ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 592 ข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ (ฟรี)
(ขออภัยด้วยครับสำหรับเมื่อวาน ช่วนนี้งานมันยุ่งจริงๆ วันนี้ก็งานเยอะ รีบกลับมาแปลตอนเย็นพึ่งจะแปลเสร็จสดๆ เลยครับ ขออภัยสำหรับผู้ที่รออ่านด้วย)
ป้อมปราการแห่งนี้สูงใหญ่ และตั้งแนวกำแพงยาวออกไปหลายสิบกิโลเมตร ที่บนกำแพงมีจ้าวเหนือโบราณมากกว่าร้อยคนประจำการอยู่ และหากมองจากยอดของกำแพงออกไปจะเห็นแสงระยิบระยับของการระเบิดที่เกิดขึ้นในสนามรบ
ระดับนายพลของป้อมปราการเองก็กระจัดกระจายตัวออกไปทั่วอาณาเขต พวกเขากำลังแก้ไขสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของฝั่งจักรวรรดิเป่ยโต๋ทั้งหมด
กองทัพฝั่งจักรวรรดิเสี่ยวโห่วเองก็โจมตีอย่างหนักและเจ้าเล่ห์ไม่ใช่น้อย หากมีโอกาสก็จะชิงความได้เปรียบทุกครั้งที่ทำได้ และปั่นประสาทเทวฑูตโบราณของจักรวรรดิเป่ยโต๋อยู่หลายต่อหลายครั้ง
ซู่เสี่ยวไป่ก็คัดไปประจำกองร้อยที่ 3 ของกู่เทียน เมื่อมาถึงกองร้อยซู่เสี่ยวไป่เห็นคนเจ็บไม่ต่ำกว่า 70 คน
ทุกคนพยายามรักษาตัวเองด้วยวิชาที่มี แต่ก็แค่พอที่จะประคับประคองชีวิตไว้ได้เท่านั้น เพราะถึงจะเร่งพลังรักษาขนาดไหนก็ตามความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ไม่ได้ฟื้นกลับมาด้วย แม้บาดแผลภายนอกจะหาย แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างพลังงานศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ฟื้นตามมาด้วย
ซู่เสี่ยวไป่ช่วยดูแลคนเจ็บ และช่วยรักษาพวกเขาพอที่จะออกไปสู้รบได้อีกครั้ง
“เจ้าชื่อไป่หยินงั้นหรอ? ต่อจากนี้เจ้าเป็นคนของข้าแล้ว เจ้ามาได้เหมาะเจาะพอดี”
กู่เทียนนั้นปาดเหงื่อบนหน้าของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นเทวฑูตโบราณแต่ไม่ได้เก่งเรื่องต่อสู้ ที่เขาพอจะทำได้ดีในตอนนี้คือการรักษาเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ใช่หมอจริงๆ มันจะดีกว่านี้หากมีผู้เชี่ยวชาญหรือหมอที่แท้จริงมารักษา
แต่เป็นโชคดีของเขาที่ได้ตัวของซู่เสี่ยวไป่ เพราะซู่เสี่ยวไป่บรรลุเส้นทางมากมายและมีวิชารักษาติดตัวไม่รู้กี่พันวิชา
กองกำลังหลักยังไม่กลับมาจากสนามรบ และกู่เทียนก็ไม่สามารถออกไปรับพวกเขาได้ ทำได้เพียงแค่ส่งคนออกไปสนับสนุนเท่านั้น
ซู่เสี่ยวไป่ได้กลายเป็นแพทย์สนามของกอนหนุนทันที และกลายเป็นบ่อน้ำเล็กๆ ที่ให้เหล่าทหารได้พักพิง
เขาได้ออกติดตามกองหนุนสู่สนามรบ และมุ่งหน้าเข้าไปในเหมืองที่มืดมิด ที่รูปร่างภายในนั้นบิดเบี้ยวอย่างแปลกตา ซึ่งมันทำให้ผู้พบเห็นถึงกับขวัญผวาได้เลย
“ไป่หยิน! ข้ายูกง กับเฉินเติงจะเข้าไปสำรวจทางให้ก่อน แล้วเจ้าค่อยตามพวกข้าเข้ามา เราจะปกป้องเจ้าเอง!”
ยูกงเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มนี้แล้ว เขาเป็นราชาโบราณที่มีเส้นทางมากถึง 1,300 เส้นทาง ส่วนเฉินเติงนั้นเป็นรองยูกงเล็กน้อย และบรรลุเส้นทางประมาณพันเส้นทางได้
สองตัวตนนี้หากอยู่ด้วยกัน พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ไม่ต้องเกรงใจหน้าไหนทั้งสิ้น เว้นแต่จะเจอเข้ากับเทวฑูตโบราณเท่านั้น เพราะตัวราชาโบราณส่วนใหญ่ที่อยู่ในชายแดนมีเส้นทางเฉลี่ยที่คนละ 800 เส้นทางเท่านั้น
ซู่เสี่ยวไป่เพียงพยักหน้างึกๆ และปล่อยให้ทั้งสองนำไปก่อน
เมื่อทั้งสองเข้าไปในช่องอุโมงค์เหมืองแล้ว ไม่นานก็เกิดประกายแสง และเสียงดังของการต่อสู้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่อีกด้านหนึ่งในสนามรบที่วุ่นวายและโกลาหล
เงาของซู่เสี่ยวไป่ไล่จัดการราชาโบราณ และเก็บแหวนคลังที่นอนกองอยู่เกลือนกลาดเต็มพื้น พร้อมกับเก็บกู้เส้นทางจำนวนมาก
แม้ว่าฉากและสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามรบจะน่ากลัว แม้แต่ระดับหัวหน้านายกองทั้งหลายก็ยังไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่สักวินาทีเดียว เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ซู่เสี่ยวไป่นั้นคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้ และอาศัยความชุลมุนเข้าไปเก็บเกี่ยวโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
ตั้งแต่เขาเริ่มเก็บซากและสมบัติมานั้น เขาได้ผลึกโบราณมากกว่า 3 แสนล้าน และยังได้รับเส้นทางสู่สวรรค์เก่าแก่อีก 70 เส้นทาง
แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังลอยตามลมมา
“เจ้าผู้มาใหม่ ข้ารู้ว่าเจ้าได้ยินเสียงของผู้เฒ่าคนนี้!”
“ข้ามีนามว่าเทวฑูตต้าฮวง”
“ผู้เฒ่าเป็นหนึ่งในนายพลยุคแรกๆ ของจักรวรรดิเป่ยโต๋ แต่ข้าพลาดท่าติดกับดัก และติดอยู่ในเหมืองแห่งนี้ หากว่าเจ้ายอมช่วยผู้เฒ่าคนนี้ ผู้เฒ่าเองก็มีของตอบแทนให้ด้วยเช่นเดียวกัน”
จิตใจของซู่เสี่ยวไป่นั้นสั่นไหวขึ้นมาทันที นี้เป็นเสียงที่ผ่านสายลมมาและเข้าไปดังในจิตใจของซู่เสี่ยวไป่
สิ่งที่ซู่เสี่ยวไป่สัมผัสได้คือจิตวิญญาณนี้สูงส่งกว่าเทียนซุนหลายเท่า หากตัวตนนี้ยังมีชีวิตอยู่คงเป็นตัวตนเทวฑูตโบราณที่ทรงพลังมากๆ อย่างแน่
“ทำไมท่านถึงมาขอความช่วยเหลือจากคนอ่อนแอเช่นข้าละ ไปขอให้ผู้พิทักษ์หรือหัวหน้านายกอง หรือระดับนายพลช่วยไม่ดีกว่าหรอ”
ซู่เสี่ยวไป่ถามกลับไปทันที และเมื่อเสียงนั้นตอบกลับมาดูหนักใจอย่างแปลกๆ
“ผู้เฒ่าคนนี้ถูกผนึกเอาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของห้วงมิติกาลเวลาในเหมืองแห่งนี้ และข้าเองก็ออกไปไหนไม่ได้ มันเป็นฝีมือของเทวฑูตโบราณคนหนึ่งที่ต้องการกำจัดข้า กุญแจที่ใช้ไขตราอาคมที่ผนึกข้า มันก็ส่งต่อให้กับลูกหลานของมันดูแลเอาไว้ กันไม่ให้ข้าออกมาได้หรือไปเกิดใหม่”
“ที่ข้าเลือกเจ้าเพราะข้าดูจากการกระทำของเจ้าแล้ว มันไม่ได้เข้ากับฝ่ายใด”
“และอีกอย่างที่ตัวของเจ้าไม่มีตรรกะหรือโชคชะตาอยู่เลย เพราะงั้นมันจะไม่มีสิ่งใดที่จะตรวจสอบเจ้าได้ หากว่าเจ้าสามารถไปยังจุดที่ลึกที่สุดของเหมืองแห่งนี้ได้ และช่วยข้าออกมาข้าพร้อมจะมอบสมบัติทุกอย่างที่ข้ามีให้กับเจ้า และจะให้เจ้าเป็นผู้สืบทอดของข้าอีกด้วย!! หากเจ้ามีบุณวาสนาพอ เจ้าจะได้รับเส้นทางเก่าแก่มากกว่าพันเส้นทาง”
สิ่งที่ต้าฮวงเสนอมานั้นน่าสนใจเอามากๆ แม้แต่ซู่เสี่ยวไป่ก็ยังหลงไปกับข้อเสนอนี้
เพราะเขารู้ว่าสมบัติของเทวฑูตโบราณอย่างต่ำๆ ก็เป็นล้านล้านอยู่แล้ว
และยังมีเส้นทางสวรรค์เก่าแก่อีกพันเส้นทางมอบให้อีก หากได้รับมาทั้งหมดขอบเขตพลังของเขาจะไม่พุ่งทะยานจนกลายเป็นราชาโบราณหมื่นยุคเลยงั้นหรอ
ด้วยสองสิ่งนี้ เลยทำให้ข้อเสนอจากต้าฮวงนั้นดูหอมหวนอย่างมาก
แต่……
“ท่านผู้อาวุโส ไม่ใช่ว่าผู้น้อยคนนี้ไม่ต้องการจะช่วยเหลือท่าน แต่ข้าน้อยนั้นด้อยความสามารถไม่อาจจะช่วยท่านได้ ที่ข้างนอกมีตัวตนราชาโบราณอยู่อีกมากมายเต็มไปหมด ต่อให้ข้ามีสักร้อยชีวิตก็คงไม่พอช่วยเหลือท่าน”
ซู่เสี่ยวไป่รู้ดีว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่ควรตบปากรับคำทันที เขาจะต้องสอบถามให้มากกว่านี้ก่อน
ยังไงแผนเดิมของเขาก็คือการเก็บเกี่ยวโชคใหญ่ในเหมืองแห่งนี้อยู่แล้ว และเขาไม่มีปัญหาเรื่องการจะบุกตะลุยไปในที่อันตรายด้วย
แล้วหากว่าช่วยต้าฮวงได้แล้ว ก็ใช่ว่าต้าฮวงจะรักษาคำพูดเสมอไป หรืออาจจะมีอะไรปกปิดไว้อีกก็ได้
เขาจำเป็นจะต้องไถ่ถามให้เรียบร้อย และเผื่อว่าเขาจะเรียกสิ่งตอบแทนได้มากกว่านี้
ในมิติโลกส่วนตัวซู่เสี่ยวไป่นั้นนั่งหัวเราะชอบใจกับแผนการของเขา
“ตัวตนเทวฑูตโบราณจะไปยากจนได้อย่างไร ไม่มีทางหรอก เราจะไถมาให้หมด!”
หลังจากที่กล่าวปฏิเสธไปอย่างสุภาพ ซู่เสี่ยวไป่ก็แกล้งเดินหันหลังและจะจากไป
“เดี๋ยว!”
แล้วต้าฮวงก็ติดกับ
หลังจากนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง เหมือนกับครุ่นคิดอะไรสักอย่าง
ความจริงแล้วต้าฮวงนั้นอดทนรอไม่ไหวแล้วที่จะหาใครสักคนมาทำงานนี้ เขาต้องการให้ใครสักคนช่วยออกไปจากผนึกเฮงซวยนี้เสียที
เสียงของต้าฮวงตอบกลับมาเหมือนกับคนกัดฟันพูด
“ผู้เฒ่าคนนี้มีชีวิตอยู่มายาวนาน และมีตบะที่ทรงพลัง ข้าพอจะแบ่งปั้นมันให้เจ้าได้ชั่วคราว เพื่อทำให้เจ้าบรรลุเป้าหมายงานนี้ได้ และเจ้าจะเห็นทุกอย่างภายในเหมือง ทั้งภายในและภายนอกทั้งหมด!!”