ตอนที่ 27
ชายที่สวมหนวดและเคราปลอม พอได้เห็นอเล็กซ์ดูผิดหวัง เขาจึงรีบกล่าวออกมาในทันที
" แต่ตัวข้านั้นมีข้อมูลเชิงลึก แถมข้าก็แทรกซึมเข้าไปในโลกใต้ดินและรู้เรื่องราวชั่วๆของพวกมันมากมาย …. "
" …. ในตอนนี้ ข้าเพียงแค่ต้องการยืนยันว่าตัวของเจ้านั้น ตั้งใจเป็นศัตรูกับพวกมันจริงหรือไม่ ถ้าเจ้าใช่ เราก็คือพวกเดียวกัน และข้าก็จะสนับสนุนเจ้าทุกวิถีทาง …. "
" …. ข้าพอสืบประวัติเจ้ามาเล็กน้อยเหมือนกัน เจ้าไม่มีเบื้องหลังอะไรเลย แต่ข้าสงสัยนัก ทำไมเจ้าถึงกล้าหาญนัก ที่ไปท้าทายพวกมัน ครั้งแล้วครั้งเล่า แถมดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้เกรงกลัวเลยด้วยซ้ำ "
ชายในหนวดดก พยายามไม่ให้เสียงตัวเองสั่นเครือระหว่างที่พูด แน่นอนว่าเขามีความแค้น แถมเป็นความแค้นที่ฝังลึก
แต่สิ่งที่อยู่ในอดีต ทำให้เขากลัว !! เขากลัวการต่อสู้ เขาไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย ที่จะใช้พลังของตัวเองในการเผชิญหน้ากับปีศาจที่สังหารพ่อของเขาได้
ดังนั้นเขาจึงอยากใช้ความสามารถในด้านอื่นมากกว่า ความสามารถที่ตัวเองถนัด และใช้มันต่อสู้เพื่อล้างแค้น นี้จึงเป็นเส้นทางที่เขาเลือก
" ถ้าถามถึงเรื่องความมั่นใจ ข้าคงยืนยันให้เจ้าเป็นคำพูดไม่ได้ แต่เจ้าพวกนั้นมันก็เป็นแค่พวกกระจอกที่มีอิทธิพลระดับท้องถิ่นเท่านั้น พวกมันไม่น่ากลัวเลยในสายตาข้า เมื่อเวลาผ่านไป พวกมันยิ่งไม่สำคัญ …. "
" …. ว่าแต่ ข้ารู้สึกสงสัยบางอย่าง เจ้ามี คลาส นักสืบสินะ "
ชายภายใต้หนวดปลอมสะดุ้งเบาๆ ด้วยความประหลาดใจ ที่ถูกอเล็กซ์มองออกได้ง่ายๆ
เขาจึงยกระดับความน่าเชื่อถือในตัวของอเล็กซ์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อีกฝ่ายดูมีสายตาที่เฉียบคมและมีภูมิความรู้มากกว่าทั่วไป นี้คือสิ่งที่เขาใช้ความสามารถนักสืบวิเคราะห์
" ใช่แล้ว ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าได้รับคลาสนี้มาตอนไหน เมื่อข้ามองไปที่ใคร มักจะเกิดการอนุมานถึงสิ่งต่างๆแบบอัตโนมัติ พร้อมวิเคราะห์สิ่งต่างๆ … "
" …. แต่ถึงอย่างนั้น ข้ามั่นใจอยู่อย่างหนึ่ง ว่าความสามารถทั้งหมดที่ข้ามี มันมีเพื่อใช้ในการล้างแค้นเท่านั้น "
อเล็กซ์ที่ได้ฟังก็ครุ่นคิดภายในใจ พวก NPC ก็มักมีเรื่องราวเป็นของตัวเองที่ต่างจากผู้เล่น
บางคนมีปมอันแสนยิ่งใหญ่ ถ้าพวกเขาสามารถแก้ปมต่างๆของตัวเองได้ พวกเขาก็อาจจะเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในอนาคต เพราะปมหมายถึงปัญหา การแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ได้ มันก็ต้องมาพร้อมกับความสามารถที่เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว
ปมความแค้นครอบครัว ล้วนเป็นเรื่องราวของ NPC ระดับสูงทั้งนั้น โลกใบนี้มันป่าเถื่อนและอันตราย พวกคนที่สูญเสียก็มีกองเป็นภูเขา คนอ่อนแอไม่มีสิทธิใดเลย ในโลกแห่งนี้ ถ้าไม่ลุกขึ้นสู้ ก็เป็นได้แค่เหยื่อ !!!
" งั้นเจ้าลองบอกแผนการ ที่เจ้าคิดมาสิ คงมีมันสินะ ถึงได้นัดข้ามาที่นี้ "
" ตามจริงก็มี แต่ด้วยกำลังของพวกเราเองคงไม่พอ บางทีข้าอาจจะรวบรวมกลุ่มคนที่มีเรื่องกับเจ้าพวกนั้น เพื่อมาเป็นกำลังร่วมกับพวกเรา มีคนจำนวนมากที่แค้นเคืองพวกมันอยู่ "
" งั้นหรือ ? งั้นเจ้าก็ใช้เวลารวบรวมไปซะ ถ้าพร้อมก็มาหาข้า ข้าก็มีแผนที่จะจัดการพวกมันเมื่อแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน "
" เข้าใจแล้ว แต่ข้าจะเตือนบางอย่าง ในเวลานี้ เจ้ากระทิงกำลังยุ่งกับธุรกิจบางอย่างมันจึงไม่มีเวลามาจัดการเจ้า แต่เจ้านั่นอำมหิตและเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก มันจะต้องมาตามราวีเจ้าแน่ เจ้าต้องทำอะไรซักอย่าง "
" ฮ่าๆ งั้นข้าก็จะรอดู "
อเล็กซ์และชายหนวดดกได้คุยกันต่อถึงรายละเอียดติดต่อกันเล็กน้อย หลังจากนั้นอเล็กซ์ก็ออกมาจากบาร์เก่าๆแห่งนั้น
แม้อเล็กซ์จะไม่ได้เห็นหน้าอีกฝ่าย แต่เขาก็เข้าใจได้ ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีความเชื่อใจกันมากถึงขนาดนั้น
แถมสถานการณ์ของอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะอยู่ในวิกฤติอันตราย จะมาไว้ใจคนง่ายๆก็ไม่ได้
' คลาส นักสืบ ถือเป็นคลาสอาชีพที่หายากทีเดียว มันเหมือนเป็นพรสวรรค์มากกว่าที่จะฝึกฝนเอามาได้ ในเมื่อเจ้านี้มีเป้าหมายคือพวกศัตรูของเรา การสร้างสร้างเส้นสายเชื่อมต่อกันก็ดี แถมอาจจะเป็นประโยชน์กับแผนการเราในอนาคต '
แม้อเล็กซ์จะไม่จำเป็นต้องมีพรรคพวกเพื่อจัดการศัตรู แต่ถึงยังไงซักวันหนึ่ง เขาก็ต้องสร้างอิทธิพล และประกอบธุรกิจซักอย่างขึ้นมา เพื่อจะสามารถอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างเต็มตัว
นักสืบที่เชี่ยวชาญการหาข้อมูลในเชิงลึก ก็อาจจะมีประโยชน์ในอนาคตก็ได้
ถึงยังไงเขาก็ต้องมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก เพื่อสร้างอิทธิพลในแง่ต่างๆ
การสร้างเส้นสายต่อกันในตอนที่ยังอ่อนแอ ในอนาคตสายสัมพันธ์ก็อาจจะแน่นแฟ้นขึ้น เพราะในอนาคตเมื่อ อเล็กซ์แข็งแกร่งขึ้น อาจจะไม่ได้มองอีกฝ่ายอยู่ในสายตา
ส่วนเรื่องความเชื่อใจและความสามารถ เป็นเรื่องในอนาคต ที่จำเป็นต้องใช้เวลาในการพิสูจน์
อเล็กซ์ปล่อยเรื่องราวในอนาคตทิ้งไป และมาครุ่นคิดถึงปัญหาที่กำลังเผชิญ
' การทำเงินจากพวกโจรก็ได้เงินสูงอยู่หรอก แต่พวกมันก็ไม่ได้มีให้จับปล่อยๆด้วยสิ …. '
' …. แผนการของเรายังคงเป็นการจับปลาวิเศษเช่นเดิม แต่เราต้องแก้ปัญหาด้านการขนส่งสิ้นค้าเพิ่มเติม '
ในสมัยเป็นผู้เล่น มีพวกผู้เล่นด้วยกันเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการรับจ้างงานค่อนข้างเยอะ
แถมความปลอดภัยก็สูงกว่าตัวเขาในเวลานี้ด้วย เพราะพวกผู้เล่นก็มักจะออกตัวปกป้องผู้เล่นด้วยกันเอง
ดังนั้นในเวลานี้ อเล็กซ์จึงมีปัญหาด้านการขนส่งปลามาก
' เดี๋ยวนะ ทำไมเราไม่ใช้เจ้านั่น …. แถมเราสามารถลองนั่นได้ด้วย …. ฮ่าๆ มันบ้า แต่น่าจะเวิร์ค '
อเล็กซ์นึกวิธีแก้ปัญหาขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน ราวกับเส้นผมบังภูเขา ในที่สุดเขาก็แก้ปัญหาได้แล้ว
แถมยังมีความคิดพิเรนทร์ที่โผล่ขึ้นมาในหัว ยิ่งเขาคิดก็ยิ่งตื่นเต้น
อเล็กซ์จึงเร่งเดินทางไปยังถนนเขตการค้าที่รุ่งเรืองที่สุด ซึ่งมันอยู่ติดกับเขตของพวกนักเวทย์หรือผู้วิเศษและทรงปัญญา แถมอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางของเมืองด้วย
ผู้คนในบริเวณนี้ล้วนแต่งกายด้วยชุดหรูหราและมีระดับ บางคนก็ดูมีภูมิปัญญาและทรงอิทธิพล รวมถึงเหล่ายอดฝีมือที่เดินเฉียดกายกันไปมา
อเล็กซ์ออกเดินทางตามหาสถานที่แห่งหนึ่ง จนเขามาหยุดอยู่หน้าประตูของอาคารที่ดูใหญ่โตและมีการออกแบบที่ค่อนข้างสวยงาม และแสดงให้เห็นถึงความวิเศษบางอย่างที่บรรยายไม่ถูกออกมา
ท่ามกลางสถานที่โดยรอบ ที่นี้ถือว่าโดดเด่นและดูยิ่งใหญ่ที่สุด
ด้านหน้ามีทหารแต่งกายเต็มยศยืนคุ้มกันสองคน ส่วนป้ายหน้าประตูเป็นรูป ก้อนโลหะที่มีเปลวไฟอยู่ด้านหลัง
ที่นี้คือสมาคมนักเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งเป็นหนึ่งในสายอาชีพที่สำคัญและทรงอิทธิพลเป็นอย่างยิ่ง
นักเล่นแร่แปรธาตุสามารถใช้เวทมนต์ในการปรับปรุงวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดิน ไม้ โลหะ หรืออื่นๆให้พวกมันทรงอานุภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ จึงเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับทุกสายอาชีพอื่นๆ
กำแพงเมืองรวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ ก่อนที่จะถูกสร้างขึ้นมา พวกเขาก็ต้องให้นักเล่นแรแปรธาตุเสริมพลังให้กับวัสดุ เพื่อให้สถานที่มีความทนทานสูงที่สุด
รวมถึงพวกอาวุธต่างๆ วัสดุที่ผ่านการแปรธาตุมา กับวัสดุที่ไม่ได้ผ่านการแปรธาตุ ต่างกันราวฟ้ากับเหว อาชีพ นักเล่นแร่แปรธาตุจึงสำคัญมากๆต่อโลกใบนี้
อเล็กซ์เดินเข้ามาด้านในและพบคนเพียงเล็กน้อย ซึ่งแต่ละคนล้วนดูมีอายุกันทั้งสิ้น จะพบเห็นคนหนุ่มได้เพียงแค่ส่วนน้อย
' คนเหล่านี้มีออร่าที่หนักหน่วงมาก '
อเล็กซ์รู้สึกถึงแรงกดดันจากชายชรารอบข้าง พวกเขามีคลาสอาชีพเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุก็จริง
แต่พวกเขาก็ยังมีคลาสต่อสู้เป็นพวกนักเวทย์สายต่างๆเช่นกัน
คลาสสายอาชีพ ถือเป็นส่วนเสริมให้พวกเขามีความสามารถที่เพิ่มขึ้น
ในส่วนของนักเวทย์ส่วนใหญ่ พวกเขามักจะเลือกคลาสอาชีพเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ เพราะจะได้รับความสามารถที่เกี่ยวกับเวทมนต์เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับพลังโจมตีธาตุ หรือความสามารถที่เพิ่มพลังมานา
อเล็กซ์เดินตรงเข้าไปที่หน้าเคาน์เตอร์ และก็มีพนักงานสาวสวยคอยต้อนรับทันที
" ท่านผู้มีเกียรติ มีธุระอันใดกับสมาคมของเราหรือเจ้าคะ "
ท่าทางหญิงสาวเต็มไปด้วยมารยาทของชนชั้นสูง ซึ่งต่างจากสมาคมนักตกปลา ที่มักเป็นแหล่งรวมของพวกคนธรรมดา
ในฐานะนักเวทย์ พวกเขามักมีฐานะที่พิเศษมากกว่าคนทั่วไป แถมนักเล่นแร่แปรธาตุก็มีอิทธิพลและเงินจำนวนมาก พวกเขาจึงจ้างพนักงานที่มีคุณภาพมากตามไปด้วย
" ผมเป็นสมาชิกนักตกปลา ผมต้องการที่จะมองหานักเล่นแร่แปรธาตุระดับเริ่มต้นเพื่อจ้างงานพวกเขา "
" งั้นท่านช่วยกรอกรายละเอียดของท่าน และเป้าหมายในการจ้างงานด้วยเจ้าค่ะ "
อเล็กซ์รับเอกสารมา และกรอกข้อมูลตัวเองและจุดประสงค์อย่างรวดเร็วและยื่นกลับไปให้พนักงานสาว
พนักงานบอกให้อเล็กซ์รอซักครู่ เขาจึงเดินสำรวจสมาคมรอบๆ
ผ่านไปซักพัก พนักงานก็กลับมาพร้อมกับชายหนุ่มแต่งกายหรูหราและมีท่าทีถือดีเล็กน้อย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลก สำหรับพวกที่คิดว่าตัวเองถือครองพลังวิเศษเหล่านี้ซักเท่าไหร่
" เจ้าต้องการที่จะสร้างสไลม์สินะ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ราคามันก็ไม่ถูกหรอกนะ "
นักเล่นแร่แปรธาตุหนุ่มไม่ได้อยากดูถูกอเล็กซ์ แต่ดุจากภายนอกอเล็กซ์เป็นเพียงเด็กหนุ่มที่อ่อนเยาว์มากๆคนหนึ่ง
เขากลัวว่าอเล็กซ์จะไม่รู้ที่ต่ำที่สูง และมาล้อเล่นกับพวกเขา ทำให้เสียเวลาอันมีค่าไปอย่างไร้ประโยชน์
" บอกราคามาได้เลย ผมต้องการพวกมันสองตัว "
" อืม… 2 ตัว 20 เหรียญทอง แต่ข้าจะลดให้เหลือ 15 เหรียญทองแล้วกัน "
" ผมให้ 30 เหรียญทองเลย แต่ผมต้องการวัสดุดิบในการสร้างสไลม์ให้ดีที่สุด "
" ตกลง แต่ก่อนอื่น คงต้องขอมัดจำเล็กน้อย "
อเล็กซ์เห็นว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อถือตนเอง เขาจึงนำถุงใส่เหรียญทองจำนวนมากออกมา และจ่ายเป็นมัดจำครึ่งหนึ่ง
" ได้เลย ข้าจะทำเต็มที่ "
นักเล่นแร่แปรธาตุหนุ่มเห็นเงินจำนวนมาก จึงเตรียมที่จะหันหลังไปสร้างสไลม์ตามที่สั่ง แต่อเล็กซ์ก็หยุดเอาไว้ก่อน
" ข้าต้องการดูขั้นตอนโดยละเอียด นี้เป็นเงื่อนไขที่สมาคมนักเล่นแร่แปรธาตุมีสินะ "
" อ๊า ตกลง ไม่มีปัญหา "
นักเล่นแร่แปรธาตุหนุ่ม ไม่คิดว่าอเล็กซ์จะตามไปดูขั้นตอนด้วย เขาจึงเสียอารมณ์เล็กน้อย แต่ก็ยอมให้ตามไปแต่โดยดี เพราะนี้เป็นกฏของทางสมาคม
อเล็กซ์ตามอีกฝ่ายมาถึงห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นห้องเล็กๆเท่านั้น ดูเหมือนนักเล่นแร่แปรธาตุหนุ่มคนนี้ จะไม่ได้มีฐานะในสมาคมที่ดีนัก
ขั้นตอนการสร้างสไลม์ คือนักเล่นแร่แปรธาตุ จำเป็นต้องนำน้ำบริสุทธิ์มาจากธรรมชาติ และต้องมีขั้นตอนการเก็บที่ค่อนข้างละเอียด
ซึ่งพวกมันจะมีพลังแฝงอยู่ภายในที่มากกว่าปกติ แต่ของเหล่านี้มีขาย จึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปตามหา
ขั้นตอนต่อมาก็ใช้เพลิงสีส้ม มันเป็นเพลิงแห่งการชำระล้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในความสามารถของนักเล่นแร่แปรธาตุทุกคน
เปลี่ยนน้ำให้มีความบริสุทธิ์มากขึ้น เพื่อที่จะให้สามารถกำเนิดสไลม์ได้ง่ายขึ้น
ถัดมาเขาก็ใส่พวกยางไม้บางชนิดผสมลงในน้ำ และใส่ส่วนผสมที่มีราคาค่อนข้างแพงอีกหลายชนิด
สไลม์นั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับล่าง ที่สามารถเกิดได้เองตามธรรมชาติ แต่นักเล่นแร่แปรธาตุก็สามารถจำลองการเกิดของพวกมัน และสามารถสร้างขึ้นมาได้ ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากการสร้างเด็กจากหลอดแก้วในโลกมนุษย์ซักเท่าไหร่
ซึ่งการสร้างขึ้นมาเอง ก็จะทำให้สไลม์นั้นมีองค์ประกอบต่ำกว่าในธรรมชาติ แต่มันสามารถเลี้ยงให้เชื่องได้ง่ายกว่า
หลังจากนั้นก้อนของเหลวก็ผ่านกระบวนการแปรธาตุมากมาย จนในที่สุดมันก็เริ่มมีพลังชีวิตจางๆออกมาจากภายใน
" ฟู่ ตัวแรกสำเร็จแล้ว "
นักเล่นแร่แปรธาตุหนุ่ม ใช้พลังมานาไปค่อนข้างมาก ทำให้เขาเหงื่อตกและมีอาการปวดหัวเล็กน้อย
แต่ถัดมาเขาก็ยกโพชั่นสีน้ำเงินขึ้นดื่ม อาการหลายๆอย่างก็ค่อยๆลดลง
ในจังหวะนั้น อเล็กซ์ก็เดินเข้ามาถึงข้างก้อนของเหลว เขาใช้ฟันกัดไปที่ปลายนิ้วของตัวเอง
พร้อมหยดเลือดของตัวเองเข้าไปในก้อนของเหลวทันที
" หืม เจ้ากำลังทำอะไร ทำแบบนั้นกระบวนการทั้งหมดอาจจะล้มเหลวได้ "
นักเล่นแร่แปรธาตุหนุ่มหันมามองด้วยความตกใจ เมื่อเห็นอเล็กซ์ทำการตามอำเภอใจนอกหลักสูตรที่เขาศึกษามา
แต่อเล็กซ์ไม่สนใจ เขาใช้ทักษะ จักระธาตุน้ำ หมุนวนเจ้าก้อนเหลวให้ผสมเข้ากับเลือดอย่างรวดเร็ว
นี้เป็นขั้นตอนลับ ที่ต้องทำในช่วงแรกเกิดของสไลม์ เพื่อสร้างสายสัมพันธ์คล้ายพันธสัญญา
แต่สไลม์ไม่มีจิตใจนึกคิด พันธสัญญาจึงผูกติดตั้งแต่เกิดด้วยเลือดเพียงหนึ่ง 1 หยด มันเหมือนสัตว์แรกเกิดที่จะมองหาคนที่สนิทใจที่สุดตั้งแต่ลืมตาดูโลก
นักเล่นแร่แปรธาตุหนุ่มไม่คิดว่าจะมีวิธีการประหลาดเช่นนี้ แถมภาพที่อเล็กซ์ควบคุมมวลของเหลวได้ ก็ทำให้เขาคิดว่าอเล็กซ์ก็อาจจะเป็นสายนักเวทย์เช่นกัน
เขาจึงไม่เปิดปากพูดมากนัก เมื่อเห็นกระบวนการก่อตัวของสไลม์ยังคงดำเนินต่อไป ไม่ได้มีปัญหาติดขัดแต่อย่างใด
หลังจากนั้น นักเล่นแร่แปรธาตุหนุ่มก็ทำสไลม์ขึ้นมาอีกตัว ซึ่งอเล็กซ์ก็หยดเลือดลงไปเช่นเดิม
เมื่อกระบวนการขั้นต้นสำเร็จแล้ว อเล็กซ์ก็จ่ายเงินในส่วนที่เหลือ และเขาก็แบกกล่องใส่ของเหลวทั้งสอง เพื่อกลับไปจนถึงห้องโรงแรม
อเล็กซ์วางกล่องทั้งสองลงกับพื้น และครุ่นคิด
" สไลม์พวกนี้คงใช้เวลาซัก 5 วันกว่าจะก่อคอร์สำเร็จ เราคงต้องอาศัยอยู่ในเมืองไปก่อน "
อเล็กซ์ไม่ได้มีปัญหาด้านการอยู่เมืองนัก เพราะถึงยังไงก็ต้องรอให้สไลม์พวกนี้มันถือกำเนิดก่อน ถึงจะใช้ประโยชน์ได้
อเล็กซ์จึงทิ้งพวกมันไว้ที่ห้อง หลังจากนั้นก็ออกไปด้านนอก เพื่อไปหาซื้อยาล้มเหลวจากพวกนักปรุงยามาเพิ่มเติมอีก
เขายังต้องการค่าต้านทานอีกจำนวนมาก แถมจะได้ใช้เวลาว่างในเมืองให้เกิดประโยชน์อีกด้วย