ตอนที่แล้วChapter 187 Comprehension unique skill ‚licks’
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 189 Disaster and Change

Chapter 188 【Ominous child】 United path


【凶子】戮的轨迹

ซูเห่าที่กลายเป็นบุตรแห่งชีวิต,สวมเกราะเพชรที่เงางามสลักด้วยอักขระรูนมากมาย,ปีกทั้งสองข้างที่ยืดออกสะบัด,ใต้เท้าเกิดระเบิดปะทุ,ส่งร่างลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า,บินมุ่งตรงสู่เมืองอันเหลียง.

ไม่ว่าจะเป็นบุตรแห่งฆาตกรรม,ตอนนี้จะยังอยู่ในเมืองอันเหลียงหรือไม่,ทว่าเมื่อไปที่เมืองอันเหลียงแล้วจะต้องได้รับข้อมูลอะไรมาบ้างแน่.

ซูเห่าที่เร่งรีบต้องการจัดการบุตรแห่งฆาตกรรมมีสองเหตุผล.

อย่างแรก,เพราะอีกฝ่ายไล่ล่าสังหารมนุษย์กลายพันธ์,ส่วนซูเห่าเวลานี้กลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์,สักวันอีกฝ่ายต้องมาสังหารเขาแน่.

ซูเห่าไม่ชอบคนที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด,แล้วลอบกัดเขา,ไม่ว่าอย่างไรมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ,สัมผัสได้ถึงความไม่ปลอดภัยจนไม่เป็นอันพักผ่อน.

ในเมื่ออีกฝ่ายต้องมาหาเขาแน่ในอนาคต,ทำไมไม่จัดการก่อนเวลาไปเลยล่ะ? ปัญหาที่จะมีในอนาคตก็จะไม่มีต่อไป,กำจัดไปที่ต้นตอขุดลากถอนโคน,เขาจะได้มีสมาธิในการทำเรื่องของตัวเอง,ไม่ต้องคิด ไม่ต้องระวังรอคอยว่าอีกฝ่ายจะมาหาเมื่อไหร่.

ในเมื่อเรื่องนี้ไม่อาจหวนคืนกลับมาได้,เพื่อไม่ให้เสียสมาธิ,ไม่รู้ว่าจะมีอะไรจะเกิดขึ้น,ร้ายแรงแค่ใหน,เพียงแค่ออกไปจัดการ,น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด.

เหตุผลที่สอง,เพราะบุตรแห่งฆาตกรรมราวกับว่ามีทักษะในการสังหารมนุษย์กลายพันธ์เงียบ ๆ,เหมือนกับบุตรแห่งชีวิตซิวที่มีทักษะ“เสื่อมสภาพ” ที่ร้ายกาจ,บุตรแห่งฆาตกรรมเองก็ควรจะมีทักษะที่ร้ายกาจคุกคามเขาได้เช่นกัน.

ความอันตรายนี้คุกคามซูเห่า,ยิ่งทักษะที่เขายังไม่รู้ ยิ่งเป็นอันตราย,ซึ่งหมายความว่ายิ่งใครเป็นคนเริ่มก่อนก็จะยิ่งเป็นฝ่ายได้เปรียบ.

หากบุตรแห่งชีวิตลอบเข้ามาในเมืองซือหลิน,ลงมือก่อน,ด้วยความสามารถของอีกฝ่าย,ซูเห่าไม่มีทางที่จะต้านรับได้ทันที,กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,มีโอกาสที่เขามีโอกาสตายเป็นอย่างมาก.

ในเวลาเดีวกัน,หากซูเห่าพบกับบุตรแห่งฆาตกรรมล่วงหน้า,ซูเห่าก็จะมีโอกาสที่เหนือกว่า,มีวิธีนับไม่ถ้วนในการสังหารบุตรแห่งฆาตกรรม.

สรุปแล้ว,ซูเห่าวางแผนที่จะลงมือโจตีก่อน,แม้นว่าจะรู้ว่าเสี่ยง,ทว่าความเสี่ยงนั้นน้อยกว่าการถูกลอบโจมตีด้านหลัง.

เพราะเขารู้ดี,บางสิ่ง,ถึงอยากซ่อนก็ไม่อาจซ่อนได้,โจมตีตรง ๆ ไปเลย,เพื่อควบคุมความเสี่ยง,สลายปัญหาทั้งหมดให้จบสิ้นไป.

......

ในหุบเขาแห่งหนึ่ง,บุรุษมีหนวดคนหนึ่งที่กำลังจูงมือลากร่างของสตรีผู้งดงามผู้หนึ่งหนีออกมาอย่างรีบเร่ง.

“พี่ใหญ่อู๋,ท่านช้าหน่อยได้ใหม,พวกเราพักสักหน่อยได้ใหม?”สตรีคนดังกล่าวที่เหนื่อยล้าหายใจหอบเอ่ยอย่างเหนื่อยล้าออกมา.

พี่ใหญ่อู๋ที่กุมมือสตรีคนดังกล่าว,พร้อมกับชะลอลงเล็กน้อย“ไม่ได้!”

สตรีคนดังกล่าวที่หายใจหอบ,สะบัดมือจากอีกฝ่าย,“พี่ใหญ่อู๋,ข้าต้องการพัก,ท่านไปคนเดียวเลย!”

พี่ใหญ่อู๋ที่หยุด,ก่อนที่จะหายใจหอบเช่นกัน,จ้องมองไปยังหญิงสาว“เสี่ยวต้านอดทนอีกหน่อย! พวกเราใกล้ถึงที่หมายแล้ว,ไม่เช่นนั้นพวกเราอาจถูกบุตรแห่งความฆาตกรรมสังหารเป็นแน่.”

เสี่ยวต้านต้านได้ยินชื่อบุตรแห่งฆาตกรรม,ก็ใบหน้ากลายเป็นสีขาว,เอ่ยด้วยท่าทางลังเล“ทว่าพวกเราหนีมาไกลแล้ว,บุตรแห่งฆาตกรรมจะตามมาได้อย่างไร,ข้าเพียงต้องการพักชั่วครู่!”

พี่ใหญ่อู๋ที่ยกมือขึ้นลูบศีรษะเสี่ยวต้าน“เสี่ยวต้าน,พวกเราต้องระมัดระวัง,เจ้านึกถึงมนุษย์กลายพันธ์ทั้งเมืองที่ตกตายได้ใหม,ข้าเพียงแค่ต้องการหนีไปให้ไกล,หนีจากปิศาจร้ายนั่น!”

เสี่ยวต้านที่ใบหน้าซีดขาว,พยักหน้า,ส่ายหน้า“แต่ว่า,พวกเราไม่อาจหนีได้ตลอด,พวกเราต้องหนีไปถึงเมื่อไหร่?”

พี่ใหญ่อู๋ที่วิเคราะห์อย่างระมัดระวัง เอ่ยออกมาว่า”เสี่ยวต้านเจ้าฟังข้า,ครั้งแรกที่เราได้ยินชื่อเสียงของบุตรแห่งฆาตกรรมในเมืองอันเหลียง,มนุษย์กลายพันธ์ในเมืองอันเหลียงก็เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว,จากนั้นเราก็หนีออกมา,เมื่อเราไปถึงเมืองหินบด,ก็พบว่ามนุษย์กลายพันธ์เมืองหินบดตายกันหมดแล้ว,สองสามวันมานี้พวกเราโชคดีเป็นอย่างมากที่รอดมาได้

ดังนั้น,บุตรแห่งฆาตกรรมจะต้องอยู่ไม่ไกลจากพวกเราอย่างแน่นอน.

ข้าได้สอบถามข่าวไปรอบ ๆ มาแล้ว,ยืนยันมาว่าเมืองเหล่าหยูไม่มีปัญหา,พวกเราหนีไปที่นั่น,อย่างไรก็ตามไม่คาดคิดว่ามนุษย์กลายพันธ์เมืองเหล่าหยูก็ตายกันหมดแล้ว,พวกเราไปหลายเมืองแล้ว,ไม่มีเมืองใหนที่รอด,มนุษย์กลายพันธ์ทั้งหมดล้วนแต่ตกตาย.

พวกเราไปที่ใหน,ที่นั่นมนุษย์กลายพันธ์ตายไปหมด,หากไม่ใช่เพราะว่าพวกเรารู้ตัวเองดี,ข้าคงสงสัยว่าพวกเราสองคนอาจเป็นพวกเดียวกับบุตรแห่งฆาตกรรมไปแล้ว“พี่ใหญ่อู๋ที่เผยแววตาเปี่ยมล้นด้วยปัญญา”ดังนั้นเสี่ยวต้าน,ข้าคาดเดาว่าบุตรแห่งฆาตกรรมคงอยู่ใกล้ ๆ พวกเรา! พวกเราจึงต้องหนีให้เร็วที่สุด,หนีไปให้ห่างจากเขา,ไม่เช่นนั้นพวกเราอาจตายได้,ข้าไม่ต้องการให้เจ้าตายตั้งแต่ยังเด็ก,เจ้ายังมีอนาคตที่สดใสรออยู่! ดังนั้นเสี่ยวต้าน,เจ้าต้องฟังข้า!”

ใบหน้าของเสี่ยวต้านที่เต็มไปด้วยความชื่นชม,เอ่ยออกมาว่า“พี่ใหญ่อู๋,ท่านร้ายกาจจริง ๆ!”

พี่ใหญ่อู๋ที่เผยยิ้ม“เจ้าเหมือนกัน!”

เสี่ยวต้านคาดเดา“พี่ใหญ่อู๋,ท่านกำลังจะบอกว่าบุตรแห่งฆาตกรรม กำลังไล่ตามพวกเราอย่างงั้นรึ? ท่านกำลังขู่ข้าหรือไม่?”

พี่ใหญ่อู๋เอ่ยออกมาว่า“เจ้าวางใจได้พวกเราเป็นเพียงมนุษย์กลายพันธ์ขั้นสาม,ด้วยระดับของบุตรแห่งฆาตกรรม,ไม่สนใจเหลือบแลพวกเราหรอก.”

เสี่ยวต้านพยักหน้ารับ“พี่ใหญ่อู๋ข้าฟังท่าน,แล้วพวกเราจะไปที่ใหนกันดี?”

พี่ใหญ่อู๋เอ่ยอย่างมั่นใจ”จากนี้พวกเราจะไปยังเมืองหลินหยวน,ข้าได้สืบมาแล้ว,เมืองหลินหยวนเพิ่งเกิดการต่อสู้ใหญ่,เมืองเสียหายไปมากกว่าครึ่ง,บุตรแห่งฆาตกรรมคงไม่สนใจไปเมืองหลินหยวนเป็นแน่,ขอเพียงเราไปถึงเมืองหลินหยวน,พวกเราก็จะปลอดภัย.

จากนั้นเขาก็เอ่ยอย่างอ่อนโยน“เสี่ยวต้าน,เชื่อพี่ใหญ่อู๋! ไปถึงที่นั่น,พวกเราจะสร้างบ้านสร้างครอบครัว,แล้วมีบุตรกัน!”

เสี้ยวต้านที่เอ่ยอย่างเขินอาย“ตกลง!”

พี่ใหญ่อู๋ที่จูงมือเสี่ยวต้านวิ่งต่อไป“วิ่ง!”

เสี่ยวต้านที่ไม่ขัดขืนอีกต่อไป,ปล่อยให้พี่ใหญ่อู๋จูงมือวิ่งหายไป.

......

ขณะซูเห่าออกจากห้องทดลอง,ที่เมืองหลินหยวนก็มีแขกที่คาดไม่ถึงแวะมา.

แขกคนนี้สวมชุดคลุมสีดำ,สวมหน้ากากไม่อาจมองเห็นใบหน้า,เห็นเพียงดวงตาที่เย็นชา,ไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ.

ร่างกายของเขาที่แผ่กลิ่นอายไร้ชีวิตออกมา,เพราะผู้คนในเมืองหลินหยวนกำลังสร้างเมืองขึ้นใหม่,จึงไม่มีใครสนใจเขาแต่อย่างใด.

คนผู้นี้ก็คือบุตรแห่งฆาตกรรมลู่

นับตั้งแต่จักรพรรดิปฐพีตงหลานและจักรพรรดิหมอกเป่ยเป่ยได้รุกรานเมืองแห่งนี้จนพังทลาย,ก็ผ่านมานานแล้ว,เมืองหลินหยวนที่เริ่มฟื้นฟูกลับมากลับมามีชีวิตชีวิตขึ้นเล็กน้อย,ทว่าก็ยังไม่อาจปกปิดความจริงที่ว่ามันได้พังทลายลงอย่างหนัก.

บุตรแห่งฆาตกรรมที่เหยียบไปบนสิ่งก่อสร้างที่พังทลายทีละก้าว ๆ,โดยไร้ซึ่งจุดหมายก้าวเข้าไปในเมือง.

บุตรแห่งฆาตกรรมลู่ไม่รู้ทำไมถึงได้เดินทางมายังเมืองแห่งนี้,ราวกับว่าเขาไร้ซึ่งจุดหมายในการเดินทางใด ๆ.

อย่างไรก็ตามสำหรับเขามันไม่สำคัญ,เลย,ถึงเขาจะไม่มาที่เมืองนี้วันนี้,ในอนาคตสักวันเขาก็ต้องมาอยู่ดี.

เขามีเป้าหมายที่จะไปยังเมืองทุกเมือง,ชำระล้างทุกเมืองให้สะอาด,กำจัดเหล่าแมลงหนูหายนะของโลกนี้ให้เกลี้ยง,ทำให้โลกนี้สะอาด.

แม้นว่าเขาจะเป็นมนุษย์กลายพันธ์,ทว่าเขากับดูแคลนมนุษย์กลายพันธ์มาก,ต้องการให้มนุษย์กลายพันธ์ทั้งหมดตกตายให้หมด.

นานมาแล้ว,สมาชิกในครอบครัวของเขาที่ตกตายไปกันหมด,เพราะมนุษย์กลายพันธ์,เขาเป็นพยานเห็นญาติสนิทที่พ่ายแพ้ในการต่อสู้,ถูกกัดแทะกินเนื้อจนเหลือแต่กระดูก.

เมื่อเขาอยู่ตัวคนเดียว,เขาเต็มไปด้วยความสับสน,ไม่รู้ต้องทำอะไร,ไม่รู้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพื่ออะไร.

เขาที่ใช้เวลาอยู่นาน,คิดถึงเหตุผลของการมีชีวิต.

จากนั้นเขาก็เริ่มมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้น.

เขาเชื่อว่า,โลกนี้ไม่ควรมีมนุษย์กลายพันธ์.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด