ตอนที่แล้วตอนที่ 27
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 29

ตอนที่ 28


5 วันผ่านไป นับตั้งแต่อเล็กซ์สร้างเจ้าสไลม์สองตัว

อเล็กซ์นั้นอาศัยอยู่แต่ภายในโรงแรม เขาดื่มยาล้มเหลวเป็นว่าเล่นและดิ้นรนทรมานทุกรูปแบบ เรียกว่าว่าเป็นมหกรรมการทนมานตัวราวกับตกนรกเลยทีเดียว แต่เขาก็ทำสิ่งเหล่านี้อย่างมีความสุข เพราะมันจะมอบประโยชน์ให้เขาในอนาคตแน่นอน

ส่วนในเวลานี้ คลาสนินชูก็มาถึงเลเวล 5 แล้ว ทำให้อเล็กซ์มาถึงจุดตัดแรก

จุดตัดแรกคือ เขามีคลาสทั้งหมดรวมกันได้เลเวล 20 คือคลาสนักสู้ 15 และคลาสนินชู 5 โดยไม่รวมคลาส Novice กับคลาสสายอาชีพ

ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงมีเลเวลรวมกันได้ 20 เมื่อถึงระดับนี้จะได้รับการมอบทักษะและความสามารถบางอย่างเพิ่มขึ้นมาจำนวนหนึ่ง จากคลาสทั้งหมดที่เรามี

และทุกๆ 20 เลเวลก็จะมอบบางสิ่งมาให้เช่นนี้เสมอ มันจึงเรียกว่าเป็นการผ่านจุดตัด ที่จะเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง ทั้งด้านคุณภาพและทักษะต่างๆ

อเล็กซ์ได้ทักษะเกี่ยวกับนักสู้มากขึ้น ส่วนคลาสนินชู เขาก็ได้รับความสามารถคือ

ความสามารถ : แปลงคุณสมบัติจักระ

คำอธิบาย : สามารถใช้จักระเพื่อแปลงเป็นสิ่งที่ท่านเข้าใจ

ความสามารถนี้ มีคำอธิบายที่ค่อนข้างคลุมเครือ แต่มันถือได้ว่าเป็นการยกระดับ การใช้จักระให้ขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของ คลาสนินชู ด้านคุณภาพ

แต่เขาก็ต้องใช้เวลาฝึกฝน เพื่อเอาความสามารถเหล่านั้น มาใช้ให้เกิดผลประโยชน์กับตัวเขาเอง

ส่วนทางด้านความสามารถต้านทานก็พัฒนาขึ้นหลายอย่าง และมีความสามารถ ต้านทานธาตุดิน ( I ) , ต้านทานธาตุลม ( I ) เพิ่มขึ้น

ซึ่งเกิดจากยาล้มเหลวจำนวนหนึ่ง มอบสถานะที่ทำให้เขาเหมือนเกิดพายุในท้อง และเลือดพร้อมกับกล้ามเนื้อแข็งตัวราวกับหิน มันถือเป็นสถานะที่อันตรายมากๆ เรียกได้ว่าทำให้คนๆ ติดอยู่ในอาการโคม่าได้เลย

ถ้าอเล็กซ์ไม่ได้ทักษะ ควบคุมจักระ เขาก็คงนอนตายกลายเป็นปุ๋ยไปแล้ว เพราะสถานะพวกนั้น มันไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการปกติทั่วไป

ทางด้านสไลม์ทั้งสองก้อน พวกมันก็เริ่มปรากฏคอร์ ซึ่งเป็นแกนกลางของสไลม์ขึ้นมาแล้ว

ทำให้ก้อนน้ำในกล่องเคลื่อนไหวไปมาเป็นคลื่นอยู่ตลอดเวลา แต่พวกมันเป็นเพียงก้อนชีวิตที่อ่อนจางมากๆเท่านั้น หากจะเกิดการกระทบกระเทือน จนเสียหายก็เป็นไปได้ เปรียบเสมือนเด็กทารกที่ต้องอยู่การดูแลของมารดาตลอดเวลา

' เราพร้อมทุกอย่าง คงได้เวลาไปฝึกฝนตัวเองที่ด้านนอกแล้ว '

อเล็กซ์อาศัยอยู่แต่ในโรงแรม แล้วรู้สึกเคลื่อนไหวทำอะไรก็ไม่สะดวก เขาจึงวางแผนที่จะออกนอกเมืองในวันนี้

อเล็กซ์สะพายกระเป๋าขนาดใหญ่กว่าครั้งก่อนๆ เพราะเขาจะต้องพาเจ้าสไลม์สองก้อนไปด้วย

แถมในครั้งนี้ อเล็กซ์ได้เดินออกหน้าประตูเมืองอย่างไม่เกรงกลัว

เมื่อออกประตูมาได้ เขาก็เร่งความเร็วและพุ่งหายเข้าไปในป่าทันที

ซึ่งพวกที่เฝ้าจับตาอยู่ในมุมหนึ่ง ก็รีบพุ่งติดตามไป ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งไปรายงานการเคลื่อนไหว

….

อเล็กซ์พุ่งผ่านจากต้นไม้หนึ่งไปต้นไม้หนึ่งอย่างรวดเร็วราวกับสายลม

แต่เขาก็ไม่ได้ออกแรงเต็มที่ เพราะด้านหลังก็มีพวกสไลม์ที่กำลังอ่อนแออยู่

แต่ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนมาปรากฏขึ้นที่ด้านหน้า พร้อมกลุ่มคนที่ติดตามมาด้านหลัง พร้อมประกบอเล็กซ์จากทั้งสองด้าน

ในกลุ่มเบื้องหน้าของอเล็กซ์ มีชายร่างสูงใหญ่กำยำถือกระบองขนาดใหญ่พาดบ่า พร้อมมองมาที่อเล็กซ์อย่างแดกดันสมเพชพร้อมกล่าว

" ในที่สุดแกก็ยอมโผล่หัวออกจากเมือง คิดว่าจะหดหัวเป็นลูกเต่าในกระดองซะแล้ว "

" ฮ่าๆ แถมในเวลานี้ ดันกล้าหาญออกมาเดินทางเพียงคนเดียว ไม่รู้ว่าแกมันไม่รู้จักความกลัวหรือว่าโง่กันแน่ "

พวกข้างกายชายที่ถือกระบองก็หัวเราะพร้อมใช้คำพูดยั่วยุแบบไม่มียั้งมือ แต่พวกเขาก็ไม่ได้โง่และผลีผลาม

ก่อนที่พวกเขาตัดสินใจมาล่าค่าหัว พวกเขาก็ต้องตรวจสอบเป้าหมายของตัวเองมาอย่างดีอยู่แล้ว

อเล็กซ์นั้นแม้จะอายุยังน้อย แต่ก็สังหารปรมาจารย์นักสู้ไปได้แล้วหนึ่งคน ถือว่าไม่ธรรมดาเลยก็ว่าได้ พวกเขาจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

" ไหนโชว์พลังของแกออกมาส "

ชายร่างใหญ่ กระโดดเทคตัวขึ้นสูงและง้างกระบองฟาดไปยังจุดที่อเล็กซ์อยู่ในทันที

พลังของกระบองเรียกได้ว่าสามารถทุบพื้นที่โดยรอบให้กลายเป็นเศษผงได้เลย

แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนรอบข้างตกตะลึงจนตาโตเท่าไข่ห่าน คือการตอบโต้ของอเล็กซ์ต่างหาก

เขาเคลื่อนไปด้านหน้าเล็กน้อย พร้อมยกหมัดขึ้นมา พร้อมต่อยเสยขึ้นไปเผชิญหน้ากับกระบองตรงๆ

' ไอเด็กบ้านี้มันคิดอะไรอยู่ '

นี้คือสิ่งที่พวกเขาอุทานในใจ ไม่เว้นแม้แต่ชายที่ใช้กระบองฟาดลงมา

" เปรี้ยง "

หมัดกับกระบองปะทะกันดังสนั่น จนเกิดเป็นคลื่นเล็กๆกระจายไปรอบข้างอย่างรวดเร็ว

ผลลัพธ์ของการปะทะคือ กระบองถูกซัดจนกระเด็นถอยหลัง ชายร่างโตรู้สึกเหมือนเขาพึ่งฟาดเข้าใส่บางอย่างที่แข็งและรุนแรงมากๆ

ทางด้านอเล็กซ์หมัดของเขาถลอกเล็กน้อย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องปกติเลยที่หมัดจะสามารถทนทานได้ถึงขั้นนี้

ในเวลานี้ ความสามารถ ร่างกายนักสู้มาถึง ( V ) แล้ว ทำให้พลังในตอนต่อสู้ขึ้นเพิ่มขึ้น 45%

ซึ่งตามจริง เมื่อร่างกายนักสู้ถึงขั้น ( V ) อเล็กซ์ก็กระตุ้นคลาส ปรมาจารย์นักสู้แล้ว แต่เขาปฏิเสธมันไป เพราะเขาไม่ต้องการเลือกเดินเส้นทางสายนี้อย่างเต็มตัว

แถมความสามารถหมัดเหล็กก็มาถึง ( III ) แล้ว ทำให้ความทนทานหมัดสูงมาก

ในส่วนที่สำคัญสุด คือค่าสถานะร่างกายของอเล็กซ์ ที่ในเวลานี้นำโด่งทุกค่าสถานะอื่นๆ

พละกำลัง 85

ความว่องไว 91

ความทนทาน 128

ความแม่นยำ 85

สติปัญญา 77

ความศรัทธา 55

โชค 1

สเน่ห์ 17

ในเวลานี้นั้น อเล็กซ์มีค่าต้านทานจำนวนมาก พวกมันมอบค่าสถานะร่างกายเป็นโบนัสมาให้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมอบค่าความทนทาน

ทำให้อเล็กซ์ในเวลานี้ มีค่าความทนทานสูงยิ่งกว่าพวกนักรบหรือคลาสสายแทงค์เสียอีก

แถมความทนทาน ก็เสริมกับความสามารถ หมัดเหล็ก ( III ) ทำให้หมัดมีความทนทานราวกับโลหะ

ถัดมา อเล็กซ์ก็ใช้ทักษะ พุ่งไปด้านหน้า ระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังตกใจ เข้าไประยะประชิด

พร้อมใช้หมัดที่คล้ายเมื่อซักครู่ ชกขึ้นจากมุมด้านล่าง ซึ่งมันก็คือหมัดอัปเปอร์คัต

ทักษะ หมัดอัปเปอร์คัต ( กระแทก ) พื้นฐาน

คำอธิบาย : เพิ่มความประสิทธิภาพหมัดอัปเปอร์คัต + 140% , ( เพิ่มพลังกระแทก + 30% )

ด้วยการประชิดตัวอย่างกระทันหัน ทำให้ชายร่างใหญ่ที่ถือกระบองเป็นอาวุธ รับมือไม่ทัน เพราะกระบองถือเป็นอาวุธที่ต้องใช้ระยะในการควงฟาด

หมัดอัปเปอร์คัตจึงตรงเข้าใส่ช่วงท้องอีกฝ่ายอย่างแรง แม้ชายร่างใหญ่จะสวมเกราะโซ่เหล็กไว้ด้านในเพื่อใช้ในการป้องกัน

แต่พลังทำลายล้างของอเล็กซ์ก็รุนแรงมาก จนพลังหมัดส่งตรงถึงกระดูกซี่โครง

อำนาจของพลังกระแทกก็แสดงผล มันเพิ่มพลังทำลายล้าง จนกระดูกซี่โครงที่ถูกหมัดชนแตกละเอียดทันที

อเล็กซ์ก็ไม่ปราณี ซัดหมัดอัปเปอร์คัตใส่คางอีกฝ่ายอย่างรุนแรงแบบต่อเนื่อง พลังกระแทกทำให้คางอีกฝ่ายแตกละเอียด

ชายร่างใหญ่ทิ้งกระบองลงพื้น พร้อมด้วยที่ร่วงหมดสภาพ และตกอยู่ในสภาวะปางตายทันที

พวกที่ล้อมลอบอยู่ต่างประหวั่นพรั่นพรึง พวกมันไม่เคยเห็นนักสู้ที่มีพลังแบบนี้มาก่อน

' นี้มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว '

พวกเขาเคยออกล่าปรมาจารย์นักสู้มาหลายครั้ง จึงพูดได้ว่ามีประสบการณ์มาก่อน จึงมั่นใจในการรับงานนี้พอสมควร เพราะด้วยจำนวนคนและการเตรียมการมาอย่างดี

ทุกครั้งนักสู้มักจะเผชิญหน้ากับพวกนักรบไม่ค่อยได้ เพราะถึงยังไงหมัดจะต่อยชุดเกราะหรือพวกอาวุธหนักได้ยังไงซึ่งๆหน้า ?

แต่ในตอนนี้ ความเข้าใจในนักสู้ของพวกเขาผิดเพี้ยนไปหมด ชายตรงหน้านี้ไม่ใช้เพียงนักสู้ธรรมดา แต่เหมือนกำแพงเหล็กที่ไม่มีวันก้าวข้ามได้

พวกนั้นจึงส่งสัญญาณเล็กๆเพื่อเตรียมถอย แต่อเล็กซ์ก็กล่าวคำออกมาให้พวกเขาชะงัก

" ใครที่เคลื่อนไหวออกหนีไปเป็นคนแรก ข้าจะติดตามคนๆนั้น เพื่อไปหักแขนหักขา และโยนให้เป็นอาหารปลาใต้น้ำซะ และจะตามล่าพวกที่เหลือในภายหลัง เอาหล่ะใครอยากเสียสละคนแรก…  "

ดวงตาของอเล็กซ์ระหว่างกล่าวคำออกมานั้นเฉยเมย แต่มีจิตสังหารอันรุนแรงแผ่ออกมาราวกับเทพอสูร จนคนรอบข้างรู้สึกสั่นไหว จนติดสถานะ หวาดกลัวออกมา

อเล็กซ์ไม่มีทางติดตามเจ้าพวกนี้ทั้งหมด ถ้าพวกมันตั้งใจจะหลบหนีจริงๆ เขาจึงใช้คำพูดจิตวิทยาปั่นประสาทอีกฝ่าย

พวกที่ได้ยินก็ชะงัก พวกเขารับรู้ได้ว่าคำพูดนี้ไม่ได้เป็นคำขู่ ถ้าพวกเขาขยับออกไปเป็นคนแรก พวกเขาจะถูกตามล่าและมีจุดจบที่อนาถแน่นอน

ดังนั้นทุกคนจึงนิ่งสนิท สถานการณ์จึงกลายเป็นชะงัก พวกเขาก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้ ถ้าจะต่อสู้ พวกเขาก็มีโอกาสบาดเจ็บหนักถึงขั้นตายพร้อมกันหมดแน่ เพราะจากพลังที่อีกฝ่ายแสดงออกมา พวกเขาต้านเอาไว้ไม่ไหวแน่

" ทะ… ท่านปรมาจารย์ ข้าน้อยขออภัยที่ล่วงเกิน พวกเราพอที่จะสลายความเข้าใจผิดนี้ได้ไหม "

" โอ้….  จริงๆมันก็ง่ายมาก พวกเจ้าต้องการค่าหัว 40 เหรียญทองสินะ … งั้นพวกเจ้าก็จ่ายค่าหัวพวกเจ้าทั้งหมดมารวมกันมา 40 เหรียญทองซะ "

พวกรอบข้างต่างขมวดคิ้วอย่างขมขื่น พวกเขาต้องการล่าหัวอีกฝ่ายเพื่อเงิน แต่ไม่คิดว่าจะต้องสูญเสียเงินเสียงเองแบบนี้

" หึ อย่าให้มันมากไปนัก พวกเรามีกันตั้งหลายคน แม้เจ้าจะแข็งแกร่ง แต่การต่อสู้ย่อมเกิดความสูญเสีย ทางที่ดีปล่อยพวกเราไป แล้วพวกเราจะไม่มายุ่งกับเจ้าอีก "

ในจังหวะนั้นก็มีชายที่ถือดาบในมือ เขาพยายามที่จะใช้ความได้เปรียบเรื่องกำลังพลเพื่อต่อรองอีกฝ่าย

แม้เขาจะเกรงกลัวความแข็งแกร่งของอเล็กซ์ แต่หากต้องสูญเสียเงินมากขนาดนั้น พวกเขาก็แทบจะกลับไปเป็นยาจกเลยก็ว่าได้

เรื่องการหาเงิน ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนอเล็กซ์ที่ครั้งแรก จับปลาวิเศษระดับพิเศษมาได้ ส่วนครั้งที่สองก็เป็น ขุนโจรที่ทางการต้องการตัว

พวกเขาต่างเก็บเงินเหรียญทองแต่ละเหรียญทองได้ด้วยความยากลำบาก หากเสียมันไปคงเสียใจมาก

" หึๆๆๆ "

อเล็กซ์หัวเราะในลำคออย่างหนัก แต่ก่อนที่ใครจะคิดทำสิ่งใด อเล็กซ์ก็เดินเข้าไปหาต้นไม้ใหญ่ และเขาก็ใช้ทักษะหมัดตรง ( ทะลวง ) ต่อยเข้าใส่ลำต้นไปเต็มแรง

ด้วยความสามารถผิดมนุษย์ปกติมากมาย แถมด้วยทักษะ หมัดตรง ( ทะลวง ) ทำให้ต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่งถูกหักโค่นราวกับไม้จิ้มฟัน

แถมจุดที่หมัดปะทะก็เกิดเป็นรูทะลวงที่น่าหวาดกลัว หากซัดหมัดนี้เข้าที่ใคร ยมบาลคงเรียกตัวในทันที

' บัดซบ เจ้าเด็กนี้น่ากลัวถึงขนาดนี้ได้ยังไง ? '

พวกเขาในเวลานี้เริ่มจิตใจสั่นสะท้าน และมั่นใจได้แล้วว่าต่อสู้ไปก็มีแต่สูญเสีย จึงต้องคำนึงถึงทางออกที่จะเสียสละเงิน

" แต่ว่าเราจะมั่นใจได้ยังไง ว่าท่านจะไม่กลับคำพูด ว่าจะปล่อยพวกเราทั้งหมดไปและไม่เอาเรื่องอีก "

" ชีวิตพวกเจ้าเทียบไม่ได้กับเงิน 40 เหรียญทองหรอก เอาเป็นว่าข้าจะไม่กลับคำ ข้าสัญญา "

เมื่ออเล็กซ์ยืนกรานสัญญา พวกเขาจึงต้องหันมารวบรวมเงินกัน และวางมันลงด้านหน้าอเล็กซ์อย่างขมขื่น

" พวกเราไปกัน "

พวกเขาไม่ลืมพาชายร่างใหญ่ที่หมดสภาพกลับไปด้วย

ส่วนอเล็กซ์เขานับเงินในถุงอย่างมีความสุข

' ให้พวกล่าค่าหัวมาล่าเราเยอะๆแล้วหาเงินดีไหมนะ '

ระหว่างกระทืบพวกมันหรือสังหารเพื่อความสะใจ เขาเน้นไปที่ผลประโยชน์ที่จะได้รับดีกว่า

พวกนักล่าค่าหัว ล้วนมีชีวิตอยู่บนเส้นด้าย แม้พวกเขาจะเสียดายเงิน แต่ก็เสียดายชีวิตตัวเองเช่นกัน

แต่เอาตามจริงถ้าพวกมันเลือกต่อสู้ ก็อาจจะทำให้อเล็กซ์ลำบากได้บ้าง แต่พวกมันก็ประเมินที่จะเอาตัวรอดแบบปลอดภัยมากกว่า เพราะไม่รู้ถึงความโหดเหี้ยมที่อเล็กซ์มี นั้นมีมากสุดแค่ไหน พวกเขาจึงไม่อยากเสี่ยง

อเล็กซ์สะพายกระเป๋าและออกเดินทางไปยังแหล่งน้ำ เพื่อหาสถานที่สงบๆเพื่อฝึกฝนตัวเองต่อ

หลังจากเขาเดินทางมาจนถึงแม่น้ำแห่งใหม่ ที่นี้ในแผนที่ระบุว่าเป็นแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวและมีความลึกค่อนข้างมาก

แถมในเวลากลางคืนก็จะมีพวกมอนเตอร์ประเภท หมาป่าและสุนัขจิ้งจอกอาละวาด จึงเป็นสถานที่ที่นักตกปลาระดับล่างไม่มากัน

แถมแม่น้ำสายนี้ยังสามารถนำพาไปยังเขตแผนที่สีเหลือง ซึ่งเป็นสถานที่อันตรายอีกด้วย

อเล็กซ์หาทำเลเหมาะๆ และเขาก็สร้างที่พัก พร้อมนำสไลม์ทั้งสองตัวออกมา

ในเวลานี้ สไลม์ทั้งสองนั้นเติบโต จนวงจรชีวิตสมบูรณ์แล้ว แต่ถามถึงความแข็งแกร่ง

ถ้าเทียบเป็นค่าสถานะทางร่างกาย พวกมันคงมีค่าสถานะร่างกายทั้งหมดคือ 1

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด