ตอนที่ 1274 ข้าก็เดียวดายเหมือนกัน
เวลาในการฝึกฝนอย่างเดียวดายและหนักหน่วงผ่านไปทีละนิด
โดยไม่รู้ตัว
ร้อยปีผ่านไป
เย่ว์หยางมองเห็นได้ว่าตลอดเวลาร้อยปีที่ผ่านมา สตรีผู้เดียวดายนี้แทบไม่ไปจากหุบเขาแห่งชีวิตสถานที่ให้นางฝึกฝนและทำความเข้าใจ น้องสาวผู้ดื้อรั้นไม่เคยกลับมา ป้าที่เป็นสมาชิกคนเดียวของครอบครัวที่ยังเหลืออยู่เพราะต้องดูแลกิจการของสำนัก จึงไม่มีเวลาว่างมาเยี่ยมนาง นางฝึกฝนอย่างเดียวดายภายใต้แสงจันทรานภากาศ มีแต่เงาที่โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาฝึกฝนด้วยลำพังตนเอง ยามเหนื่อยล้าก็นอนมองดูท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดารารายรำลึกถึงท่านแม่และอาจารย์ป้าผู้สั่งสอนให้ความรู้กับนางนางบรรลุระดับปราณก่อกำเนิดอย่างรวดเร็ว และสนามพลังภายใต้ทักษะตาทิพย์ของนาง และเจตจำนงราชันย์ของนางเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีผู้สอน
กระบี่แห่งชีวิตที่นางบรรลุได้รับพรแห่งวิญญาณ
พลังดับสุริยา
รุ้งสามชั้นผนึกอมตะและแสงล้างโลกทำลายได้ทุกอย่าง ฯลฯ กลยุทธ์และความรู้ต่างๆนางฝึกขึ้นในท่ามกลางความสันโดษเดียวดาย
เมื่อท่านป้ามาพบนางในช่วงครบรอบร้อยปีการตายของมารดานาง นางไม่จำเป็นต้องมอบเทพพิทักษ์สงครามให้นาง
ตัวของนางมีอาวุธเทพร่างมนุษย์อยู่กับตัวนางเอง!
“เจ้ามีเจตจำนงราชันย์ของตนเองแล้วเจ้าเป็นหนึ่งในนักสู้ของหอทงเทียนแล้ว” ท่านป้าบอกให้นางเดินทางไปหาประสบการณ์ในหอทงเทียนต่อไป ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการผ่านประตูเป็นตาย ตราบเท่าที่นางยินดี ท่านป้าจะพานางไปที่แดนสวรรค์ก็ได้ ในระยะเวลาเพียงร้อยปีนางเติบโตในระดับสูงมาก ซึ่งท่านป้าของนางไม่อาจดูแคลนได้เลย
“แต่ข้าไม่ใช่อันดับหนึ่งในหอทงเทียน” นางเลือกฝึกฝนและเลือกเป็นจื้อจุนผู้โดดเดี่ยวต่อไป
“หลานป้า, นี่มันยากลำบากมาก....” ป้าของนางถอนหายใจ แม้ว่านางไม่ต้องการจะพูดกระทบความรู้สึกแต่มีความจริงที่โหดร้ายคือหอทงเทียนไม่มีลูกหลานสตรีเป็นสุดยอดนักสู้ในหอทงเทียน
แม้แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีนางพญาผู้พิชิตที่ทรงพลังที่สุด นางเติบโตขึ้นหลังจากออกจากหอทงเทียนและมีชื่อเสียงระดับสูงในแดนสวรรค์
ช่วงเวลาของนางพญาอสรพิษในหอทงเทียนนั้นความจริงนางไม่ได้เป็นนักสู้อันดับหนึ่งในหอทงเทียน
แน่นอนนางเองก็รู้
อย่างไรก็ตามไม่มีน้องชาย
นางต้องแก้ความปราถนาสุดท้ายของมารดาและท่านป้า
และนางมีความมั่นใจในตนเองมากพอต้องเป็นคนแรกในหอทงเทียนกลายเป็นจื้อจุนนักสู้สูงสุดปกครองโลก
“ข้าไม่ได้ด้อยความสามารถหรือหย่อนความเพียรสักวันข้าจะประสบความสำเร็จ” นางเงยหน้ามองท้องฟ้าดวงตางดงามคู่นั้นมีความมั่นใจในตนเองและความเพียรพยายามที่สามารถทำให้รัศมีจันทราเปลี่ยนสีได้ง่ายดาย เย่ว์หยางก็มีความรู้สึกเดียวกัน ขณะเดียวกันนี้เขามีความรู้สึกอยากจะกอดนางแน่นๆ เขาเองไม่รู้ว่าเริ่มเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อใดเขาฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อทำให้ได้อย่างที่เทพธิดากระบี่ฟ้าคาดหวัง เขาแบกความหวังของมารดาและแม่สี่ด้วยแรงกดดันจากการเอาตัวเองและทุกคนให้รอดเขาฝึกฝนหนักทุกวันเพื่อวันแห่งอนาคตและความสุข
เย่ว์หยางมีความรู้สึก
นาง
เป็นเหมือนกับตัวของเขาเอง
อย่างน้อยก็คล้ายกันอย่างน่าประหลาดใจยกเว้นเพศ แต่ความคิดแง่มุมด้านอื่นๆ นั้นแทบจะเหมือนกัน
การฝึกฝนนั้นขมขื่นเกินไปความทุกข์เช่นนี้ไม่สามารถจะเข้าใจได้ อยู่นอกเหนือความเข้าใจและผู้อื่นยากจะทำให้เจือจางลงได้มันตราตรึงลึกอยู่ในจิตวิญญาณ ความเจ็บปวดที่ก่อให้เกิดความกดดันแทบจะถูกทำลายนับครั้งไม่ถ้วนและความมั่นใจที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลายครั้งในที่สุดก็กลายเป็นความแข็งแกร่งผ่านหยาดเหงื่อและการตื่นรู้ค่อยขัดเกลาตัวนางและตัวของเขาเอง
ไม่มีเป้าหมายและเขาไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อใด เขาอาศัยพึ่งพาตนเองในการสำรวจค้นหา
ผ่านความสำเร็จและล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน
เพียงแต่พังทลายแล้วกลับมาเริ่มใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่ากลายเป็นความนิรันดรเป็นความสุขที่ได้ประสบความสำเร็จ เกิดพลังความแข็งแกร่งเป็นรสชาติของความสุข
ยากมากเกินไป.... ขมขื่นเกินไป... เย่ว์หยางสามารถเข้าใจได้ถึงความทุกข์ทรมาน เข้าใจถึงการเติบโตอย่างโดดเดี่ยวแม้แต่เขาก็ยังคิดว่านางเจ็บปวดมากกว่าตัวเขา และลำบากมากกว่า เพราะเบื้องหลังของเขายังมีเทพธิดากระบี่ฟ้า มีสาวปราณกระบี่ แม้ว่าจะเป็นคนที่ฝึกฝนอยู่คนเดียวแต่ก็ยังคงมีพวกพ้องรอบตัวเขา ยังไม่เหมือนกับนางอยู่คนเดียวฝึกฝนคนเดียวมาเป็นเวลาร้อยปี!
ความรู้สึกเห็นใจนางอย่างเดียวกันเขามองนางอย่างว่างเปล่า
มองดูนางและในหุบเขาแห่งชีวิตที่นางใช้เวลาฝึกฝนมาร้อยปี
คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์!
เมื่อนางอัญเชิญคัมภีร์ที่ได้เลื่อนเป็นระดับคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์นั่นก็เป็นเวลาสายเกินไป นางได้รับข่าวร้าย
ป้าที่เป็นญาติคนสุดท้ายของนางตายจากไปเช่นกัน
สายเลือดตระกูลหมิงเยี่ย(เผ่าจันทรา) ไม่มีผู้อาวุโส ไม่มีผู้นำสำนักอีกต่อไป ต้องขอร้องนางผู้สืบทอดผู้บ้าคลั่งไคล้วิทยายุทธและความสำเร็จไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ให้ออกจากหุบเขาแห่งชีวิตรับสืบทอดสำนักตำหนักภูตจันทราเหนือ เพราะป้านางรู้จักนิสัยและอารมณ์ของนางมาก่อนและสัญญาจะให้นางรับตำแหน่งในสำนักภูตจันทราเหนือ
บางทีอาจเป็นความหวังดี มือกระบี่ดาวตกออกจากตำหนักภูตอมตะเพื่อถามหาความปรารถนาและความตั้งใจของนาง
“น้องสาวข้าเล่า?” นางไม่เข้าใจเลย นอกจากตัวนางแล้วน้องสาวของนางไม่ใช่ทายาทหรือ?
“เจ้าหญิงน้อย นาง...นางเข้าตำหนักมารและกลายเป็นผู้มีทักษะแฝงเร้นดีที่สุด มีฉายาว่าเทียนฟา (มารกฎฟ้า)เรา เราเคยไปหาองค์หญิงน้อยมาก่อน แต่นางขอให้เรามาหาท่าน!”มือกระบี่ดาวตกมีคารมคมคายที่สุดในโลกและเป็นที่ชื่นชมในหอทงเทียน แต่ต่อหน้านางภายใต้ความยิ่งใหญ่ของจื้อจุนกลับไม่สามารถพูดให้จบประโยคได้
“เข้าใจแล้ว” นางพยักหน้าเบาๆ
สามวันต่อมา
ตำหนักภูตจันทราเหนือมีปรมาจารย์ผู้มีทักษะจักษุทิพย์นามว่า “ราชันย์หมิงซิน”
ช่วงเวลาสิบปีที่นางดูแลตำหนักภูตจันทราเหนือนางไม่ได้ออกจากสำนักแม้แต่ก้าวเดียว นางฝึกศิษย์สตรีโดยใช้ทักษะแฝงเร้นตาทิพย์ของนาง นางเลือกศิษย์สตรีจากที่ต่างๆในทวีปมังกรทะยานฝึกเป็นมือกระบี่ นางไม่จำเป็นต้องรับศิษย์อย่างเป็นทางการ แต่ทุกสำนักที่นางเอ่ยปากแนะนำไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งที่สุดหรือศิษย์นอกชั่วคราวที่ได้รับการชี้แนะจากนางจะมีความก้าวหน้าครั้งใหญ่ ตำหนักภูตจันทราเหนือแต่เดิมอยู่ในสถานการณ์เทียบกับสี่สำนักใหญ่นั้นใกล้จุดเสื่อมโทรมกลับฟื้นฟูพลังได้ในทันใดไล่ตามสามสำนักนิกายใหญ่อื่นและก้าวหน้าทิ้งคู่ต่อสู้ห่างไกล เลื่อนสู่ระดับขอบเขตใหม่อย่างไม่น่าเชื่อ
ทุกอย่างแค่เพียงเพราะการมาของนาง!
สำนักภูเขาหมอกลอยใต้สำนักเจดีย์ราชสีห์ตะวันตก และสำนักวังแก้วผลึกทะเลตะวันออกล้วนส่งคนสู่ขอคนของนางเพื่อแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ทางการเมือง
มีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างศิษย์มากขึ้น และมีการขอการสนับสนุนพลังตาทิพย์จากนาง นางยังคงเลือกไม่สนใจข่าวลือภายนอกรวมทั้งคำขอแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีอีกมาก
จนกระทั่งบ่ายวันหนึ่งเจ้าสำนักใหญ่ทั้งสามสำนักมาถึงโดยไม่ได้รับเชิญ
นางให้คำตอบอย่างเป็นทางการ
“พญาหงส์ทะยานฟ้าตั้งใจบินไกลหมื่นลี้โดยไม่ยอมร่วงหล่น”
คำตอบนี้ทำให้บุรุษนักสู้ทวีปมังกรทะยานผู้แข็งแกร่งโกรธไม่ว่าจะเป็นการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสำนักล้วนถูกยกเลิกคำตอบเช่นนี้เหมือนการตบหน้ากัน ต้องทราบว่าทวีปมังกรทะยานให้ความนับถือบุรุษมาตลอดแม้จะมีนักรบสตรีเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีใครกล้าท้าทายสถานะของบุรุษ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือการไม่สนใจบุรุษทั้งหมดในทวีปมังกรทะยานอยู่ในสายตา!
เป็นสตรีที่ไม่สำคัญคนหนึ่งทำไมถึงได้หยิ่งยโสนัก?
เมื่อมีคนมาสู่ขอแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีส่วนใหญ่ต้องการได้ภรรยาที่มีพลังตาทิพย์ ขณะเดียวกันก็จะยึดสำนักตำหนักภูตจันทราเหนือเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้สำนักตนเอง
ปฏิเสธโดยตรงทั้งยังกล้าพูดว่า‘พญาหงส์ใจทะเยอทะยานหวังบินไปทั่วโลกไม่ลดตนลงมา” นี่เป็นการยั่วยุและดูถูกคนในทวีปมังกรทะยานทั้งหมด! บุรุษทั่วทวีปมังกรทะยานไม่คู่ควรกับนางหรือ
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ภายในทวีปมังกรทะยานไม่ว่าสำนักใด ไม่ว่าตระกูลใด ชื่อใด ข้าคือนักสู้อันดับหนึ่ง ใครไม่ยอมรับ ฆ่าให้หมดสิ้น!” นางปิดบังตัวเองมาทั้งชีวิตการปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้ายอดฝีมือทั่วทวีปมังกรทะยานกลับประกาศตัวทำให้ทุกคนตะลึงและสั่นสะเทือนไปทั่ว!
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?” เจ้าสำนักภูเขาหมอกลอยแดนใต้หัวเราะก้องฟ้า แม้ว่าตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งมากที่สุดแต่เขาจะไม่ใช้คำพูดเสียสติออกมา
“สตรีเพ้อเจ้อสมควรเป็นเพียงนางบำเรอคนอื่นบังอาจพูดจากหยิ่งยโสงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกโกรธ เขาคิดว่าการได้ยินคำพูดนี้นับเป็นความอับอายยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เขาเป็นนักสู้บุรุษไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ถูกสตรีดูถูก
“ผู้แข็งแกร่งย่อมได้รับการยอมรับนับถือ!” นางไม่สนใจความโกรธของนักรบทั้งหมด
“ก็ได้ งั้นข้าลองเอง...” ผู้อาวุโสจากสำนักเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกพุ่งออกมาราวกับราชสีห์พิโรธท้าทายนางด้วยความโมโห
“ไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึงชื่อเจ้า คนเล็กๆ อย่างเจ้าถูกตัดสินประหารแล้ว ในสายน้ำประวัติศาสตร์อันยาวนานไม่คู่ควรที่จะจดจำชื่อของเจ้า” ด้วยดาบของนาง นางตัดศีรษะของผู้อาวุโสแห่งสำนักเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกผู้ที่ชื่อว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของทวีปมังกรทะยาน
ภายใต้เจตจำนงของจื้อจุนนางมองดูสิ่งมีชีวิตเหมือนอยู่ในโลกของนาง
ผู้อาวุโสไป๋เหอแห่งภูเขาหมอกลอยแดนใต้ที่รู้จักกันในนางว่าวีรบุรุษคู่มังกรทะยานเคียงคู่กับผู้อาวุโสแห่งสำนักเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกก็ยังตกตะลึงเขาก้มหัวที่เคยเย่อหยิ่งยโสทันที
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังที่แข็งแกร่งแท้จริงเขามีแต่ต้องก้มหัว
ยอมรับนับถือสตรีคนหนึ่ง!
นักสู้ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดตัวสั่นแสดงความเคารพนาง
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจของนางที่มีต่อโลก! ร้อยปีต่อมาเย่ว์หยางเห็นว่าห้าจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในหอทงเทียนมีตายสามและบาดเจ็บอีกสอง จักรพรรดิฟ้าแข็งแกร่งที่สุดจักรพรรดิสมุทรก็เหมือนกัน จักรพรรดิปีศาจผู้อ้างว่าตนเองแข็งแกร่งที่สุดทุกคนล้มลงแทบเท้านาง และจักรพรรดิมังกรจักรพรรดิใต้พิภพที่มีสองหัวใจได้รับบาดเจ็บกระอักโลหิตชื่นชมนางอย่างจริงใจและยกมือยอมแพ้และให้ความเคารพนาง
ต่อหน้าผู้เฒ่าหนานกงพยานประวัติศาสตร์เส้นทางของจื้อจุน นางเปิดตัวอย่างเป็นทางการ..... “ข้าทำได้!”
นางกลับไปที่หุบเขาแห่งชีวิตที่สุสานมารดาและอาจารย์ป้าของนาง นางสวดภาวนาอยู่ใต้ต้นไม้พูดถึงความปรารถนาที่สอง “พวกท่านคอยดูแลสนับสนุนข้าอยู่เบื้องหลังคงจะได้เห็นแล้วโปรดมอบน้องชายอีกคนหนึ่งให้ข้าด้วยเถิด, ข้าเดียวดายเหลือเกิน!”