ตอนที่ 69 แม่น้ำใต้ดินที่รอคอย
ตอนที่ 69 แม่น้ำใต้ดินที่รอคอย
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลิน ยู นำชาวเมืองที่ลงทะเบียนขุดเหมืองไปยังภูเขาหินด้านหลังเมืองหวงซา และสั่งให้พวกเขาเริ่มสำรวจเหมืองแร่ก่อน
หลิน ยู เดินสำรวจบริเวณโดยรอบ
แน่นอนว่า มันเป็นดังที่ เซียว ฉางกุ้ย เหมืองแร่ทั้ง 2 แห่งที่เคยถูกขุดขึ้นมานั้น ทั้ง 2 จุดนำไปสู่สายแร่เหล็กและสายแร่ทองแดงด้านล่าง
พื้นที่ของแร่จริงๆนั้นใหญ่มาก นี้มันยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้
"เนื่องจากชั้นหินที่พวกเราอยู่ในตอนนี้ มันค่อนข้างตื้น ทำให้เห็นสายแร่แบบนี้ไปปะปลาย"
ซู่จง ที่ยืนอยู่ข้างๆคอยอธิบายเขา
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของ เขา หลิน ยูก็อดไม่ได้ที่จะถาม "แบบนี้นี่เอง แล้วทำไมราชันคนก่อนถึงเลือกที่จะจากไปละ"
ต้องเข้าใจก่อนว่าการที่มีสายแร่ขนาดใหญ่แบบนี้อยู่ใกล้กับอาณาเขตของตัวเอง นับเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง
คงมีเพียงแค่ไม่กี่คนที่ได้ครอบครองมัน แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมราชันคนก่อนถึงเลือกที่จะทิ้งมันไป
ซู่จง ดูเหมือนจะไม่กล้าพูดถึงราชันคนก่อน เขายิ้มออกมาอย่างข่มขื่น "นายท่าน ท่านน่าจะทราบว่าดินแดนของเรานั้นอยู่ในถิ่นทุรกันดาลด้วยสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย นอกจากสายแร่นี้แล้ว มันก็ไม่ได้มีอย่างอื่นอีก คนในพื้นที่บางคนไม่สามารถที่จะอยู่ได้ ราชันคนก่อนเองก็เช่นกัน เขาอยู่ได้เพียง 1 เดือนแล้วจึงเลือกที่จะจากไป"
"นั่นคงเป็นความจริงที่เกิดขึ้น"
หลิน ยู พยักหน้าอย่างเงียบๆ
สภาพแวดล้อมอันเลวร้ายของเมืองหวงซาทำให้ยากที่คนทั่วไปจะอยู่ได้
ถ้าไม่ใช่เพราะการเอาตัวรอดเป็นจุดแข็งของเผ่าพฤกษาเขาก็คงไม่สามารถอยู่ต่อไปได้เหมือนกัน
ลองมองย้อนกลับมาในตอนนี้ ดูสิ่งที่เขาได้รับ
การปรากฏตัวของสายแร่นี้สามารถแก้ปัญหาเรื่องทรัพยากรแร่ของเขาได้ ในขณะเดียวกันเขายังสามารถนำไปสร้างอาคารที่ไม่เคยสร้างมาก่อนได้อีกด้วย รวมถึงการพัฒนาเมืองหวงซาควบคู่ไปด้วย
นี้เป็นที่ๆดีเลยสำหรับเขา
เมืองร้างนี้ดูเหมือนจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลิน ยู ก็เต็มไปด้วยพลังเปี่ยมล้น เริ่มแจกจ่ายเครื่องมือขุดเหมืองที่เขาได้สร้างจากโรงงานผลิตอาวุธ โดยเริ่มสั่งให้ชาวเมืองเริ่มขุดแร่ และสั่งให้ส่งไปเก็บไว้ในดินแดน
เพื่อพัฒนาชีวิตของพวกเขา เหล่าชาวเมืองมีแรงจูงใจในการทำงานพวกเขาเริ่มขุดกันอย่างหนักหน่วง หลังจากนั้นไม่นานก็มีจอบและพรั่งกระทบของกับหินแร่ เป็นฉากค่อนข้างมีชีวิตชีวาทีเดียว
หลังจากที่สังเกตการณ์รอบๆอยู่พักหนึ่ง ยืนยันว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ เขาก็ออกจากภูเขาหินพร้อมกับกองทัพพืชของเขากลับไปยังอาณาเขต
ระหว่างทางกลับเขาแวะไปดูพื่นที่เพาะปลูกที่สร้างขึ้นขึ้นมาใหม่ และพบว่าเมล็ดพันธุ์รุ่นแรกที่ปลูกไว้เมื่อวานมันยังไม่มีท่าทีจะแตกหน่อ
ไม่ต้องพูดถึงเมล็ดพันรุ่น 2 หรือรุ่น 3 เลย พวกมันนิ่งไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น
ดูเหมือนว่าเป็นเพราะไม่มีน้ำไปหล่อเลี้ยงจึงทำให้โตได้ช้ามาก ต่อให้เป็นเมล็ดพันธุ์ของเขาก็ตาม นี้มันแย่จริงๆ...
"โอ้ นายท่านเหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่ได้"
ในเวลานั้น เซียว ฉางกุ้ยที่กำลังเดินตรวจพื้นที่เพาะปลูก เขาสำรวจจากระยะไกลจนได้เจอ กับหลิน ยู เข้าจึงรีบเข้ามาทักทาย
"แล้วคุณหล่ะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้"
"กระผมไม่มีอะไรทำหน่ะ เลยมาเดินตรวจพื้นที่เพาะปลูกดู" เซียว ฉางกุ้ย ยิ้มออกมา "ไม่ทราบว่านายท่านมาที่นี้ด้วยเหตุใด หรือนายท่านมีคำสั่งเพิ่มเติม"
"เปล่า ฉันแค่จะมาดูตรวจพื้นที่เพาะปลูก ไม่คิดว่ามันจะโตได้ช้าขนาดนี้"
"ท่านกำลังพูดถึงเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นหรือ?" เซียว ฉางกุ้ย มองไปยังพื้นที่เพาะปลูกที่จะได้รับการปรับปรุงซึ่งอยู่ถัดจากเขาไป "มันโตช้ากว่าที่อื่นจริงๆ"
"แต่เราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า ใครกันที่เป็นคนกำหนดให้ที่นี้มีสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายขนาดนี้ หากเราแก้ไขมันได้ เราสามารถปลูกมันสำปะหลังและอื่นๆ เพื่อใช้ดำรงชีพได้ เมล็ดพันธุ์ที่นายท่านประทานมาให้ มันกลับสามารถโตในสถานที่แบบนี้ได้ แค่นี้ก็น่าเหลือเชื่อแล้ว"
"แล้วคุณไม่คิดจะต่อแหล่งน้ำเข้ามาที่นี้งั้นเหรอ?" หลิน ยู ถาม
"แน่นอน ผมเคยคิด แต่แถวๆนี้ นอกจากบ่อน้ำแห้งๆ 2 3 บ่อแล้ว มันยังจะมีแหล่งน้ำที่ไหนอีก?"
เซียว ฉางกุ้ย มองไปบริเวณรอบๆดินแดนที่แห้งแล้ง เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
ในฐานะที่ชายชราเป็นรักษาการณ์เมืองหวงซา ทำไมเขาไม่หวังจะทำให้ที่นี้ดีขึ้น?
ด้วยความพยายามที่ไร้ผลนี้ ทำให้คนรุ่นหลังจำนวนมากเลือกที่จะออกจากเมืองหวงซาไปอยู่ที่อื่น
สุดท้ายพวกเขาก็เป็นแค่คนธรรมดาทำให้ความสามารถของพวกเขาจำกัดอยุ๋เพียงแค่นี้
หลิน ยู ยืนอยู่ข้างๆเขารู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง ดวงตาของเขาเปล่งประกายเล็กน้อย
ในช่วงนี้เวลานี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดจะแก้ปัญหาแหล่งน้ำ เขาสั่งให้มังกรปิศาจพฤกษาบินออกไปสำรวจบริเวณโดยรอบทุกวันเพื่อค้นหาแหล่งน้ำ
แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ เขาไม่พบอะไรเลย
นี้เป็นปัญหาใหญ่ แม้ว่าเขาจะต้องการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของเมืองหวงซา แต่เขาไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย
ฟ้าววว-
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็มีสายพัดทำลายชัดบรรยากาศดังขึ้น
มังกรปิศาจพฤกษาที่ออกไปสำรวจหาแหล่งน้ำเพิ่งบินกลับมาจากด้านนอก
เดิมที หลิน ยู นั้นเตรียมใจไว้แล้วที่จะพบกับความผิดหวัง แต่ตอนนั้นเขาก็ได้รับข้อความจาก มังกรปิศาจพฤกษา ว่า พบแหล่งน้ำแล้ว
"เจอแหล่งน้ำแล้วงั้นเหรอ!?"
หลิน ยู ตกตะลึงไปชั่วขณะและรีบเดินเข้าหามันทันที
หลังจากที่รู้ข่าวจากมังกรปิศาจพฤกษา เขาจึงต้องการยืนยันเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด จึงสั่งให้มังกรปิศาจพฤกษานำทางไป มุ่งหน้าไปภูเขาชายขอบของทะเลทรายโกบี
เขานำกองทัพพืชทั้งหมดขึ้นมาบนภูเขาหิน มาถึงแม่น้ำบนภูเขาที่ห่างออกไป 5 กิโล มันเป็นแม่น้ำใต้ดินที่ไหลไปตามซอกหินที่ถูกระเบิดออก
นี้มันไม่ใช่แหล่งน้ำที่เขาตามหางั้นเหรอ?
เขาต้องตรวจสอบบางอย่างซะก่อน
กลายเป็นว่าราชาปิศาจเห็ดผู้รักสนุกแอบขี่หลังมังกรปิศาจพฤกษา ในตอนที่เขากำลังไปที่เหมือง
เมื่อมันเห็นสัตว์ตัวเล็ก วิ่งผ่าน จึงโยนระเบิดเห็น 2 3 ต้นไปทางนั้น
สุดท้ายระเบิดกลับไม่โดนเจ้าสัตว์ตัวเล็กนั้น แต่มันระเบิดไปโดนแม่น้ำใต้ดินแทน
เขาไม่รู้ว่าต้องดุหรือชมมันดี
"ชั่งมันเถอะ ถือว่านายทำดีในครั้งนี้ ฉันจะยกโทษให้ก็แล้วกัน"
หลิน ยู ตบหัวเจ้าราชาเห็ด
ราชาเห็ดที่ยังคงซ่อนตัวอยู่มุมห้อง กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลิน ยู จึงยิ้มออกมา และไม่ได้สนใจมันอีก รีบกลับไปยังดินแดนอีกครั้ง
แม้ว่าจะพบแหล่งน้ำแล้ว แต่มันก็ยังห่างไกลจากอาณาเขต
ถึง 5 กิโลเมตร
แถมมันยังอยู่ใต้ดินที่เป็นหิน
หากไม่ใช่เพราะแรงระเบิดของ ราชาปิศาจเห็ด เขาเกรงว่ามันคงไม่มีทางระเบิดหินลึกได้ขนาดนั้น ไม่แปลกทำไมชาวเมืองหวงซาถึงได้ไม่พบแม่น้ำใต้ดินนี้
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพบ แต่ก็คงไม่สามารถส่งมันไปยังเมืองได้
แน่นอนว่านี้ไม่ใช่เรื่องยากกำลังราชัน แต่มันต้องใช้เวลา
ดังนั้นหลังจากกลับไปยังดินแดน หลิน ยู ใช้พลังเวทย์ที่เขาได้สะสมในเวลา 2 วันที่ผ่านมานี้อัญเชิญวิญญาณพืชระดับ 5 มาเพื่อกลายพันธุ์
ขอให้รอบนี้โชคดีทีเถอะ
เมื่อเขากลายพันธุ์มาถึงครั้งที่ 9 เห็นแฝดก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
นอกจากราชาปิศาจเห็ดกับตัวที่กลายพันธุ์เมื่อวันก่อน อีกทั้งยังมีเห็ดระเบิดอีก 4 ตัว
นี้คือการตั้งทีมระเบิดคลองขึ้นมา
จากนั้น หลิน ยู ทำทีมเห็ดระเบิดกับพืชอีก 2 3 ตัวไปยังทิศทางของแม่น้ำใต้ดิน
ชาวเมืองรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้รับข่าว
พวกเขาทั้งหมดต่างระดมกำลัง หยิบเครื่องไม้เครื่องมือ เตรียมขุดร่องแม่น้ำเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้
แม้แต่ผู้หญิงและเด็ก พวกเขาก็มาเข้าร่วมทำแนวกั้นดินสำหรับเก็บน้ำ
ในเวลาเดียวกันนั้น
หลิน ยู ได้นำกองทัพพืชของเขาไปยังแม่น้ำใต้ดินและปล่อยเห็นระเบิดผ่านช่องบนหินที่อยู่ถัดจากแม่น้ำใต้ดิน
ในตอนนั้นเองเสียงระเบิดดังกึกก้องในภูเขา เส้นทางค่อยๆกล้าวขึ้นปรากฏเป็นทางทอดยาวไปยังเมืองหวงซา
ช่องว่างต่างๆที่ปรากฏถูกปิดกั้นโดยเหล่าชาวเมืองที่ทำคั้นกั้นน้ำขึ้นมาและนำน้ำไปรดผืนดินที่แห้งสนิท
เหล่าหัวหน้า นำชาวเมืองมาไว้ทุกที่ทั้งนอกเมืองและระหว่างภูเขา
จนกระทั่งหลังเที่ยงของวันที่ 4 ในที่สุดทางน้ำก็เปิดออกเชื่อมต่อกับคูคลองที่พวกเขาสร้างขึ้นนอกกำแพง
ช่องว่างทั้งหมดได้รับการอุดหมดแล้ว
เหล่าชาวเมืองตั้งหน้าตั้งตารอ ครอบครัวของพวกเขาก็มารวมตัวกันที่นอกเมือง แม้แต่คนที่ขุดแร่อยู่ที่เหมืองก็กลับมาอย่างเร่งรีบ