บทที่ 1-2
บทที่ 1
คิดจะฆ่าปิดปาก?
“ทำไมเธอถึงยังไม่ฟื้นอีก? เฟยอวี่บอกว่าเธอไม่เป็นอะไรมากไม่ใช่เหรอ?”
“ที่วิ่งตัดหน้าให้รถชนเพราะหวังเรียกร้องค่าเสียหายแน่ ๆ แต่ทำไมคุณผู้ชายถึงได้พาเธอกลับมาล่ะ?”
“ชู่ว! คุณผู้ชายมาแล้ว!”
เสียงดังชะมัด!
ถังซือซือหลับตาแน่น พยายามยกแขนขึ้น แต่ร่างกายกลับหนักอึ้งเหมือนถูกรถเหยียบทับ ความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนร่างจะแหลกเสียให้ได้
ในฐานะเชฟระดับแถวหน้าของดาวเคปเลอร์*อย่าง ถังซือซือ เธอรักคุณค่าในชีวิตของตัวเองยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด กล้าคิด และกล้าทำในสิ่งที่คิด ก่อนหน้านี้เธอกำลังฉลองการเปิดร้านอาหารใหม่สาขาที่สองร้อยของตัวเอง แต่แล้วอุกกาบาตยักษ์กลับพุ่งตกลงมาจากท้องฟ้าโดยที่ไม่มีใครคาดคิด
*ดาวเคปเลอร์ = ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดวงใหม่ มีขนาดและอุณหภูมิใกล้เคียงกับโลกมากที่สุด และอยู่ในเขตที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต โคจรรอบดาวแคระแดงที่ห่างจากโลกประมาณ 300 ปีแสง
อุกกาบาตเชียวนะ!
แต่เธอยังไม่ตาย!
ถังซือซือลืมตาขึ้นทันที ก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งอย่างกะทันหัน อยากระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเหลือเกินให้กับความโชคดีของตัวเอง แต่ก็ต้องตกใจกับสภาพแวดล้อมตรงหน้าที่ไม่คุ้นเคยเลยสักนิด!
ที่นี่ที่ไหนกันเนี่ย?
ดีไซน์การตกแต่งภายในที่หรูหราสะดุดตา รวมถึงภาพวาดสีน้ำมันสวยงามขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง นี่... นี่ไม่ใช่ดาวเคปเลอร์!
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณผู้ชาย!”
ประตูถูกเปิดเข้ามาจากด้านนอก ถังซือซือรีบหันมองไปตามเสียง
นอกประตู มีสาวใช้ในชุดยูนิฟอร์มยืนเรียงแถวขนาบข้างสองฝั่งอย่างเป็นระเบียบ พร้อมกับผู้ชายรูปหล่อคนหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นหน้าประตู
ใบหน้าเรียวยาวได้รูปนั้นหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในตำนานเทพกรีก ยิ่งดูยิ่งเหมือนรูปปั้นที่ถูกสลักเสลาอย่างประณีตไร้ที่ติ ดวงตาทั้งสองข้างเหมือนมีทะเลดวงดาวเปล่งประกายลึกล้ำอยู่ภายใน
และตอนนี้ เขากำลังเดินตรงมาหาถังซือซือด้วยท่วงท่าที่สง่างามและสงบนิ่ง
ละ... หล่อเป็นบ้า หล่อจนสองขาแทบหุบเข้าหากันไม่ได้!
ถังซือซือยืดตัวขึ้นทันที มองตรงไปยังพ่อหนุ่มรูปงามตรงหน้าที่ไม่ต่างจากทวยเทพกำลังเสด็จลงมาจากสวรรค์
ว่าแต่ เขาเป็นใครกันล่ะ? เธอไม่เคยพบเห็นคนคนนี้มาก่อนเลย แถมเสื้อผ้าที่คนเหล่านี้สวมใส่... ดูยังไงก็ไม่เหมือนเสื้อผ้าของผู้คนบนดาวเคปเลอร์
แป๊บเดียวเท่านั้น ความทรงจำมากมายพลันหลั่งไหลเข้ามาในสมองของเธอ
หลายสิบวินาทีต่อมา ในที่สุดเธอก็รับรู้ถึงเหตุและผล
ที่นี่คือโลก!
เจ้าของร่างเดิมนี้ แต่เดิมเคยเป็นลูกสาวของผู้รากมากดี มีฐานะมั่งคั่ง แต่มีนิสัยอ่อนแอไม่สู้คน
วันหนึ่ง เสี่ยวซานซึ่งพ่อของเธอเคยรับอุปการะไว้ ได้เข้ามาที่คฤหาสน์เพื่อบีบบังคับให้ครอบครัวของเธอยอมสละสมบัติตระกูล โชคดีที่ผู้เป็นพ่อเคยมีพระคุณต่อเขา แต่แม่ของเธอซึ่งไม่เคยเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาญาติทางฝั่งสามีกลับถูกขับไล่ออกจากคฤหาสน์ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับครอบครัว รวมถึงคุณภาพชีวิตที่พลิกผันสู่จุดต่ำสุดอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอยิ่งมั่นใจในตัวเองน้อยลง และเริ่มป่วยด้วยภาวะซึมเศร้า
ตอนเกิดเรื่องเป็นช่วงระหว่างถังซือซือกำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอหวังว่าตัวเองจะสอบติดมหาวิทยาลัย หนานซานที่ตั้งอยู่ในปักกิ่ง สองแม่ลูกจึงตัดสินใจเดินทางออกจากถิ่นฐานบ้านเกิด เข้ามาที่ปักกิ่งเพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพ มู่ซูเสียนได้งานทำที่บริษัทแม่บ้านแห่งหนึ่ง เงินเดือนที่น้อยนิดทำให้ทั้งแม่และลูกสาวแทบไม่พอยาไส้
เมื่อเช้านี้เอง พอเธอรู้เข้าว่าแม่ของตัวเองทำงานหนักให้กับบริษัทแม่บ้านของตระกูลเซียวมาหลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินเดือนเลยแม้แต่หยวนเดียว ถังซือซือจึงรวบรวมความกล้า วิ่งออกไปขวางหน้ารถของเซียวเทียนอวี่ที่กำลังแล่นอยู่บนถนนสายหลัก ทำให้ถูกคนขับที่เบรกไม่ทันชนเข้าจนเธอเสียชีวิตคาที่ นอกเหนือจากอะไรทั้งหมด เธอกลับข้ามมายังโลกใบนี้ และเกิดใหม่ในร่างที่ว่า!
ข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้าสู่สมองของเธอจนเกินรับไหว ถังซือซือขมวดคิ้วมุ่น ความทรงจำจากร่างเดิมของเธอผสานเข้ากับความทรงจำของร่างใหม่นี้อย่างต่อเนื่อง อุปนิสัยที่ยึดมั่นในความยุติธรรมมาตั้งแต่เดิม รู้สึกเสียใจไม่น้อยกับการตายของหญิงสาวที่มีชื่อเดียวกับตัวเอง
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังเดินเข้ามา ทันใดนั้นเธอจำได้ว่าสาเหตุที่เจ้าของร่างเดิมเสียชีวิตก็เพราะยอมเสี่ยงชีวิตแลกกับค่าจ้างที่ค้างชำระเพราะฝีมือของคนสารเลวคนนี้ เธอจึงเอื้อมไปคว้าข้อมือของชายหนุ่มไว้อย่างรวดเร็ว
“เซียวเทียนอวี่! คุณติดหนี้ไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้แม่ฉัน เมื่อไหร่จะยอมจ่ายซะที?!”
ทันใดนั้น บรรยากาศโดยรอบพลันตกอยู่ในความเงียบงัน
วินาทีต่อมา ชายฉกรรจ์ในชุดสีดำรีบพุ่งตัวเข้ามาทันที ก่อนจะเข้าไปช้อนร่างเธอขึ้นจากพื้น กระทั่งขาทั้งสองข้างลอยอยู่กลางอากาศ
“ท่านครับ! ให้ผมโยนเธอออกไปนอกหน้าต่างตอนนี้เลยดีไหมครับ?”
ทุกคนในตระกูลเซียวรู้กฎเหล็กข้อนี้ดี ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้องมือของคุณผู้ชายทั้งนั้น!
แม่สาวหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่คนนี้ใจกล้ามาก!
จะทำอะไรน่ะ?
ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!
ถังซือซือพยายามดิ้นรนขัดขืนโดยสัญชาตญาณทันที เธอใช้ชีวิตอย่างอิสระมาตั้งแต่เด็ก กล้าหาญอยู่เสมอ และฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทุกแขนงจนชำนาญ เพียงแต่...
ร่างกายที่เธอถูกอะไรบางอย่างพามาเกิดใหม่ผอมบางเกินไป จนเธอไม่สามารถสลัดหลุดได้
พอทำอะไรไม่ได้เลยหันกลับมาจ้องหน้าผู้มีความผิดติดตัวตรงหน้าอย่างดุเดือด อยากรู้นักว่าใบหน้าหล่อเหลาแบบนั้นจะหนาทนจนไร้ยางอายสักแค่ไหน?
นอกจากจะติดหนี้ไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้พนักงานของตัวเอง พอมีคนมาทวงถึงหน้าประตูก็คิดจะฆ่าปิดปากกันเชียวเหรอเนี่ย?
แต่คนอย่างถังซือซือไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น
ชายคนนั้นมองใบหน้าผอมซูบของหญิงสาวซึ่งปกคลุมไปด้วยสิว ฝ้า และกระจนทั่ว ดวงตาคู่นั้นเหมือนจ้องจะกินเลือดกินเนื้อเขาให้ได้ ก่อนที่เขาจะดึงมือตัวเองออกอย่างใจเย็น
“ฉันชื่อเซียวเฉินเยวียน” ริมฝีปากบางของชายหนุ่มขยับเบา ๆ ตอบเธอด้วยน้ำเสียงอันทรงเสน่ห์ชวนดึงดูด
บทที่ 2
ซักแล้วนำมาคืนให้
อ้าว... เข้าใจผิดงั้นเหรอ?
ถังซือซือกะพริบตาปริบ แววตากึ่งเชื่อกึ่งสงสัย
ทันทีที่ได้รับคำสั่งผ่านทางสายตาของเซียวเฉินเยวียน “ตุบ!” ชายชุดดำที่อุ้มร่างเธอไว้ก่อนหน้านี้ก็ปล่อยมือจนร่างเธอร่วงลงกระแทกพื้นทันที
โอ๊ย...
หยาบคายที่สุด จะเบามือหน่อยก็ไม่ได้ สมัยฉันยังอยู่บนดาวเคปเลอร์ ฉันสวยจนเกือบได้เป็นดาราดังเชียวนะ
ชายหนุ่มรูปหล่อหันหลังกลับ เดินออกจากห้องไปด้วยท่วงท่าสง่างามเหมือนตอนที่เดินเข้ามา บรรดาบอดี้การ์ดที่รายล้อมเขาก่อนหน้านี้เดินตามออกไปทีละคน
“เร็วเข้า บอกให้หมอซูรีบมาตรวจร่างกายคุณผู้ชาย...”
ถังซือซือจึงถูกทิ้งให้อยู่ในห้องขนาดใหญ่มโหฬารนี้ตามลำพัง
โธ่เว้ย...
ถังซือซือกัดริมฝีปากล่างพลางขมวดคิ้ว คนเหล่านี้เป็นใครกัน? แล้วที่นี่คือที่ไหน?
เธอตั้งสติ พอเห็นว่ามีห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่อยู่ด้านข้าง จึงรีบเดินเข้าไปโดยไม่ลังเล
ขณะที่ยืนอยู่หน้ากระจก เธอเห็นร่างของหญิงสาวแปลกหน้าคนหนึ่ง ร่างกายสูงโปร่ง แต่กลับผอมซูบด้วยโรคขาดสารอาหารเรื้อรัง หรืออาจเพราะถูกรังแก
เส้นผมสีดำขลับยาวจรดบั้นเอว แต่หน้าม้ากลับไว้ยาวเหมือนไม่ได้รับการเอาใจใส่ ปรกลงมาคลุมใบหน้าจนเกือบมิด
เธอยกผมหน้าม้าของตัวเองขึ้น และแล้วใบหน้าอันน่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏให้เห็นชัดเจน
ถังซือซือแทบไม่เชื่อสายตา
ไม่น่าเชื่อว่าพอเธอได้เกิดใหม่ ตัวตนที่เคยสวยงามหยดย้อยราวดอกไม้แรกแย้ม... กลับหายไปตลอดกาล
คงเหลือเพียงสิว ฝ้า และกระที่หนาแน่นทุกรูขุมขน เมื่อพวกมันกระจายอยู่เต็มใบหน้าแบบนี้ มองแค่แวบแรกยังน่ากลัวแทบตาย
หญิงสาวที่เพิ่งย่างเข้าสู่วัยยี่สิบควรมีความงามสะพรั่งแห่งวัยสาวเหมือนคนทั่วไป แต่เพราะใบหน้าอัปลักษณ์แบบนี้ เธอจึงถูกเยาะเย้ยถากถางไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน
“ยายแก่หน้าย่น!”
“คนน่าเกลียด!”
“นังคางคก!”
เสียงหัวเราะเยาะของคนกลุ่มใหญ่ยังคงก้องอยู่ในหู
ถ้อยคำพวกนี้ เป็นฉายาที่บรรดาคนที่เคยกลั่นแกล้งรังแกเธอเป็นคนตั้งให้
นี่ยังเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมถังซือซือจึงด้อยกว่าคนอื่น และพยายามข้ามผ่านชีวิตในแต่ละวันไปอย่างหดหู่
คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันจนเกิดรอยยับย่นสามขีด สัญชาตญาณอันยุติธรรมถูกกระตุ้นจนเธอเผลอกำหมัดแน่น ปลายเล็บจิกฝังลึกลงในเนื้อ ตอนที่ยังอยู่บนดาวเคปเลอร์ เธอเกลียดชังความเลวทรามของคนมาโดยตลอด รับรู้ดีว่าคำพูดรุนแรงพวกนั้นทำร้ายจิตใจคนฟังอย่างสาหัสแค่ไหน
สำหรับความอัปยศที่เจ้าของร่างเดิมเคยได้รับ ถึงเวลาแล้ว ที่ฉันจะทำให้คนพวกนั้นต้องชดใช้คืนเป็นสองเท่า!
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ร่างกายของเธอขาดสารอาหารอย่างหนัก แถมยังถูกคนรังแกมาเป็นเวลานาน ทำให้พละกำลังอ่อนแอ ไม่สามารถไปสู้รบตบมือกับใครได้
ถังซือซือขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเธอต้องออกกำลังเสริมสร้างร่างกายกันเสียใหม่ เพราะท้ายที่สุด การแก้ปัญหาที่ได้ผลดีเยี่ยมคงหนีไม่พ้นการใช้กำปั้น
ถังซือซือค่อย ๆ หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างขณะครุ่นคิด พบว่าสวนหลังบ้านของที่นี่กว้างขวางเทียบได้กับสนามฟุตบอล ตัวอาคารที่ตกแต่งด้วยไม้แกะสลักมีการทาสีอย่างวิจิตรบรรจง
และที่นี่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง ซึ่งที่ดินแค่หนึ่งตารางนิ้วตีมูลค่าเป็นเงินจำนวนมหาศาล
จู่ ๆ ภาพในหัวของเธอก็ปรากฏฉากทิวทัศน์ของคฤหาสน์เพมเบอร์ลีย์ในภาพยนตร์เรื่อง Pride and Prejudiceขึ้นมาซ้อนทับ
ดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มคนนี้ไม่เพียงหล่อเหลาจนเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติเท่านั้น แต่ยังมีฐานะเป็นถึงมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ
“คุณคะ คุณผู้ชายต้องการพบคุณค่ะ” ผ่านไปสักพักหนึ่ง สาวใช้ร่างอ้วนก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเสื้อผ้าสองสามชิ้นในมือ
“นี่ ชุดพวกนี้ของคุณค่ะ ฉันเอามันไปซักให้แล้วเรียบร้อย” สาวใช้คนนั้นยื่นเสื้อผ้าที่ถูกซักจนขาวสะอาดให้เธอ พร้อมกับแสดงสีหน้ารังเกียจออกมาเล็กน้อย
ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่อีกฝ่ายจะแสดงท่าทีแบบนี้ เพราะจริง ๆ แล้วชุดที่เธอใส่เรียกได้ว่าแทบไม่มีมูลค่า ในเรื่องของดีไซน์ก็ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย มองดูแวบแรกก็พอคาดเดาได้ว่าต้องซื้อมาจากแผงลอยราคาถูก แตกต่างจากคนเหล่านี้ที่เคยชินกับสินค้าฟุ่มเฟือยในระดับไฮเอนด์
อีกอย่าง... บริเวณปลายแขนยังขาดเป็นรูอีกด้วย
“ส่วนชุดพวกนี้ คุณผู้ชายขอให้ฉันเป็นคนเลือกให้คุณค่ะ”
บนราวมีชุดสวยงามสไตล์เจ้าหญิงสีชมพูอ่อนแขวนอยู่หลายชุด ทั้งหมดนี้เป็นแบรนด์ D ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากของบรรดาหญิงสาวในเมืองหลวง
สาวใช้ร่างอ้วนเหล่ตามองถังซือซือ
ฮึ่ม! สาวขี้เหร่คนนี้ นอกจากจะกล้าแตะต้องร่างกายคุณผู้ชายแล้ว ยังกล้าเข้าใจผิดคิดว่าคุณผู้ชายสูงศักดิ์ของตัวเองคือเซียวเทียนอวี่ที่มีนิสัยเกียจคร้านอีกต่างหาก!
ถังซือซือสัมผัสได้ถึงความเป็นปรปักษ์ของอีกฝ่าย แต่กลับไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่นิด ก่อนจะยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม
ห้องโถงด้านล่าง
ถังซือซือเดินลงบันได มือจับไล้ไปกับราวบันไดแกะสลักที่ทำมาจากไม้จันทน์สีแดง ชุดผ้าลินินสีขาวกับรองเท้าผ้าใบสีขาวซึ่งเริ่มเหลืองสภาพตามการใช้งานที่เธอสวมอยู่ ทำให้ดูไม่เข้ากับความหรูหราของสถานที่แห่งนี้เท่าไหร่นัก แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เธอเป็นคนซื่อตรง ตราบใดที่ไม่ได้ไปฉกชิงของใครมา ความยากจนก็ไม่เห็นจะน่าอับอายตรงไหน
จากนั้น เธอเห็นว่าพ่อเศรษฐีสุดหล่อกำลังนั่งอยู่บนโซฟาลักษณะหรูหราด้วยท่าทางสบาย ๆ โดยที่ยังคงความเป็นผู้ดี เขาหมุนแก้วไวน์แดงในมือไปมา มองไปทางถังซือซือด้วยแววตาที่ลึกล้ำราวกับน้ำวน ทันใดนั้นเอง อาการชาวาบตามหนังศีรษะที่เป็นผลมาจากยาของหมอซู ทำให้เผลอยืดเอวขึ้นจนหลังตรงโดยไม่รู้ตัว
เคยได้ยินคำโบราณที่ว่าหล่อจนอยากจะกลืนกินมาบ้าง ไม่คิดเลยว่าความรู้สึกนั้นจะเกิดขึ้นกับตัวเอง! จิตใจถังซือซือล่องลอยออกไปโดยอัตโนมัติ
ประโยคเพ้อฝันดังกล่าวผุดขึ้นในความคิด
พอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดี เธอจึงเข้าใจว่าทำไม นั่นก็เพราะเจ้าของร่างเดิมเป็นนักศึกษาภาควิชาวรรณคดีของมหาวิทยาลัยหนานซานนั่นเอง