ตอนที่ 77 การขยายพันธุ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ตอนที่ 77 การขยายพันธุ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
??
นี้มันเกิดอะไรขึ้น?
เขาไม่ได้รับรางวัลเป็นโทเค็นทหารหลังจากทำลายรังของมอนสเตอร์ระดับกลางงั้นเหรอ?
หลิน ยู รอคอยด้วยความตกตะลึง
ถ้าหากเป็นแบบนี้ เขาหมดหนทางแล้วจริงๆ
บอสมอนสเตอร์ระดับ 7 เขาไม่มีปัญญาจะไปจัดการกับมันอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากสำรวจรอบทะเลทรายโกบีมาเป็นเวลานาน เขาก็ยังไม่เห็นรังมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ นี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทำลายรังมอนสเตอร์ขนาดเล็กและกลาง เพื่อได้รับโทเค็นทหารซินะ
เห็นได้ชัดว่ารังมอนสเตอร์ของทวีปดึกดำบรรพ์นี้พวกมันเริ่มต้นจากระดับ 6
"ชั่งมันละกัน ตอนนี้ฉันได้พลังเวทย์มาเยอะแล้ว"
หลิน ยู คิดอย่างหมดหนทาง
ครั้งนี้เขาได้รับพลังเวทย์มากถึง 10000 แต้ม
หลังจากที่กวาดล้างรังมอนสเตอร์แล้ว ในที่สุดค่าประสบการณ์ของราชาปิศาจเห็ดก็เต็ม
เป็นเรื่องที่น่ายินดี เห็นทำลายล้างระดับ 5 ได้เลื่อนขึ้นเป็นเห็ดแฝดระดับ 6
เขานำซากของงูหลามแดงสองหางไปเก็บไว้ในกระเป๋ามิติ
หลิน ยู กระโดดขึ้นไปขี่มูรันชิ
"ไปเถอะ พวกเราไปสำรวจกันต่อ"
นี้คือเรื่องราวทั้งหมด
ด้วยกองทัพพืชอันทรงพลังของ หลิน ยู เขายังคงมุ่งหน้าต่อไปยังส่วนลึกของทะเลทรายโกบี เพื่อล่ามอนสเตอร์ต่อไป
เมื่อเข้าไปยังส่วนลึก หลิน ยู ก็พบเข้ากับปัญหา
นั้นคือมอนสเตอร์ในทวีปดึกดำบรรพ์ อัตราการเกิดของพวกมันสั้นมาก
ในหลายพื้นที่ๆเขากวาดล้างไปนั้น
โดยไม่คาดคิด เพียงไม่กี่วันต่อมา ก็มีมอนสเตอร์จำนวนมากเริ่มปรากฏตัวขึ้น แถมพวกแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
นี้มันทำให้เขาเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้น
โชคดีที่เขาไม่ได้เจอเข้ากับมอนสเตอร์ระดับ 7
ไม่อย่างนั้น เขาเกรงว่ากองทัพของเขาจะต้องพบกับจุดจบอย่างแน่นอน
....
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
หลังจากผ่านการเก็บเกี่ยวมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลิน ยู ก็กลับมายังดินแดนในที่สุด
ในระหว่างการเดินทางครั้งนี้ เขาทำลายรังมอนสเตอร์ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงมอนสเตอร์ที่เขาเจอระหว่างทางจำนวนมาก
พลังเวทย์ที่ได้นั้นเกือบ 16000 แต้ม
เขาใช้พลังเวทย์ 6000 แต้มเพื่อชาร์จพลังให้กับโล่
จากนั้นเขาก็รีบเดินไปยังใต้ต้นไม้แห่งชีวิตเพื่ออัญเชิญทหารเพิ่ม
หลิน ยู มองไปยังหน่วยพืชสัตว์ร้ายของเขาทั้ง 10 จากทั้งหมด 3 ประเภท โดยพื้นฐานแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องอัญเชิญพวกมันเพิ่ม
ดังนั้นเขาจึงใช้พลังเวทย์ 5000 แต้มเพื่ออัญเชิญจิตวิญญาณปฐพี 20 และเริ่มกลายพันธุ์พวกมัน
[การกลายพันธุ์ทหารระดับ 6 ต้องใช้พลังเวทยื 250 แต้ม คุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?]
"ดำเนินการต่อ!"
แสงสว่างวาบขึ้นห่อหุ้มจิตวิญญาณปฐพีเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นนายพลพรายไม้
กลายพันธุ์ตัวที่ 2
หวืดด-
กลายเป็นนางพญาปิศาจโลหิต
ขณะที่เขา กลายพันธุ์ต่อไปเรื่อยๆนั้นในที่สุดก็มีพืชชนิดใหม่ปรากฏออกมา มันเป็นพืชตระกูลหญ้างั้นเหรอ?
ใช้แล้ว!
มันเป็นแค่หญ้า
หญ้าธรรมดาที่ไม่ธรรมดา!
"เอ่อ...นี้เป็นการกลายพันธุ์ที่ล้มเหลวหรือป่าวนะ?"
หลิน ยู มองไปหญ้าที่อยู่บนพื้นที่ท่าทางที่ตกตะลึง มองยังไงมันก็เหมือนวัชพืชทั่วไปที่อยู่ตามข้างทาง
ด้วยความสงสัยเขา จึงตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหญ้านี้ดู
[ชื่อ : หญ้าเกล็ดเงิน]
[เผ่าพันธุ์ : พฤกษา]
[ระดับ : ระดับ 6 ]
[ความแข็งแกร่ง : 250]
[ร่างกาย : 250]
[ความว่องไว : 250]
[วิญญาณ : 250]
[สกิล : ปราการพฤกษา , ชุบแข็ง (หญ้าเกล็ดเงินสามารถเปลี่ยนของแข็งได้ เช่นเป็นดาบแหลมคมใช้โจมตีศัครูได้) , การขยายพันธุ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด (ใช้พลังธรรมชาติ แพร่พันธุ์ตัวเองออกมา เพิ่มจำนวนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่สามาอัญเชิญเพิ่มได้อีก) ]
[หมายเหตุ : หากป่าไม้มอดไหม้ สายลมฤดูใบไม้ผลีพัดมา หญ้าเกล็ดเงินจะผลาดคืนชีพอีกครั้ง ตัวมีความสามารถในการอยู่รอดที่แข็งแกร่งมาก]
หลิน ยู "!!!"
หลังจากที่ได้เห็นข้อมูลของหญ้าเกล็ดเงิน ดวงตา ของ หลิน ยู ก็เบิกกว้าง
มันไม่ใช้เพราะค่าสถานะของ หญ้าเกล็ดเงินนั้นต่ำเกินไป
แต่เพราะสกิลของมัน
การขยายพันธุ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นสกิลที่ผิดเพี้ยนเกินไป แถมมันยังอัญเชิญมาเพิ่มไม่ได้อีก
เขาไม่รู็สกิลนี้จะสามารถสืบทอดไปยังพืชชนิดอื่นผ่านการกลายพันธุ์ได้หรือไม่
หากทำได้มันจะทำให้เขาทรงพลังอย่างมาก
หลิน ยู คิดเกี่ยวกับการกลายพันธุ์หญ้าเกล็ดงี้นี้
เมื่อพิจารณาดูแล้ว หญ้าเกล็ดเงินมีทั้งหมด 3 สกิล ซึ่งหากเขากลายพันธุ์ความเป็นไปได้ที่มันสืบทอดสกิลการขยายพันธุ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั้นต่ำเกินไป อีกทั้งตอนนี้เขายังมีหญ้าเกล็ดเงินเพียงแค่ตัวเดียว มันจะหายไปหลังจากที่เขากลายพันธุ์
เขาต้องล้มเลิกแผนนี้ก่อนชั่วคราว
เข้าปิดหน้าต่างลงและปล่อยให้หญ้าเกล็ดเงินใช้สกิลการขยายพันธุ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดทันที
ในวินาทีต่อมา ก้หญ้าสีเงินแพร่กระจายออกมาไปทั่วอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมพื้นที่นี้ทั้งหมด
ด้วยการเชื่อมต่อทางจิตวิญญาณ หลิน ยู รู้สึกได้ว่านี้ยังไม่ใช่ขีดจำกัดของมัน แต่เป็นเพียงเพราะว่ามันใช้พลังเวทย์มากเกินไปการเพิ่มจำนวน จึงหยุดลง
หลิน ยู ประหลาดใจกับผลลัพธ์นี้มาก
หญ้าที่มันโดดเด่นนี้ต้องมีบทบาทสำคัญในการเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างแน่นอน
จากนั้นเขาก็ได้ลองสกิลชุดแข็งของหญ้าเกล็ดเงินอีกครั้ง
นี้เป็นสกิลที่ดีเลยทีเดียว
เอาละไปต่อ
หลิน ยู ยังคงทำการกลายพันธุ์พืชต่อไป
แต่น่าเสียดาย นอกจากนักรบกระบองเพรชแล้ว ไม่มีทหารประเภทใหม่ออกมาอีก
นี้ทำให้ทหารระดับ 6 ของเขาเพิ่มจาก 50 ตัวกลายเป็น 67 ตัวในทันที ซึ่งแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาเพิ่งมาถึงที่นี้หลายเท่า
ถ้าหากเข้ามาถึงทวีปดึกดำบรรพ์ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ เขาคงไม่ได้รับมอบหมายให้มาดูแลยังสถานที่รกร้างแบบนี้
ด้วยรอยยิ้มเจ้าเหล์ของ หลิน ยู เข้าใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้เปิดเข้าไปดูการจัดอันดับ
เขายังไม่สามารถเบียดไปเข้าไปสู่ 10000 อันดับแรกได้
ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะมีทหารระดับ 6 มากกว่าเขา
ต้องรู้ก่อนว่าทหารของเขานั้นมีสกิลเหนือกว่าทหารของคนอื่น ด้วยพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่ามาก แม้ว่าจะไม่สามารถเบียดเข้าไปในร่างกายจัดอันดับได้นี้เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้แล้ว
โดยอันดับ 1 2 3 อันดับแรกพวกเขาครองตำแหน่งตั้งแต่ตอนที่หลิน ยู มายังเมืองหวงซาแรกๆแล้ว ความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นของจริง
ทันใดนั้น หลิน ยู เปิดไปยังช่องแชทภูมิภาคอีกครั้ง พบว่ามีราชันหลายคนที่เพิ่งมาถึง กำลังสนทนากันอย่างมีชีวิตชีวา
"พี่น้อง มีใครได้รับมอบหมายให้ดูแลบริเวณใกล้กลับภูเขารกร้างบ้างหรือไม่ พวกเขาเราสามารถร่วมมือกันได้"
"ให้ตายเถอะ เจ้านั้นเพิ่งได้รับมอบให้อยู่ดินแดงนั้นงั้นเหรอ กล้าซะจริงๆ"
"ภูเขารกร้าง? ที่นั้นดูเหมือนจะอยู๋ในอาณาเขตของราชันระดับ 7 ไม่ใช่หรือ?"
"ราชันระดับ 7 ไม่แปลกใจเลย ด้วยการคุ้มครองของราชันระดับ 7 ใครจะกล้าสร้างปัญหาให้กับเขา"
"ฉันอยู่ใกล้กับภูเขารกร้าง ฉันขอคุยด้วยได้ไหม"
"ฉันละอิจฉาคนที่ได้อยู่กับราชันระดับ 7 จริงๆ ดูฉันซิ ได้รับมอบเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่บนหุบเขา"
"ใช่ฉันก็อิจฉาพวกเขาเหมือนกัน เมืองพัฒนาไปไม่ถึงไหนเลย นับประสาอะไรกับการรวบรวมความศรัทธา เมื่อไหร่จะขึ้นไปถึงระดับ 7 ได้กันนะ"
ดูเหมือนจะมีใครบางได้รับมอบหมายให้ไปยังพื้นที่อาณาเขตของราชันระดับ 7
ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนเขาจะได้รับการคุ้มครองจากราชันระดับ 7 อันต่างหาก นี้มันเหนือกว่าความคาดหมายของเขาเล็กน้อย
เมื่อลองคิดดูแล้วก็ไม่ถือว่าไร้เหตุผลซะทีเดียว
สุดท้ายแล้ว ราชันระดับ 7 เหล่านั้นก็ต้องการรวบรวมพลังศรัทธาเหมือนกัน เมื่อเมืองอื่นๆภายในบริเวณนั้นพัฒนาขึ้น ราชันระดับ 7 คนนั้นก็จะได้รับทรัพยากรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นี้มันดีกว่าฆ่าไก่เพื่อให้ได้ไข่เป็นไหนๆ
ราชันระดับ 7 ไม่ได้โง่
ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ชอบขี้หน้าราชันหน้าใหม่อยู่พอตัว
"ดูเหมือนเราต้องเร่งความเร็วขึ้นแล้ว"
เมื่อเขาเห็นว่ามีราชันที่เพิ่งมาถึงเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ หลิน ยู อดไม่ได้ที่จะร้อนใจ
หลังจากปิดหน้าต่างแชทภูมิภาคลง เขาก็เริ่มจัดการกับซากศพของมอนสเตอร์ที่เพิ่งนำกลับมา เตรียมแจกจ่ายพวกมันให้กับชาวเมือง
.....
ค่ำคืนนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่ หลิน ยู ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ในเช้าตรู่วันต่อมา เมืองหวงซาได้พบกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่ลี้ภัยมาจากเมืองซวงเย่
หลิน ยู หลังจากได้รับข่าวเขาก็ละทิ้งสิ่งที่ทำอยู่ทันที ขี่มูรันชิออกไปจากดินแดนมุ่งไปยังเมืองหวงซา
แน่นอนว่ามันเป็นไปตามที่ เซียว ฉางกุ้ยบอกผู้คนหลายร้อยคนหลั่งไหลเข้ามาในเมือง หวงซา พวกเขาทั้งหมดดูอยู่ในสภาพเหนื่อยล้า ดูเหมือนพวกเขาเพิ่งผ่านการเดินทางไกลมา
"นายท่าน ทางนี้ขอรับ"
เมื่อเห็น หลิน ยู ปรากฏขึ้นตัวขึ้น เซียว ฉางกุ้ย และชาวเมืองก็รีบเข้ามาทักทายเขาทันที
"นี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีผู้ลี้ภัยมากมายขนาดนี้มาหาเรา"