NH-ตอนที่ 35 ต้องการทิ้งร่องรอยเอาไว้
“ในที่สุดนายก็มาสักที” แมทตี้ กล่าวพูดด้วยสีหน้าที่หงุดหงิด “ทำไมถึงใช้เวลานานขนาดนี้ ฉันรอนายที่นี่เกือบ 20 นาทีแล้ว!”
“ขอโทษที พอดีฉันตื่นสายไปหน่อย” ลุกซ์ กล่าวขอโทษ “แล้วโคเล็ตต์อยู่ไหนล่ะ?”
หลังจากมองดูกลุ่มคนแคระตรงหน้าของเขาแล้ว เขาก็พบว่ามีเพียงเด็กสาวตัวน้อยที่น่ารักเท่านั้นที่หายไป ราวกับว่านี่คือสัญญาณ ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นในพื้นที่โล่ง
“ขอโทษนะทุกคน!” โคเล็ตต์ กล่าวออกมาขณะที่เธอวิ่งไปหาสมาชิกปาร์ตี้ของเธอ “พอดีฉันตื่นสายไปหน่อย ฉันทำให้ทุกคนรอนานหรือเปล่า?”
แมทตี้ ยิ้มขณะที่มองไปที่ เด็กสาวตัวน้อย “ไม่เลย พวกเราเพิ่งจะมาถึงเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ดังนั้นเธอไม่ได้มาสายเลย”
“จริงเหรอ ฉันดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น ฉันนึกว่าจะทำให้พวกนายต้องรอนานซะอีก”
“ไม่เลย ฉันเองก็ตื่นสายเช่นเดียวกัน ฮ่าฮ่าฮ่า”
ลุกซ์ มองไปที่เด็กชายคนแคระที่กำลังประจบประแจง และ ระงับความคิดที่จะทำให้แมทตี้เสียหน้า
‘พอฉันมาสายนายกลับทำเป็นโกรธ’
‘แต่พอคนที่นายชอบมาสาย นายกลับทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น’
‘นี่คืออะไร? เลือกปฏิบัติ? สองมาตรฐาน!’
“พี่ใหญ่ลุกซ์ ฉันทำให้พี่รอนานหรือเปล่า?” โคเล็ตต์ เปลี่ยนความสนใจไปที่ ลุกซ์ และ จับมือของเขา “ฉันต้องขอโทษด้วย มันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
“ไม่เลย ฉันก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” ลุกซ์ ตอบกลับ “ดังนั้นไม่ต้องคิดมากหรอก”
นี่เป็นครั้งแรกที่ ลุกซ์ กำลังจะสำรวจดันเจี้ยน ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการสร้างความแตกแยกให้กับกลุ่มเพื่อนของโคเล็ตต์ เพราะงั้น เขาจึงตัดสินใจเมินพฤติกรรมของแมทตี้ เพราะเขาคิดว่า คนแคระตัวน้อยนี้ก็เป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง
‘นี่มันเหมือนกับเกมจริงๆ’ ลุกซ์ คิดขณะที่มีข้อความปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา
<คุณต้องการเข้าร่วมปาร์ตี้โกลเด้นสเลเยอร์หรือไม่?>
<ใช่/ไม่ใช่>
ลุกซ์ ตอบรับคำเชิญของโคเล็ตต์ และ เข้าร่วมปาร์ตี้คนแคระอย่างเป็นทางการ แม้ว่ามันจะไม่มีตัวเลือกที่ให้ดูค่าพลังชีวิตของกันและกันเหมือนในเกม แต่การจัดปาร์ตี้นี้ก็ทำให้ทุกคนสามารถแบ่งปันพลังและเพิ่มค่าสถานะของพวกเขาได้
สิ่งนี้คล้ายกับสกิล คำราม ที่ ลุกซ์ ไม่ได้เลือก แต่กลับไปเลือก ดูดซับมานาแทน
ทันทีที่เขาเข้าร่วมปาร์ตี้ เขาก็รู้สึกราวกับว่ามีสายลมที่สดชื่นพัดผ่านตัวเขา
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา แมทตี้ ก็ยิ้มเยาะทันที และ ตัดสินใจเล่าให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“โคเล็ตต์เปลี่ยนอาชีพเป็นพาลาดิน” แมทตี้อธิบาย “ทุกคนที่อยู่ในปาร์ตี้เดียวกับเธอจะได้รับการฟื้นฟูแบบพาสซีฟที่จะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หากนายได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่าได้คาดหวังว่าสิ่งนี้มันจะช่วยชีวิตนายได้”
“ฉันเข้าใจแล้ว” ลุกซ์ พยักหน้าอย่างเข้าใจ “เธอน่าทึ่งมากเลยโคเล็ตต์!”
สาวน้อยยิ้มหลังจากได้รับคำชมจาก ลุกซ์ ด้วยท่าทางที่อารมณ์ดีเธอได้จับมือของลุกซ์และจูงมือเขาเดินไปที่ทางเข้าของดันเจี้ยนเริ่มต้น
“พี่ใหญ่ลุกซ์ ลองดูนี่” โคเล็ตต์ พูดพร้อมกับชี้ไปที่แผ่นหินสัมฤทธิ์ที่ตั้งอยู่ข้างปากทางเข้าถ้ำ “นี่คือชื่อปาร์ตี้ 3 อันดับแรกที่เคลียร์ดันเจี้ยนโหมดนรกได้ โดยอันดับจะขึ้นอยู่กับผลงานของแต่ละคน โดยปกติแล้ว ปาร์ตี้ที่เคลียร์ดันเจี้ยนได้เร็วจะอยู่ใน 6 อันดับแรก”
“อืม” ลุกซ์ ชำเลืองมองไปที่ แผ่นหินสัมฤทธิ์ และ จดจ่ออยู่กับชื่อที่ครองตำแหน่งสูงสุด ‘ไอน่า แวน โกลเด้นสเลเยอร์…เดี๋ยวนะ! โกลเด้นสเลเยอร์? นี่ไม่ใช่ชื่อปาร์ตี้ของเราหรอกเหรอ?’
ลุกซ์ กระพริบตาหนึ่งถึงสองครั้งก่อนที่จะหันความสนใจไปที่สาวน้อยที่น่ารักที่มองกลับมาที่เขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มกว้าง
“ไอน่า แวน โกลเด้นสเลเยอร์ คือพี่สาวของฉันเอง!” โคเล็ตต์ กล่าวพูดด้วยท่าทางภาคภูมิใจ “ตั้งแต่ที่เธอเคลียร์ดันเจี้ยนโหมดนรกได้สำเร็จกับสมาชิกปาร์ตี้ของเธอ สถิติของเธอก็ไม่เคยถูกทำลายอีกเลยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ว่าไง พี่สาวของฉันน่าทึ่งไปเลยใช่ไหม?”
“ใช่ เธอน่าทึ่งมาก” ลุกซ์ เห็นด้วย “แต่พวกเราก็สามารถทำได้ดีกว่าเธอได้! ถ้าเกิดพวกเราสามารถเอาชนะความยากโหมดนรกและสลักชื่อไปไว้ในแผ่นหินสัมฤทธิ์นี้”
“ฮะ? นี่นายแกล้งโง่ปะเนี่ย?” แมทตี้ ได้ปรากฏตัวด้านข้างโคเล็ตต์ และ จ้องไปที่ ลุกซ์ “นายไม่รู้หรือยังไงว่าบอสในโหมดนรกก็คือ นักรบคลั่งดรักเกอร์ ที่เป็นมอนสเตอร์ระดับ 2? ถ้านายอยากจะตายมากขนาดนั้นก็เข้าไปเองคนเดียวเถอะ! พวกเราจะท้าทายแค่โหมดปกติก็พอ!”
กฏของดันเจี้ยนในเอลิเซียมนั้นแตกต่างไปจากกฏของโลกภายนอก
ในเอลิเซียม ดันเจี้ยนทั้งหมดมีสองความยาก นั่นก็คือ โหมดปกติ และ โหมดนรก
แน่นอนว่าโหมดนรกเป็นโหมดที่ยากที่สุด แต่ก็ให้รางวัลที่ดีกว่าเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การเลือกโหมดนี้โดยไม่เตรียมการอย่างเหมาะสมจะเป็นเรื่องอันตรายต่อชีวิตเป็นอย่างมาก และ มีหลายคนที่เสียชีวิตด้วยเหตุผลนี้
โชคดีที่บทลงโทษสำหรับการตายในดันเจี้ยนนั้นค่อนข้างดีกว่าเมื่อเทียบกับการตายในโลกข้างนอก
เพราะคนที่ตายในดันเจี้ยนในเอลิเซียม จะไม่ได้ตายจริง ๆ พวกเขาจะเกิดใหม่ที่เมืองที่ใกล้ที่สุดแทน แต่เพื่อเป็นการลงโทษ พวกเขาจะสูญเสียค่าสถานะไป 1 ใน 4 ของทั้งหมด
หลังจากตาย พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามมองหาค่าประสบการณ์ที่เสียไปกลับคืนมาหรือใช้คอร์มอนสเตอร์เพื่อกู้คืนค่าสถานะที่หายไปเหล่านี้ ถึงกระนั้นก็ตาม นี่ก็ยังเป็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าการท้าทายดันเจี้ยนที่ไม่รู้จักและตายไปแบบถาวร
ลุกซ์ เพิ่งแกล้ง โคเล็ตต์ เมื่อเขาบอกว่าเขาจะท้าทายความยากโหมดนรกและสลักชื่อของพวกเขาลงไปบนแผ่นหินสัมฤทธิ์
เพราะฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มรู้ดีว่า ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขายังต้องเตรียมความพร้อมอีกสักเล็กน้อยก่อนที่จะสามารถท้าทายความยากโหมดนรกของดันเจี้ยนเริ่มต้นได้
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าจะท้าทายมันตอนนี้ซะหน่อย” ลุกซ์ ตอบกลับ แมทตี้ “แต่ก่อนที่พวกเราจะออกจากหมู่บ้านลีฟ พวกเราส่วนใหญ่ก็คงอยู่ในแรงค์มือใหม่แล้ว และ นั่นเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะท้าทายความยากโหมดนรก หรือว่านายไม่ต้องการทิ้งชื่อของนายไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็น?”
แมทตี้ เงียบหลังจากที่ได้ยินคำพูดของ ลุกซ์ แน่นอนว่าเขาต้องการสลักชื่อของเขาไว้บนแผ่นหินสัมฤทธิ์ของดันเจี้ยนเริ่มต้น เพื่อให้คนอื่นรู้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยมาที่นี่ในหมู่บ้านลีฟและประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์
“ใช่แล้ว!” โคเล็ตต์ มองไปที่ชื่อพี่สาวของเธอบนแผ่นหินสัมฤทธิ์ “ก่อนที่พวกเราจะออกจากหมู่บ้านนี้ พวกเราจะต้องทิ้งชื่อไว้บนแผ่นหินสัมฤทธิ์นี้ให้ได้ แม้ว่าฉันจะไม่มั่นใจว่าพวกเราจะสามารถเอาชนะสถิติของพี่สาวของฉันได้ไหม แต่การได้ อันดับ 2 ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!”
สมาชิกในปาร์ตี้ของ โคเล็ตต์ พยักหน้าอย่างเห็นด้วย พวกเขาเองก็ต้องการทิ้งความทรงจำไว้เบื้องหลัง และ การสลักชื่อของพวกเขาไว้ในแผ่นหินสัมฤทธิ์ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อรักษาร่องรอยของพวกเขาเอาไว้
“เอาล่ะ!” โคเล็ตต์ วางมือของเธอลงบนประตูดันเจี้ยน ซึ่งมันจะพาพวกเขาเข้าไปในดันเจี้ยน ทันใดนั้นประตูตรงหน้าของพวกเขาก็เปิดออก
“หลังจากเข้าไปแล้วทุกคนจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของฉันเข้าใจมั้ย!” โคเล็ตต์ ได้เตือนทุกคน “แม้ว่านี่จะเป็นความยากระดับปกติ แต่พวกเราก็อาจถูกฆ่าตายได้หากไม่ระวัง”
ทุกคนรวมถึง ลุกซ์ พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครโต้แย้งอะไร โคเล็ตต์ จึงได้เดินนำพวกเขาเข้าไป และ คนอื่น ๆ ก็เดินตามหลังของเธอเข้าไป