(ฟรี) บทที่ 385 ไปอาศัยอยู่ข้างนอกด้วยกัน!
เมื่อมองไปที่สภาพแวดล้อมที่ทรุดโทรม ฉู่หลิงฉวนก็ตกอยู่ในห้วงความคิด
ปัญหาที่แท้จริงตอนนี้คือพวกเขาไม่มีที่ซุกหัวนอน
ยังมีห้องว่างและห้องพักจำนวนมากบนเกาะ แต่วันนี้ฉู่หลิงฉวนต้องสอนเซินหนิงและช่วยนางชำระล้างไขกระดูกในตอนกลางคืน
อีกทั้งอวี้ชิงหลันยังต้องจับตาดูนางตลอดเวลา...
ไม่เหมาะที่จะนอนในห้องรับรองแขก
แต่นางไม่สามารถคิดวิธีที่ดีกว่านี้ได้
อวี้ชิงหลันมองไปที่หลี่หรานและดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องรบกวนผู้นำนิกายฉู่ นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้จะไปอยู่ที่เมืองเจียงเจ๋อสักสองสามวัน”
“เมืองเจียงเจ๋อ?”
“นักพรตอวี้ไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อเฝ้าดูข้าตลอดเวลาหรอกหรือ? ทำไมเจ้าถึงจะไปที่เมือง?”
อวี้ชิงหลันกล่าวอย่างเคร่งขรึม “นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้พอใจมากกับบุคลิกของผู้นำนิกายฉู่ และหลังจากการสังเกตในวันนี้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่จงใจถ่วงเวลา”
“อา?” ฉู่หลิงฉวนขมวดคิ้ว
นี่ฟังดูไม่เข้ากับนิสัยของอวี้ชิงหลันแม้แต่น้อย ทัศนคติที่เปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้คืออะไร?
“นักพรตอวี้แน่ใจหรือว่าจะไปอยู่ที่เมืองเจียงเจ๋อ?” นางถามอีกครั้ง
“ใช่” อวี้ชิงหลันพยักหน้าและพูดว่า “นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้ต้องการพูดคุยกับหรานเอ๋อร์และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฝึกฝนของเขา ดังนั้นข้าจะไม่รบกวนผู้นำนิกายฉู่”
ขณะพูดนางก็กำลังจะดึงหลี่หรานออกไป
“เดี๋ยวก่อน” ฉู่หลิงฉวนมีปฏิกิริยาและขมวดคิ้ว “เจ้าหมายความว่ายังไงที่จะพาหลี่หรานไปด้วย?”
อวี้ชิงหลันกล่าวว่า “ข้าจะไปอยู่ในเมืองเจียงเจ๋ากับเขาก่อน หลังจากที่เซินหนิงบรรลุขั้นกลางของขอบเขตหลอมรวมลมปราณแล้วข้าค่อยมารับนางพร้อมกับเขา”
ฉู่หลิงฉวนแทบจะระเบิดออกมาทันที
ปรากฎว่านางมีความคิดเช่นนี้!
ด้วยพรสวรรค์ด้านการบ่มเพาะของเซินหนิง จะใช้เวลาไม่นานสำหรับนางที่จะไปถึงขั้นกลางของขอบเขตหลอมรวมลมปราณ เดิมทีนางและหลี่หรานก็มีเวลาอยู่ด้วยกันอีกไม่นานแล้ว แต่นักพรตเต๋าคนนี้กลับต้องการพาเขาไป!
นางกำลังจะเป็นบ้าแล้วจริงๆ!
ในเวลานี้อวี้ชิงหลันกำลังจะจากไป แต่ฉู่หลิงฉวนหยุดนางไว้
“เดี๋ยวก่อน ข้าจะไปด้วย!”
“อา?” อวี้ชิงหลันตกตะลึง “เจ้าจะไปที่เมืองเจียงเจ๋อด้วย?”
“ถูกต้อง” ฉู่หลิงฉวนกล่าวอย่างเด็ดขาด “นักพรตอวี้เดินทางมาไกล แน่นอนว่าข้าต้องไปกับเจ้าด้วยตัวเอง มิฉะนั้นศาลาหมื่นดาบของข้าคงถูกกล่าวหาว่าละเลยแขกผู้มีเกียรติ”
อวี้ชิงหลันขมวดคิ้ว “แล้วการบ่มเพาะของเซินหนิงล่ะ?”
ฉู่หลิงฉวนอุ้มเด็กสาวตัวเล็กๆขึ้นมา “แน่นอนว่านางจะไปด้วย ผู้ฝึกตนเองก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆ และนางยังสามารถบ่มเพาะในเมืองเจียงเจ๋อได้อีกด้วย”
นางคิดเกี่ยวกับเป็นอย่างดี
ความเร็วในการบ่มเพาะที่ภายนอกนั้นไม่เร็วเท่ากับในนิกาย ดังนั้นนางจึงสามารถอยู่กับหลี่หรานได้เพิ่มอีกสองสามวัน
นอกจากนี้ยังสามารถไปเดินเล่นและชมละครด้วยกันได้อีกด้วย มันเหมือนกับการฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว!
“นี่…” อวี้ชิงหลันลังเล
แต่นางไม่สามารถหาเหตุผลที่จะหักล้างได้
“เอาล่ะไปกันเถอะ ไม่งั้นจะเช้าเสียก่อน” หลังจากพูดอย่างนั้นฉู่หลิงฉวนก็อุ้มเซินหนิงและเดินออกไป
อวี้ชิงหลันทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย นางทำได้เพียงตามหลี่หรานไปอย่างรวดเร็ว
“นี่…” หลินหลางเยว่ถามอย่างระมัดระวัง “ท่านอาจารย์ เช่นนั้นศิษย์จะอาศัยอยู่ที่ไหน?”
อวี้ชิงหลันกล่าวว่า “เจ้าสามารถอาศัยอยู่กับหัวหน้าศิษย์เยว่ ไม่จำเป็นต้องตามเราไปที่นั่น”
ฉู่หลิงฉวนพูดโดยไม่หันกลับมา “เจียนหลี่ ดูแลหัวหน้าศิษย์หลินให้ดี อย่าละเลยนาง”
เยว่เจียนหลี่พูดไม่ออก “......”
เฝ้าดูแผ่นหลังที่หายไปอย่างช้าๆ ทั้งสองยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังราวกับเด็กสองคนที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง
“ท่านอาจารย์เปลี่ยนไปแล้ว นางไม่เคยทิ้งข้าไว้คนเดียว…”
“เดี๋ยวเจ้าก็ชิน แต่ข้าอยากไปเมืองเจียงเจ๋อด้วยจริงๆ”
“ข้าก็เหมือนกัน”
“อา…” ทั้งสองถอนหายใจพร้อมกัน หัวใจของพวกนางอ้างว้างอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ไปอาบน้ำกันต่อเถอะ”
“อืม ก่อนหน้านี้ข้ายังพูดไม่จบ…”
—
เมืองเจียงเจ๋อ…
ทั้งสี่ก้าวผ่านความว่างเปล่ามาถึงทางเดินบนชั้นสาม
แม้จะดึกมากจนโรงเตี๊ยมปิดแล้ว แต่ก่อนหน้านี้หลี่หรานได้จองไว้ทั้งชั้น ตอนนี้ห้องจึงยังว่างอยู่
หลี่หรานชี้ไปที่ห้องตรงข้ามกันและกล่าวว่า “อาจารย์ชิงหลันกับข้าอยู่ที่สองห้องนี้ อาจารย์หลิงฉวนสามารถเลือกห้องอื่นได้”
“เข้าใจแล้ว” ฉู่หลิงฉวนพยักหน้า
นางอุ้มเซินหนิงและเดินเข้าไปในห้องหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ
หลังจากดูทั้งสองเข้าไปแล้ว หลี่หรานและอวี้ชิงหลันก็กลับไปที่ห้องของพวกเขาเช่นกัน
ภายในห้อง…
กลิ่นหอมของธูปลอยอบอวล
หลี่หรานย้ายเก้าอี้ไปนั่งข้างหน้าต่าง สายลมอ่อนๆยามค่ำคืนทำให้รู้สึกสดชื่น
บรรยากาศแห่งความเงียบงันประกอบกับดวงดาวดวงน้อยใหญ่บนท้องฟ้าทำให้เขาสงบลงโดยไม่ได้ตั้งใจ
ปราณดาบที่ปลายนิ้วของเขาส่องแสงเหมือนสายฟ้าที่สั่นไหว
ครั้งนี้เขามาที่เกาะดาบเมฆาด้วยเหตุการณ์ที่พลิกผัน แต่การเก็บเกี่ยวก็ค่อนข้างคุ้มค่า
ปราณดาบระดับจักรพรรดิ เพลิงศักดิ์สิทธิ์บัวบริสุทธิ์ รูปปั้นผู้พิทักษ์ เทคนิคการวาดดาบ… ทั้งหมดนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากและได้มาโดยแทบไม่ต้องแสวงหา
เขาโชคดีจริงๆ
แต่ในใจของหลี่หราน สิ่งที่คุ้มค่ามากที่สุดจากการเดินทางมาทะเลตะวันออกไม่ใช่พลังเหนือธรรมชาติเหล่านี้
มันคือฉู่หลิงฉวน
หญิงสาวที่ก่อนหน้านี้เขาเรียกนางว่า “สตรีบ้า” ได้สร้างความผูกพันกับเขาอย่างลึกซึ้ง
ผู้นำนิกายคนนี้แข็งแกร่ง เย่อหยิ่ง และบางครั้งก็ไร้เหตุผล แต่ในขณะเดียวกันก็จริงใจ ซื่อตรง และชอบธรรม
ด้วยบุคลิกที่ขัดแย้งกันนี้ นางมีเสน่ห์อันแปลกประหลาดซึ่งทำให้หลี่หรานอดไม่ได้ที่จะอยากเข้าใกล้นาง
“แม้ว่าอาจารย์หลิงฉวนจะรุนแรงเล็กน้อย แต่นางก็น่ารักจริงๆ”
เมื่อนึกถึงท่าทางแข็งกร้าวของอาจารย์ทั้งสองตอนเผชิญหน้ากับเฉินหยุนเต๋าในระหว่างวัน ความอบอุ่นก็แผ่ซ่านในหัวใจของเขา
“และอาจารย์ชิงหลันผู้น่ารักเสมอมา… ฮี่ฮี่ ข้าค่อนข้างละอายเกินกว่าจะกินข้าวนุ่มๆนี้”
[TL: 吃软饭 (chī ruǎn fàn) แปลตรงตัวได้ว่า “กินข้าวนิ่ม” หมายถึง เลี้ยงชีพด้วยการเกาะผู้หญิงกิน ]
หลี่หรานยิ้มอย่างสดใส
ในขณะนี้เอง เสียงดังขึ้นจากด้านหลัง “ข้าวนุ่มๆอะไร? เจ้าหิวอีกแล้ว?”
“หือ?” หลี่หรานหันศีรษะทันทีและเห็นอวี้ชิงหลันยืนอยู่ข้างหลัง กำลังมองเขาอย่างสงสัย
“อาจารย์ชิงหลัน ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่?”
อวี้ชิงหลันย่นจมูกเล็กน้อยและฮึมฮัม “ทำไม? ไม่ต้อนรับข้าหรือไง?”
“แน่นอนว่าไม่” หลี่หรานแสดงทัศนคติด้วยการกระทำ
เขายื่นมือออกและดึงอวี้ชิงหลันเข้ามาในอ้อมแขน ปล่อยให้นางนั่งบนตักเขา
แก้มของอวี้ชิงหลันแดงเล็กน้อย แต่นางไม่ได้ดิ้นรน
อวี้ชิงหลันพิงไหล่เขาและพูดเสียงเบา “หัวขโมยน้อย ข้าโกรธเจ้ามากเลยรู้ไหม”
หลี่หรานพูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์จะเต็มใจทำให้ท่านอาจารย์โกรธได้ยังไง?”
“ยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก! วันนี้เจ้า…”
ก่อนที่อวี้ชิงหลันจะพูดจบ ริมฝีปากของนางก็ถูกปิดกั้น
/////