บทที่ 934 (55) กลัวจะโดนหนุ่มหล่อหลอก?
บทที่ 934 (55) กลัวจะโดนหนุ่มหล่อหลอก?
“กระแสไฟฟ้าชีวภาพ... ดูเหมือนว่าถ้าไม่ใช้กระแสไฟฟ้าชีวภาพด้วย เราจะไม่มีทางจัดการกับมันได้ด้วยกำปั้นเพียวๆจริงๆสินะ!” จี้เฟิงในเวลานี้ยืนอยู่ตรงข้ามกันสัตว์ร้าย เขาหายใจหนักกว่าปกติ เขาได้ยืนยันคำพูดของสมองหมายเลข 1 ด้วยการลงมือจริงๆดูแล้ว ดูเหมือนว่าสิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับการออกกำลังกายด้วยไฟฟ้าชีวภาพ กำปั้นและลูกเตะด้วยพลังทางกายภาพเพียงอย่างเดียวไม่ได้ผลกับสัตว์ร้าย!
“กรี๊ซซซ~~!” สัตว์ร้ายร้องคำรามอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กีบเท้าทั้งสี่ของมันปักแน่นอยู่บนพื้น สองขาหลังตะกุยเตรียมพร้อมที่จะพุ่งเข้าหาจี้เฟิงอีกครั้ง ร่างกายที่ใหญ่โตและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของมันแสดงพลังที่น่าเกรงขาม
จี้เฟิงยืนอยู่บนพื้นโดยแยกเท้าออกจากกันและกระตุ้นพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพอย่างรวดเร็ว และแทบจะในทันที เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพละกำลัง
“ตุ้บ—! ตุ้บ—!” สัตว์ร้ายพุ่งเข้าหาจี้เฟิงอย่างรวดเร็ว
“ฟึ่บ—!”
จี้เฟิงหลบการพุ่งเข้ามาของสัตว์ร้ายด้วยการเบี่ยงตัวไปด้านข้างอีกครั้งจากนั้นก็ชกเข้าที่ข้างลำตัวของมันด้วยหมัด
“ตู้ม—!”
อย่างไรก็ตาม หมัดของเขาที่ต่อยออกไปก่อนหน้านี้แล้วไม่เกิดผลอันใดได้แสดงพลังพิเศษออกมาทันที เมื่อหมัดของจี้เฟิงที่บรรจุกระแสไฟฟ้าชีวภาพโดนสัตว์ร้าย เจ้าสัตว์ร้ายก็ส่งเสียงกรีดออกมาทันทีและจากนั้นมันก็ล้มลงกับพื้น!
“กรี๊ซซซซ~~!” เสียงกรีดร้องที่แหลมบาดหูของมันแสดงให้เห็นว่ามันได้รับการโจมตีที่รุนแรง
จี้เฟิงมองไปที่กำปั้นของเขาอย่างตกตะลึง “พลังไฟฟ้าชีวภาพมันทรงพลังมากขนาดนี้เลยหรือนี่? ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมากในครั้งเดียว?!”
แม้เขาจะรู้ว่าพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพนั้นทรงพลังมาก แต่ในความเป็นจริง ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาสามารถนำมันออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าการกระตุ้นพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพด้วยความแรงทั้งหมดจะมีประสิทธิภาพเพียงใด!
แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว!
แน่นอน เขายังตระหนักว่านี่เป็นฉากจำลองโดยพื้นที่ฝึกฝน มันได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ใช้พลังงานไฟฟ้าชีวภาพเป็นหลัก รวมถึงสัตว์ร้ายเหล่านี้ก็ถูกควบคุมด้วยไฟฟ้าชีวภาพ นั่นเป็นสาเหตุที่พวกมันมีพลังมหาศาล
แต่เมื่อพลังไฟฟ้าชีวภาพได้นำมาใช้กับมนุษย์ มันทำให้เห็นว่าผลกระทบของพลังงานไฟฟ้าชีวภาพมีประสิทธิภาพมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อคิดได้เช่นนี้ จี้เฟิงก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขาตะโกนเสียงดังและออกวิ่งเข้าหาสัตว์ร้ายอีกครั้ง
“กรี๊ซซ~~!”
สัตว์ร้ายยังคงร้องคำราม มันลุกขึ้นและถูกีบเท้าของมันบนพื้นสองสามครั้งและพุ่งเข้าหาจี้เฟิงเช่นกัน
จี้เฟิงหยุดชะงักกะทันหัน เขากางขาออกและค่อยๆหมอบลง สายตายังคงจับจ้องไปที่สัตว์ร้ายที่กำลังพุ่งเข้ามา แต่เขาไม่มีทีท่าว่าจะหลบเลย
เขารู้ได้ทันทีว่าสัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป
“ตุ้บ—! ตุ้บ—!” สัตว์ร้ายวิ่งมาด้วยความเร็ว และมันก็มาถึงตรงหน้าของจี้เฟิงภายในพริบตา มันยังคงพุ่งตรงไปทางจี้เฟิงเหมือนกับรถไฟที่วิ่งอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งกีดขวางที่อยู่ข้างหน้า มันดูน่ากลัวมาก
ในขณะเดียวกัน กำปั้นของจี้เฟิงก็ยกขึ้นสูง มันเป็นกำปั้นที่เต็มไปด้วยพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพที่รุนแรง และมันก็แตกออกราวกับสายฟ้าฟาด
“ย๊ากกก—!”
พร้อมกับเสียงคำรามที่ดุดัน จี้เฟิงกระแทกกำปั้นของเขาอย่างแรงไปที่ปากของสัตว์ร้าย และวินาทีต่อมา ผลกระทบของการปะทะกันอย่างรุนแรงก็เกิดขึ้น ร่างกายของจี้เฟิงสั่น เขาเซถลาไปข้างหลังเจ็ดถึงแปดก้าวติดต่อกันอย่างไม่สามารถควบคุมได้ จนกระทั่งร่างของเขาชนกับต้นไม้ใหญ่ถึงได้หยุดลง
หากไม่มีต้นไม้ใหญ่มาค้ำยันไว้ เขาคงได้ล้มลงกับพื้นไปแล้ว ผลกระทบของสัตว์ร้ายตัวนี้น่ากลัวจริงๆ จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะแอบสยอง แม้ว่าเขาจะใช้พละกำลังอย่างเต็มที่บวกกับพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพ เขาก็ไม่สามารถหยุดมันได้โดยทันที!
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่สัตว์ร้ายอีกครั้ง จี้เฟิงแทบจะอุทานออกมาดังๆ
ตรงจุดที่จี้เฟิงยืนอยู่ตอนนี้ มีรอยกรงเล็บสี่รอยบนพื้น มันลากยาวไปข้างหลังไกลถึงสามสี่เมตรและไปสิ้นสุดตรงด้านหน้าของสัตว์ร้าย
เมื่อมองไปที่สัตว์ร้ายอีกครั้ง มันสั่นสะท้านไปทั้งตัว แขนขาเหยียดไปข้างหน้า นอนอยู่บนพื้น ส่งเสียงร้องอย่างไม่หยุดหย่อน
ด้วยหมัดเดียว สัตว์ร้ายกระเด็นถอยหลังไปสามหรือสี่เมตร! รอยกรงเล็บบนพื้นเป็นหลักฐานว่ามันจับพื้นเมื่อมันถูกทุบ!
ดวงตาของจี้เฟิงเบิกกว้างทันที พลังของกระแสไฟฟ้าชีวภาพมันน่ากลัวมากขนาดนี้เลยหรือ?!
“ฟู่~!”
จี้เฟิงผ่อนลมหายใจออกยาวๆและก้าวไปข้างหน้าเพื่อจบการต่อสู้นี้
“ก๊าซซซซ~~!”
สัตว์ร้ายร้องอย่างแปลกประหลาดราวกับว่ามันตกใจ มันรีบลุกขึ้นและหันหลังกลับวิ่งหนีเข้าไปในพุ่มไม้แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
“ห๊ะ.. มันหนีเหรอนั่น?!” จี้เฟิงตกตะลึง “อย่างน้อยมันก็รู้จักหนีสินะ.. และดูเหมือนว่ามันจะกลัวพลังงานกระแสชีวภาพจริงๆ!”
ในเวลานี้ จี้เฟิงเข้าใจคำพูดของสมองหมายเลข 1 อย่างชัดเจนแล้ว ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีในการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพ และเนื่องจากสัตว์ป่าในสนามฝึกซ้อมพวกนี้ไม่เกรงกลัวสิ่งใดนอกจากพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพ ดังนั้นถ้าจี้เฟิงต้องการจะออกจากป่านี้ เขาจะต้องเผชิญหน้ากับพวกมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และระหว่างทางกว่าเขาจะเจอทางออก เขาจะต้องผ่านการต่อสู้ที่เข้มข้นเช่นนี้อีกหลายครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย และแน่นอนว่าพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพของเขาจะต้องก้าวหน้าอย่างมาก!
“ขอแสดงความยินดีด้วยครับมาสเตอร์!” สมองหมายเลข 1 ที่มีรูปลักษณ์เป็นก้อนกลมของกลุ่มแสงปรากฏขึ้นข้างๆจี้เฟิงอีกครั้ง
“แล้วไงต่อ เดินไปเรื่อยๆแบบนี้เหรอ?” เมื่อมองไปยังป่าทึบที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงตระหง่านอยู่ทุกที่ จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะถาม “แล้วฉันควรจะไปทางไหนล่ะ? ใช้เส้นทางไหนถึงจะดีที่สุด”
“มาสเตอร์ ไม่ว่ามาสเตอร์จะไปทางไหน ขอเพียงมาสเตอร์สามารถออกจากป่านี้ได้ มาสเตอร์ก็จะผ่านการทดสอบ” สมองหมายเลข 1 กล่าว
กฎเกณฑ์ที่จะผ่านการทดสอบไม่มีอะไรซับซ้อนสินะ!
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าและถามอีกครั้ง “แล้วมันมีเวลาจำกัดรึเปล่า?”
“ไม่มี”
สมองหมายเลข 1 กล่าวว่า “มาสเตอร์ ตามการตั้งค่าของโปรแกรม การทดสอบนี้ไม่มีเวลาจำกัด แต่ถ้ามาสเตอร์ยังไม่สามารถออกไปได้ ครั้งต่อไปที่มาสเตอร์เข้าสู่พื้นที่ฝึกฝน มันจะส่งมาสเตอร์กลับมาสู่ตำแหน่งเดิมก่อนที่มาสเตอร์จะออกไป และจะเป็นเช่นนี้จนกว่ามาสเตอร์จะออกจากป่าแห่งนี้ไปได้ครับ”
จี้เฟิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “คุณหมายความว่า ถ้าฉันออกจากพื้นที่ฝึกตอนนี้ ฉันก็จะกลับมาอยู่ตรงนี้ถ้าฉันกลับเข้ามาอีกครั้ง?”
“ใช่แล้วครับมาสเตอร์” สมองหมายเลข 1 ยืนยันคำพูดของจี้เฟิง “หากไม่เสร็จสิ้นการฝึก มาสเตอร์จะทำอะไรอย่างอื่นในพื้นที่ฝึกไม่ได้”
ทันใดนั้นจี้เฟิงก็ตระหนักว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการฝึกขั้นที่สามที่กำหนดโดยโปรแกรม หากคุณไม่สามารถฝึกให้สำเร็จได้ คุณจะไม่สามารถเข้าสู่ขั้นต่อไปได้ ซึ่งแตกต่างจากการฝึกบอลแฮนด์ดี้แคปก่อนหน้านี้หรือสองขั้นตอนแรก
“เข้าใจล่ะ! ฉันจะไปต่อ!” จี้เฟิงมองไปรอบๆ และในที่สุดก็ตัดสินใจไปทางทิศใต้ เขาตัดสินใจจากทักษะที่เขาเคยเรียนรู้ในการแยกแยะทิศทาง แต่ความจริงแล้ว ในความคิดเขา เขาเชื่อว่ามันคงไม่แตกต่างกันไม่ว่าเขาจะเลือกไปทางไหน เพราะเป้าหมายหลักของขั้นตอนนี้คือการออกกำลังกายไฟฟ้าชีวภาพ แต่ในเมื่อเขาสามารถใช้ความรู้ที่เรียนรู้มาได้ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ใช้มันล่ะ?
“ว่าแต่ สัตว์พวกนี้ทำไมมันถึงได้มีหน้าตาประหลาดๆ แถมยังดุร้ายมากอีกด้วย” จี้เฟิงชวนสมองหมายเลข 1 คุยอย่างสบายๆระหว่างเดินทาง “คุณสมอง! อย่าบอกนะว่าสัตว์พวกนี้เป็นสัตว์ร้ายจากกาแล็กซีแกมมาของคุณน่ะ?!”
“ใช่แล้วครับมาสเตอร์!” สมองหมายเลข 1 พูด “นี่คือสัตว์ร้ายของกาแล็กซีแกมมา แต่เป็นสัตว์ร้ายที่ถูกคัดเลือกมาเฉพาะพวกที่มีความดุร้ายต่ำ!”
“ดุร้ายต่ำ? พวกนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอ่อนแองั้นเหรอ...” จี้เฟิงยิ้มอย่างขมขื่น “แล้วถ้าสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งที่สุดมา ฉันคงทำได้แค่วิ่งหนีอย่างเดียวเลยใช่มั้ย? แม้ว่าฉันจะใช้พลังไฟฟ้าชีวภาพก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้เลยสินะ?”
“มาสเตอร์ไม่ต้องกังวล สัตว์ร้ายที่นี่จะไม่ทำร้ายมาสเตอร์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส” สมองหมายเลข 1 กล่าว
“ถึงมีก็อย่าได้กลัว เพราะยังไงมันก็เป็นการฝึก ง่ายไปจะเรียกว่าฝึกได้ยังไง!” จี้เฟิงกล่าวเสียงดัง
“โฮกกก~~!”
ในขณะนี้ ได้มีสัตว์ร้ายอีกตัวหนึ่งร้องคำรามมาจากทางด้านหน้า
จิตวิญญาณนักสู้ของจี้เฟิงตื่นตัวขึ้นอีกครั้งและพูดอย่างฮึกเหิม “เอาล่ะ! ดูเหมือนว่าจะได้ต่อสู้อีกครั้งแล้ว...”
...............
เมื่อจี้เฟิงได้ถูกปลุกให้ตื่นโดยนาฬิกาปลุกและออกมาจากพื้นที่ฝึกในจิตใต้สำนึกของเขาเอง ก็เป็นเวลาหกโมงเช้าของวันใหม่แล้ว ครั้งนี้เขาใช้เวลาไปเกือบเจ็ดชั่วโมงในการฝึกฝน
ในระหว่างกระบวนการนี้ จี้เฟิงได้พบสัตว์ดุร้ายหน้าตาประหลาดหลากหลายรูปแบบหลากหลายชนิด บางตัวบุกมาเดี่ยวๆ บางตัวก็โผล่ออกมาเป็นกลุ่มเล็กๆ มีแม้แต่กลุ่มใหญ่หลายสิบตัวรวมกัน และสัตว์ดุร้ายเหล่านั้นเป็นสัตว์ที่จี้เฟิงไม่เคยเห็นมาก่อน มันดูแปลกมาก!
สัตว์ร้ายแห่งกาแล็กซีแกมมาเหล่านี้ได้เปิดหูเปิดตาจี้เฟิงเป็นอย่างมาก มันมีหลากหลายรูปแบบมากกว่าที่เราจะจินตนาการได้!
หลังจากล้างหน้าล้างตาอย่างง่ายๆ จี้เฟิงก็ออกไปเดินเล่นสูดอากาศ จากนั้นก็ไปที่ร้านอาหารเช้าตามข้างทางใกล้กับทางเข้าโซนของหมู่บ้านวิลล่าเพื่อซื้ออาหารเช้า ยังไงก็ตาม ตอนนี้ที่บ้านของเขามีคนอยู่เยอะขึ้น และจี้เฟิงยังไม่ได้จ้างแม่บ้านเต็มเวลา การพึ่งพาแค่เซียวหยูซวนและถงเล่ยให้เตรียมอาหารเช้าอาจเป็นการลำบากพวกเธอจนเกินไป
และเมื่อจี้เฟิงกลับมา เขาพบว่าเซียวหยูซวน ถงเล่ยและคนอื่นๆตื่นขึ้นแล้ว พวกเธอได้เตรียมนมถั่วเหลืองอย่างง่ายๆไว้เรียบร้อยแล้วด้วย
“ฉันซื้ออาหารเช้ามาแล้ว พวกเธอจะบดนมถั่วเหลืองเองให้เหนื่อยไปทำไม” จี้เฟิงวางอาหารเช้าในมือลงบนโต๊ะและพูดด้วยรอยยิ้ม
“ของที่ซื้อจากข้างนอกส่วนใหญ่ไม่ค่อยดี บางร้านก็ทำไม่สะอาด ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่จะกินมัน สู้ของทำเองก็ไม่ได้!” เซียวหยูซวนถอดผ้ากันเปื้อนออกและนำนมถั่วเหลืองร้อนๆมาให้จี้เฟิง “รีบกินซะก่อนมันจะเย็น”
“โอเคๆ!” จี้เฟิงรับมาและพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ในเวลารับประทานอาหาร อาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่จี้เฟิงสงบนิ่งน้อยที่สุด เขาไม่เคยกินอาหารเหมือนอย่างลูกผู้ดีมีเงินส่วนใหญ่กิน อย่างการกินน้อยๆหรือกินอย่างประณีต เขามักจะกินเหมือนคนที่หิวกระหายแถมยังกินเร็วมาก
แต่แทนที่จะรู้สึกว่าเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพเพราะกินมูมมาม มันกลับตรงกันข้ามสำหรับความคิดของเซียวหยูซวนและถงเล่ย พวกเธอรู้สึกว่าเขาดูเป็นผู้ชายที่สุดเวลากินแบบนี้
เซียวหยูซวนเคยกล่าวไว้ว่าสิ่งที่เธอไม่ชอบที่สุดคือผู้ชายหลายคนอ้าปากเล็กกว่าผู้หญิงเมื่อเวลาที่พวกเขากิน มันดูกระมิดกระเมี้ยนจนน่าหมั่นไส้!
ผู้ชายก็ควรจะมีมุมดิบเถื่อนในแบบของลูกผู้ชายบ้างถึงจะดี!
หลังอาหารเช้า จี้เฟิงบอกให้หานเซิ่นขับรถไปมหาวิทยาลัยกับถงเล่ย ในขณะที่เขายังอยู่ที่วิลล่าเพราะตัดสินใจว่าวันนี้จะออกไปตรวจสอบดูความเรียบร้อยที่โรงงานผลิตยา
ในขณะที่เซียวหยูซวนและเสี่ยวอิงกำลังเก็บข้าวของและเตรียมจะออกไป จี้เฟิงดึงเซียวหยูซวนหลบมาด้านข้าง
“มีอะไรเหรอ?” เซียวหยูซวนถาม
“หยูซวน ช่วงนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่กันแน่? ทำไมถึงได้ทำตัวลึกลับจัง” จี้เฟิงถาม “ออกไปพร้อมกับเราทุกเช้า บางครั้งตกเย็นเรากลับมา เธอยังไม่กลับมาด้วยซ้ำ กว่าจะมาก็ค่ำมืด มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
เดิมทีจี้เฟิงไม่ตั้งใจที่จะถามเซียวหยูซวนเกี่ยวกับสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ ในเมื่อเธอไม่อยากบอกหรือไม่ต้องการให้เขารู้ เขาก็จะไม่ถาม เมื่อไหร่ที่เธอต้องการจะพูด เธอจะพูดมันออกมาเอง ดังนั้นจี้เฟิงจึงไม่ได้จี้ถามเอาคำตอบจากเธอมากเกินไป
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป เพราะจี้เฟิงเริ่มกังวลแล้วว่าเซียวหยูซวนอาจมีปัญหาหรืออาจกำลังทำเรื่องที่เป็นปัญหาโดยไม่รู้ตัว เพราะเธออาจถูกใครบางคนที่อยู่ข้างนอกหลอกก็ได้ ถ้าเป็นกรณีนี้จี้เฟิงจึงต้องถาม
ดวงตาคมสวยของเซียวหยูซวนมองบนเล็กน้อยก่อนจะเม้มริมฝีปากและพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ทำไม? นายคิดว่าฉันนอกใจนายเพราะถูกผู้ชายหล่อๆหลอกเหรอ?”
“เธอกำลังพูดเรื่องอะไรเนี่ย!” จี้เฟิงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาจะหมายความว่าอย่างนั้นได้อย่างไร เขายังคงมั่นใจในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซียวหยูซวนอย่างแน่นอน
รู้หรือไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซียวหยูซวนไม่ได้เกิดขึ้นในรูปแบบที่หญิงสาวชอบเงินก้อนโตต้องการผู้ชายร่ำรวยไว้ปรนเปรอตัวเองโดยเฉพาะ และไม่ใช่ความรักที่เกิดขึ้นแค่เขาหลงรักเธอที่รูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่มันเกิดขึ้นด้วยความรู้สึกรักจริงๆ แล้วภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เซียวหยูซวนที่มีเสี่ยวอิงคอยตามติดตลอดเวลาจะถูกคนอื่นหลอกได้ยังไง? ไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีใครเข้ามาหลอก แค่เข้ามาใกล้เธอ ผู้ชายพวกนั้นจะทำได้หรือเปล่า?
....จบบทที่ 934 ~