ตอนที่ 28
5 วันผ่านไป นับตั้งแต่อเล็กซ์สร้างเจ้าสไลม์สองตัว
อเล็กซ์นั้นอาศัยอยู่แต่ภายในโรงแรม เขาดื่มยาล้มเหลวเป็นว่าเล่นและดิ้นรนทรมานทุกรูปแบบ เรียกว่าว่าเป็นมหกรรมการทนมานตัวราวกับตกนรกเลยทีเดียว แต่เขาก็ทำสิ่งเหล่านี้อย่างมีความสุข เพราะมันจะมอบประโยชน์ให้เขาในอนาคตแน่นอน
ส่วนในเวลานี้ คลาสนินชูก็มาถึงเลเวล 5 แล้ว ทำให้อเล็กซ์มาถึงจุดตัดแรก
จุดตัดแรกคือ เขามีคลาสทั้งหมดรวมกันได้เลเวล 20 คือคลาสนักสู้ 15 และคลาสนินชู 5 โดยไม่รวมคลาส Novice กับคลาสสายอาชีพ
ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงมีเลเวลรวมกันได้ 20 เมื่อถึงระดับนี้จะได้รับการมอบทักษะและความสามารถบางอย่างเพิ่มขึ้นมาจำนวนหนึ่ง จากคลาสทั้งหมดที่เรามี
และทุกๆ 20 เลเวลก็จะมอบบางสิ่งมาให้เช่นนี้เสมอ มันจึงเรียกว่าเป็นการผ่านจุดตัด ที่จะเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง ทั้งด้านคุณภาพและทักษะต่างๆ
อเล็กซ์ได้ทักษะเกี่ยวกับนักสู้มากขึ้น ส่วนคลาสนินชู เขาก็ได้รับความสามารถคือ
ความสามารถ : แปลงคุณสมบัติจักระ
คำอธิบาย : สามารถใช้จักระเพื่อแปลงเป็นสิ่งที่ท่านเข้าใจ
ความสามารถนี้ มีคำอธิบายที่ค่อนข้างคลุมเครือ แต่มันถือได้ว่าเป็นการยกระดับ การใช้จักระให้ขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของ คลาสนินชู ด้านคุณภาพ
แต่เขาก็ต้องใช้เวลาฝึกฝน เพื่อเอาความสามารถเหล่านั้น มาใช้ให้เกิดผลประโยชน์กับตัวเขาเอง
ส่วนทางด้านความสามารถต้านทานก็พัฒนาขึ้นหลายอย่าง และมีความสามารถ ต้านทานธาตุดิน ( I ) , ต้านทานธาตุลม ( I ) เพิ่มขึ้น
ซึ่งเกิดจากยาล้มเหลวจำนวนหนึ่ง มอบสถานะที่ทำให้เขาเหมือนเกิดพายุในท้อง และเลือดพร้อมกับกล้ามเนื้อแข็งตัวราวกับหิน มันถือเป็นสถานะที่อันตรายมากๆ เรียกได้ว่าทำให้คนๆ ติดอยู่ในอาการโคม่าได้เลย
ถ้าอเล็กซ์ไม่ได้ทักษะ ควบคุมจักระ เขาก็คงนอนตายกลายเป็นปุ๋ยไปแล้ว เพราะสถานะพวกนั้น มันไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการปกติทั่วไป
ทางด้านสไลม์ทั้งสองก้อน พวกมันก็เริ่มปรากฏคอร์ ซึ่งเป็นแกนกลางของสไลม์ขึ้นมาแล้ว
ทำให้ก้อนน้ำในกล่องเคลื่อนไหวไปมาเป็นคลื่นอยู่ตลอดเวลา แต่พวกมันเป็นเพียงก้อนชีวิตที่อ่อนจางมากๆเท่านั้น หากจะเกิดการกระทบกระเทือน จนเสียหายก็เป็นไปได้ เปรียบเสมือนเด็กทารกที่ต้องอยู่การดูแลของมารดาตลอดเวลา
' เราพร้อมทุกอย่าง คงได้เวลาไปฝึกฝนตัวเองที่ด้านนอกแล้ว '
อเล็กซ์อาศัยอยู่แต่ในโรงแรม แล้วรู้สึกเคลื่อนไหวทำอะไรก็ไม่สะดวก เขาจึงวางแผนที่จะออกนอกเมืองในวันนี้
อเล็กซ์สะพายกระเป๋าขนาดใหญ่กว่าครั้งก่อนๆ เพราะเขาจะต้องพาเจ้าสไลม์สองก้อนไปด้วย
แถมในครั้งนี้ อเล็กซ์ได้เดินออกหน้าประตูเมืองอย่างไม่เกรงกลัว
เมื่อออกประตูมาได้ เขาก็เร่งความเร็วและพุ่งหายเข้าไปในป่าทันที
ซึ่งพวกที่เฝ้าจับตาอยู่ในมุมหนึ่ง ก็รีบพุ่งติดตามไป ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งไปรายงานการเคลื่อนไหว
….
อเล็กซ์พุ่งผ่านจากต้นไม้หนึ่งไปต้นไม้หนึ่งอย่างรวดเร็วราวกับสายลม
แต่เขาก็ไม่ได้ออกแรงเต็มที่ เพราะด้านหลังก็มีพวกสไลม์ที่กำลังอ่อนแออยู่
แต่ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนมาปรากฏขึ้นที่ด้านหน้า พร้อมกลุ่มคนที่ติดตามมาด้านหลัง พร้อมประกบอเล็กซ์จากทั้งสองด้าน
ในกลุ่มเบื้องหน้าของอเล็กซ์ มีชายร่างสูงใหญ่กำยำถือกระบองขนาดใหญ่พาดบ่า พร้อมมองมาที่อเล็กซ์อย่างแดกดันสมเพชพร้อมกล่าว
" ในที่สุดแกก็ยอมโผล่หัวออกจากเมือง คิดว่าจะหดหัวเป็นลูกเต่าในกระดองซะแล้ว "
" ฮ่าๆ แถมในเวลานี้ ดันกล้าหาญออกมาเดินทางเพียงคนเดียว ไม่รู้ว่าแกมันไม่รู้จักความกลัวหรือว่าโง่กันแน่ "
พวกข้างกายชายที่ถือกระบองก็หัวเราะพร้อมใช้คำพูดยั่วยุแบบไม่มียั้งมือ แต่พวกเขาก็ไม่ได้โง่และผลีผลาม
ก่อนที่พวกเขาตัดสินใจมาล่าค่าหัว พวกเขาก็ต้องตรวจสอบเป้าหมายของตัวเองมาอย่างดีอยู่แล้ว
อเล็กซ์นั้นแม้จะอายุยังน้อย แต่ก็สังหารปรมาจารย์นักสู้ไปได้แล้วหนึ่งคน ถือว่าไม่ธรรมดาเลยก็ว่าได้ พวกเขาจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
" ไหนโชว์พลังของแกออกมาส "
ชายร่างใหญ่ กระโดดเทคตัวขึ้นสูงและง้างกระบองฟาดไปยังจุดที่อเล็กซ์อยู่ในทันที
พลังของกระบองเรียกได้ว่าสามารถทุบพื้นที่โดยรอบให้กลายเป็นเศษผงได้เลย
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนรอบข้างตกตะลึงจนตาโตเท่าไข่ห่าน คือการตอบโต้ของอเล็กซ์ต่างหาก
เขาเคลื่อนไปด้านหน้าเล็กน้อย พร้อมยกหมัดขึ้นมา พร้อมต่อยเสยขึ้นไปเผชิญหน้ากับกระบองตรงๆ
' ไอเด็กบ้านี้มันคิดอะไรอยู่ '
นี้คือสิ่งที่พวกเขาอุทานในใจ ไม่เว้นแม้แต่ชายที่ใช้กระบองฟาดลงมา
" เปรี้ยง "
หมัดกับกระบองปะทะกันดังสนั่น จนเกิดเป็นคลื่นเล็กๆกระจายไปรอบข้างอย่างรวดเร็ว
ผลลัพธ์ของการปะทะคือ กระบองถูกซัดจนกระเด็นถอยหลัง ชายร่างโตรู้สึกเหมือนเขาพึ่งฟาดเข้าใส่บางอย่างที่แข็งและรุนแรงมากๆ
ทางด้านอเล็กซ์หมัดของเขาถลอกเล็กน้อย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องปกติเลยที่หมัดจะสามารถทนทานได้ถึงขั้นนี้
ในเวลานี้ ความสามารถ ร่างกายนักสู้มาถึง ( V ) แล้ว ทำให้พลังในตอนต่อสู้ขึ้นเพิ่มขึ้น 45%
ซึ่งตามจริง เมื่อร่างกายนักสู้ถึงขั้น ( V ) อเล็กซ์ก็กระตุ้นคลาส ปรมาจารย์นักสู้แล้ว แต่เขาปฏิเสธมันไป เพราะเขาไม่ต้องการเลือกเดินเส้นทางสายนี้อย่างเต็มตัว
แถมความสามารถหมัดเหล็กก็มาถึง ( III ) แล้ว ทำให้ความทนทานหมัดสูงมาก
ในส่วนที่สำคัญสุด คือค่าสถานะร่างกายของอเล็กซ์ ที่ในเวลานี้นำโด่งทุกค่าสถานะอื่นๆ
พละกำลัง 85
ความว่องไว 91
ความทนทาน 128
ความแม่นยำ 85
สติปัญญา 77
ความศรัทธา 55
โชค 1
สเน่ห์ 17
ในเวลานี้นั้น อเล็กซ์มีค่าต้านทานจำนวนมาก พวกมันมอบค่าสถานะร่างกายเป็นโบนัสมาให้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมอบค่าความทนทาน
ทำให้อเล็กซ์ในเวลานี้ มีค่าความทนทานสูงยิ่งกว่าพวกนักรบหรือคลาสสายแทงค์เสียอีก
แถมความทนทาน ก็เสริมกับความสามารถ หมัดเหล็ก ( III ) ทำให้หมัดมีความทนทานราวกับโลหะ
ถัดมา อเล็กซ์ก็ใช้ทักษะ พุ่งไปด้านหน้า ระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังตกใจ เข้าไประยะประชิด
พร้อมใช้หมัดที่คล้ายเมื่อซักครู่ ชกขึ้นจากมุมด้านล่าง ซึ่งมันก็คือหมัดอัปเปอร์คัต
ทักษะ หมัดอัปเปอร์คัต ( กระแทก ) พื้นฐาน
คำอธิบาย : เพิ่มความประสิทธิภาพหมัดอัปเปอร์คัต + 140% , ( เพิ่มพลังกระแทก + 30% )
ด้วยการประชิดตัวอย่างกระทันหัน ทำให้ชายร่างใหญ่ที่ถือกระบองเป็นอาวุธ รับมือไม่ทัน เพราะกระบองถือเป็นอาวุธที่ต้องใช้ระยะในการควงฟาด
หมัดอัปเปอร์คัตจึงตรงเข้าใส่ช่วงท้องอีกฝ่ายอย่างแรง แม้ชายร่างใหญ่จะสวมเกราะโซ่เหล็กไว้ด้านในเพื่อใช้ในการป้องกัน
แต่พลังทำลายล้างของอเล็กซ์ก็รุนแรงมาก จนพลังหมัดส่งตรงถึงกระดูกซี่โครง
อำนาจของพลังกระแทกก็แสดงผล มันเพิ่มพลังทำลายล้าง จนกระดูกซี่โครงที่ถูกหมัดชนแตกละเอียดทันที
อเล็กซ์ก็ไม่ปราณี ซัดหมัดอัปเปอร์คัตใส่คางอีกฝ่ายอย่างรุนแรงแบบต่อเนื่อง พลังกระแทกทำให้คางอีกฝ่ายแตกละเอียด
ชายร่างใหญ่ทิ้งกระบองลงพื้น พร้อมด้วยที่ร่วงหมดสภาพ และตกอยู่ในสภาวะปางตายทันที
พวกที่ล้อมลอบอยู่ต่างประหวั่นพรั่นพรึง พวกมันไม่เคยเห็นนักสู้ที่มีพลังแบบนี้มาก่อน
' นี้มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว '
พวกเขาเคยออกล่าปรมาจารย์นักสู้มาหลายครั้ง จึงพูดได้ว่ามีประสบการณ์มาก่อน จึงมั่นใจในการรับงานนี้พอสมควร เพราะด้วยจำนวนคนและการเตรียมการมาอย่างดี
ทุกครั้งนักสู้มักจะเผชิญหน้ากับพวกนักรบไม่ค่อยได้ เพราะถึงยังไงหมัดจะต่อยชุดเกราะหรือพวกอาวุธหนักได้ยังไงซึ่งๆหน้า ?
แต่ในตอนนี้ ความเข้าใจในนักสู้ของพวกเขาผิดเพี้ยนไปหมด ชายตรงหน้านี้ไม่ใช้เพียงนักสู้ธรรมดา แต่เหมือนกำแพงเหล็กที่ไม่มีวันก้าวข้ามได้
พวกนั้นจึงส่งสัญญาณเล็กๆเพื่อเตรียมถอย แต่อเล็กซ์ก็กล่าวคำออกมาให้พวกเขาชะงัก
" ใครที่เคลื่อนไหวออกหนีไปเป็นคนแรก ข้าจะติดตามคนๆนั้น เพื่อไปหักแขนหักขา และโยนให้เป็นอาหารปลาใต้น้ำซะ และจะตามล่าพวกที่เหลือในภายหลัง เอาหล่ะใครอยากเสียสละคนแรก… "
ดวงตาของอเล็กซ์ระหว่างกล่าวคำออกมานั้นเฉยเมย แต่มีจิตสังหารอันรุนแรงแผ่ออกมาราวกับเทพอสูร จนคนรอบข้างรู้สึกสั่นไหว จนติดสถานะ หวาดกลัวออกมา
อเล็กซ์ไม่มีทางติดตามเจ้าพวกนี้ทั้งหมด ถ้าพวกมันตั้งใจจะหลบหนีจริงๆ เขาจึงใช้คำพูดจิตวิทยาปั่นประสาทอีกฝ่าย
พวกที่ได้ยินก็ชะงัก พวกเขารับรู้ได้ว่าคำพูดนี้ไม่ได้เป็นคำขู่ ถ้าพวกเขาขยับออกไปเป็นคนแรก พวกเขาจะถูกตามล่าและมีจุดจบที่อนาถแน่นอน
ดังนั้นทุกคนจึงนิ่งสนิท สถานการณ์จึงกลายเป็นชะงัก พวกเขาก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้ ถ้าจะต่อสู้ พวกเขาก็มีโอกาสบาดเจ็บหนักถึงขั้นตายพร้อมกันหมดแน่ เพราะจากพลังที่อีกฝ่ายแสดงออกมา พวกเขาต้านเอาไว้ไม่ไหวแน่
" ทะ… ท่านปรมาจารย์ ข้าน้อยขออภัยที่ล่วงเกิน พวกเราพอที่จะสลายความเข้าใจผิดนี้ได้ไหม "
" โอ้…. จริงๆมันก็ง่ายมาก พวกเจ้าต้องการค่าหัว 40 เหรียญทองสินะ … งั้นพวกเจ้าก็จ่ายค่าหัวพวกเจ้าทั้งหมดมารวมกันมา 40 เหรียญทองซะ "
พวกรอบข้างต่างขมวดคิ้วอย่างขมขื่น พวกเขาต้องการล่าหัวอีกฝ่ายเพื่อเงิน แต่ไม่คิดว่าจะต้องสูญเสียเงินเสียงเองแบบนี้
" หึ อย่าให้มันมากไปนัก พวกเรามีกันตั้งหลายคน แม้เจ้าจะแข็งแกร่ง แต่การต่อสู้ย่อมเกิดความสูญเสีย ทางที่ดีปล่อยพวกเราไป แล้วพวกเราจะไม่มายุ่งกับเจ้าอีก "
ในจังหวะนั้นก็มีชายที่ถือดาบในมือ เขาพยายามที่จะใช้ความได้เปรียบเรื่องกำลังพลเพื่อต่อรองอีกฝ่าย
แม้เขาจะเกรงกลัวความแข็งแกร่งของอเล็กซ์ แต่หากต้องสูญเสียเงินมากขนาดนั้น พวกเขาก็แทบจะกลับไปเป็นยาจกเลยก็ว่าได้
เรื่องการหาเงิน ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนอเล็กซ์ที่ครั้งแรก จับปลาวิเศษระดับพิเศษมาได้ ส่วนครั้งที่สองก็เป็น ขุนโจรที่ทางการต้องการตัว
พวกเขาต่างเก็บเงินเหรียญทองแต่ละเหรียญทองได้ด้วยความยากลำบาก หากเสียมันไปคงเสียใจมาก
" หึๆๆๆ "
อเล็กซ์หัวเราะในลำคออย่างหนัก แต่ก่อนที่ใครจะคิดทำสิ่งใด อเล็กซ์ก็เดินเข้าไปหาต้นไม้ใหญ่ และเขาก็ใช้ทักษะหมัดตรง ( ทะลวง ) ต่อยเข้าใส่ลำต้นไปเต็มแรง
ด้วยความสามารถผิดมนุษย์ปกติมากมาย แถมด้วยทักษะ หมัดตรง ( ทะลวง ) ทำให้ต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่งถูกหักโค่นราวกับไม้จิ้มฟัน
แถมจุดที่หมัดปะทะก็เกิดเป็นรูทะลวงที่น่าหวาดกลัว หากซัดหมัดนี้เข้าที่ใคร ยมบาลคงเรียกตัวในทันที
' บัดซบ เจ้าเด็กนี้น่ากลัวถึงขนาดนี้ได้ยังไง ? '
พวกเขาในเวลานี้เริ่มจิตใจสั่นสะท้าน และมั่นใจได้แล้วว่าต่อสู้ไปก็มีแต่สูญเสีย จึงต้องคำนึงถึงทางออกที่จะเสียสละเงิน
" แต่ว่าเราจะมั่นใจได้ยังไง ว่าท่านจะไม่กลับคำพูด ว่าจะปล่อยพวกเราทั้งหมดไปและไม่เอาเรื่องอีก "
" ชีวิตพวกเจ้าเทียบไม่ได้กับเงิน 40 เหรียญทองหรอก เอาเป็นว่าข้าจะไม่กลับคำ ข้าสัญญา "
เมื่ออเล็กซ์ยืนกรานสัญญา พวกเขาจึงต้องหันมารวบรวมเงินกัน และวางมันลงด้านหน้าอเล็กซ์อย่างขมขื่น
" พวกเราไปกัน "
พวกเขาไม่ลืมพาชายร่างใหญ่ที่หมดสภาพกลับไปด้วย
ส่วนอเล็กซ์เขานับเงินในถุงอย่างมีความสุข
' ให้พวกล่าค่าหัวมาล่าเราเยอะๆแล้วหาเงินดีไหมนะ '
ระหว่างกระทืบพวกมันหรือสังหารเพื่อความสะใจ เขาเน้นไปที่ผลประโยชน์ที่จะได้รับดีกว่า
พวกนักล่าค่าหัว ล้วนมีชีวิตอยู่บนเส้นด้าย แม้พวกเขาจะเสียดายเงิน แต่ก็เสียดายชีวิตตัวเองเช่นกัน
แต่เอาตามจริงถ้าพวกมันเลือกต่อสู้ ก็อาจจะทำให้อเล็กซ์ลำบากได้บ้าง แต่พวกมันก็ประเมินที่จะเอาตัวรอดแบบปลอดภัยมากกว่า เพราะไม่รู้ถึงความโหดเหี้ยมที่อเล็กซ์มี นั้นมีมากสุดแค่ไหน พวกเขาจึงไม่อยากเสี่ยง
อเล็กซ์สะพายกระเป๋าและออกเดินทางไปยังแหล่งน้ำ เพื่อหาสถานที่สงบๆเพื่อฝึกฝนตัวเองต่อ
หลังจากเขาเดินทางมาจนถึงแม่น้ำแห่งใหม่ ที่นี้ในแผนที่ระบุว่าเป็นแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวและมีความลึกค่อนข้างมาก
แถมในเวลากลางคืนก็จะมีพวกมอนเตอร์ประเภท หมาป่าและสุนัขจิ้งจอกอาละวาด จึงเป็นสถานที่ที่นักตกปลาระดับล่างไม่มากัน
แถมแม่น้ำสายนี้ยังสามารถนำพาไปยังเขตแผนที่สีเหลือง ซึ่งเป็นสถานที่อันตรายอีกด้วย
อเล็กซ์หาทำเลเหมาะๆ และเขาก็สร้างที่พัก พร้อมนำสไลม์ทั้งสองตัวออกมา
ในเวลานี้ สไลม์ทั้งสองนั้นเติบโต จนวงจรชีวิตสมบูรณ์แล้ว แต่ถามถึงความแข็งแกร่ง
ถ้าเทียบเป็นค่าสถานะทางร่างกาย พวกมันคงมีค่าสถานะร่างกายทั้งหมดคือ 1