ตอนที่แล้วบทที่ 110: กระรอกนี่แรงมาก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 112: จี้และกำไลที่เกมสร้างขึ้น!

บทที่ 111: การขยายโรงงาน! ขุดแร่หยก!


ตกกลางคืน

ในบ้านไร่ชิงหลินที่เดิมทีพลุกพล่านบัดนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ได้กลับออกไปแล้ว  จะเหลือก็แต่พวกตั้งเต็นท์ที่มีไม่กี่หลังโดยนักท่องเที่ยวข้างในเต็นท์ก็กำลังใช้เวลายามค่ำคืนไปกับความน่าตื่นเต้น

“เถ้าแก่ฉิน  พวกเราเลิกงานแล้วไว้เจอกันพรุ่งนี้ครับ” หัวหน้าหงพาลูกน้องมาบอกลาฉินหลินจากนั้นก็ขับรถสายตรวจออกจากบ้านไร่ไป

“อู้วู่วววววว!” เสียงร้องขอความช่วยเหลือของเจ้าวั่งไฉดังขึ้น

มันกระโดดเหยง ๆ ไปมาอยู่ตรงหน้าฉินหลิน  โม่ชิง  และหลินเฟิน  เพราะว่าบนหลังมันมีเจ้าชื่อเหมาเกาะอยู่แถมดูเหมือนมันจะสลัดยังไงก็ไม่ยอมหลุดด้วย  เจ้าตัวเล็กเหมือนอยากเป็นกระรอกตัวแรกของโลกที่ได้ขี่หมา  ส่วนเจ้าหมาก็ไม่อยากเป็นหมาตัวแรกของโลกที่ให้กระรอกขี่แล้วสุดท้ายก็มาจบที่สภาพแบบนี้

เมื่อเผชิญกับการขอความช่วยเหลือของเจ้าวั่งไฉทั้งจ้าวโม่ชิงและหลินเฟินเฝ้าดูอยู่เฉย ๆ ส่วนฉินหลินก็ดุไปว่า “ชื่อเหมาแกอย่ารังแกวั่งไฉสิ!”

‘เหมือนเห็นเด็กน้อยสองคนทะเลาะกันเลยเว้ย!’

เมื่อเห็นว่าเจ้านายทั้งสามไม่ยอมจับกระรอกออกให้เจ้าหมามันเลยแก้ทางโดยลงไปนอนเกลือกกลิ้งทำให้เจ้ากระรอกต้องโดนบีบให้หนีจากหลังมันและปีนขึ้นไปนั่งบนไหล่ของฉินหลินแทน

“งี้ด ๆ ๆ ๆ แง่ง” เจ้าวั่งไฉลุกขึ้นคร่ำครวญใส่ชื่อเหมาด้วยความไม่พอใจ

แล้วจู่ ๆ เกาเหยาเหยาก็วิ่งเข้ามาหา “เถ้าแก่คะ  ดูลิสต์การค้นหายอดนิยมของติ๊กต็อกสิ  เจ้าชื่อเหมาดังใหญ่แล้วค่ะ!”

ทั้งฉินหลินและจ้าวโม่ชิงหยิบมือถือออกมาไถดูและเปิดลิสต์ยอดการค้นหายอดนิยมของติ๊กต็อกก็เห็นว่ามีแต่เรื่องของเจ้าชื่อเหมาเต็มไปหมด  เป็นการค้นหาคลิปของมันที่นักท่องเที่ยวถ่ายไว้ได้จนมีหลาย ๆ คนก็อปปี้ไปลงช่องตัวเองและบางช่องมีคนไปกดไลค์กันเป็นแสน

คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่สาวสวยเอาลูกสนที่กัดไปแล้วครึ่งลูกให้เจ้าชื่อเหมาแล้วก็โดนมันชู้ตทิ้งด้วยความขยะแขยง  ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านักท่องเที่ยวคนไหนที่ถ่ายไว้ทันแล้วเอาไปลงติ๊กต็อก

ชื่อคลิปว่า “กระรอกในบ้านไร่ชิงหลินก็มีหัวใจ  ต่อให้เป็นสาวสวยก็อย่ามาแหยมนะ!”

“ชื่อเหมาทำงั้นจริงเหรอ?” จ้าวโม่ชิงถามขึ้นหลังจากเห็นชื่อเหมาเตะลูกสนด้วยความขยะแขยง

คอมเมนต์ใต้คลิปสิยิ่งหนัก

“กระรอกน้อย:  แม่สาวปากเหม็นนี้อยากให้กูแดกน้ำลายเหรอวะ  ยากส์บอกเลอ!”

“โคตรเอา  แม้จะไม่ใช่เรื่องอันตรายแต่ก็ดูถูกกันเกิ๊น!”

“ต่อต้านกระรอกที่เอาคนมาฆ่าด้วยสายตารังเกียจ”

“กระรอกมันจะรู้ว่าคนสวยมีกลิ่นปากแล้วไงวะ  พวกมึงอะหลีกไปให้หมด  ถ้ากระรอกไม่ยอมจูบงั้นเด๋วพี่จูบเองก็ได้น้อง!”

“...”

ฉินหลินอ่านเมนต์ไปก็อมยิ้มไป

‘แม่สาวไฟหน้าคู่โตนั่นเห็นคลิปตัวเองแบบนี้จะอายม้วนต้วนเลยป่าววะ?’

“ฉินหลิน  ดูหมีตัวนี้สิมันฮ็อตกว่าเจ้าชื่อเหมาอีก” จู่ ๆ จ้าวโม่ชิงก็ยื่นมือถือที่เปิดคลิปที่กำลังมาแรงให้เขาดู

มันเป็นหมีดำสวมสวมจีวรพระเล่นโรลเลอร์สเก็ต (น่าจะอันนี้) แถมมันยังเล่นได้ชิล ๆ เลยด้วย

“เจ้าหมีนี่เป็นไซอิ๋วกลับชาติมาเกิดเรอะ!”

“แต่ชีวิตกูไม่ได้ชิล ๆ เหมือนหมีมันว่ะ!”

“เด๋วกระรอกเด๋วหมีดำ  อะไรวะหนิ  สัตว์ในติ๊กต็อกเด๋วนี้มันฉลาดกันเกินปุยมุ้ย”

สัตว์น่ารัก ๆ เหล่านี้มันจะแพร่ระบาดบนอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ๆ เสมอ  ทำให้แม่สาวขายาวที่พึ่งจะดึงกระแสในติ๊กต็อกกลับมาได้นั้นต้องตกกระป๋องอีกรอบเพราะโดนเจ้าสัตว์สองตัวนี่ทุบตี

เมื่อเข้าชื่อเหมาปรากฏตัวขึ้นมาบ้านไร่ก็มีชีวิตชีวามากขึ้น

ตลอดหลายวันหลังจากนั้นบรรดานักท่องเที่ยวต่างก็แห่แหนกันมาหมายจะถ่ายรูปชื่อเหมาโดยเฉพาะ

แล้วก็มีเรื่องตลกไร้สาระเกิดขึ้นในบ้านไร่ด้วยในช่วงสองวันมานี้

คือมีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งมาที่มาเที่ยวเป็นเพื่อนกันเพื่อนในบริษัท  แต่แล้วกลับมาป๊ะเข้ากับแฟนสาวของตัวเอง  และแฟนสาวคนนั้นเพิ่มเติมคือมีไอ้หนุ่มคนหนึ่งมาด้วย  แล้วเจ้าหนุ่มก็จัดการทุบตีไอ้หนุ่มด้วยความโมโห

หลังจากทุบตีเสร็จแล้วผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าคนที่มึงพึ่งตีคือพี่ชายกู!  แล้วด้วยความโมโหบ้างเจ้าหล่อนก็เลยบอกเลิกเจ้าหนุ่มพร้อมพาไอ้หนุ่มที่เป็นพี่ชายกลับไปเลย  ส่วนคนก่อเรื่องก็ถูกหัวหน้าหงใส่กำไลเงินคู่สวยพาไปที่ดี ๆ ที่มีข้าวกินฟรีสามมื้อเป็นเวลาสามวัน

นอกจากนี้เงินกองทุนพิเศษแนะนำองค์กรได้โอนเข้าบัญชีบริษัทชิงหลินฟู้ดแล้วด้วย

สรุปคือแม้ฉินหลินจะจัดการหนี้ครัวเรือนของตนเรียบร้อยแล้วก็ตาม  แต่เขากลับเป็นหนี้อำเภอเพิ่มเป็น 50 ล้านซะอย่างนั้น

แต่ครั้งนี้แม้ตัวเลขหนี้จะเยอะทว่าเขากลับไม่รู้สึกเร่งด่วนเหมือนเมื่อก่อน  กลับเต็มไปด้วยความหวังในอนาคต

เพราะหนี้ก้อนนี้แตกต่างจากหนี้ก้อนที่แล้วอย่างสิ้นเชิง

.............................................................…

ตอนบ่าย

แดดร่มลมตกเหมาะแก่การท่องเที่ยวหน้าหนาว

บ้านไร่ชิงหลินยังคงมีชีวิตชีวามากขึ้น

หลังจากรับโทรศัพท์จากเติ้งกวงแล้วฉินหลินก็ขับรถ BMW Series 5 ไปที่โรงงานทันที

นอกโรงงานเห็นว่ามีคิวยาวสองคิวเรียงกันอยู่  และมีโต๊ะสองตัวตั้งอยู่ที่หน้าประตูโรงงาน  มีผู้จัดการสองคนที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากโรงงานเดิมกำลังลงทะเบียนข้อมูลบุคคล

นี่คือการรับสมัครงาน

เงินจากทางอำเภอได้มาแล้วทำให้การขยายโรงงานจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้  ดังนั้นจึงต้องเริ่มรับสมัครพนักงานก่อนเลยล่วงหน้า

ทันทีที่เติ้งกวงขึ้นรถเขาก็บอกว่า “คุณฉิน  เราได้ติดต่อทุกคนแล้วไปดูโรงงานทีละแห่งได้เลยครับ”

“อืม!” ฉินหลินพยักหน้า

กองทุนแนะนำองค์กร 30 ล้านของอำเภอได้โอนเข้ามาแล้ว  ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะต้องเอาเงินออกมาใช้เพื่อขยายขนาดการผลิตซอสมะเขือเทศชิงหลินโดยเร็วที่สุด

เงินทั้งหมดนี้มีดอกเบี้ย

วิธีที่เร็วที่สุดในการขยายธุรกิจคือการซื้อโรงงานสำเร็จรูปที่เหมาะกับการผลิตอาหาร  แบบนั้นเรื่องที่ต้องทำก็แค่ซื้อไลน์การผลิตที่ยังขาดอยู่และปรับจูนข้อบกพร่องในไลน์การผลิตเท่านั้น

ฉินหลินได้ใช้เงินกว่า 30 ล้านดังกล่าวนั้นในการซื้อไลน์การผลิตไปแล้ว  โดยเงินที่ใช้ซื้อโรงงาน  วัตถุดิบ  จ่ายค่าจ้างพนักงาน  และอื่น ๆ นั้นไม่ได้รวมอยู่ในนี้

มีทั้งหมด 35 ไลน์การผลิต

มีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งในอำเภอโหยวเฉิงที่มีโรงงานซึ่งสามารถรองรับไลน์การผลิตจำนวนมากขนาดนี้ได้  และบริษัทที่มีโรงงานขนาดนี้จะไม่ขายโรงงานของตนแน่นอน  ดังนั้นบริษัทชิงหลินฟู้ดจึงต้องซื้อโรงงานหลายแห่งแทน

ในเขตเล็ก ๆ เช่นโหยวเฉิงไม่มีทางที่จะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว  ทำได้เพียงรอให้บริษัทชิงหลินฟู้ดพัฒนาได้ดีขึ้นในอนาคตแล้วลงทุนสร้างอาคารโรงงานขนาดใหญ่ด้วยตัวเอง

ฉินหลินและเติ้งกวงไปดูสถานที่ทีละแห่ง ๆ และรู้สึกพึงพอใจมาก  ดังนั้นพวกเขาจึงดำเนินตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและเซ็นสัญญา

โรงงานเหล่านี้ได้รับการติดต่อจากทางอำเภอจริงแล้ว  ซึ่งบรรดาเจ้าของโรงงานเหล่านั้นย่อมไม่กล้าตุกติกอะไร  ทางอำเภอกังวลเรื่องซอสมะเขือเทศชิงหลินของเถ้าแก่ฉินมาก  แถมโรงงานเหล่านี้ก็ตั้งอยู่บนเขตอุตสาหกรรมด้วยทำให้แต่ละแห่งไม่ได้ห่างกันมาก

ฉินหลินรับพนักงานเดิมของโรงงานเหล่านั้นเข้าทำงานอยู่แล้วตามที่ได้ตกลง  โดยขั้นแรกให้พนักงานเดิมเหล่านั้นไปยังโรงงานแรกของบริษัทเพื่อทำความคุ้นเคยกับไลน์การผลิตซอสมะเขือเทศชิงหลินก่อน  ไม่อย่างนั้นต่อให้มีแรงงานแต่ยังไม่คุ้นกับงานล่ะก็ช่วงที่ไลน์การผลิตมาติดตั้งเดี๋ยวจะเสียเวลาเพิ่ม

หากพนักงานคุ้นเคยแล้วเมื่อไลน์การผลิตทั้ง 35 มาติดตั้งก็จะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทันที  ซึ่งบริษัทชิงหลินฟู้ดก็จะมีไลน์การผลิตทั้งหมด 42 ไลน์  แต่ละไลน์สามารถผลิตซอสมะเขือเทศได้ชั่วโมงละ 1,000 ขวด

บริษัทชิงหลินฟู้ดทำงานวันละ 2 กะ  กะละ 10 ชั่วโมง  หากรับสมัครเต็มจำนวนล่ะก็พนักงานน่าจะมีเกิน 600 คน

ถึงตอนนั้นกำลังการผลิตสูงสุดของบริษัทชิงหลินฟู้ดจะสูงถึงวันละ 840,000 ขวดขนาด 200 กรัม  ซึ่งจะไม่ใช่แค่พอให้เฉิงเหอเอาไปกระจายในมณฑลฝูเจี้ยน  แต่ยังพอต่อการกระจายออกไปสู่มณฑลอื่นด้วย

และปัญหาที่จะตามมาหลังจากนั้นคือเรื่องวัตถุดิบ  อำเภอโหยวเฉิงไม่มีวัตถุดิบอย่างมะเขือเทศมากมายที่จะตอบสนองการผลิตประเภทนี้  ดังนั้นจึงต้องมีการซื้อมะเขือเทศจากที่อื่นซึ่งจะมีราคาสูงกว่าและทำให้ต้นทุนสูงขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

กระนั้นมันก็เพราะการพัฒนาที่เร็วเกินไปทำให้เรื่องนี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้

ฉินหลินไปกับเติ้งกวงกว่าครึ่งวัน  หลังจากจัดการเรื่องโรงงานเสร็จแล้วก็ส่งต่อให้เติ้งกวงส่วนตัวเองก็ขับรถกลับไปที่บ้านไร่

เมื่อมาถึงโถงต้อนรับเขาก็เห็นเจ้าวั่งไฉนอนอยู่กับพื้นโดยมีเจ้าชื่อเหมากระโดดโลดเต้นอยู่บนหลังมัน

ดูเจ้ากระรอกน้อยจะสนใจหลังของเจ้าหมามากจริง ๆ

หลังจากโดนไปหลายวันเจ้าวั่งไฉก็เหมือนจะได้เรียนรู้แล้วว่าจะทำอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์มันเลยต้องยอมรับชะตากรรมของตน

ที่เคานท์เตอร์จ้าวโม่ชิงก็กำลังยุ่งอยู่กับการแนะนำการทำงานให้สาว ๆ อีก 4 คนอยู่หน้าคอมพิวเตอร์

เป็นนักการเงิน 1 คนกับนักบัญชีอีก 3 ที่พึ่งจะรับเข้ามา

ด้วยการพัฒนาของบ้านไร่และบริษัทชิงหลินฟู้ดทำให้จ้าวโม่ชิงไม่สามารถทำงานเหล่านี้ทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวได้  ดังนั้นจึงต้องหาคนช่วยแต่ฉินหลินนั้นแม้จะวางแผนรับสมัครคนอยู่แล้วก็เถอะ  ทว่าก็ยังไม่พบคนที่เหมาะสมกับงานนี้เลยมาพักใหญ่แล้ว

แล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนได้บังเอิญมีการสอบข้าราชการประจำอำเภอขึ้นพอดี  เนื่องจากจ้าวโม่ชิงได้ลาออกจากกรมสรรพากรทำให้ต้องมีการรับคนเข้าทำงานในตำแหน่งของเธอใหม่  เมื่อทางอำเภอมีการประกาศรับสมัครสอบก็ทำให้มีคนที่จบเอกไฟแนนซ์และบัญชีหลายคนมาลองสมัครดู  แน่นอนว่าผลสุดท้ายจะมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะได้งาน

คนเหล่านี้ต่างก็ต้องทำงานอยู่ที่บ้านเกิดของตนแน่นอนอยู่แล้วถึงได้สมัครสอบข้าราชการ  จ้าวโม่ชิงเลยฉวยโอกาสนี้ใช้เส้นสายของอาเขยเพื่อให้ตนได้เข้าถึงตัวคนเหล่านี้และทำการคัดเลือกมาทำงาน

ฉินหลินไม่ได้รบกวนจ้าวโม่ชิง  เขาไปนั่งที่โต๊ะข้างหน้าต่างพร้อมกับเปิดจอนั่งเล่นเกมสั่งตัวละครไปหาขุดแร่ในเหมืองน้ำพุ

ตอนชั้นที่ 1 เขาขุดเจอแผ่นหินลึกลับซึ่งมีสูตรซอสมะเขือเทศบรรจุอยู่ภายในทำให้เขาตั้งตารอเหมืองนี่มาก ๆ

ตัวละครได้ไปยังเหมืองชั้น 2 และเริ่มขุด

สิ่งที่ขุดขึ้นมาได้นั้นก็มีทอง  เงิน  และทองแดงมากมาย  ส่วนแผ่นหินลึกลับนั้นไม่เจอ  จะเจอก็แต่แจ้งเตือนแบบใหม่

[ขอแสดงความยินดี  ได้รับแร่หยกม่วง: เลเวล 1]

แร่หยกม่วง?

ไม่ได้เป็นหินหยกม่วงหรอกเหรอ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด