ตอนที่ 1254 ถิ่นของข้า ข้ารับผิดชอบ!
ขณะที่เย่ว์หยางและเผ่าเก้าหัวเตรียมตัวสู้กัน
ทันใดนั้นมีหลายคนบินมาทางด้านขอบฟ้า
คนนำหน้าเป็นบุรุษรูปงามสวมเกราะรบที่ไหล่มีรูปมังกรสองหัว ด้านหลังของเขาเป็นบุรุษลึกลับสวมเกราะมังกรดำเผยให้เห็นแต่เพียงแววตาเท่านั้นคนต่อมาคือราชินีผู้สง่างามยืนอยู่ในท่ามกลางเปลวไปที่พุ่งสูงเป็นแนวตั้งพร้อมกับหนามหลังยาวเหยียดคล้ายหางมังกร และท้ายสุดเป็นบุรุษสี่คนมีใบหน้าที่แตกต่างกันแต่ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อคนที่เตี้ยที่สุดสูงห้าเมตรและคนที่สูงที่สุดสูงมากกว่าหกเมตรพวกเขาลงมายืนอยู่บนพื้นราวกับภูเขาพุ่งชนพื้น
“รอสักครู่ก่อน อย่าเพิ่งสู้กัน” บุรุษรูปงามในชุดนักรบโบกมืออย่างสง่างามเหมือนกับสหายเก่าที่ไม่ได้พบกันนานปี
“เป็นเจ้าเองหรือ? มังกรสองหัวหนุ่มเจ้าสำราญอย่างเจ้าไม่ซ่อนตัวอยู่ในแดนสวรรค์มีความสุขกับสาวๆ เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” อสรพิษห้าหัวและหนอนห้าหัวดูเหมือนไม่มีความทรงจำที่ดีต่อบุรุษหนุ่มรูปงามข้างหน้านี้
“พวกเจ้าเผ่าภูตบูรพาสามารถมายังหอทงเทียนได้ทำไมข้าจะมาบ้างไม่ได้?” บุรุษหนุ่มนามมังกรสองหัวยิ้ม
“เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางคือเจ้าของหอทงเทียนเมื่อเขาเชิญเรามาที่นี่พร้อมกับเจ้า ก็นับว่าสมเหตุผลแล้วที่ให้เรามาที่นี่!” บุรุษลึกลับผู้ใช้เกราะมังกรดำบังหน้าเปล่งรัศมีสีม่วงลึกลับแปลกประหลาด พวกเขาไม่ได้มองพวกเผ่าห้าหัวทั้งห้าคนแต่มองดูเย่ว์หยางขึ้นๆลงๆ แม้ว่าจะไม่แสดงออกแต่พวกเขารู้สึกว่าเย่ว์หยางน่าสนใจและน่าทึ่ง
“อะแฮ่ม, บ่าวถูกเชิญให้มายังหอทงเทียนไม่มีผลประโยชน์อะไรเจ้าตำหนักใหญ่ช่างไร้น้ำใจมากเกินไปหรือว่าหนุ่มน้อยเจ้าจะพูดได้ดีเพิ่งได้ยินคำพูดปรึกษาเรื่องแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ อย่างนั้นเราจะร่วมด้วย! เผ่ามังกรฟ้าของเราไม่ได้โลภเหมือนกับเผ่าเก้าหัวแน่นอน เราไม่กล้าขอส่วนแบ่งแดนล่มสลายแห่งทวยเทพถึงครึ่งหนึ่งแน่ ขอให้ได้เพียงหนึ่งในสิบเราก็พอใจแล้ว” ราชินีเหม่ยเยี่ยนผู้ยืนอยู่ในท่ามกลางเปลวไฟส่งสายตามองเย่ว์หยาง “หนุ่มน้อยรูปงาม! ตราบใดที่เจ้าพยักหน้าตกลงให้ส่วนแบ่งสมบัติแดนล่มสลายแห่งทวยเทพให้เผ่ามังกรบินฟ้าของเราเราจะไม่พูดอะไร ทั้งจะช่วยไล่โจรโลภมากให้เจ้าด้วย คิดว่ายังไง?”
“แค่เจ้าน่ะหรือ?” วิหคเก้าหัวเมื่อได้ยินก็ส่งเสียงหัวเราะประหลาด
“เรามีเจ็ด พวกเจ้ามีห้าคนแค่จำนวนคนเราก็เหนือกว่าพวกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ?” บุรุษหนุ่มรูปงามนามมังกรสองหัวยักไหล่
“เจ้าแน่ใจหรือว่าเรามีเพียงห้าคน? นอกจากนี้ เจ้ามั่นใจไหมว่าพวกเจ้ามีเพียงเจ็ดคน?” อสูรเก้าหัวแค่นเสียงถอนหายใจ “ข้าสามารถฆ่าสี่คนที่อยู่ข้างหลังเจ้าด้วยมือเพียงข้างเดียว”
“ว่าไงนะ?” บุรุษดุร้ายสี่คนที่ยืนด้านหลังตัวราวกับเนินเขาโกรธและคำรามลั่นราวกับมังกรคำราม
“มีมังกรอยู่หลายชนิดหลายเผ่าพันธุ์เชื้อชาติมังกรเผ่าบูรพา มังกรเผ่าประจิมก็มีหลายหลากพันธุ์แต่พวกเจ้าทั้งสี่แม้จะอยู่สายพันธุ์ประจิมก็ไม่มีอะไรต่างไปจากกิ้งก่ายักษ์พวกเจ้าไม่สามารถเรียกว่ามังกรได้ด้วยซ้ำ พวกเจ้าจะโอ้อวดตัวเองอย่างไร เราก็ไม่ยอมรับ!” อสูรเก้าหัวแตะศีรษะและหน้าตนเองพร้อมกับยิ้ม “เราเผ่าเก้าหัวเหมือนมังกรยิ่งกว่าเจ้าทั้งมีพลังเหนือกว่าพวกเจ้ามากมาย ข้ายังไม่กล้าอ้างตัวเป็นมังกร แต่อย่างพวกเจ้ากล้าเรียกตัวเองว่ามังกร รู้จักอายบ้างหรือเปล่า?”
“มีมาตรฐานในความคิดของแต่ละคนข้าไม่มีอะไรจะพูด” มังกรสองหัวรูปงามพูด “ไม่ว่ามาตรฐานของพวกเจ้าจะเป็นอะไรก็ตามเราก็ยังเป็นมนุษย์มังกร พี่น้องข้างหลังเราก็เป็นนักสู้ระดับราชา มีชื่อเสียงมานานแล้วเจ้าไม่อาจใช้คำพูดไม่กี่ประโยคมาลบล้างความเป็นจริงเรื่องนี้!”
“ก็ได้, อย่างนั้นข้าจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว” อสูรเก้าหัวยอมยกเลิกไม่ยุ่งกับหัวข้อสนทนานี้อีก
“พวกเจ้าไม่เห็นหัวข้าผู้เป็นเจ้าถิ่นแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เย่ว์หยางพบว่าเขาได้รับการเพิกเฉยความรู้สึกนี้ไม่ค่อยดี
“แน่นอนว่าไม่ หนุ่มน้อยรูปงามเรากำลังรอเจ้าอยู่ ตราบเท่าที่เจ้าพยักหน้า อย่างนั้นเราจะเปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรได้ทันที” ราชินีเหม่ยเยี่ยนผู้ยืนอยู่ในเปลวไฟยิ้มขณะมองดูเย่ว์หยาง
“ข้าขอแนะนำว่าให้เจ้ากลับไปเตรียมเตียงขนาดใหญ่ไว้ก่อน...” จู่ๆ เย่ว์หยางก็พูดคำนี้ทันที
“เจ้าช่างเลวร้ายจริงๆ ตอนนี้เวลากลางวันเจ้าพูดคำที่น่าอายแบบนี้ออกมาได้อย่างไรกัน!” ราชินีเหม่ยเยี่ยนแสร้งปิดใบหน้าที่เขินอายของนาง
“กลางวันพูดไม่ได้จะให้ข้าพูดตอนกลางคืนหรือ?” เย่ว์หยางถาม
“กลางคืนเจ้าก็พูดไม่ได้!” ราชินีเหม่ยเยี่ยนขึ้นเสียงสูง
“แล้วจะให้ข้าพูดได้เมื่อไหร่?” เย่ว์หยางไม่เข้าใจ
“เมื่อไหร่ก็พูดไม่ได้ทั้งนั้น...” ราชินีเหม่ยเยี่ยนขยี้เท้างดงามของนางการกระทำเช่นนี้ทำให้ร่างกายนางสั่นสะเทือนโดยเฉพาะส่วนนูนของร่างกายนางคนในกลุ่มอดกลืนน้ำลายไม่ได้ ตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้วว่าบางคำนั้นไม่สามารถพูดได้ คำพูดเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องพูดออกมา แค่ลงมือทำก็พอ!
“เจ้าเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?” เย่ว์หยางเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่เข้าใจอะไร
“ไม่มีการเข้าใจผิด เจ้า เจ้าคือเด็กร้ายกาจเจ้าเด็กตัวร้าย!” ราชินีเหม่ยเยี่ยนชูหมัดแกว่งไปมายิ่งทำให้ร่างกายส่วนอื่นกระเพื่อมตามปล่อยให้คนอื่นปากแห้งอีกครั้ง
“.....” เย่ว์หยางเงียบชั่วขณะจากนั้นก็อธิบายอย่างจริงใจ “ข้าขอให้พวกเจ้าเตรียมเตียงขนาดใหญ่ เพื่อให้พวกเจ้านอนฝันด้วยกันนั่นจะเป็นประโยชน์มากกว่า! ถ้าพวกท่านเข้าใจผิดในสิ่งที่ข้าคิด ข้าก็ขอโทษแต่ข้าไม่ได้มีความสนใจมังกรสตรีที่ชราภาพและน่าเกลียดไม่ว่าจะอยู่ในรูปของสาวบริสุทธิ์อย่างไรก็ตามใช้คำพูดน่าหลงใหลก็ตาม อย่างนั้นข้าเสียใจที่ต้องบอกว่าคงทำให้ท่านผิดหวัง!”
คำพูดเหล่านี้ทำเอาคนฟังเงียบไปครู่หนึ่ง
คนเผ่าเก้าหัวตกตะลึงจากนั้นพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่ทำให้บรรยากาศน่าอึดอัดใจ
คนฝ่ายมังกรบินฟ้าเหมือนกับถูกตบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งราชินีเหม่ยเยี่ยนที่มีไฟห่อหุ้มตัวลอยอยู่ในอากาศหน้าสีทองเริ่มเขียวคล้ำ
ตอนนี้นางจ้องมองเย่ว์หยางด้วยความเกลียดชังยิ่งกว่าศัตรูฆ่าบิดาเป็นล้านเท่า
อาจกล่าวได้ว่า
เย่ว์หยางยากจะห้ามนางมิให้โกรธได้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างนางกับเย่ว์หยางเรื่องจะไม่มีทางจบลงได้และเป็นไปไม่ได้ที่จะลงเอยโดยประการอื่น!
“เด็กร้ายกาจเราผู้เฒ่าไม่ฉีกเจ้าเป็นแสนชิ้นและกินเจ้าทีละชิ้นในวันนี้ก็อย่ามาเรียกข้าว่า ‘ว่านกูซู’ ราชินีเหม่ยเยี่ยนโกรธจนจมูกแทบบิด
“ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับถ่านไฟอย่างเจ้า!” เย่ว์หยางไม่สนใจฝ่ายตรงข้ามและหันไปที่ท้องฟ้าอีกด้านหนึ่ง “แดนล่มสลายแห่งทวยเทพมีเพียงหนึ่งเดียว พวกเจ้าโง่กันหมดหรือเปล่า? มีคนมากมายที่กบฏตงฟางวางกำลังไว้ที่นี่ ไม่มีใครคิดถึงพวกที่สมองขึ้นสนิมอย่างพวกเจ้าหรอก หัดใช้สมองคิดบ้างสมบัติของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพไม่เพียงไม่พอเท่านั้นแต่ยังทำให้พวกเจ้าเสียชีวิตอีกด้วย?”
พูดถึงตอนนี้มีคนอีกสามคนลอยตัวลงมาจากท้องฟ้า
คนกลางเป็นอสูรหมีดำและคนขวาเป็นอสูรมนุษย์หมูป่า แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่พี่น้องกันเพราะไหล่เขาไม่มีเขี้ยวกับเล็บปรากฏให้เห็นมิฉะนั้นเย่ว์หยางคงอารมณ์ดีที่จะได้เนื้อหมูราคาแพง
คนที่ยืนทางซ้ายท่าทางหยิ่งยโสมากเขาไม่มีอะไรเขียนอยู่ที่หน้าผาก เหมือนกับจะเร่งๆ ให้สู้กับเด็กหนุ่มแต่จักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางไม่สามารถมองผ่านคนผู้นี้ได้บุรุษผู้นี้คล้ายกับพยัคฆ์หรือราชสีห์ เหมือนหมาป่า หรือจะว่าเหมือนเสือดาวก็เหมือน
แน่นอนว่าเขารู้ว่ายอดฝีมือมาถึงหอทงเทียนคนที่บังอาจแตะต้องแดนล่มสลายแห่งทวยเทพนับว่าไม่ใช่ตัวดี
คนที่ดูเหมือนหยิ่งยโสดวงตาเหมือนหมาป่าจ้องมองเย่ว์หยางไม่วางตา
ทุกคนในกลุ่มคิดว่าเขาจะโจมตีโดยไม่พูดอะไร
ใครก็ตามที่ไม่ต้องการให้คนผู้นี้เอ่ยปากคงเป็นเรื่องยาก “เมื่อครู่นี้ข้าอยากจะทุบเด็กน้อยและเลาะฟันเจ้าเสียเพราะเด็กน้อยทำให้ข้ารู้สึกแย่เกินไป ข้าเกลียดคนที่สูงกว่าข้าทั้งหมด! อย่างไรก็ตามตอนนี้เจ้ากล้าด่าว่านกู่ซู ข้าขอชื่นชมเจ้าว่าร้ายกาจจริงๆ... ตอนนี้ข้าชักลังเลเล็กน้อยก่อนจะต่อยตีกับเจ้าข้าอยากจะดื่มเหล้ากับเจ้าสัก 300 จอกเป็นไง?”
“งี่เง่า, เจ้าไม่ดูสถานการณ์ที่นี่บ้างหรือ? หนึ่งในสองคนจ้องมองน้องสาวเจ้า!” เย่ว์หยางปรากฏตัวหน้าบุรุษผู้หยิ่งยโส และหักหน้าฝ่ายตรงข้าม “มันง่ายกว่าที่เราคุณชายจะเปลี่ยนเจ้าให้เป็นคนงี่เง่าคนหนึ่ง!”
“.....” คนที่อยู่ในที่นั้นพูดไม่ออก
ถ้าโลกนี้มีการจัดลำดับรายชื่อจอมยั่วยุในโลกได้อย่างนั้นเย่ว์ไตตันแห่งหอทงเทียนคงเป็นอันดับหนึ่งรวมทั้งแดนสวรรค์และแดนสวรรค์บน เขาสามารถดึงดูดความขุ่นเคืองเกลียดชังได้มากที่สุด
เจ้าเด็กผู้นี้เหมือนถูกลิขิตมาโดยเฉพาะว่าเกิดมาเพื่อยั่วโมโห
หรือบางที
เจ้าเด็กไตตันนี้เกิดมาเพื่อรุกรานผู้คนโดยแท้
มีศัตรูมากมายอยู่รอบตัวไม่ว่าใครก็แข็งแกร่งระดับสะเทือนฟ้าดินและตอนนี้สถานการณ์ของชีวิตก็ตกอยู่ในอันตรายตลอดเวลาแต่เย่ว์ไตตันผู้นี้ไม่เพียงแต่มีร่องรอยความกลัวเท่านั้นแต่ยังพยายามยั่วโมโหคนอื่นราวกับว่าถ้าไม่ทำแล้ว เขารู้สึกไม่สบายใจ
เจ้าเด็กนี่รู้ตัวบ้างไหมว่าเขากำลังจะตาย?
แต่สีหน้าเขาดูเหมือนไม่เป็นเช่นนั้น
ดูเหมือนว่าสีหน้าของเย่ว์ไตตันไม่มีความกังวลแม้แต่น้อยไม่มีความกลัวแต่อย่างใด หรือว่าเจ้าเด็กนี่เกิดมาก็กล้าหาญเลย? ไม่ว่าจะโง่งี่เง่าเพียงไหนเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีอาการตอบสนอง คนจากเผ่าเก้าหัวห้าคน เผ่ามังกรฟ้าเจ็ดคนและมาใหม่อีกกลุ่มสามคนรวมเป็นสิบห้าคน คนเหล่านี้ไม่ว่าคนใดคนหนึ่งก็สามารถสั่นสะเทือนแดนแดนสวรรค์ได้เจ้าเด็กนี่จำเป็นต้องแสดงออกอย่างนี้หรือ?
ไม่น่าเป็นไปได้?
ทุกคนมองหน้ากันเอง
ทุกคนสงสัยว่าเย่ว์ไตตันผู้นี้ไม่เคยอยู่ในหอทงเทียนไม่เคยอยู่ในแดนสวรรค์ไม่รู้จักพลังอำนาจและเกียรติยศของแต่ละคนอย่างนั้นหรือ? กล้าเพราะความโง่หรือเปล่า? เจ้าผู้นี้เป็นเด็กบ้านนอกที่ถูกขังอยู่ในหอทงเทียนโดยไม่รู้ว่าโลกภายนอกเป็นยังไงหรือเปล่า?
“ตามข้ามาที่แท่นบูชายัญ! ที่นั่นมีทางเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ ถ้าพวกเจ้าเอาชนะข้าได้ อย่างนั้นข้าจะส่งมอบให้พวกเจ้า ถ้าพวกเจ้าแพ้ ก็ยังเป็นเดิมพันเหมือนเดิม พวกเจ้าทุกคนต้องออกไปจากดินแดนของข้า ข้าไม่ยินดีต้อนรับโจรจากแดนสวรรค์” เย่ว์หยางใช้ปราณกระบี่เปิดมิตินำทุกคนเข้าสู่หุบเขาแม่น้ำขาวแท่นบูชายัญทันที