ตอนที่ 1259 เจ้าคิดว่าเย่ว์ไตตันตายหรือ?
จักรพรรดิทองทำลายทุกอย่างข้างหน้าเขา
ไม่ต้องพูดถึงเย่ว์หยางผู้ยืนอยู่ใจกลางแนวยิงรังสีสุริยันต์ คนเผ่ามังกรฟ้าที่หนีพลังของจักรพรรดิทองได้เร็วพอโดนพลังเฉียดไปเล็กน้อยส่วนที่โดนก็ยังสลายไปทันที บุรุษผู้แข็งแกร่งของเผ่ามังกรฟ้า รูปร่างหน้าตาเหมือนคนเถื่อนแม้ว่าพลังจะไม่สูงส่งเท่ากับมังกรสองหัวแต่ในแดนสวรรค์พวกเขายังมีพลังระดับราชา ร่างมังกรนั้นแข็งยิ่งกว่าเหล็กถึงพันเท่า แต่เมื่อถูกพลังของเทพแท้ก็ยังสูญสลายหายไปไม่เหลืออะไร
มังกรสองหัวแห่งเผ่ามังกรฟ้าหน้าซีดทันที
ราชินีว่านกูซูผู้แฝงตัวอยู่ในเปลวเพลิงตลอดเวลายังกลัวจนตัวสั่น
ขณะที่คนอื่นๆ ที่สีหน้าดุร้าย ทุกคนพลังระดับราชายังดูราวกับไม่มีวิญญาณ
คนที่ถูกแสงเทพฆ่าแม้ว่าจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในห้าคนนั้น แต่ไม่ใช่คนที่อ่อนแอที่สุดแน่แม้ว่าจะเป็นชาวเผ่ามังกรฟ้าที่น่าภาคภูมิใจ แต่มังกรสองหัวเป็นที่รู้จักกันว่าเขาคือสุดยอดนักรบของเผ่ามังกรฟ้า สหายที่ถูกฆ่าตายนั้นถูกฆ่าในช่วงไม่ถึงหนึ่งในร้อยวินาที
นักสู้ระดับราชา
นักสู้จากเผ่ามังกรฟ้า
ยังถูกจักรพรรดิทองฆ่าตายอยอย่างรวดเร็ว
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นชายขอบพลังเทพเล็กน้อย....ถ้ากระทบใส่ร่างมังกรสองหัวผู้หยิ่งยโสโดยตรง ไม่แน่ใจว่าเขาจะรอดได้หรือเปล่า
ทุกคนไม่รู้จักศักดิ์ศรีฐานะของจักรพรรดิทองแห่งเผ่ากาทองสามขา อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยคิดว่าผู้นำเผ่ากาทองสามขาจะทรงพลังน่ากลัวมากขนาดนี้!
“สหายเก่า,ไม่ได้พบเจ้ามานานหลายปีแล้ว ขอแสดงความยินดี ที่เจ้าบรรลุพลังระดับใหม่ได้” ผู้ชมสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเขาคือบัณฑิตวัยกลางคน
“ข้าสัญญากับเจ้าไว้และข้าก็ทำให้แล้ว” จักรพรรดิทองมองดูบัณฑิตวัยกลางคน
“ขอบคุณมาก! พี่ชายที่รักของข้า อันที่จริงแล้วท่านไม่ได้เป็นหนี้ข้า จริงๆ แล้วเราเป็นพี่น้องกันไม่ต้องมากมารยาทก็ได้” บัณฑิตวัยกลางคนมีรอยยิ้มบนใบหน้า ปากก็กล่าวว่าไม่สุภาพ จักรพรรดิทองนิ่งเงียบอยู่นานและหันกลับเดินออกไป แล้วหยุดอีกครั้ง “ตงฟาง ข้ายังคงเป็นคนที่ถูกขับออกจากบ้านเกิดและเป็นคนไร้บ้าน แต่เจ้าไม่ใช่คนที่ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อสหายนี่คือครั้งสุดท้ายที่ข้าจะทำงานให้เจ้า หวังว่าเจ้าคงจะทำด้วยตัวเองอย่างดีที่สุดและนี่คือคำแนะนำสุดท้ายในฐานะพี่”
“ขอบคุณ ข้าจะจำเอาไว้” บัณฑิตวัยกลางคนคำนับเล็กน้อย
เขามองดูจักรพรรดิทองเดินจากไปทีละก้าว
ไม่พูดอะไรอยู่นาน
รอจนกระทั่งร่างสูงใหญ่ของจักรพรรดิทองหายลับขอบฟ้าไป เขาจึงค่อยถอนหายใจ “เจ้าเป็นคนดีจริงๆ!”
คนเผ่ามังกรฟ้าเหลืออยู่หกคนและเผ่าปีศาจทมิฬสามคน ทุกคนมองดูบัณฑิตวัยกลางคน อสรพิษเก้าหัวและหนอนเก้าหัวจากเผ่าเก้าหัวกระซิบพูดคุยปรึกษากันเองในหมู่พวกตนเอง
ตอนนี้อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของหอทงเทียนคุณชายสามตระกูลเย่ว์ เย่ว์ไตตันผู้ได้รับยกย่องว่าคือปาฏิหาริย์แห่งหอทงเทียนถูกจักรพรรดิทองใช้พลังสุดยอดกำจัดไปแล้ว
อย่างนั้นพวกเขาจะทำอะไรต่อ?
จะแบ่งสมบัติแดนล่มสลายแห่งทวยเทพอย่างไร?
ศึกนี้ ทุกคนไม่มีโอกาสได้ลงมือ แต่แทนที่พวกเขาจะได้รับการตอบแทนแต่จักรพรรดิทองได้รับความดีความชอบไปทั้งหมด จำเป็นหรือไม่ที่ต้องเลิกล้มข้อตกลงการแบ่งปันเก่าก่อนหน้านั้น? โชคดีที่เผ่าเก้าหัวก็มีส่วนแบ่งแม้ว่าจะเป็นจำนวนน้อยแต่ที่สำคัญนับว่าได้ส่วนแบ่งแล้ว อย่างไรก็ตามเผ่ามังกรฟ้าและเผ่าปีศาจทมิฬไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้ได้รับเชิญในก่อนหน้านี้ แต่พวกเขามาด้วยความสมัครใจ ไม่มีใครมาทันเวลาแบ่งสันปันส่วนในครั้งแรก พวกเขารีบออกมาจากแดนสวรรค์ถ้าไม่ได้อะไรติดมือกลับไป หรือกลับมือเปล่านั่นไม่ควรจะเกิดขึ้น!
“ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?” ราชินีเหม่ยเยี่ยนผู้อยู่เปลวไฟเริ่มไม่แน่ใจและมองดูมังกรสองหัว
“อะแฮ่ม เราสามารถเข่นฆ่านักสู้หอทงเทียนได้ แต่เรื่องการแบ่งสันปันส่วน เราก็ต้องการด้วยอย่างน้อย 2%” มังกรสองหัวพิจารณาและเสนอแผน
ถ้าไม่ใช่เพราะจักรพรรดิทองแข็งแกร่งเกินไปเขาอาจเสนอขอ 5% หรือ 10%
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าด้วยส่วนแบ่ง 2% ก็มากพอแล้ว
จักรพรรดิทองมีแค่คนเดียว
อย่างไรก็ตามพลังของเขาไม่อาจเทียบจำนวนคนได้
กล่าวอีกอย่างหนึ่งถึงแม้เผ่ามังกรฟ้าจะมีคนถึงหกคนแต่เมื่อเทียบความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาไม่อาจเทียบกับจักรพรรดิทองได้นอกจากจักรพรรดิทองแล้ว ยังมีจักรพรรดิอสูรที่ระดับเดียวกับหัวหน้าผู้อาวุโสราชันย์ไร้ใจแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์และผู้อาวุโสสูงสุด พวกเขาควรมีความแข็งแกร่งระดับไหน? ควรจะแบ่งปันกันแบบไหน แม้แต่จักรพรรดิทองและจักรพรรดิอสูรก็เหนือกว่าพวกเขาแล้ว ยังมีจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและเจ้าตำหนักใหญ่เทียนอี้อีกสองคน...กลุ่มของมังกรสองหัวรู้สึกว่าเสนอแผนของส่วนแบ่ง 2%ก็ยังเป็นการโลภเกินไป อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่ข้อตกลงสุดท้าย ค่อยคุยต่อในภายหลังยังจะง่ายกว่า
จากการพิจารณาพลังและความแข็งแกร่งทั้งหมดมังกรสองหัวคงได้เต็มที่เพียง 1% สำหรับเผ่ามังกรฟ้า
ถ้าไม่ได้ตามนั้น
เพียงครึ่งเปอร์เซ็นต์ หรือ 0.2% ก็ต้องยอมรับ
“เฮอะ!” สำหรับการนำเสนอของมังกรสองหัวคนเผ่าปีศาจทมิฬมีความหยิ่ง และแสดงอาการดูถูกอย่างเห็นได้ชัด “เผ่าปีศาจทมิฬของเราไม่ได้มีความโลภมากขนาดนั้น! คนเผ่ามังกรฟ้าเป็นได้แค่สวะ ยังกล้าพูดกับราชสีห์ว่าไม่กลัวตายหรือ? ต่อให้เจ้าไม่กลัวตาย แต่พวกเจ้าหวังว่าจะให้คนอื่นขำจนตายใช่ไหม”
“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?” ราชินีเหม่ยเหยี่ยนว่านกูซูที่อยู่ในเปลวไฟตลอดเวลาโกรธ
ก่อนหน้านี้เหมือนโดนเย่ว์ไตตันตบหน้า ตอนนี้เจ้าเด็กเผ่าอสูรนี่คิดจะข่มเหงกันหรือ? สิ่งที่นางเฒ่าอยากบอกก็คือนางยังเป็นมังกรที่ไม่ใช่ให้ข่มเหงกันได้ง่ายๆ
ดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แสดงพลังบ้าง!
ต้องบอกเด็กพวกนี้ว่าเรานางเฒ่าไม่ใช่ตะเกียงไร้น้ำมัน
แน่นอนว่าถ้าไม่แสดงความแข็งแกร่งให้ชัดเจนก็ไม่สามารถจัดการเหตุการณ์ร้ายในชีวิตได้ ยังไงก็ต้องรักษาชีวิตน้อยๆ ไว้รับสมบัติจากแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ!
ด้วยความคิดเช่นนี้ราชินีว่านกูซูส่งสัญญาณให้กับสหายด้านหลังเงียบๆ บอกให้พวกเขาพยายามทดสอบความแข็งแกร่งของเด็กเผ่าอสูรที่หยิ่งยโส
“เด็กน้อย เจ้าปากพล่อยเสียจริง! นักสู้ระดับราชาของเผ่ามังกรฟ้าซึ่งมีสัมพันธ์ส่วนตัวกับราชินีเหม่ยเยี่ยนอยู่ก่อนออกมาทันทีร่างของเขาสูงใหญ่เหมือนภูเขา ต่างคนต่างมองหน้าฝ่ายตรงกันข้าม ”ถ้าเจ้าไม่เห็นด้วยก็มาลองสู้กันสักตั้ง! อย่านึกว่าสหายของเจ้าจะปกป้องได้เรามีกันหกคน!”
เขาตะโกนขณะที่ให้ความสนใจอสูรหมีดำและอสูรหมูป่าของเผ่าปีศาจทมิฬ
นักสู้ระดับราชาทั้งสองคนพบว่าเขายังเงียบ
คิดว่ากลัวเผ่ามังกรฟ้าหรือ เขามั่นใจ
แม้ว่าสหายจะล้มตายไปไม่ถึงวินาที แต่ก็ยังมีคนอยู่หกคนเหนือกว่าพวกเผ่าปีศาจทมิฬ
สำหรับเผ่าเก้าหัวพลังของพวกเขาไม่ได้อ่อนแอ แต่กับพวกสัตว์ประหลาดเหล่านี้พวกเขาไม่เคยทำงานร่วมกัน พวกเขาควรนั่งบนภูดูพยัคฆ์กัดกันโดยไม่ถูกกำจัดควรจะเป็นการดีกว่า
ตราบใดที่ปีศาจหมูป่าและปีศาจหมีดำไม่ได้ลงต่อสู้เจ้าเด็กเผ่าปีศาจ พวกเขาไม่สามารถเห็นอะไรได้ และคาดว่าอาจจะทรงพลังมากกว่า
และยิ่งโตขึ้นยิ่งน่าอึดอัดเจ้าเด็กนั่นอาจจะเป็นพวกลูกครึ่ง
พวกเลือดผสมนับเป็นความอ่อนแออย่างร้ายแรงของเผ่าภูตบูรพา
เพราะพวกเลือดผสมคือสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอที่สุด พวกผู้อาวุโสรุ่นก่อนๆ ไม่ชอบพวกเด็กเลือดผสมเช่นเผ่ามังกรฟ้า เพราะพวกเขาทรยศต่อจักรพรรดิมังกร พวกเลือดผสมกับมังกรยักษ์และเผ่าพันธุ์อื่นจึงถูกขับออกมาอย่างสิ้นเชิงแม้แต่ชื่อพื้นฐานที่สุด ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับและถูกมองว่าเป็นพวกต่างเผ่าพันธุ์อย่างสิ้นเชิง
มิฉะนั้นเผ่ามังกรฟ้าอาจถือได้ว่าเป็นสมาชิกของเผ่าพันธุ์ภูตบูรพา
“เจ้าเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! เจ้ากล้ามาปล้นหอทงเทียนหรือ ข้าผู้เป็นลุงต้องตบตีสั่งสอนเสียบ้าง!” ร่างเหมือนกับเนินเขาของนักสู้ระดับราชาจากเผ่ามังกรฟ้ายืนจ้องหน้าด้วยควมพอใจ
“แค่เจ้าเท่านั้นหรือ?” บุรุษคนนี้บ้าต่อสู้มาตั้งแต่เกิด เขาต้องการยั่วยุเย่ว์หยางเพื่อต่อสู้ แต่ต่อมาเขาไม่สมหวังจึงหาข้ออ้างเพื่อสู้กับพวกเผ่ามังกรฟ้า แต่หลังจากมายังแท่นบูชายัญแล้วได้พบเห็นจักรพรรดิทองเขายับยั้งอารมณ์ไว้เล็กน้อยและสังเกตอย่างใจเย็นไม่พูดมากเกินไป หลังจากจักรพรรดิทองจากไปแล้วคนที่ยังปรามาสเขายังไม่ฟื้นฟูบุคลิกเดิม แต่จะให้เขารอไปถึงเมื่อใด? ไม่ต้องพูดถึงคำตอบที่หยิ่งยโสของอีกฝ่าย แม้ว่าเขาจะไม่ตอบสนอง เขาก็ต้องหาเรื่องต่อสู้จนได้ เพราะการต่อสู้คือความหมายทั้งหมดในชีวิตของเขา!
“รอก่อน” บัณฑิตวัยกลางคนรีบห้าม
เขาเสนอแผนอย่างหนึ่ง “เกี่ยวกับเรื่องส่วนแบ่งข้ารู้ว่าทุกคนต้องการได้มากขึ้น แต่ส่วนแบ่งของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพถูกกำหนดไว้แล้ว และเราเจ้าตำหนักลำบากใจอยู่จริงๆเอาอย่างนี้ดีกว่าพวกเจ้าจงรวมตัวกันอยู่ที่หน้ารูปสลักเทพอารักษ์ของแท่นบูชายัญก่อน เพราะที่นี่คือทางออกของบันไดสวรรค์อาจมีนักรบหอทงเทียนที่เข้าไปฝึกฝีมือยังไม่ทันกลับมาเข้าร่วมสงคราม ถ้าพวกเจ้าสามารถเฝ้าคุ้มกันที่นี่ได้สามวันสามคืน ไม่ว่าจะมีการต่อสู้หรือไม่ คนที่เหลืออยู่ท้ายสุดจะได้รับส่วนแบ่ง 1% ข้อเสนอนี้พวกเจ้าคิดว่ายังไง?”
มังกรสองหัวได้ยินแล้วเขารู้สึกว่าเป็นผลดีต่อฝ่ายของเขาเอง!
ฝ่ายของเขาเองมีหกคน
ดีกว่าข้อเสนอดั้งเดิมของเขามากนัก
แน่นอนว่าเขาเข้าใจถึงเจตนาชั่วร้ายของเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์อันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ เขาต้องการใช้วิธียืมดาบฆ่าคน
แท่นบูชายัญเทพอารักษ์เป็นของปลอมแน่นอนนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของหอทงเทียนอย่างเย่ว์ไตตันไม่สามารถต้านรับจักรพรรดิทองได้แม้ชั่วครู่หรือ? ถ้าเปลี่ยนเป็นตัวเขาเองคาดว่าจะต้องสู้กันหลายสิบท่าหรืออาจต้องสู้กันหลายร้อยท่า...เย่ว์ไตตันตายแล้ว หอทงเทียนยังจะมียอดฝีมืออีกหรือ? ไม่มีทาง!!
เห็นได้ชัดว่าเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางต้องการให้เผ่าเก้าหัวเผ่าปีศาจทมิฬและเผ่ามังกรฟ้าของเขาเองเข่นฆ่ากันเองที่นี่
หลังจากผ่านไปสามวันจะเหลือคนอยู่เพียงไม่กี่คน
เรื่องนี้จะจัดการง่ายขึ้น
แม้จะได้ส่วนแบ่ง 1% ก็ยังดูจะง่ายกว่า
“ตกลงตามที่ท่านพูด!” มังกรสองหัวรู้สึกว่าข้อเสนอนี้ไม่ได้ทำอันตรายตัวเขาเอง1% ไม่ต้องพูดถึง ยิ่งถ้าสหายของพวกเขาเหลือมาก ส่วนแบ่งยิ่งน้อยลง อย่างนั้นถ้าเขาฆ่าสหายเขาก็สามารถได้ส่วนแบ่งเพิ่ม ขณะที่กระบวนการฆ่าดำเนินต่อไปความสัมพันธ์ระหว่างกันยังมีเป็นปกติ ตราบเท่าที่เขามีชีวิตจนถึงท้ายสุด
“เราไม่มีปัญหาอะไร” เผ่าเก้าหัวพยักหน้าและเตือนบัณฑิตวัยกลางคน “จำไว้ว่าส่วนที่เป็นของจักรพรรดิอสูรต้องไม่น้อยไปกว่านี้”
“แน่นอน”บัณฑิตวัยกลางคนมองดูคนเผ่าปีศาจทมิฬทั้งสามคนและพบว่าเด็กหนุ่มปีศาจที่ดื้อด้านนั้นเงียบส่วนปีศาจหมีดำและปีศาจหมูป่าพยักหน้าตกลงกับข้อเสนอนี้และยิ้มอย่างเป็นมิตรทันที “ทุกท่านงานเฝ้าคุ้มกันทางออกแท่นบูชายัญเทพอารักษ์สำคัญมาก พวกเจ้าต้องทำงานร่วมกันและต้องไม่ต่อสู้กันเองเนื่องจากความขัดแย้งส่วนตัว!”
“ไม่นะ อะแฮ่ม!” ราชินีว่านกูซูแค่นเสียงใส่ปีศาจหนุ่มโดยไม่รู้ตัว นางเตือนตนเองว่าควรจะฉวยโอกาสนี้ระบายอารมณ์ขัดใจในตัวหรือไม่?
สามวันก็เพียงพอให้ฆ่าคนเผ่าปีศาจทมิฬได้
ต่อให้นางไม่สามารถกำจัดปีศาจหมีดำและปีศาจหมูป่าได้แต่ฆ่าเจ้าเด็กปีศาจนี่ได้ย่อมไม่เป็นปัญหา
สำหรับเผ่าเก้าหัว คงจะมีจักรพรรดิอสูรหนุนหลังพวกเขาอยู่ แต่ไม่ว่าจักรพรรดิอสูรจะมาหอทงเทียนด้วยหรือไม่ ปัญหาก็คือเขาไม่ได้เป็นสหายของตงฟาง เขาจึงไม่มาด้วยตนเอง และส่งคนมาแทนห้าคน
ตราบเท่าที่คนเผ่าเก้าหัวทั้งห้าคนไม่รุกรานมากเกินไป และพวกเขาแบ่งกันอย่างเป็นธรรม พวกเขาก็จะไม่มีการขัดแย้งกัน
“เฮอะ” บุรุษหนุ่มเผ่าปีศาจถ่มน้ำลายลงพื้น ทัศนคติของเขาหยิ่งยโส ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กคนนี้เหมือนกับนักเลงที่ไม่รู้ว่าความกลัวคืออะไร!
บัณฑิตวัยกลางคนบอกว่าเขามีงานสำคัญที่ยังต้องทำและต้องการให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสงบตามปกติ
ทุกคนรับปาก
เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางพอใจจากนั้นเหาะจากไป
เมื่อเขาจากไปพวกเผ่ามังกรฟ้ามองดูฝ่ายอสรพิษเก้าหัวและเห็นว่าพวกเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไรปีศาจหมีดำและปีศาจหมูป่าแห่งเผ่าปีศาจทมิฬรู้สึกเหมือนกันว่าถึงเวลาที่หลานชายของพวกเขาได้แสดงฝีมือ นักสู้ราชาเผ่ามังกรฟ้าหันมาทางปีศาจหมีดำและปีศาจหมู่ป่าต่างฝ่ายต่างจ้องหน้าไปทางบุรุษหนุ่มปากพล่อยพร้อมจะลงมือกับเจ้าเด็กที่น่าปวดหัวนี่ได้ทุกเวลา
มังกรสองหัวและราชินีว่านกูซูยิ้มให้อสรพิษเก้าหัวแห่งเผ่าเก้าหัวดูเหมือนไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
คนในเผ่าเก้าหัวไม่พูดอะไร
ในที่สุดมีเพียงปีศาจเก้าหัวขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดขึ้นทันที “เจ้าคิดว่าเย่ว์ไตตันตายจริงๆ หรือ?”
ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้ทุกคนในเผ่ามังกรฟ้าตะลึงและปีศาจหมีดำและปีศาจหมูป่าจากเผ่าปีศาจทมิฬตกตะลึงเช่นกัน นั่นคือพลังโจมตีที่รุนแรงของจักรพรรดิทองเป็นพลังระดับเทพนักสู้ระดับราชาแห่งเผ่ามังกรฟ้าที่มีร่างเป็นมังกรศิลายังถูกพลังเทพทำลายร่างกายมนุษย์ที่ตัวเล็กอ่อนแอจะหลบแสงสุริยันต์ที่รุนแรงของจักรพรรดิทองได้หรือ?
เจตจำนงเทพไม่มีอะไรต้องสงสัย
ถ้าคนสงสัยและเทพต้องการฆ่าผู้นั้นเป็นไปได้ว่าผู้นั้นไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา? ไม่มีใครสามารถหนีรอดเจตจำนงเทพได้
“ถ้าเขาไม่ตายแล้วเขาจะหลบพ้นสายตาของตงฟางได้อย่างไร?” มังกรสองหัวตกใจ แต่จากนั้นเขาเลือกจะเชื่อบัณฑิตวัยกลางคน เพราะเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางไม่เคยผิดพลาด แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาด แต่จะไม่ผิดพลาดต่อหน้าคนอ่อนแอต่อหน้าเขา เป็นไปได้หรือที่เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางจะเข้าใจผิดได้!
“เจ้าคิดว่าเย่ว์ไตตันตายหรือ?” ปีศาจเก้าหัวมองดูผู้ชมรอบๆ