ตอนที่ 1265 ทักษะแฝงเร้นโชคดีของเป่าเอ๋อ
ชั้นที่สี่หอทงเทียน
ที่นี่คือทางเข้าด้านนอกเกาะลอยฟ้าลับซึ่งเป็นที่เก็บคัมภีร์เทพและมีประตูเทเลพอร์ตลับสำหรับผ่านเข้าออก เดิมทีแม้แต่ราชาเฮยอวี้ก็ไม่รู้ว่ามีทางเข้าลับเขามักคิดว่าเขารู้ความลับที่อยู่ลับของคัมภีร์เทพ ใครจะรู้ยังมีม่านพลังทองคอยปกป้องคัมภีร์เทพและเย่ว์หยางกับสาวๆ ได้ขนสมบัติวิเศษออกมาใช้บ้างแล้ว
หลังจากราชาเฮยอวี้ตายความลับมิติลับของคัมภีร์เทพก็อยู่แต่ในมือของเย่ว์หยางเพียงคนเดียว
มีไม่กี่คนที่รู้เรื่อง
เพราะประตูเทเลพอร์ตของหอทงเทียนชั้นที่สามพังเสียหายไม่สามารถใช้ได้ เหลือแต่ประตูเทเลพอร์ตลับที่เย่ว์หยางทำลายไว้ ดังนั้นทางเข้าลับด้านชั้นสี่นี้เป็นเพียงทางเดียวที่เข้าสู่มิติโลกที่ใช้เก็บคัมภีร์อัญเชิญระดับเทพ
ขณะนั้นหลิวเย่และเย่ว์หวี่สองคน
ยืนอยู่ที่ทางเข้าประตูนี้
งานของพวกนางทั้งสองคือเตรียมพบญาติมิตรคนเป็นที่รักและสหายกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆที่ต้องลี้ภัยเข้าไปในมิติที่เก็บคัมภีร์เทพเพื่อหนีสงครามตัวอย่างเช่นนักเรียนระดับหัวกะทิของสถานบันฉางชุนเฉิง, ฉางจิงหรือคนชราหรือลูกหลานของตระกูลใหญ่ทั้งสี่นำโดยตระกูลเย่ว์และราชวงศ์ต้าเซี่ย ขณะเดียวกันยังมีพวกเอลฟ์ทองที่มีนิสัยรักสงบไม่ใช่เอลฟ์นักรบบริวารผู้ติดตามเย่ว์หยางที่ป้อมสายฟ้าเป็นต้น ในการบุกโจมตีหอทงเทียนสร้างความหายนะจากพวกแดนสวรรค์เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าไม่มีการสูญเสีย
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขาไม่อาจนิ่งเฉยได้ผู้เยาว์รุ่นหลังจะต้องรักษาไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่จะขยายต่อไปในภายภาคหน้า
ในเผ่าพันธุ์นั้นคนแก่สตรีไม่สามารถสู้เผชิญหน้ากับพวกแดนสวรรค์ได้
มีแต่จะตายในที่สุด
การต่อสู้ของนักรบไม่ควรจะให้พวกเขาเกี่ยวข้อง
ตอนนี้เย่ว์หยางเผชิญหน้ากับศัตรูใหญ่ไม่สามารถแยกร่างได้ เขาไม่มีเวลาให้ความสนใจเรื่องต่างๆ เหล่านี้
โชคดีที่เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเริ่มมีความคิดขอรับผิดชอบเรื่องนี้ ที่สำคัญเขายังเป็นผู้ปกป้องหอทงเทียนมือใหม่ ถ้าเผ่าพันธุ์ทั้งหมดที่ร่วมศึกถึงกาลอวสานก็จะไม่มีอะไรเหลืออยู่ ดังนั้นต่อให้ได้ชัยชนะแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างบ้านเมืองจากซากปรักหักพัง
ต้องมีบางคนเข้ามาดูแลทุกอย่าง
เป็นไปไม่ได้ที่จะดึงเผ่าพันธุ์ทั้งหมดของหอทงเทียนมาหลบภัยสงครามในพื้นที่เก็บคัมภีร์เทพได้ แต่พวกเย่ว์หวี่จำเป็นต้องนำญาติพี่น้องที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเย่ว์หยางมาลี้ภัยที่นี่ เฉพาะทุกคนที่ตกเป็นเป้าหมายการจัดการโจมตีของเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟาง
เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางจะไม่เข้าไปยุ่งกับเผ่าพันธุ์อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเย่ว์หยาง
แม้ว่าในที่สุดแล้วเขาต้องการทำลายหอทงเทียน
ที่สำคัญที่สุด
เขาดำเนินการเปิดแผลของเย่ว์หยางด้วยการทำร้ายญาติและสหายก่อนจะเอาชนะเย่ว์หยาง เพราะเย่ว์หยางไม่มีเวลาว่างจะไปดำเนินการขนย้ายสิ่งมีชีวิตในหอทงเทียน
“ช้าเหลือเกินทำไมกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องจึงมาไม่ถึง” หลิวเย่กระวนกระวายและคนที่รับผิดชอบถูกส่งออกไปแต่ไม่ว่าจะเป็นเว่ยหลายที่ส่งไปป้อมสายฟ้า อาหงไปที่ป่าหยกฟ้าเขียวโล่วฮัวไปที่เกาะลอยฟ้าก็ยังไม่ส่งข่าวดีกลับมา อย่าว่าแต่ไห่หลานลี่เยี่ยนที่เกาะอัคคี และพวกเจ้าอ้วนไห่ที่ถูกส่งไปเผ่าซัคคิวบัส
“ไม่ต้องกังวล ทุกคนจะไม่เป็นอะไร มีตั่วตั่วและเจี้ยงอิงพวกนางจะดูแลความปลอดภัยของทุกคนให้รอดพ้นจากภัยพิบัติได้” เย่ว์หวี่เองก็กังวล แต่นางไม่กล้าแสดงออก
ยิ่งอยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อนางยิ่งสงบมากยิ่งขึ้น
นางคือพี่สาวของเขา
แน่นอนว่านางไม่ควรปัญหาในเวลาใดๆและไม่ควรสร้างปัญหาให้เขา ในทางตรงกันข้าม นางต้องการเป็นพี่สาวตัวอย่าง และให้ความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่เขา
มีจุดดำเล็กๆบินอยู่ในขอบฟ้าไกล เย่ว์หวี่และหลิวเย่กังวลห่วงว่าเป็นศัตรูหรือไม่เป็นคนของตงฟางค้นพบที่ซ่อนลับเจอหรือไม่? เย่ว์หวี่และหลิวเย่เข้าสู่สถานะพร้อมสู้ในเวลาเดียวกัน แต่หลังจากนั้นพวกนางไวต่อกระแสจิตมากและพบทันทีว่าผู้ที่พุ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วสูงไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นสหายของพวกนางเอง เซี่ยอี!
“การต่อสู้ที่ป้อมสายฟ้าจบลงแล้วเว่ยหลายเอาชนะศัตรูได้อย่างสบาย นางไปสนับสนุนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ข้าใช้คัมภีร์อัญเชิญพาบริวารจากป้อมสายฟ้ามาด้วย ทุกคนปลอดภัยดี มีจำนวนน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ...ลุงจี๋ฟง และพวกมนุษย์มัจฉาไม่ต้องการมาด้วยพวกเขาต้องการต่อต้านการรุกรานพร้อมกับแม่ทัพใหญ่..”
เซี่ยอีหอบหายใจเล็กน้อย
ด้วยระดับพลังในปัจจุบันนางไม่ควรรู้สึกเหนื่อยเมื่อนางเหาะอยู่ที่ชั้นสี่
อย่างไรก็ตามสงครามที่ดุเดือดและสถานการณ์ที่น่ากลัวทำให้สาวน้อยเลือดเผ่ามนุษย์มังกรแดนสวรรค์แทบจะไม่ได้พักอ้าปากหอบหายใจ
ก่อนหน้านี้
ยังมีเย่ว์หยางอยู่ด้วย
แม้ว่านางจะเข้าสู่สงครามนางก็ไม่ได้รู้สึกมีภาระที่หนักใจนางแค่สู้ตามภารกิจที่ได้รับเป็นขั้นตอนเท่านั้น ตอนนี้เล่า? เย่ว์หยางไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ไม่ได้มีหลักสนับสนุนชีวิตนางอีกต่อไปและสถานการณ์แบบนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน นางต้องยืนหยัดต่อสู้อย่างหนักรับแรงกดดันที่มากขึ้น โชคดีที่มีเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนซึ่งเป็นคนที่รับแรงกดดันมากที่สุดนางยังดีกว่าไม่เช่นนั้นนางจะต้องแบกรับความรับผิดชอบไว้บนไหล่ที่บอบบางของนางนางต้องรับมือกับสถานการณ์ในตอนนี้
“เซี่ยอี! เจ้าทำได้ดีมาก เอาเถอะเจ้าพาทุกคนไปพักผ่อนก่อนอย่าลืมให้กำลังใจทุกคน เราอยู่กันที่นั่นเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีศัตรูคนใดสามารถหลุดเข้าไปข้างในและคุกคามความปลอดภัยของทุกคนได้ขอให้เจ้ามั่นใจได้ เรายังปลอดภัยเป็นอย่างดี เข้าไปข้างใน เราจะปลอดภัยยิ่งขึ้น!” เย่ว์หวี่กอดสาวน้อยประมุขเผ่ามนุษย์มังกรแดนสวรรค์พูดปลอบโยนด้วยเสียงที่อ่อนโยนที่สุดเสียงปลอบโยนของนางบรรเทาความตึงเครียดและความกลัวในใจของเซี่ยอี แม้ว่านางจะไม่สบายใจนักแต่นางไม่ต้องการให้เซี่ยอีและหลิวเย่ที่อยู่ข้างหน้านางเห็นแววอ่อนแอของนาง
นางไม่เพียงแต่เป็นพี่สาวของเขาเท่านั้น แต่นางยังเป็นพี่สาวของทุกคน
เมื่อเขาไม่อยู่นางต้องทำหน้าที่พี่สาว พาทุกคนออกจากสถานการณ์อันตราย
เมื่อเห็นใบหน้าที่สงบของเย่ว์หวี่ใบหน้าที่ซีดขาวของเซี่ยอีเริ่มมีสีเลือดฝาดขึ้นบ้าง นางโผเข้าอ้อมกอดเย่ว์หวี่ร้องไห้อยู่ครึ่งนาทีและหลังจากระบายความอัดอั้นตันใจแล้วนางรีบเช็ดน้ำตาและพยักหน้าให้เย่ว์หวี่แสดงให้เห็นว่านางไม่มีปัญหา
หลิวเย่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งยังแข็งแกร่งกว่าเซี่ยอีนางไม่ได้ร้องไห้หรือตื่นเต้นในทางตรงกันข้ามในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้นางทำตัวสงบขึ้น
หลิวเย่ว้าวุ่นใจเป็นอย่างมาก
นางกระวนกระวาย
อย่างไรก็ตามนางทำตัวเหมือนกับช่วงที่ฝึกฝนพิเศษกับเย่ว์หยางก่อนหน้านี้นางทำได้ดีขึ้นและสมบูรณ์แบบมากขึ้น
นางใช้ทักษะแฝงเร้นที่ไม่เหมือนใครของนางสร้างวงเวทอักขระรูนที่ไวต่อความรู้สึกชั่วร้ายอย่างมากในทุกทิศทางระยะสามสิบไมล์เพื่อใช้เตือนภัยเมื่อศัตรูบุกเข้ามา นางจะพบเป็นคนแรก
“ใครบางคนกำลังมาอ๊ะ..ครั้งนี้เป็นสาวน้อยเป่าเอ๋อ งี่เง่าจริงๆ นางกลับใช้เวลาเป็นชั่วโมงหลังจากที่ตกลงกัน” หลิวเย่พบว่าคราวนี้เป็นเอลฟ์ทองซึ่งนางแตกต่างจากเซี่ยอีผู้หวาดกลัว เป่าเอ๋อดูเหมือนว่านางไม่เข้าใจหรือสนใจเลยว่าความกลัวคืออะไร
“เป่าเอ๋อทำได้! เจ้าทำได้ดีมาก!” เย่ว์หวี่กอดสาวน้อยจอมแก่นซุกซนเป็นครั้งแรกนางคือผู้เป็นเลิศในเรื่องมีโชค
“มีข้าซะอย่างไม่มีอะไรที่ไม่สำเร็จ ภารกิจนี้หมูมาก!” เป่าเอ๋อเหมือนนกยูงที่ภาคภูมิใจ“ข้าไม่เพียงแต่ยึดได้ทั้งเผ่าข้ายังไปที่ป่าหยกฟ้าเขียวและช่วยพี่ฟ่านหลุนเถี่ยที่ได้รับบาดเจ็บด้วย ฮ่าฮ่าข้าคืออัจฉริยะน้อยที่ทำภารกิจได้เกินหน้าที่!”
“........”เซี่ยอีได้ยินแล้ว นางรู้สึกอยากตีเอลฟ์น้อยนี่จริงๆนางน่ารำคาญเกินไปหรือเปล่า? นางดูแลตัวเองได้และทำภารกิจเกินหน้าที่ได้ด้วย!
ในแผนของเสวี่ยอู๋เสีย
ไม่มีเรื่องให้เป่าเอ๋อทำเช่นนั้น เพราะสาวน้อยนางนี้ทำงานพลาดง่ายๆจึงให้นางกลับไปพาครอบครัวเอลฟ์ทอง ส่วนสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ที่ไม่เคยเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้นางสมัครใจไปพร้อมกับเป่าเอ๋อ
เหตุผลของนางคือ
เพื่อให้เป่าเอ๋อปกป้องนาง
เหตุผลนี้ทำให้เป่าเอ๋อที่ต้องการเป็นวีรสตรีมีความสุขจริงๆ
แม้ว่าทุกคนยกเว้นเป่าเอ๋อเองจะรู้ว่าสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ต่างหากที่ต้องการปกป้องเด็กสาวผู้มีโชคดี
แต่ยังมีแพนดอราอยู่เป็นส่วนหนึ่งของสาวใช้เอลฟ์นางคืออดีตเทพธิดาแห่งหายนะ เป่าเอ๋อสาวน้อยผู้โชคดี นางแค่ต้องการมีอะไรทำบ้างเท่านั้น ดังนั้นเสวี่ยอู๋เสียเห็นด้วยกับภารกิจของเป่าเอ๋อในที่สุด ขณะเดียวกัน นางรู้สึกว่า นางควรทำใจแข็งปล่อยให้สาวน้อยนี้ได้มีประสบการณ์ไม่อย่างนั้นนางจะไม่เติบโตขึ้น
หลิวเย่เห็นเป่าเอ๋อมาแค่เพียงคนเดียวแต่สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์หายไป นางรีบถาม “เป่าเอ๋อ, สาวใช้น้อยเล่า?”
“หา”เป่าเอ๋อกระพริบตาปริบๆ และถามอย่างประหลาดใจ “สาวใช้น้อย นางไปไหน?”
“......” เซี่ยอีเงียบอีกครั้ง
ต้องพลัดหลงกับนาง
พลัดหลง..ตอนแรกเจ้าตบอกบอกว่าต้องปกป้องสาวใช้น้อย!
โชคดีที่สาวใช้น้อยมีแพนดอราอยู่ด้วยไม่ต้องกลัวเรื่องอุบัติเหตุ มิฉะนั้นทุกคนไม่กังวลก็คงเป็นเรื่องแปลก
เย่ว์หวี่รีบปลอบใจและจำจุดตรงที่สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์หายไปนางบอกเป่าเอ๋อไม่ต้องคิดอีกต่อไป สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์จะกลับมาอย่างแน่นอนและให้นางรีบเข้าไปในเกาะลอยฟ้าและปล่อยทุกคนออกมา เพราะเป่าเอ๋อเพิ่งจะเลื่อนระดับคัมภีร์เป็นคัมภีร์ทอง ปล่อยให้เผ่าพันธุ์เอลฟ์ทองอยู่ในโลกคัมภีร์นานไปจะอึดอัดได้
ไม่ว่าจะเป็นนางหลิวเย่ หรือเซี่ยอี สามารถยืนยันได้เต็มร้อย
เหตุผลที่ทำให้เป่าเอ๋อผู้มีสมาธิสั้นสามารถทำภารกิจได้สำเร็จต้องเป็นเพราะสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์มีบทบาทอยู่หลังฉากแน่นอน
มิฉะนั้นอย่าว่าแต่ไปที่ป่าหยกฟ้าเขียวหอทงเทียนชั้นที่หกเพื่อช่วยฟ่านหลุนเถี่ยเลย แค่จะกลับไปที่บ้านเกิดของเอลฟ์ทองเพื่อเหลือเผ่าพันธุ์ของนางก็ยังยากจะสำเร็จ
เทพเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าตงฟางพาคนมากี่คนเพื่อโจมตีหอทงเทียน
เหล่าขุนพลเทพผู้ทรงพลังสามารถทำลายบ้านเมืองของผู้คนได้อย่างง่ายดายยังไม่ต้องพูดถึง กบฏเผ่าพันธุ์มนุษย์มีปีกจำนวนมาก และทหารรับจ้างแดนสวรรค์ที่อำพรางตัวอยู่ในหอทงเทียนเมื่อเป้าหมายปรากฏตัว พวกเขาจึงเปิดเผยเขี้ยวเล็บและโจมตีอย่างดุร้าย
ตอนแรกหลิวเย่และเย่ว์หวี่ได้พบกับคนที่ซุ่มซ่อนอยู่แถวทางรอบจัตุรัสเทเลพอร์ตไปยังหอทงเทียนชั้นที่สี่สามกลุ่ม
เพียงแต่พลังต่อสู้ของทั้งสองไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
กองกำลังผสมของทหารแดนสวรรค์และกบฏไม่ได้เป็นภัยคุกคามพวกนางอีกต่อไป
พวกทหารแดนสวรรค์นี้สามารถคุกคามความปลอดภัยของนักรบหอทงเทียนและแม้กระทั่งนักสู้ปราณก่อกำเนิดได้ แต่ก็จำกัดอยู่เพียงแค่นี้ ไม่ต้องพูดถึงหลิวเย่มีกวางทะลุมิติและเย่ว์หวี่มีเทพธิดาแสงอรุณ แม้แต่เป่าเอ๋อที่เกียจคร้านฝึกฝนก็ยังได้ประโยชน์จากเย่ว์หยางไม่มีพวกฝ่ายศัตรูสามารถขวางนางได้
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทางหรือ?” เมื่อเย่ว์หวี่ส่งเป่าเอ๋อนางถามอย่างระมัดระวัง
“ไม่มีอะไรในระหว่างทางคิดว่าเจอคนที่น่าเกลียดมากคนหนึ่งและข้าเกือบถูกเขาจับได้ แต่บุรุษคนนั้นก็บ้าไปทันที ข้าคิดว่าเขาต้องทำสิ่งเลวร้ายมามากจึงถูกเทพเจ้าลงโทษ! ดูเหมือนว่าข้าจะพลัดหลงกับสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ในเวลานั้นนางวิ่งช้าเหลือเกิน ไม่นะข้าลืมปกป้องนาง ข้าต้องกลับไปหานาง!” คำพูดของเป่าเอ๋อแทบทำให้เซี่ยอีแทบล้มทันที
ทำกรรมไม่ดีมากจึงถูกเทพลงโทษหรือ?
นั่นคือสาวใช้น้อยไม่ ต้องบอกว่าเป็นการลงโทษของแพนดอร่าหรือไม่?
ถ้าไม่อย่างนั้นเด็กน้อยเอลฟ์ผู้โชคดีคาดว่าคงกลายเป็นอาหารสัตว์ประหลาดและเจ้าที่เป็นเอลฟ์ทองคงต้องถูกจับ! อย่างไรก็ตามถ้านางมีทักษะแฝงเร้นโชคดี นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆศัตรูที่ไม่รู้จักอาจบอกได้แต่เพียงพลาดท่าพ่ายแพ้เพราะพบกับเป่าเอ๋อเด็กน้อยผู้โชคดี
สำหรับตอนนี้
คนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเป่าเอ๋อไม่มีจุดจบที่ดี
ถ้าต้องพูดให้ถูกคงจะมีอยู่เพียงคนเพียวนั่นคือเย่ว์หยางผู้มีพลังเทียมฟ้า... นอกจากนี้เขาไม่เพียงต่อต้านฟ้าได้เท่านั้นแต่เขายังทำให้นางโกรธได้บ่อยๆ และนางก็ทำอะไรไม่ได้
นี่คือพลังแห่งโชคดีที่ไม่มีใครเทียบ
****** ***