ตอนที่ 74 การแลกเปลี่ยนและผลึกเวทย์
ตอนที่ 74 การแลกเปลี่ยนและผลึกเวทย์
ด้วยเสียงที่เบา ความดูถูกที่เคยปรากฏบนหน้าของชายหนุ่มในตอนแรกหายไปทันที ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว
ไม่คิดว่าราชันเผ่าพฤกษานี้จะมีมังกรบินด้วย
ดูจากจำนวนแล้วพวกมันมีมากถึง 10 กว่าตัว
หากเกิดการต่อสู้ขึ้น แม้ว่าเขาจะชนะ แต่เขาต้องสูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน มันจะกลายเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
พวกเขามาที่นี้เพื่อทำธุรกิจเป็นหลัก
"นายท่าน ดูนั่น มีคนกำลังมาทางนี้!"
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงอุทานดังขึ้นด้านข้างเขา
ชายหนุ่มที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นขมวดคิ้วขึ้น หันสายตามองไปยังสุดถนน
เขาเห็นภายใต้เสียงการเคลื่อนที่ดังสนั่นนั้น มีกองกำลังขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นอีกอีกด้านของปลายสุดของถนน เข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว
"นี้มัน..."
ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงจ้องมองเข้าไปยังกองกำลังที่พึ่งปรากฏขึ้นนั้น
กองกำลังเหล่านั้นมันเป็นพืชประเภทที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ราชันคนนั้นมีกองกำลังที่น่ากลัวมากอยู่รอบตัวเขา
ด้วยความแข็งแกร่งขนาดนี้ หรือว่าเขาจะเป็นเจ้าของพื้นที่รกร้างแห่งนี้จริงๆ
ชายหนุ่มสะดุ้งทันที
และกลายมาเป็นตะลึงเมื่อเห็น หลิน ยู นำกองกำลังพืชของเขาเข้ามาหาและหยุดลงอย่างช้าๆ
"พวกนายคงจะเป็นกองคาราวานที่มาจากอาณาจักเหย่ฮวา ใช่ไหม?"
หลิน ยู มองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ
ดูเหมือนว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่ามีราชันอยู่ภายในกองคาราวาน
แต่เมื่อ หลิน ยู เห็นราชันด้วยตาของเขาเอง เขารู้สึกตื่นเต้น และเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
เขาขี่อยู่บนหลังของมูรันชิอยู่อย่างนั้นและจ้องไปที่ชายหนุ่ม
เช่นเดียวกันกับชายหนุ่ม
ในขณะที่มองไปยังกองกำลังที่อยู่ด้านหลังของ หลิน ยู เขาก็ต้องตกตะลึง
สำหรับราชัน พวกเขาไม่มีวิธีดูข้อมูลอย่างละเอียดทหารของอีกฝ่ายได้ จะเห็นเพียงแค่ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อและระดับ
เมื่อของเห็นกองกำลังรอบๆ หลิน ยู มันดูคล้ายกับของเขา พวกมันทั้งหมดเป็นกองกำลังระดับ 6 มันเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากที่สุดคือ
มีกองกำลังหลายประเภทอยู่รอบตัว หลิน ยู พวกมันมีไม่ต่ำกว่า 5 ประเภท
ราชันที่เพิ่งมาถึงมีกองกำลังหลายประเภทขนาดนี้ได้ยังไงกัน
เขาไม่กล้าที่จะดูถูกหลิน ยู อีกต่อไป "ผมเป็นนักเดินทางที่ผ่านมายังดินแดนของคุณ งั้นผมจะแนะนำตัวก่อน ผมชื่อ โจว มู่หยวน มาจากอาณาจักรเหย่ฮวา กำลังจะเดินทางไปอาณาจักรหวงหวู๋เพื่อทำธุรกิจ ผมต้องเรียกคุณว่าอย่างไรดี?"
"เรียกฉันว่า หลิน ยู ก็ได้" หลิน ยู ตอบ "งั้นคุณก็คงมาจากอีกด้านของทะเลทรายโกบี"
"ใช่แล้ว" โจว มู่หยวน พยักหน้า "ทรัพยากรภายในดินแดนกำลังขาดแคลน ดังนั้นผมจึงออกเดินทางกับกองคาราวาน หาวิธีที่จะได้รับพลังเวทย์จากการขายของบางอย่างระหว่างทาง"
"พี่หลิน ถ้าหากมีอะไรที่คุณต้องการ ผมสามารถขายบางอย่างจากอาณาจักรเหย่ฮวาให้คุณได้ในราคาพิเศษ แน่นอนราคาจะถูกลงถ้าเป็นคุณ"
ดวงตาของ หลิน ยู ครุ่นคิดเล็กน้อย "งั้นนายมีผงเวทย์บ้างไหม"
โจว มู่หยวน ดวงตาเปล่งประกายทันทีที่เข้าได้ยินคำพูดนั้น "มีแน่นอน พี่หลิน คุณคงกำลังต้องการสร้างเกาะป้องกันดินแดนใช่ไหม"
"คุณรู้ได้ยังไงกัน?"
หลิน ยู ประหลาดใจเล็กน้อย
โจว มู่หยวน "เพราะฉันก็สร้างเกาะป้องกันของตัวเองแล้วหน่ะซิ ไม่อย่างนั้นทำไมพี่ถึงคิดว่าฉันจะกล้าที่จะมาทำธุรกิจไกลถึงขนาดนี้"
คนๆนี้เตรียมตัวมาดีจริงๆ
หลิน ยู เงยหน้าขึ้นมองเขาทันที
ยิ่งไปกว่านั้น มองไปยิ่งกองกำลังระดับ 6 จำนวนมากที่อีกฝ่ายนำมา เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ทหารทั่วไป ทวีปดึกดำบรรพ์นี้เต็มไปด้วยเสือซ่อนมังกรหมอบอยู่จริงๆ
"อ่ะใช่แล้ว พี่หลิน"
ในขณะนั้นเองเสียงของ โจว มู่หยวน ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เขาเห็นผู้คนรอบๆกำลังขนของขึ้น "คุณน่าจะเหมือนกับฉัน ที่เพิ่งมาถึงทวีปดึกดำบรรพ์ใช่ไหม"
"ใช่ มีอะไรงั้นเหรอ"
"ป่าว ฉันแค่สงสัยหน่ะ ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ ทำไมถึงได้รับการจัดสรรให้มาอยู่พื้นที่รกร้างแบบนี้"
"มันคงจะเป็นโชคร้ายละมั้ง"
หลิน ยู รู้สึกอับจนเขาไม่ต้องการที่จะพูดอะไรอีก
ผ่านไปไม่นาน
โจว มู่หยวน ก็หยิบผงเวทย์และเดินมาหา หลิน ยู ภายใต้วงล้อมของเหล่าเซ็นทอร์หลายตัว
"5 ผลึกเวทย์ต่อ 1 กรัม คุณต้องการเท่าไรงั้นเหรอ"
"ผลึกเวทย์? มันคืออะไรกัน" หลิน ยู รู้สึกมึนงง
"เอ่อ..นี้คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือผลึกเวทย์งั้นเหรอ" โจว มู่หยวน มอง หลิน ยู ด้วยสายตาที่แปลกประหลาด
เมือเห็นท่าทางที่งุนงงของ หลิน ยู เขาก็ถอนหายใจออกมาทันที "พี่หลิน คุณนี้แย่ยิ่งกว่าฉันซะอีก สกุลเงินของทวีปดึกดำบรรพ์คือผลึกเวทย์ ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนได้ด้วยพลังเวทย์"
"การค้าระหว่างดินแดน ภาษีในดินแดน การทำธุรกิจระหว่างดินแดน และผู้ฝึกตน ล้วนแต่ชำระด้วยผลึกเวทย์"
"มีอะไรอีกบ้าง?"
หลิน ยู ตระหนักได้ถึงความอ่อนด้อยของเขาทันที
เป็นเพราะพื้นที่ของเขานั้นรกร้างเกินไป ไม่มีที่สำหรับใช้ผลึกเวทย์ และไม่มีฝู้ฝึกตนอาศัยอยู่ที่นี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้าง
เขาเรียกหน้าต่างดินแดนออกมาเปิดดูพลังเวทย์ แน่นอนว่ามันมีฟังก์ชั่นแปลงพลังเวทย์เป็นผลึกเวทย์อยู่ข้างใต้ ซึ่งเขาไม่ได้สังเกตมันมาก่อน
เขาพยายามแปลงมันเป็นผลึกเวทย์ด้วยพลังเวทย์ที่น้อยนิด
"แน่นอนว่า ผลึกเวทย์นี้เป็นเพียงวิธีแลกเปลี่ยนพื้นฐาน คุณสามารถแลกเปลี่ยนด้วยอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ" โจว มู่หยวน พูดต่อ
"ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ฉันมีอยู่ 500 ก้อน"
500 ก้อนนี้ หมายถึงพลังเวทย์ 2500 แต้ม
แม้ว่า หลิน ยู ต้องการที่จะซื้อเพิ่มอีก แต่เพื่อขยายกองกำลังพืชระดับ 6 ของเขาเป็น 50 ตัว เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาเขาจึงได้ใช้พลังเวทย์ไปเกือบทั้งหมด จึงเหลือพลังเวทย์เพียงแค่ 3000 แต้มเท่านั้น
หลังการแลกเปลี่ยนผงเวทย์แล้ว หลินยูใช้ พลังเวทย์อีก 500 ที่เหลือ
แลกเปลี่ยนข้าวอีก 500 จินจากโจว มู่หยวน ซึ่งใช้สำหรับเป็นค่าจ้างให้กับชาวเมืองในการพัฒนาเมืองหวงซา อีกทั้งเขายังเบื่อที่จะกินอาหารเดิมๆแล้ว
นี้ยังไม่ใช่ทั้งหมดของเขา
ของที่ชายหนุ่มคนนี้นำมามันมีเกือบทุกอย่าง มีแม้กระทั่งข้าว
เห็นได้ชัดว่าเขาถูกจัดสรรให้อยู่ในพื้นที่ๆค่อยข้างอุดมสมบูรณ์ จึงสามารถอัญเชิญทหารออกมาได้จำนวนมากในเวลาสั้นๆตัวเขาถึงได้ออกมาทำธุรกิจได้
กลับกันนั้น หลิน ยู่ แตกต่างกับเขาราวกลับสรวงสวรรค์กับโลก แทบจะเทียบกันไม่ติด
โจว มู่หยวน ผู้พึ่งได้รับพลังเวทย์ไป ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาแตกต่างกับตอนที่เพิ่งมาถึงอย่างสิ้นเชิง
"เห็นแก่มิตรภาพของเรา พี่หลิน ฉันจะบอกข่าวอย่างหนึ่งกับพี่โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย"
"ข่าวอะไร?"
หลิน ยู เก็บของทั้งหมดลงในกระเป๋ามิติของเขามองไปยัง โจว มู่หยวน อีกครั้ง
โจว มู่หยวนกระแอมให้โล่งคอ ก้มศรีษะแล้วด้วยเสียงลึกลับว่า "ผมได้ยินมาว่าถึงแม้ว่าจะได้เข้าร่วมกับอาณาจักร ราชันภายในอาณาจักนเดียวก็ยังสามารถสังหารกันเองได้อยู่ กฏนี้ถือเป็นที่ยอมรับไปทั่ว"
"นี้... พวกเขาไม่กลัวจะเกิดความวุ่ยวายในอาณาจักรงั้นเหรอ?"
"กลัว? ทำเข้าพวกเขาต้องกลัว? พี่รู้ไหมว่าแต่ละวันที่ราชันมายังทวีปนี้กี่คนกัน? ถ้าจะพูดให้ถูกจริงๆ สิ่งที่มีค่าน้อยที่สุดในทวีปแห่งนี้ก็คือราชันนั้นแหละ"
"นี้เป็นความจริงงั้นเหรอ" หลิน ยู อดไม่ได้ที่จะเห็นด้วย
ทันใดนั้นเขาก็มองไปที่ โจว มู่หยวน ดูสายตาแปลกๆ
"ที่คุณบอกผมแบบนี้ คุณไม่กลัวว่าผมจะจัดการคุณงั้นหรอ"
"เดี๋ยวๆ" โจว มู่หยวน รีบพูดขึ้นมา "เราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่หรอ? หากมีโอกาศอีกครั้งในอนาคต พวกเขาคงสามารถรวมกันงานกันเพื่อเปิดเส้นทางค้าขายได้ ดีกว่าจะมาต่อสู้กันเป็นไหนๆ"
"ดูเหมือนนายจะรู้ดีนี้น้า" หยิน ยู ยิ้มออกมาอีกครั้ง
สิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้เป็นเพียงการหยั่งเชิง
เพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่าถึงเขาจัดการกับคู่ต่อสู้ได้จริงๆ แต่เขาก็ต้องพบกับความสูญเสียอย่างมหาศาล รวมถึงเมืองหวงซาด้วย
ในตอนนี้เขายังอยู่ในช่วงพัฒนา จะเป็นการดีที่จะให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด
เนื่องจากอีกฝ่ายข้ามมาจากทะเลทรายโกบี เพื่อมาทำธุรกิจ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ
ยิ่งไปกว่านั้นตามที่ โจว มู่หยวน พูด
เดิมทีเขาวางแผนที่จะเปิดเส้นทางการค้าระหว่าง 2 อาณาจักร มันจะสะดวกมากกว่าหากเขามีคนรู้จักอยู่อีกฝั่งหนึ่ง