรบ้าง?
“อย่าลืมสิว่าวันนี้ถังซือซือเพิ่งมีเรื่องกับพี่ชายของเย่ปี้ถง คิดดูสิว่าคนเลวพวกนี้จะไม่กลับมาเอาคืนหรือยังไง พวกนายไม่กลัวโดนลูกหลงจากความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเลยเหรอ?”
หญิงสาวอีกคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นแง่ลบขึ้นมาว่า
“นี่ ฉันจะบอกพวกนายว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย ถ้าคนไม่มีเหตุผล สักวันหน้าสวย ๆ ของเธอโดนตบขึ้นมา ฉันจะดีใจมาก! นอกจากนี้นะ ถังซือซือเป็นแค่อีกฝ่ายยั่วยุนิดหน่อยก็ใส่อารมณ์ซะแล้ว”
ชายหนุ่มคนหนึ่งได้โต้แย้งขึ้นมา ซึ่งชายหนุ่มคนอื่น ๆ อีกหลายคนก็เห็นด้วยทันที
พวกเขาหลายคนเกลียดตัวเองที่เมื่อก่อนไม่ได้ลุกขึ้นมาปกป้องเทพธิดาซือซือ ปล่อยให้เธอต้องจมอยู่กับความเศร้ามาตลอดสามปีที่ผ่านมา!
โดยปกติแล้ว ถังซือซือก็ไม่ได้สนใจเรื่องพูดคุยของคนพวกนี้เลย ในเวลานี้ เธอก้มดูโทรศัพท์เพื่อดูเวลา ก่อนจะวางมันลงตามเดิม แล้วอ่านหนังสือต่อ
เนื่องจากตอนนี้เวลาใกล้ถึงหนึ่งทุ่มเข้ามาทุกที ทำให้เธอรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย
ในที่สุด...
หน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้นอีกครั้ง
ถังซือซือรีบคว้าโทรศัพท์และปลดล็อกเพื่ออ่านข้อความ
“ผมอยู่ที่ประตูทางเข้าหอพัก กำลังจะขับรถเข้าไป ลงมาเดี๋ยวนี้”
หัวใจของถังซือซือเต้นเร็วมาก ๆ จนแทบจะหลุดออกมา
ตื่นเต้นจัง! ต้องตั้งสติเข้าไว้!
เธอรีบลุกขึ้นและเดินไปส่องกระจกอีกครั้ง ก่อนจัดคอเสื้อและดูความเรียบร้อยให้มั่นใจ หลังจากนั้นเธอรีบก้าวยาว ๆ ไปปิดสวิตช์ไฟในห้อง ก่อนจะเดินออกไปทันที