NH-ตอนที่ 40 การสำเร็จการศึกษาที่เป็นหายนะ
“พี่ใหญ่ลุกซ์ ทางนี้!” โคเล็ตต์ เรียก ลุกซ์ ทันทีหลังจากเห็นเขาปรากฏตัวขึ้นที่ประตูทางเหนือของหมู่บ้านลีฟ
“พวกเธอมากันเร็วจังนะ” ลุกซ์ ยิ้มและตอบกลับ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ รอ เขาตัดสินใจมาเร็วกว่าเวลานัดหมายครึ่งชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่คนเดียวที่คิดเรื่องนี้ เพราะคนอื่น ๆ ได้มารวมตัวกันแล้ว โดยมีคนแคระเด็กอีกคนเพิ่มเข้ามาในปาร์ตี้
“พี่ใหญ่ลุกซ์ ให้ฉันได้แนะนำให้พี่รู้จัก นีคือเรนเจอร์ของเรา โรบิน” โคเล็ตต์ กล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม “ที่เมื่อวานนี้เขาไม่สามารถไปกับพวกเราได้เพราะเขากำลังทำภารกิจเลื่อนคลาสอาชีพให้เสร็จ”
ลุกซ์ มองไปที่คนแคระหนุ่มที่มีผมสั้นสีน้ำตาลและดวงตาสีน้ำตาลแดง ซึ่งเขามองกลับมาที่เขาด้วยท่าทางที่ขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเขาจะมีสีหน้าที่ไม่พอใจบนใบหน้า แต่ ลุกซ์ ก็คุ้นเคยกับอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
มีเพียง โคเล็ตต์ และ เด็กคนอื่น ๆ ที่สำรวจดันเจี้ยนร่วมกันกับ ลุกซ์ เท่านั้นที่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นเพื่อน
“ยินดีที่ได้รู้จัก เรียกฉันว่า ลุกซ์ ก็ได้” ลุกซ์ แสดงความเห็น
โรบิน พยักหน้าให้กับฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มสั้น ๆ ก่อนที่จะหลบสายตา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจที่จะเป็นมิตรกับสมาชิกใหม่ในกลุ่มของพวกเขา
“ตอนนี้พวกเราทุกคนก็มากันครบแล้ว ไปที่สวนฟิกาโรกันเถอะ” โคเล็ตต์ กล่าวออกมา “คนรู้จักของฉันบอกมาก่อนหน้านี้ว่ามี ‘ยุงแถบแดง’ เดินเพ่นพ่านอยู่ภายในสวน แม้ว่าพวกเราจะสามารถต่อสู้กับพวกมันได้ แต่เราก็ควรหลีกเลี่ยงมันหากเป็นไปได้ หากใครคนใดพบเห็น ให้รีบแจ้งทุกคนในกลุ่มเพื่อให้พวกเราถอนตัวได้โดยเร็วที่สุด”
ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ยุงแถบแดง เป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ที่น่ารำคาญที่สุดในสวนฟิกาโร พวกมันทั้งหมดสูง 1 ฟุต และ เป็นที่รู้กันว่าจะเดินทางเป็นกลุ่มเสมอ
การกัดของพวกมันมีผลทำให้เป็นอัมพาตเล็กน้อย แต่มันก็ไม่แรงมากพอที่จะทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ ปัญหาก็คือพวกมันได้เดินทางกันเป็นกลุ่ม ผลของการกัดแต่ละครั้งจะซ้อนทับกัน หากมีใครคนใดถูกกัดมากกว่า 6 ครั้ง จะโดนพิษอัมพาตแบบ 100% ซึ่งทำให้เป็นอัมพาตโดยสิ้นเชิง
หลังจากนั้น พวกเขาก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมองดูความสยดสยองของมอนสเตอร์ดูดเลือดเหล่านี้ที่จะค่อย ๆ ดูดเลือดของพวกเขาออกไปจนพวกเขาหมดสติ
มีคำกล่าวในสวนฟิกาโร่ว่า
ถึงแม้ว่า ยุงจะไม่ฆ่าคุณ แต่แมลงตัวอื่นก็จะฆ่าคุณแทน
เหยื่อที่ไม่รู้ตัวคืออาหารต้อนรับของพวกแมลงใด ๆ ที่อาศัยอยู่ภายในสวน ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วน นับตั้งแต่โลกเอลิเซียม เชื่อมต่อเข้ากับ โซไรอัส
หลังจากเดินเท้ามา 15 นาที ในที่สุดทุกคนก็มาถึงที่หมาย
ลุกซ์ รู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าแท้จริงแล้ว สวนฟิกาโรเป็นสถานที่ที่มีต้นไม้ยักษ์เติบโต
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เขาคิดว่าตัวของเขาหดเล็กลงเพราะขนาดที่แท้จริงของต้นไม้และดอกไม้เหล่านี้
“มันเหมือนกับป่าดอกไม้เลย” ลุกซ์ พึมพัมออกมาขณะที่เดินตามหลังกลุ่มของโคเล็ตต์
“สวยใช่มั้ยล่ะ?” โคเล็ตต์ กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ แต่ฉันก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่อยู่รอบข้างด้วย” ลุกซ์ ตอบกลับ “ฉันรู้สึกราวกับว่าเราสามารถถูกโจมตีได้ทุกเมื่อ”
ราวกับว่านี่คือสัญญาณ ทันใดนั้น มดที่สูงกว่า 1 เมตร ก็ก้าวออกมาจากพุ่มหญ้าข้าง ๆ สิ่งนี้ทำให้ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มกระโดดถอยหลังด้วยความตกใจ
ทางด้าน โคเล็ตต์,แมทตี้ และ คนอื่น ๆ ในกลุ่มพลางหัวเราะทันทีหลังจากเห็นฉากนี้
“ให้ตายเถอะ ทำเอาฉันหัวใจเกือบวาย” ลุกซ์ พูดขณะเอามือวางบนหน้าอกของตัวเอง
มดที่คลานออกมาจากพุ่มไม้ได้สร้างเสียงคลิกด้วยขากรรไกรของมันราวกับว่ามันพยายามจะสื่อสารบางอย่าง
ลุกซ์ ทำการค้นคว้าและอ่านข้อมูลเกี่ยวกับมอนสเตอร์ทั้งหมดในสวนฟิกาโร มดในสวนถือเป็นพวกรักสงบและสนใจแต่เรื่องของตัวเองขณะที่พวกมันคุ้ยหาอาหาร
พวกมันจะไม่โจมตีใครอย่างแข็งขัน และ พวกมันยังเป็นที่รู้กันว่าสามารถพาคนแคระที่บาดเจ็บกลับไปยังหมู่บ้านลีฟ หากพวกมันบังเอิญเจอขณะที่พวกมันกำลังมองหาอาหาร
ด้วยเหตุนี้ ผู้คนในหมู่บ้านลีฟจึงเตือนชาวต่างชาติเสมอว่าอย่าโจมตีหรือทำร้ายพวกมด เพราะไม่ว่าพวกมันจะรักสงบมากขนาดไหน หากพวกมันถูกโจมตี พวกมันก็จะตอบโต้
หากมีใครฆ่าสมาชิกของพวกมัน พวกเขาจะถูกโจมตีเป็นฝูงและตามล่าผู้กระทำผิดไปจนถึงหมู่บ้านลีฟ ใครก็ตามที่ทำผิดข้อห้ามนี้จะไม่ได้รับการปกป้องจากทหารรักษาการณ์เมือง และ พวกเขาจะถูกทิ้งไว้ตามชะตากรรมของพวกเขาเอง
ขณะที่มดพยายามสื่อสารกับ โคเล็ตต์ และ เพื่อนๆของเธอ มดจำนวนมากก็ออกมาจากพุ่มไม้โดยถือผลเบอร์รี่และอาหารอื่น ๆ ของพวกมันพร้อมกับเดินผ่านพวกคนแคระกลับไปที่รัง
มดบางตัวใจดีพอที่จะแบ่งปันผลเบอร์รี่ให้แก่คนแคระ ซึ่งพวกเขาก็ได้ปฏิเสธอย่างสุภาพ
ลุกซ์ มองดูฉากนี้ด้วยความสนใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นมดแห่งสวนฟิกาโร
“ฉันรู้แล้ว” โรบิน พยักหน้า “ขอบคุณที่เตือน พวกเรารู้สึกขอบคุณมาก”
มดคลิกขากรรไกรของมัน 2-3 ครั้งก่อนที่จะผละออกจากกลุ่มคนแคระและกลับไปที่รังของมัน
หลังจากที่มดหายไป ทุกคนก็มองไปที่โรบินด้วยความสงสัย เขาเป็นเรนเจอร์เพียงคนเดียวในกลุ่มที่มีสกิล สื่อสารกับมอนสเตอร์ สิ่งนี้ทำให้เขาเข้าใจภาษาของมอนสเตอร์ประหลาดในระดับพื้นฐานได้
“พวกเขาบอกว่ามีกลุ่มดวอร์ฟหลายคนกำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์อัลฟ่า ที่ทางนั้นประมาณ 1 กิโลเมตร” โรบิน พูดขณะที่เขาชี้ไปทางทิศตะวันออก “พวกมดยังเตือนอีกด้วยว่า ยุงแถบแดงหลาย 10 ตัว กำลังเดินเตร่ไปทั่วพื้นที่ทางตอนเหนือ”
โคเล็ตต์ ขมวดคิ้วแน่น ตามข่าวลือเรื่องตำแหน่งที่ตั้งของอาวุธที่พวกเขากำลังหาอยู่นั้น ว่ากันว่ามันอยู่ทางทิศเหนือของสวน อย่างไรก็ตาม การปรากฏขึ้นของยุงแถบแดงกว่า 10 ตัวก็ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับพวกเขา
แม้ว่าพวกมันจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับมอนสเตอร์ระดับ 1 แต่จำนวนของพวกมันก็ถือเป็นภัยคุกคามอย่างแท้จริงสำหรับผู้เริ่มต้นเช่นพวกเขา
“งั้นทำไมตอนนี้พวกเราไม่มุ่งหน้าไปทางตะวันออกแทนล่ะ?” โคเล็ตต์ เสนอ “เนื่องจากพวกมดบอกว่ากลุ่มดวอร์ฟกำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์อัลฟ่า แสดงว่ามันจะต้องเป็นพิธีจบการศึกษาของหมู่บ้านลีฟอย่างแน่นอน”
“พิธีจบการศึกษา?” ลุกซ์ พึมพัมออกมา “พิธีจบการศึกษาคืออะไร?”
เฮเลน นักบวชของปาร์ตี้ ได้ตบแขนของลุกซ์ เพื่อให้เขาสนใจ
“พี่ใหญ่ลุกซ์ พิธีจบการศึกษาคือสิ่งที่ดวอร์ฟต้องท้าทายมอนสเตอร์อัลฟ่าตัวใดก็ได้หลังจากเลื่อนขั้นเป็นแรงค์มือใหม่” เฮเลน อธิบาย “สำหรับพวกเราเหล่าดวอร์ฟที่เข้ามายังเอลิเซียม นี่คือพิธีพิสูจน์ตัวตนในการเป็นนักรบอย่างเต็มตัว”
“ฉันเข้าใจแล้ว” ลุกซ์พยักหน้าอย่างเข้าใจ “ในเมื่อนี่เป็นโอกาสที่พิเศษ ทำไมเราไม่ไปดูการต่อสู้ของพวกเขากับมอนสเตอร์อัลฟ่าล่ะ ด้วยวิธีนี้พวกเราจะได้เตรียมตัวสำหรับพิธีจบการศึกษาก่อนที่จะออกจากหมู่บ้านลีฟ”
ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วยและมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกทันที
ลุกซ์ ไม่คิดว่าสิ่งที่เรียกว่าพิธีจบการศึกษานี้ไม่เข้าท่า อันที่จริง เขาคิดด้วยซ้ำว่ามันเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่จะทำ หลังจากผ่านแรงค์มือใหม่ แล้วพวกเขาจะได้รับการรู้จักอย่างเป็นทางการว่าเป็นนักรบที่แท้จริง การต่อสู้กับมอนสเตอร์อัลฟ่านั้นถือเป็นวิธีที่ดีในการทดสอบความกล้าหาญของพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในเอลิเซียม
มอนสเตอร์อัลฟ่า เป็นมอนสเตอร์สูงสุดระดับ 2 แม้ว่าการต่อสู้แบบตัวต่อตัวจะเป็นภารกิจที่ฆ่าตัวตาย แต่การต่อสู้กับพวกมันพร้อมปาร์ตี้นั้นสามารถทำได้
ในขณะที่พวกเขาเข้าใกล้อาณาเขตของมอนสเตอร์อัลฟ่า พวกเขาก็สังเกตุเห็นกลุ่มคนแคระหลายคนที่กำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกับพวกเขา
พิธีจบการศึกษา ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างนิยมในหมู่เด็ก ๆ คนแคระ และ พวกเขาก็คิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เห็นว่า มอนสเตอร์อัลฟ่านั้นแข็งแกร่งเพียงใดจากระยะไกล
ในไม่ช้า เสียงกระทบกันของเหล็กก็ดังมาถึงหูของพวกเขา
ในพื้นที่โล่งกว้าง กลุ่มคนแคระ 6 คน กำลังต่อสู้กับ มอนสเตอร์อัลฟ่าแห่งสวนฟิกาโร ที่รู้จักกันในชื่อ ตั๊กแตนตาแดง
เพียงแค่มองแวบเดียว ลุกซ์ ก็บอกได้ว่ากลุ่มคนแคระเหล่านี้ได้เปรียบในการต่อสู้
“น่าทึ่งมาก” ลุกซ์ พึมพัมออกมา “การทำงานเป็นทีมของพวกเขาน่าทึ่งอย่างแท้จริง”
ลุกซ์ มองดู นักรบโล่,นักดาบ และ มือหอกอย่างตื่นตะลึง พวกเขาผลัดกันป้องกันการโจมตีของ ตั๊กแตนตาแดง เพื่อไม่ให้โจมตีนักสู้ด้านหลังของพวกเขา
ที่ด้านหลัง นักเวทย์ 2 คน ได้ร่ายคาถา และ ผนึกการเคลื่อนไหวของมันเอาไว้ ในขณะที่ นักบวช ได้ร่ายการรักษาเพื่อฟื้นฟูค่าพลังชีวิตของทุกคนในปาร์ตี้
เมื่อใดก็ตามที่ ตั๊กแตนตาแดง เปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีนักเวทย์ นักรบโล่ ก็จะใช้สกิล ยั่วยุ เพื่อบังคับให้มอนสเตอร์ดึงความสนใจมาที่ตัวเอง
เมื่อพวกเขาหันเหความสนใจมาได้สำเร็จ นักดาบและมือหอกก็จะปล่อยพลังโจมตีใส่มอนสเตอร์อัลฟ่าจนทำให้มันส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
_____
<ตั๊กแตนตาแดง>
- สิ่งมีชีวิตระดับสูงแห่งสวนฟิกาโร
- มอนสเตอร์อัลฟ่า ระดับ 2
พลังชีวิต : 8,560/40,000
มานา : 2,250/10,000
ความแข็งแกร่ง : 100
สติปัญญา : 50
ความอึด : 100
ความเร็ว : 150
ความคล่องตัว : 100
สกิล : ฟาดฟันด้วยความโกรธ,สายลมกรรโชก,บ้าดีเดือด
_____
หลังจากค่าพลังชีวิตของตั๊กแตนตาแดงลดลงถึงครึ่งหนึ่ง สีของร่างกายของมันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที สิ่งนี้ได้ส่งสัญญาณถึงการเริ่มต้นของช่วงบ้าดีเดือด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดสำหรับพวกคนแคระที่กำลังเผชิญหน้ากับมันด้วยการทำงานเป็นทีมที่น่าทึ่งของพวกเขา
คนแคระที่เฝ้ามองจากระยะไกล กำ กำปั้นด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่คือจุดเปลี่ยนของการต่อสู้ พวกเขาทุกคนรู้สึกได้ถึงเลือดที่เดือดพล่านในขณะที่พวกเขาเฝ้าดูการแสดงอันน่าทึ่งของพวกเขา
ในขณะที่ การต่อสู้ระหว่าง ตั๊กแตนตาแดง และ กลุ่มคนแคระ กำลังดำเนินการต่อไป เสียงหึ่ง ๆ ก็ดังมาถึงหูของทุกคน
คนแคระทั้งหมดในบริเวณนี้ตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว เพราะเสียงนี้คุ้นเคยเป็นอย่างมาก ใครก็ตามที่เคยสำรวจสวนฟิกาโรเป็นเวลานานจะคุ้นเคยกับเสียงนี้้เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นสัญญาณว่าเป็น ยุงแถบแดง ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
“ทุกคนรีบถอยไปทางทิศใต้เร็วเข้า!!” นักดาบของกลุ่มคนแคระที่กำลังเผชิญหน้ากับ ตั๊กแตนตาแดง ตะโกนออกมาด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนก เขาเป็นหัวหน้าปาร์ตี้ และ รู้ดีกว่าใครว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขาร้ายแรงเพียงใด
หลังจากออกคำสั่ง ปาร์ตี้ของเขาก็หยุดต่อสู้กับตั๊กแตนตาแดงทันทีและรีบล่าถอย อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์อัลฟ่าที่ติดสถานะบ้าดีเดือด ไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยให้พวกเขาหนีไปง่าย ๆ
คนแคระคนอื่น ๆ ที่เฝ้าดูการต่อสู้นี้ก็วิ่งหนีราวกับพวกเขากำลังวิ่งหนีไฟป่า กลุ่มของ ลุกซ์ และ โคเล็ตต์ ก็อยู่ท่ามกลางของพวกเขา และ สีหน้าของทุกคนก็กลายเป็นเคร่งขรึม
ขณะที่พวกเขากำลังวิ่งหนีอย่างเร่งรีบ ลุกซ์ ก็เหลือบไปข้างหลังและเห็นเมฆดำทะมึนกำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา เสียงของปีกหึ่งเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อยุงแถบแดงเข้ามากใกล้
ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ไม่สงสัยเลยว่า หากมีสิ่งมีชีวิตใดโชคร้ายพอและตกลงไปในฝูงของพวกยุง ชะตากรรมเดียวที่รอพวกเขาอยู่ก็คือ การกลายเป็นเปลือกแห้งที่ถูกดูดเลือดออกไปจากร่างกายจนหมด