ตอนที่แล้วChapter 186 Evolution
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 188 【Ominous child】 United path

Chapter 187 Comprehension unique skill ‚licks’


领悟绝技‘舔’

หยาซานที่เพิ่งเป็นจักรพรรดิปฐพีไม่นาน,ทว่าก็สามารถวิวัฒนาการเป็นบุตรแห่งชีวิตได้อย่างราบรื่นอีกเช่นกัน,นอกจากซูเห่าแล้ว,กล่าวได้ว่าเขาคือคนที่วิวัฒนาการเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์อีกคน.

จนกระทั่งถึงตอนนี้,หยาซานเริ่มคิดอย่างเป็นจริงเป็นจัง,จะเปลี่ยนโลกนี้อย่างไร.

ซูเห่าสามารถมองเห็นหยาซานที่เปลี่ยนไปได้,ความมั่นใจของอีกฝ่ายที่มากมายอย่างไม่เคยมีมาก่อน,แม้แต่มีความคิดที่จะเปลี่ยนโลกนี้ด้วยตัวเอง.

หลังจากที่หยาซานวิวัฒนาการสำเร็จ,หยาซานสามารถควบคุมความแข็งแกร่งได้แล้ว,ก็อดไม่ได้ที่จะเผยความตื่นเต้นออกมา,เขาเอ่ยออกมาว่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ข้าเป็นบุตรแห่งชีวิตแล้วรึ? หลังจากนี้ยังสามารถวิวัฒนาการต่อไปได้อีกใหม?”

ใครจะรู้ซูเห่ากับพยักหน้าอย่างจริงจัง“ตามทฤษฎีสามารถวิวัฒนาการขึ้นไปได้,ทว่าไม่มีใครรู้ว่าวิวัฒนาการแล้วจะเป็นเช่นไร,หากเจ้าสนใจ,สามารถทดลองได้,ข้าจะช่วยเจ้าทดลองเอง,ข้าเองก็สนใจเหมือนกัน!”

หยาซานโบกมือไปมา,ส่ายหน้าเอ่ยออกมาทันที“พี่ใหญ่เหว่ย,ข้าไม่สงสัยแล้ว,ตอนนี้เป็นบุตรแห่งชีวิตสักพักก็ดี อิ อิ อิ อิ!”

หยาซานยอมรับว่าตัวเองวิวัฒนาการเป็นบุตรแห่งชีวิตเสร็จแล้ว,เขาเริ่มสงสัยในชีวิต,โลกใบนี้,มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป.

ด้วยการเป็นหัวหน้าพ่อครัวให้กับพี่ใหญ่เหว่ย,ทำให้เขาวิวัฒนาการเป็นมนุษย์กลายพันธ์ขั้นสูงสุดได้สำเร็จอย่างงั้นรึ?

มนุษย์กลายพันธ์คนอื่น ๆ ต้องต่อสู้สังหารผู้คนมากมายเท่าไหร่,กว่าที่พวกเขาจะได้เนื้อมาวิวัฒนาการ.

สำหรับเขาไม่ได้ต่อสู้อะไรเพียงแค่ทำอาหารให้พี่ใหญ่เหว่ยเท่านั้น.

คิดมาถึงตอนนี้,หยาซานก็เข้าใจดี,เขาตระหนักได้ถึงกฎเกณฑ์ของโลกได้.

ไม่ว่าคุณจะร้ายกาจแค่ใหน หาใช่สิ่งสำคัญ,ทักษะร้ายกาจอย่างไรทุกอย่างก็เป็นเพียงแค่พื้นฐานเท่านั้น,การที่คนผู้หนึ่งจะประสบความสำเร็จได้นั้น,จะต้องรู้จักใช้ทักษะอย่างไร,และแสดงมันออกมาที่ใหน,นี่สิคือสิ่งสำคัญ.

ยกตัวอย่างหยาซาน.

กล่าวถึงความร้ายกาจของเขาบอกเลยว่ามันไม่พอ,เขาเพียงแค่โชคดี,ได้พบเข้ากับพี่ใหญ่เหว่ย,ได้ดีประสบความสำเร็จเพราะพี่ใหญ่เหว่ยล้วน ๆ

อย่างไรก็ตามจะเอ่ยว่า,เขาเป็นแค่คนธรรมดามาก ๆ,ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว,คนที่ได้พบกับพี่ใหญ่เหว่ยนั้นมีอยู่มากมาย,ทว่าคนที่ได้รับความเชื่อใจจากพี่ใหญ่เหว่ยนั้น,กับมีเขาเพียงคนเดียว.

แม้แต่ไท่นี่เองก็ยังไม่ได้รับความไว้วางใจแต่อย่างใด.

หยาซานเข้าใจอย่างชัดเจน,ตั้งแต่ที่พี่ใหญ่เหว่ยให้เขาเป็นมนุษย์ทดลอง,ไม่เพียงแค่เขาร่วมมือแต่โดยดี,เขายังช่วยสนับสนุนงานในชีวิตประจำวันให้กับพี่ใหญ่เหว่ย,จัดการปัญหาน้อยใหญ่,ทำให้พี่ใหญ่เหว่ยเห็นประโยชน์และช่วยเหลือเขากลับมาด้วยนั่นเอง.

เวลานี้,หยาซานตระหนักได้แล้ว.

เกาะขาใหญ่เอาไว้!

ไม่,แค่นั้นยังไม่พอ,จะต้องเลีย,ประจบให้ลึกล้ำ,ทำทุกอย่างให้พี่ใหญ่เหว่ยพอใจ.

นี่คือผลสรุปที่หยาซานพอจะคิดได้.

เลี้ยงบุตรสาวมาเพื่ออะไรล่ะ? เพื่อให้ร่วมมือกับคนอื่นอย่างมีความสุข,เรื่องเล็ก ๆ น้อย เหล่านี้,ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง.

ควรจะจัดการบริหารแก๊งซือหลินอย่างไร? แน่นอนว่าต้องสร้างโครงสร้างที่แข็งแกร่ง,เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ,อยู่เลียประจบพี่ใหญ่เหว่ยอย่างสบายต่างหาก,เข้าไปช่วยบ้างเป็นครั้งคราว,แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องทำงานด้วยความจริงจังอยู่แล้ว.

ทำไมต้องให้พวกมนุษย์กลายพันธ์ท่องจรรยาบรรณมนุษย์กลายพันธ์? นั่นก็เพื่อให้เขาตระหนักว่ามีคนกำลังเฝ้ามองพวกเขาอยู่,หากไม่ทำตาม พวกเขาจะต้องพบกับสิ่งที่น่ากลัว,ทำให้พวกเขารู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป.

ส่วนปัญหาที่ใหญ่ที่สุด,จะเปลี่ยนโลกนี้อย่างไร?

แววตาของหยาซานที่เป็นประกาย,ราวกับพบกับแสงแห่งปัญญา.

ก็ให้ทุกคนมีชีวิตที่มีความสุข,จนไม่มีใครคิดที่จะกินเนื้อวิวัฒนาการ,จากนั้นก็เปลี่ยนหลักการของโลกนี้จากเบื้องหลัง.

หยาซานที่ตัดสินใจที่จะประจบพี่ใหญ่เหว่ยสุดกำลัง,เพื่อที่จะได้รับความหวัง,ได้รับแสงที่จะเฉิดฉายไปทั่วโลก.

ดวงตาของหยาซานที่เปล่งแสงระยิบระยับ,พร้อมกับเอ่ยกับซูเห่า“พี่ใหญ่เหว่ย,คือคนที่ข้าเคารพที่สุดในโลก,ข้าหยาซานตัดสินใจแล้ว,ที่จะเผยแพร่หลักการของแก๊งซือหลินของพวกเราให้เฉิดฉายไปทั่วโลก,ส่องแสงไปทั่วทุกมุมโลก....”

ซูเห่าจ้องมองหยาซานแปลก ๆ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า“หยุด หยุดได้แล้ว,เจ้าควรพูดอะไรที่มันเป็นการเป็นงานมากกว่านี้!”

อารมณ์ที่มากล้นของหยาซาน ความฝันที่เจิดจรัสถูกหยุดเอาไว้,เขาที่กลับมาเป็นปรกติ,เผยยิ้มอย่างอักอ่วน“พี่ใหญ่เหว่ย,ขาต้องการย้ายแก๊งซือหลินไปยังเมืองฮุยหยางตามที่ท่านแนะนำ,เมื่อไปถึงที่นั่นข้าจะขยายแก๊งซือหลินให้ใหญ่.”

ซูเห่าเอ่ย“หากเจ้ามีความคิดอะไรก็ลงมือทำซะ,รีบย้ายไปให้เร็วที่สุด!”

หยาซานพยักหน้ารับ,“พี่ใหญ่เหว่ย,หลังจากข้าไปเมืองฮุยหยาง,ข้าจะสร้างรูปปั้นของท่านไว้กลางเมืองซือหยาง,เรียกว่าเทพเหว่ย,ท่านเห็นว่าอย่างไร?”

ซูเห่าที่ยกเท้าขึ้นเตะก้นอีกฝ่าย“ไปให้พ้น! เทพเหว่ยบ้าอะไร,ชื่อบ้านนอกชะมัด,ไม่สนใจ”

หยาซานที่ดวงตาเป็นประกาย,เรื่องสร้างรูปปั้นไม่ได้ปฏิเสธ,สามารถทำได้สินะ,จากนั้นเขาก็เอ่ยออกมาว่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ท่านจะย้ายไปพร้อมกับพวกเราหรือไม่?”

ซูเห่าเอ่ย“เวลานี้ข้าจะอยู่ที่นี่.”

หยาซานเอ่ยด้วยความประหลาดใจ“แล้วข้าจะเตรียมอาหารให้ท่านได้อย่างไร?”

ซูเห่าเอ่ย“เจ้าเตรียมพ่อครัวไว้ให้ข้า,ส่งอาหารมาให้ตรงตามเวลาก็พอ.”

หยาซานส่ายหน้าไปมา“ไม่ได้ ๆ,อาหารของพวกเขาจะถูกปากท่านได้อย่างไร? หากไม่มีพี่ใหญ่เหว่ยคงไม่มีข้าในวันนี้,ข้าจะบินกลับมาเตรียมอาหารให้ท่านจากเมืองฮุยหยางเอง.”

ซูเห่า“......”

สมองของหยาซานมีปัญหาหรือไม่? ดูเหมือนว่าจะวิวัฒนาการเป็นบุตรแห่งชีวิตเร็วไปหน่อย,เลยส่งผลต่อบุคลิกภาพหรือไม่?”

......

หลังจากศึกษายีนบุตรแห่งชีวิตอย่างระเอียดแล้ว,ซูเห่าก็เข้าไปในพื้นที่พินบอล,พร้อมกับตรวจสถานะร่างกายของเขา.

“อายุ 17 ปี 10 เดือน;

สถานะร่างกาย : แข็งแรง,พลังงานอิ่มตัว;

จิงซี : 800000 + ;

เผ่าพันธุ์ : จูเห่าเหริน,บุตรแห่งชีวิต;

ทักษะต่อสู้ : เท้าเคลื่อนเงา(เป็นเอกลักษณ์),ทักษะดาบ(เป็นเลิศ);

ความรู้ : โปรแกรมชีวภาพ(เป็นเอกลักษณ์),ควบคุมจิงซี(เป็นเลิศ),รูนชีวิต(เชี่ยวชาญ)  แปลงยีน(เริ่มต้น);

อารมณ์ : ยินดี;

ทักษะพิเศษ : เกินขีดจำกัด,บิน:

เป้าหมายที่ยังทำไม่สำเร็จ : ( 1 ) ควบคุมยีนรูน ( 2 )  รวบรวมยีนมนุษย์กลายพันธ์ทุกลำดับ ( 3 )เดินทางรอบโลก.

...... ”

ซูเห่าให้ความสนใจกับองค์ความรู้จากโลกนี้ก่อนจากนั้นก็เติมเต็มพัฒนาความรู้ที่สอดคล้องกับที่มีทำให้สมบูรณ์,นอกจากนี้เขายังต้องการเดินทางไปรอบโลก,ต้องการศึกษาค้นหาสิ่งที่ยังไม่เคยเห็น,ชมความงามที่แปลกประหลาดของโลกใบนี้.

เขาไปมาหลายโลกแล้ว,ทว่าแต่ละโลกไม่เปิดโอกาสให้เขาเติบโตพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้เลย,เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เขาเศร้าใจเป็นอย่างมาก.

ทุกโลกที่ไปเยือนแต่กับไม่เคยได้ออกสำรวจ,เขารู้สึกเสมอว่าเป็นการเดินทางที่ไม่สมบูรณ์.

ทว่าเมื่อมาถึงโลกนี้,ทุกอย่างก็ต่างออกไป.

จวบจนถึงเวลานี้,เขาต้องการถาม,ว่าใครสามารถทำอะไรเขาได้?

มนุษย์กลายพันธ์ขั้นเจ็ดคือตัวตนที่สูงสุดบนโลกแล้ว,ด้วยสถานการณ์เวลานี้,ไม่น่าจะมีใครเป็นภัยต่อเขา.

แม้แต่ซูเห่าคิดไม่ออกเลยว่าตัวเขานั้นจะตายอย่างไร!

จากนี้สำหรับซูเห่า,การจัดการเกี่ยวกับโครงการยีน,ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบแล้ว.

เขามีเวลามากมาย,ที่จะสะสมองค์ความรู้อันหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก,อย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน,ศึกษาความลึกลับและแปลกประหลาดของต่างโลก.

เขาต้องการออกไปสำรวจ,ค้นหาสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักและบันทึกลงบนฐานข้อมูลสิ่งมีชีวิต.

เท่าที่ซูเห่ารู้,ไม่ใช่แค่เผ่าพันธุ์จูเห่าเหรินที่มียีนพิเศษ,ทว่าในพื้นที่รกร้าง,พื้นที่อันรุนแรง,สถานที่ผู้คนไม่อาจเข้าถึง,ยังมีสัตว์ที่แปลกประหลาดอาศัยอยู่,รอคอยให้ซูเห่าไปสำรวจ.

คิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ซูเห่ารู้สึกคาดหวังขึ้นมาเหมือนกัน.

ซูเห่าถอนหายใจ“การเรียนรู้และสะสมองค์ความรู้,นี่คือเรื่องปรกติที่มนุษย์ทั่วไปควรจะเป็น! ไม่ใช่พวกจูเห่าเหรินที่ใช้ชีวิตสังหารกันและกัน เพื่อกินเนื้อ แสวงหาความแข็งแกร่ง.”

ซูเห่าที่เปิดห้องทดลองแล้วก้าวออกไป“ก่อนอื่นควรจัดการบุตรแห่งฆาตกรรมซะก่อน,ค่อยกลับมาศึกษาวิจัยอย่างสงบ,ใช้ชีวิตดั่งคนทั่วไป!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด