ตอนที่ 1271 มีสุนัขชั้นต่ำที่ถูกทุบตี
จักรพรรดินีราตรีปล่อยวางความคิด
ดาราจักรเปล่งรัศมีและหมุนเร็วขึ้นทันที
ในบรรดาหมู่ดาวมีดาวทองเกือบร้อยดวงค่อยๆย่อลงกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวนักษัตรที่จักรพรรดินีราตรีถนัดที่สุด กลุ่มดาวแกะ
นอกจากการกำเนิดขึ้นของกลุ่มดาวแกะพื้นที่สนามพลังดวงดาวทั้งหมดก่อเกิดเป็นพลังกฎสวรรค์ชนิดใหม่ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มดาวนักษัตรอื่นที่อยู่ใกล้ๆช่วยสนับสนุน พลังกฎของกลุ่มดาวคนคู่กลุ่มดาวกรกฎ (ปู) กลุ่มดาวราชสีห์ ฯลฯ กลุ่มดาวอีกหลายกลุ่มที่ค่อยๆเกิดขึ้นในทางช้างเผือก เมื่อกลุ่มดาวในทางช้างเผือกเกิดขึ้น พลังเทพของจักรพรรดินีราตรีจะเพิ่มสูงมากขึ้น เมื่อใดก็ตามที่เกิดกลุ่มดาวในทางช้างเผือกสนามพลังดวงดาวจะเพิ่มความแข็งแกร่งอีกหนึ่งระดับ
ไม่ว่าเทพทวารบาลจางไห่จะไม่ธรรมดามากขนาดไหนก็ตาม เขาจะต้องรู้สึกถึงความผิดปกติแน่นอน
คนผู้นี้เป็นศัตรูคนหนึ่งแน่นอน
เป็นนักสู้ชั้นเทพ
ไม่มีใครสงสัยในเรื่องนี้
จะล้มคนที่ทรงพลังมากขนาดนี้จักรพรรดินีราตรีต้องทุ่มเทพลัง
“ดวงดาว? ของเล่นเล็กๆ น้อยๆ น่าสนใจนิดหน่อย แต่พวกที่เพิ่งเลื่อนชั้นเป็นระดับเทพยังเป็นมือใหม่ ข้าผู้เป็นเทพนี้ต้องบอกเจ้าไว้ก่อนเลยว่ายังห่างไกลนัก!” ในกระโจมที่พักน้อย จู่ๆพลังเทพก็ระเบิดออกมาเหมือนกับภูเขาไฟระเบิดบันไดสวรรค์ชั้นสิบสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งชั้น
สนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรีก็เหมือนถูกปกคลุมด้วยพลังเทพมากมาย
หลังจากพลังเทพระเบิดออกจนถึงขีดจำกัด
ในพื้นที่ตรงกลางกระโจมน้อยที่พังปรากฏยักษ์ทองที่มีแสงเจิดจ้าทรงพลังมากกว่าดวงอาทิตย์
เห็นได้ชัดว่ายักษ์ทองเป็นร่างอวตารของเทพทวารบาลจางเว่ยสูงสามร้อยเมตรยืนอยู่ต่อหน้าสนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรีเขามีพลังกดดันที่น่ากลัวราวกับจะกลืนกินทั้งโลก
จักรพรรดินีราตรีโยนดาวแดงใส่ยักษ์ทองนี้
ร่างแท้จริงไม่คิดจะออกมาจากกระโจมทรุดโทรมองครักษ์อันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เทพทวารบาลจางเว่ยควบคุมยักษ์ทองโดยตรงผ่านสำนึกเทพ พลังกดดันจากประกายเทพ ยักษ์ทองรับดาวยักษ์แดงด้วยพลังระเบิดไม่มีสิ้นสุด ธารน้ำแข็ง ภูเขาน้ำแข็งถูกยักษ์ทองระเบิด มิติระเบิดท้องฟ้าไร้สีสัน
อย่างไรก็ตามยักษ์ทองยังคงยืนเหมือนกับเสาค้ำฟ้า
ยืนอยู่ในท่ามกลางพายุมิติทำลายล้าง
ไม่มีความเสียหายแต่อย่างใด
“.....” จักรพรรดินีราตรี นางรู้พลังของดาวยักษ์แดงดีและจางเว่ยไม่สามารถรอตัดสินได้
แม้ว่าสติของเขาไม่ค่อยดีแต่พลังของเขาแข็งแกร่งมาก
คนผู้นี้รู้ถึงประกายเทพด้วยหรือ?หรือว่ามีประกายเทพที่ไม่ธรรมดา
“พลังเท่าเมล็ดข้าวยังกล้าอวดโอ่อีกหรือ?” จางเว่ยหัวเราะลั่นและกล่าว ยักษ์ทองซึ่งเป็นตัวแทนพลังเทพของเขาไม่เพียงแต่ไม่เป็นอันตราย แม้แต่กระโจมน้อยทรุดโทรมและทหารเกราะทองก็ยังปลอดภัย สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร?นี่แสดงว่าเทพทวารบาลองครักษ์อันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์มีพลังเทพซึ่งสามารถแบ่งเป็นหลายส่วนได้ สามารถใช้ได้ทั้งรุกและรับทั้งสองด้าน
ร่างอวตารยักษ์ทองของจางเว่ยสะบัดฝ่ามือ
กวาดเอาทหารเกราะทองและผู้อาวุโสชุดทองที่ยืนอยู่หลบไปด้านข้าง
เขาขุดก้อนหินขนาดใหญ่กว่าภูเขาออกมาจากพื้นและชูอยู่เหนือศีรษะด้วยสองมือ จากนั้นแบกหินยักษ์ก้าวไปข้างหน้าและทุ่มหินยักษ์ขนาด600 เมตรใส่จักรพรรดินีราตรี สนามพลังดารารายระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว
เพราะพลังเทพที่น่ากลัวหินยักษ์ถูกเปลี่ยนไปเป็นภูเขาไฟทันที
และถูกผลักดันด้วยพลังรุนแรงที่ทำลายได้ทุกอย่าง
สนามพลังดารารายซึ่งร่างของจักรพรรดินีราตรีซ่อนอยู่ถูกกระแทกเต็มที่
“.....” จักรพรรดินีราตรีไม่พูดอะไรสักคำ นางไม่ได้ถอยหรือหลบหน้าแรงกระแทกของภูเขานางเพียงแต่โบกมือเป็นวง
หลังจากภูเขาที่ลุกเป็นไฟพุ่งเข้าใส่สนามพลังดาราราย ทันใดนั้นมันละลายเหมือนก้อนหิมะใส่ในหม้อต้มน้ำ ยกเว้นพลังปั่นป่วนในท้องฟ้าเล็กน้อย ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแรงระเบิดของภูเขาไฟแทบจะไม่มีระลอกคลื่น เหมือนหินกระทบน้ำและจมหายมองไม่เห็น บางครั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็แค่มีอาการแกว่งมีระยะไม่ถึงวินาทีก็ถูกยักษ์ทองของจางเว่ยจับอีกครั้ง
ดวงแสงสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ถูกสร้างขึ้นระหว่างฝ่ามือของยักษ์ทอง
ทันใดนั้นภูเขาพลันลุกไหม้
ระเบิดขึ้นในสนามพลังดาราราย
“ตายซะเถอะแม้แต่หินก้อนหนึ่งก็ยังจับไม่ได้ แต่ต้องการท้าทายปีศาจเฒ่าอย่างราชันย์ไร้ใจ เจ้าต้องการให้คนอื่นหัวเราะจนฟันร่วงหรือ?!” จางเว่ยเชื่อว่าด้วยร่างยักษ์และการโจมตีด้วยหินขนาดใหญ่การโจมตีของพลังเทพก็เพียงพอจะบดขยี้ร่างของฝ่ายตรงกันข้ามและทำลายวิญญาณได้ อย่างน้อยก็สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บสาหัส
บึ้ม บึ้ม บึ้ม.....
ในใจกลางสนามรบมีกลุ่มเมฆรูปดอกเห็ดสีแดงลอยสูงขึ้น
จากนั้นตามมาด้วยแรงระเบิดทำลายพื้นที่มิติจากพลังเทพ
ในขณะนั้นนั่นเองสนามรบทั้งหมดพังทลาย
ยกเว้นอวตารยักษ์ทองของจางเว่ยทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้าใต้เท้าของมัน รวมทั้งพื้นโลกพื้นฟ้าแตกสลายและในที่สุดเมฆรูปดอกเห็นก็ถูกกลืนหายไปโดยรอยแยกมิติเวลาจนไม่เหลือให้เห็น
นอกเหนือจากพื้นที่มิติด้านหน้าของเขาแล้ว
ไม่มีอะไรให้เห็น
จักรพรรดินีราตรีและสนามพลังดารารายปกป้องนางดูเหมือนกับว่าไม่เคยมีอยู่ ในกระโจมทรุดโทรมมีเสียงเทพทวารบาลแค่นเสียงเยาะเย้ยดังขึ้น “เราเทพผู้นี้บอกแล้วว่านักรบแห่งหอทงเทียนล้วนแต่เป็นราชาขี้โม้โอ้อวดกันทุกคน นักสู้ระดับเทพคนไหนนางพญาผู้พิชิตล้วนแต่เป็นสวะทั้งนั้น! พวกเจ้ายังไม่ได้พบผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง แค่เอาชนะพวกเด็กๆได้แค่คนสองคนก็ภูมิใจอวดอ้างหน้าไม่แดง ไม่รู้จักละอายใจ ถ้าได้พบกับเราผู้เป็นเทพในปีนั้นหัวนางพญาผู้พิชิตจะกลายเป็นแก้วใส่เหล้าของข้านางบอกว่าจะกวาดล้างแดนสวรรค์ที่ไร้เทียมทาน น่าขันเสียจริง!”
“โฮ่ง โฮ่ง!”
ไม่ทราบว่ามีเสียงสุนัขเห่าดังมาจากที่ใด
ดูเหมือนอสูรตัวนี้จะไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเทพทวารบาลจางไห่
หลังจากถูกยั่วโมโหเทพทวารบาลโกรธทันทีสุนัขจากที่ไหนบังอาจยั่วนักสู้เทพชั้นสูงให้โกรธได้
จากท้องฟ้าที่ว่างเปล่ามีสุนัขธรรมดาตัวหนึ่งลิ้นยาวน่าตกใจ น้ำลายยืดเต็มปาก มันก้าวออกมาทีละก้าว ถ้าเจ้านายของมันอยู่ที่นั่นด้วยคงไม่แปลกถ้ามันถูกเตะลงมาจากท้องฟ้า โชคไม่ดีเขาไม่รู้ว่าหมาเฝ้าบ้านของใครวิ่งเข้ามาในสนามรบของเทพไม่สนใจความโกรธของเทพทวารบาลจางไห่องครักษ์อันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เจ้าสุนัขชั้นต่ำไร้สมองสงสัยทางบ้านของมันคงฝึกมาหนัก
หมาป่าสีสนิมชั้นบรอนซ์ระดับสามสิ่งมีชีวิตกระจอกอย่างนี้ถ้าเป็นเวลาปกติจางเว่ยจะไม่ชายตามองให้เสียเวลา
แต่ตอนนี้
เขาหมดความอดทนที่มีมาทั้งชีวิตแต่ยังระวังสังเกตสุนัขชั้นต่ำนี้อย่างระมัดระวัง
แม้ว่ามันจะดูแย่มากแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเจ้าสุนัขจรจัดนี่น่าตบแต่ว่ามันสามารถผ่านรอยแยกมิติเวลามาได้อย่างอิสระสิ่งที่ทำให้หัวหน้าองครักษ์นี้แทบบ้าก็คือเจ้าสุนัขนี่เอาแต่หยิ่งยโสไม่มีความละอาย มันส่ายหน้าเชิดหัวจากนั้นผายลมดังป้าดไปทางกระโจมน้อยที่ร่างของเทพทวารบาลอยู่! หลังจากการแสดงของเจ้าสุนัขยั่วโมโห มันทำสีหน้าเหมือนจะเยาะเย้ยว่าพอใจหรือยัง
จางเว่ยสาบานว่ามื้อต่อไปเขาจะต้องกินเนื้อสุนัข
ต้องกินให้ได้!
ถ้าเขาปล่อยให้เจ้าสุนัขชั้นต่ำนี้มีชีวิตต่อไปนั่นถือเป็นความน่าอับอายทั้งชีวิตของเขา
เขาเคยเห็นสุนัขมากมายแต่ไม่เคยเห็นสุนัขที่ล้อเลียนเขาได้มาก่อนในชีวิตมิหนำซ้ำยังเป็นสุนัขชั้นต่ำที่ไม่รู้จักประมาณตัวเอง!
“เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง?” เสียงของจักรพรรดินีราตรีดังออกมาจากรอยแยกมิติเวลาและมีดาวน้อยหนึ่งดวงลอยออกมา จากนั้นกลายเป็นดาราจักรที่มีดวงดาวนับไม่ถ้วนทันที
“เมี้ยว!” เจ้าสุนัขชั้นต่ำยกขาหน้าขึ้นทำวันทยาหัตถ์เหมือนทหารรายงานตัว
“เดิมทีข้าคิดว่าจะต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดคาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะมาถึงนี่ได้ ช่างเถอะ ข้ายกเจ้าผู้นี้ให้เจ้า ศัตรูยังมีอีกหลายคนข้าไม่อาจสู้ได้ทั้งหมด!” ในสนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรี กลุ่มดาวเริ่มดับหายไปเหลือแต่เนบิวลาสุดท้ายที่ลึกลับครอบคลุมอยู่ โดยไม่สนใจความโกรธของจางเว่ยเงาร่างในแม่น้ำดวงดาวถอยห่างจากไป
“อะฮูวววววว!” เจ้าสุนัขชั้นต่ำมีความสุขมาก มันแสดงสีหน้าเจ้าเล่ห์ว่า มันต้องการกินเจ้าผู้นี้มานานแล้ว
มันส่งจักรพรรดินีราตรีด้วยความยินดี
จากสุนัขชั้นต่ำเปลี่ยนสีหน้าเป็นกราดเกรี้ยวรวดเร็วยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือ
ในใจของจางเว่ยรู้สึกถึงขีดจำกัดยากจะทนทานเจ้าคิดว่านี่คือบ้านตัวเองหรือ? นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไปอย่างนั้นหรือ? และทิ้งการต่อสู้หนีไปกลางครันอย่างนี้หมายความว่ายังไง? ไม่มีใครทนรับเรื่องแบบนี้ได้!
ตาย
ต้องตาย!
นอกจากนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยเจ้าสุนัขนี่มีชีวิตรอดต่อไป!
มือยักษ์ทองของจางเว่ยยิงลำแสงพลังเทพออกจากนิ้วถี่หนาแน่นยิ่งกว่าสายฝน
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องการกินเนื้อสุนัขต้มเขาเพียงแค่ทำลายทวีปที่อยู่ตรงหน้ายังง่ายกว่า ประสาอะไรกับการเอาชนะสุนัขเวรที่อยู่ข้างหน้า
“เฟี้ยว” ลำแสงเทพยิงลงมาเป็นกลุ่มราวกับสายฝนเจ้าสุนัขชั้นต่ำอ้าปากหาวง่วงนอนอย่างเฉยเมยเหมือนสุนัขที่กินอิ่มและนอนหลับโชคดีที่นี่ไม่ใช่ทะเลมิฉะนั้นเจ้าสุนัขชั้นต่ำนี่คงกางเก้าอี้สวมแว่นกันแดดนอนอาบแดดอย่างสบายใจเป็นแน่ “ข้าผู้เป็นเทพสามารถฆ่าได้แม้กระทั่งเทพอย่าว่าแต่สุนัขชั้นต่ำตัวหนึ่ง!” จางเว่ยโมโหจนไฟแทบออกจากทวารทั้งเจ็ด
เขาต้องการหยุดพักและกินเนื้อสุนัข
คาดไม่ถึงแลย
กลับปล่อยให้สุนัขชั้นต่ำดูถูกเหยียดหยามได้
นี่เป็นเรื่องบัดซบ?แบบนี้เขายังจะมีชีวิตได้อีกหรือ?
หมัดยักษ์ทองเร็วกว่าสายฟ้าเป็นร้อยเท่ากระแทกลงที่เป้าหมายคือสุนัขเกียจคร้านที่ทำสะลึมสะลืออยู่ข้างหน้า
ปัง!
พลังของหมัดนี้ทำลายได้แม้กระทั่งมิติ
รอยแยกมิติเวลาแตกสลายมากกว่าเดิมแทบจะป่นเป็นผุยผง
เจ้าสุนัขชั้นต่ำรับพลังหมัดตรงๆไม่รู้ว่ามันถูกทำลายหรือไม่ หัวหน้าองครักษ์นี้คาดว่าแม้ว่าสุนัขชั้นต่ำนี้จะไม่ตาย แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะกลับมาเป็นสภาพสุนัขเดิมหลังจากจางเว่ยปล่อยพลังหมัดไปแล้ว เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยเขาคิดว่าเขาควรจะจับสุนัขชั้นต่ำนี่ไว้ก่อนไม่ควรจะลงมือฆ่าทันทีเขาควรจะได้ระบายอารมณ์โกรธและความอึดอัดก่อนเคี้ยวกันลงไปในคำเดียว
ด้วยวิธีนั้นเขาค่อยระบายความเกลียดชังออกไปได้บ้าง
เพื่อระบายความอับอายให้ตนเองในฐานะที่เขาเป็นนักสู้ระดับเทพแต่ต้องมาถูกยั่วยุหยามหยันโดยสุนัขชั้นต่ำ
“ฮ้าดชิ้ว!” ไม่ทราบว่าเสียงสุนัขชั้นต่ำดังออกมาจากไหนมันจามอย่างแรงภายใต้สายตาของทุกคน เจ้าสุนัขชั้นต่ำวิ่งส่ายหัวออกมาจากมิติความว่างเปล่ามาจนกระทั่งถึงเท้ายักษ์ทองจากนั้นยกขาหลังฉี่รดยักษ์ทองอย่างหน้าตาเฉย
เหมือนกับว่ามันกลัวจะไม่มีใครเห็นมันทำท่าสะบัดฉี่ของมันไปที่ยักษ์ทองเจ็ดแปดครั้ง
เหมือนกับฉี่ไม่สุด
มันทำสีหน้าท่าทางทำนองว่า ‘ถ้าเจ้าไม่พอใจ ข้าฉี่ต่ออีกหน่อยก็ได้’ สีหน้าท่าทางเจ้าเล่ห์
เทียบกับเจ้าอ้วนแห่งหอทงเทียนแล้วเจ้าหมาชั้นต่ำนี้หน้าด้านกว่าเป็นร้อยเท่าต้องบอกว่ามันยั่วโมโหได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ถ้าให้เทียบกับเจ้านายของมัน เจ้าหมาชั้นต่ำนี้ยังต้องพัฒนาฝีมือ
จางเว่ยโมโหปอดแทบระเบิดและคิดแบบนั้นในใจ
เจ้าหมานี่ดูถูกเขา
เมื่อมันมาอยู่ต่อหน้าเขา
มันเกิดมาเพื่อโดนทุบตีโดยแท้!