Chapter 190: Gene toxin one
基因毒素一
ซูเห่าบอกได้,มนุษย์กลายพันธ์ทั้งเมืองหลินหยวนตายไปหมดแล้ว.
รวมถึงจักรพรรดิต้นกำเนิดด้วย,เดิมที่เขาสัมผัสบอกได้ว่ามีกลิ่นอายของจักรพรรดิต้นกำเนิดกระจายอยู่ทุกแห่ง,เวลานี้กับหายไปจนหมด.
“กระทั่งจักรพรรดิต้นกำเนิด,ยังถูกสังหารง่าย ๆ,นี่บุตรแห่งฆาตกรรมมีทักษะสังหารที่ร้ายกาจมาก.”
ซูเห่าอดไม่ได้ที่จะหายใจหอบ,เขาเห็นความสามารถของจักรพรรดิต้นกำเนิดหยวนมาก่อน,สามารถแบ่งแยกร่างกายออกไป,แยกชีวิตของตัวเองไปทั่ว,ผสานเข้ากับร่างของคนอื่น,เป็นความสามารถที่แข็งแกร่งมาก.
กล่าวได้ว่าความสามารถดังกล่าวนี้เหมือนกับปรสิตที่กลืนกินสิ่งมีชีวิต แล้วควบคุมเป็นหุ่นเชิด.
แน่นอน,ปรสิตบนร่างของผู้คนมากมาย,ไม่รู้ว่า ร่างใหนคือร่างต้นของจักรพรรดิต้นกำเนิด,ทว่าเมื่อรู้ว่าร่างใหนเป็นจักรพรรดิต้นกำเนิดก็ถูกกลืนกินไปซะแล้ว.
นอกจากนี้ร่างที่ถูกปรสิตจักรพรรดิต้นกำเนิดครอบครองถึงถูกทำลายไป,จักรพรรดิต้นกำเนิดก็ไม่ตาย.
แม้แต่ซูเห่าก็ยังไม่อาจหาร่างต้นของจักรพรรดิต้นกำเนิดได้,มีเพียงแค่ต้องกำจัดร่างปรสิตทั้งหมดไปพร้อม ๆ กันเท่านั้น.
ซูเห่าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่,ไม่กล้าที่จะเข้าไปในเมืองเช่นกัน,นี่คือเมืองที่เป็นภัยต่อมนุษย์กลายพันธ์.
เมืองนี้กลายเป็นสิ่งลึกลับที่ซูเห่าไม่รู้,เมื่อไม่รู้,จึงยิ่งน่าหวาดกลัวที่สุด.
เขาไม่อาจบอกได้ว่าบุตรแห่งฆาตกรรมนั้นได้ใช้วิธีอะไรสังหารมนุษย์กลายพันธ์,ซูเห่าก็ไม่มีแผนที่จะเข้าไปในเมือง,จึงปล่อยบุตรแห่งฆาตกรรมไปก่อน.
“ก่อนอื่นลองใช้แปลงเพชร ย้ายศพคนที่ตายมาที่นี่,ศึกษาให้ระเอียดก่อน,ระบุว่าพวกเขาตายอย่างไร,ค่อยตัดสินใจอีกครั้ง.”
ซูเห่าที่ควบคุมจิงซีปล่อยเซลล์ไหลลงสู่พื้นดิน,เปลี่ยนเป็นเกราะเพชร,ก่อนที่จะขยายเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว,ค้นหาร่างของมนุษย์กลายพันธ์สักคน.
เรดาร์ของซูเห่าไม่อาจสัมผัสถึงสิ่งที่มีชีวิตได้,ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าใหนคือศพของมนุษย์กลายพันธ์.
อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา,เขาใช้หลักการแสงสะท้อน,สร้างกระจกเล็ก ๆ,สะท้อนแสงไปมา,จากนั้นก็จ้องมองผ่านช่องค้นหาเป้าหมาย.
กระจกนี้ไม่ใหญ่หนัก,ทว่าสามารถมองเห็นศพได้ 1-2 ศพซึ่งก็มากเกินพอ.
ไม่นานเขาก็พบกับเป้าหมาย,นอนอยู่บนเตียง,เหมือนกับกำลังนอนหลับ,ไม่หายใจแล้ว,ใบหน้าที่เขียวช้ำผิดปรกติ,ดูผิวเผินเหมือนกับกำลังหลับลึกจริง ๆ.
ทันใดนั้นเกราะเพชรที่กางออกม้วนศพดึงลงพื้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย,จากนั้นพื้นก็คืนกลับสู่สภาพเดิม.
ซูเห่าใช้วิธีการดังกล่าวเคลื่อนย้ายศพมาห้าศพ,เวลานี้นอนเรียงรายกันด้านหน้าเขา,เขาเฝ้ามองศพด้านหน้าอย่างระเอียด.
ไม่มีรอยแผล,ไม่มีร่องรอยการต่อสู้,เหมือนกับถูกวางยาพิษที่ทำให้หลับลึกและตายไปแบบสบาย ๆ.
ซูเห่ายังไม่เริ่มตรวจสอบทันที,ทว่าค้นหาพื้นที่ลาดชันแห่งหนึ่ง,ก่อนนำศพเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ดังกล่าว.
ที่นั่นมีกำแพงศิลา,เขาสร้างถ้ำและเปลี่ยนพื้นที่ด้านในเป็นห้อง,สร้างเตียงศิลาขึ้นมา เป็นห้องทดลองเฉพาะกิจ,มีรูระบายอากาศด้านบนแล้วปิดทางเข้าถ้ำเอาไว้.
ซูเห่าเริ่มทำการวิจัย,ในห้องทดลองชั่วคราว,ทำให้เขาสามารถทดลองได้อย่างสบายใจ,ไม่ต้องการให้ใครมารบกวน.
ส่วนบุตรแห่งฆาตกรรม,ซูเห่าได้ประเมินความเร็วอีกฝ่ายไว้แล้ว,จำเป็นต้องใช้เวลาพักหนึ่ง,ถึงจะออกนอกรัศมีเรดาร์ของเขา,ไม่มีความกังวลว่าอีกฝ่ายจะหนีหาย.
ซูเห่ายื่นมือออกไป,ใช้มีดขนาดเล็กเปิดชำแหละ“ให้ข้าดูสิ,ว่าพวกเจ้าตายได้อย่างไร!”
......
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น,ซูเห่าก็ออกจากพื้นที่พินบอลพร้อมกับเผยยิ้ม,เขาได้พบวิธีที่บุตรแห่งฆาตกรรมใช้สังหารมนุษย์กลายพันธ์แล้ว.
นี่เป็นวิธีการที่น่าพรั่นพรึงมาก,หากซูเห่าพลาดไม่ระมัดระวังเองก็คงตกตายอย่างแน่นอน.
ซูเห่าได้ผ่าศพทั้งห้าแล้ว,พบว่าอวัยวะภายในนั้นสมบูรณ์ไม่มีสิ่งใดเสียหาย.
อย่างไรก็ตามหลังจากตรวจสอบระดับเซลล์,เขาพบว่า DNA ทั้งหมดพังทลายเสียหายอย่างหนัก,ทุกเซลล์สูญเสียพลังชีวิตไปโดยสมบูรณ์,ไม่มีเซลล์ใหนที่ยังคงเหลือพลังชีวิต
กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,ถึงจะมีคนกินเนื้อของมนุษย์กลายพันธ์เหล่านี้ไปก็ไม่อาจกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ได้.
ไม่เพียงแค่ไม่วิวัฒนาการยังสังหารมนุษย์กลายพันธ์คนอื่นด้วยเป็นการทำลายไปถึงรากฐานยีนเลย!“ร้ายกาจจริง ๆ! นี่คือการโจมตีในระดับโมเลกุล,ใครจะทนได้?”ซูเห่าที่เอ่ยชื่นชม.
ตามที่เขาคาดการณ์ พิษของบุตรแห่งฆาตกรรมนั้นไร้สีไร้กลิ่น,มันสามารถกระจายไปทั้งเมืองภายในคืนเดียว,จากนั้นก็สังหารมนุษย์กลายพันธ์ทั้งหมดโดยที่ไม่มีใครรู้.
พิษนี้ซูเห่าเรียกมันว่า“พิษยีนหมายเลข 1” มันเป็นพิษที่สังหารเพียงมนุษย์กลายพันธ์เท่านั้น.
ถึงจะมีมนุษย์กลายพันธ์ที่มีปราสาทสัมพันธ์คมกริบ,ทว่าก็ไม่มีเวลาตอบสนอง.
กล่าวได้ว่าพิษยีนหมายเลข 1 นี้,ไม่เป็นพิษภัยต่อคนทั่วไป,มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสังหารมนุษย์กลายพันธ์โดยเฉพาะ.
ทำไมพิษยีนหมายเลขหนึ่งปกคลุมเมือง,แล้วคนธรรมดาไม่เป็นอะไรเลย.
เรื่องนี้เหมือนกับที่ซูเห่าควบคุมแคส9 ให้ตัดชิ้นส่วนยีนอย่างแม่นยำ,พิษยีนของบุตรแห่งฆาตกรรมเองก็มีผลต่อยีนของมนุษย์กลายพันธ์เป็นการเฉพาะเช่นกัน,เป็นการสังหารที่แม่นยำไม่ผิดตัวแม้แต่น้อย.
บางทีบุตรแห่งฆาตกรรมคงไม่รู้เกี่ยวกับหลักการใด ๆ ทว่าเขาก็สามารถสร้างพิษที่พิเศษนี้ขึ้นมาได้.
อย่างไรก็ตามซูเห่าไม่อาจประเมินฝ่ายตรงข้ามต่ำเช่นกัน,หนำซ้ำยังเพิ่มความระมัดระวังอีกด้วย.
ซูเห่าที่ครุ่นคิดซ้ำไปซ้ำมา
บุตรแห่งฆาตกรรม,ในมุมมองของซูเห่าแล้วไม่ธรรมดา,ฝ่ายตรงข้ามสามารถสังหารมนุษย์กลายพันธ์ทั้งหมดได้อย่างแม่นยำ,และยังลงมือได้อย่างราบคาบเปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์.
กล่าวได้ว่า กว่าจะมาถึงวันนี้เขาได้ศึกษามนุษย์กลายพันธ์ลำดับอื่น ๆ และค้นคว้าวิจัยพัฒนาพิษยีนหมายเลขหนึ่งนี้มานานแล้ว.
คนที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้,ซูเห่าคิดถึงไกลี่.
กล่าวตามจริงเขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นมนุษย์ทำนายเหมือนกับไก่ลี่.
ไกลี่เอ่ยว่าศาสดาพยากรนั้น,มีความสามารถสองอย่าง,หนึ่งคือ“รับมา” และ “วิเคราะห์” ทว่าจากมุมมองของซูเห่า มีความเป็นไปได้ว่ามนุษย์ทำนาย,หรือศาสดาพยากรอาจจะมีความสามารถในการวิเคราะห์และจำลองด้วยก็ได้.
นี่คือความสามารถที่เหนือล้ำเกินจินตนาการจริง ๆ.
ที่น่ากลัวที่สุดลำดับมนุษย์ทำนายนั้นไม่เป็นปฏิปักษ์กับมนุษย์กลายพันธ์ลำดับอื่น ๆ,กล่าวได้ว่า,บุตรแห่งฆาตกรรม,ไม่เพียงมีลำดับพิษ,แต่เขายังเป็นศาสดาพยากรด้วย.
ด้วยความสามารถของศาสดาพยากรและบุตรแห่งฆาตกรรม,ทำให้สามารถพัฒนาพิษที่สามารถสังหารมนุษย์กลายพันธ์โดยเฉพาะ.
ต่อหน้าศัตรูเช่นนี้,ซูเห่าบอกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีพลังเกินจินตนาการมาก,ไม่อาจดูแคลนได้ง่าย ๆ.
อย่างไรก็ตามซูเห่าก็ยังมีความมั่นใจ,ถึงฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่ง,เขาก็ยังสามารถชนะได้.
โดยเฉพาะ,เขาพบกับบุตรแห่งฆาตกรรมก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัว,เวลานี้สามารถคิดหาวิธีลงมือสังหารบุตรแห่งฆาตกรรมได้มากมายหลายวิธี,โดยที่อีกฝ่ายยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าถูกหมายหัวอยู่.
การต่อสู้นี้,ซูเห่าได้เปรียบ.
ซูเห่าก้าวออกจากถ้ำ,พร้อมกับฝังศพทั้งห้าไปด้วย,จากนั้นก็บินตรงไปยังทิศทางของบุตรแห่งชีวิต.
ในเมื่อพบปัญหาที่ต้องแก้แล้ว,รู้ความสามารถของบุตรแห่งฆาตกรรม,เขาจะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามอย่างไร?
แน่นอนว่าต้องลงมือสังหารตรง ๆ.
หากปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดรอด,ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามยังมีวิธีสังหารอื่น ๆ อีกหรือไม่,ซูเห่าอาจได้รับอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย.
เป็นอันตรายที่คุกคามถึงชีวิตของเขา.
......
อีกฝั่งหนึ่ง,บุตรแห่งฆาตกรรม,ที่เดินอย่างมั่นใจ,แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา,บางครั้งก็เผยความคาดหวังแผ่ออกมา.
เขาที่นึกย้อนกลับไปถึงเครื่องทอผ้าจากเมืองซือหลิน,แม้แต่เผยความประทับใจออกมา.
เขาเอ่ยพึมพำ“เมืองซือหลิน? ที่จริงเป็นใครกันที่สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา,ข้าต้องการความเห็นจากเขาจริง ๆ!”
สำหรับคนที่สร้างเครื่องทอผ้าขึ้นมาได้นั้น,ในสมองของบุตรแห่งฆาตกรรมไม่มีทางที่จะคิดว่าเป็นมนุษย์กลายพันธ์ได้เลย.
พวกมนุษย์กลายพันธ์,สมองที่มีแต่กินเนื้อคนอื่นเพื่อเพิ่มพลัง,จะไปมีสมองที่ชาญฉลาดเช่นนี้ได้อย่างไร?
ใช่แล้ว,เขามีอคติกับมนุษย์กลายพันธ์เป็นอย่างมาก,ในความเห็นของเขามนุษย์กลายพันธ์คือมะเร็งร้ายที่รู้จักแต่ทำลาย,จำต้องสังหารให้สิ้นเท่านั้น!