ตอนที่แล้วตอนที่ 1252 ใครกล้ารังแกน้องข้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1254 ถิ่นของข้า ข้ารับผิดชอบ!

ตอนที่ 1253 จักรพรรดิอสูรคือใคร?


สำหรับการเดินหมากที่สองของเย่ว์หยางทำให้บัณฑิตวัยกลางคนขมวดคิ้วลึก

เขาไม่เข้าใจ

ทำไมตาเดินต่อไปถึงเป็นเช่นนี้?

เย่ว์หยางไม่ใส่ใจอะไรเลยนี่เป็นเหตุผลที่มีมาตามธรรมชาติ ไม่ว่าคนภายนอกจะตั้งคำถามอย่างไรก็ตามตราบเท่าที่เขารู้สึกถูกต้อง

“หมากตาที่สองของเจ้าเลือกสู้กับจักรพรรดิอสูรหรือ?”  บัณฑิตวัยกลางคนไม่เข้าใจอย่างแท้จริง  นอกจากจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อแล้ว  เย่ว์ไตตันเลือกเดินตาที่สองกับจักรพรรดิอสูรไม่ใช่จักรพรรดิทองแห่งเผ่ากาทองสามขาแห่งหุบเขาสุริยันต์ ไม่ใช่เลือกหัวหน้าผู้อาวุโสราชันย์ไร้ใจแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ และไม่ใช่ห้าจอมภพแดนสวรรค์ที่ใช้วิชาลับลอบเข้ามา...  ตาเดินคราวนี้ไม่ได้รับการท้าทายอย่างแข็งขัน  ไม่ใช่ว่าการโจมตีครั้งแรกจะอ่อนแอที่สุด  แต่เขากลับเลือกเล่นกับจักรพรรดิอสูรเขาคิดไม่ออกจริงๆ

“มีปัญหาอะไรไหม?”  เย่ว์หยางถามแปลกๆ

“ดูเหมือนว่าที่แข็งแกร่งที่สุดจะเป็นเจ้าตำหนักสูงสุดไม่ใช่หรือ?  เจ้าปล่อยเขาไว้ตามลำพังได้อย่างไร?”  บัณฑิตวัยกลางคนเตือน

“เจ้าตำหนักสูงสุดไม่ใช่ตัวหมากของเจ้า!” เย่ว์หยางปฏิเสธ เนื่องจากเจ้าตำหนักสูงสุดไม่ใช่หมากของตงฟาง  ไม่สำคัญว่าตงฟางจะจัดหมากอย่างไรแต่นี่มันคือเรื่องของเขา!

“เจ้าตำหนักสูงสุดไม่ฟังคำสั่งข้าก็จริงแต่ข้าได้โน้มน้าวราชันย์ไร้ใจให้เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย”  บัณฑิตวัยกลางคนมองดูเย่ว์หยางเพื่อดูว่าเขาจะอธิบายได้อย่างไรว่าเขาจะไม่เผชิญกับระดับหัวหน้าของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  เย่ว์หยางแบมือยักไหล่และพูดทั้งยิ้ม  “ทันทีที่ข้าได้ยินชื่อคนผู้นี้ข้ารู้ความคิดและพฤติกรรมของคนประเภทนี้ เป็นที่รู้กันดีว่าคนอย่างราชันย์ไร้ใจนี้มักเกียจคร้านแต่เขาฉลาด  เขามักจะอยู่หลังฉากเจ้าแล้วจะยอมออกมาก่อนได้อย่างไร เขาต้องออกมาเป็นคนท้ายๆ เพื่อต่อรองข้า ทำไมข้าต้องควบคุมเขาตอนนี้ด้วย?”

บัณฑิตวัยกลางคนตกใจ

จากนั้นก็หัวเราะ

เขาปรบมือชมเชย  “คุณชายสามตระกูลเย่ว์สมกับเป็นอัจฉริยะไม่มีใครเทียบได้จริงๆเป็นเหตุผลสนับสนุนที่กล้าหาญ แต่ก็น่าชื่นชมด้วยเช่นกัน! ถ้าราชันย์ไร้ใจไม่เคลื่อนไหวต่อสู้ในศึกแรกแล้วจักพรรดิทองแห่งเผ่ากาทองสามขาเล่า? เผ่าของเขาได้รับการยอมรับอย่างสูงจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ ในอดีตพวกเขาถูกขับออกจากเผ่าบูรพาอมตะต้องเร่ร่อนสร้างศัตรูทุกแห่งหนตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ยอมรับพวกเขาอย่างจริงจังและให้พวกเขาตั้งถิ่นฐานในแดนสวรรค์ได้   นี่ยังไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิทองมีมิตรภาพกับข้าอย่างลึกซึ้งไม่ธรรมดา  ตอนนี้ข้าเชิญชวนให้เขามาช่วยข้า  เขาไม่ได้รับรู้ชื่นชมมิตรภาพของเจ้ากับองค์ชายแปดอูไห่เลย  เจ้าไม่คิดว่าเขาน่าสนใจหรอกหรือ?”

เย่ว์หยางส่ายหน้าเบาๆ  “แน่นอนว่าข้าไม่เพิกเฉยทำตาบอดหูหนวกเรื่องนี้  ข้ากำลังส่งน้องสาวข้าไปปราบเขา!”

บัณฑิตวัยกลางคนถึงกับหัวเราะลั่น  “บางทีเจ้าอาจคิดว่ามันใช้ได้ผล แต่น่าเสียดายข้าต้องบอกเจ้าไว้ก่อน แค่กิเลนเด็กที่เจ้าส่งไป ไม่มีทางโน้มน้าวจักรพรรดิทองได้

เย่ว์หยางยืนยันต่อ  “ถ้านางไม่สามารถโน้มน้าวได้  ข้ายังมีน้องอีกสองคน  พวกนางทำได้!”

“ไม่!” บัณฑิตวัยกลางคนส่ายหัวโบกมือ “ต่อให้เจ้าเพิ่มสองสาวมังกรเทพธิดาศึก (ราชันย์ปีศาจใต้) หรือแม้แต่จะเพิ่มสาวมังกรไร้เขาที่เป็นเหมือนอาวุธลับของเจ้าก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายจักรพรรดิทอง! จักรพรรดิทองไม่กล้าทำร้ายเผ่าอมตะ แต่เขาจะไม่รับคำสั่งจากพวกเขาอย่างไม่เป็นธรรมตราบใดที่เขาไม่ได้ฆ่าคนเผ่าบูรพาอมตะ แม้ว่าหอทงเทียนจะถูกทำลายลงทั้งหมดก็ไม่มีความสัมพันธ์ใดเกี่ยวข้องกับพวกเขา เรื่องนี้ข้าคิดไว้เป็นอย่างดีแล้ว!”

“ถ้าเจ้าไม่ลองแล้วเจ้าจะรู้ผลลัพธ์ที่แท้จริงได้อย่างไร? นอกจากนี้ยังไม่มีอันตรายใดๆ ในการลอง!” เย่ว์หยางยืนยันอย่างเรียบเฉย

“อย่างนั้นก็แล้วแต่เจ้า”  บัณฑิตวัยกลางคนพยักหน้าจริงจังไม่คัดค้านต่อไป

“ไม่มีปัญหาเราจะผนึกเกมไว้ก่อน วันนี้เหนื่อยมากพอแล้ว เราค่อยมาเล่นต่อกันวันพรุ่งนี้!” เย่ว์หยางดูเหมือนไม่ทราบว่านี่เป็นการต่อสู้เสี่ยงเป็นตาย  แต่เหมือนกับการเล่นหมากรุกระดับมืออาชีพ

“ถ้าเจ้าต้องการไม่เป็นไรหรอกนะถ้าเจ้าจะพักสักสามวัน” บัณฑิตวัยกลางคนเห็นด้วย เพื่อชัยชนะเด็ดขาด ทุกอย่างไม่สำคัญ

“ถ้าอย่างนั้นก็วันนี้แหละ!”  เย่ว์หยางวางหมากลงบนโต๊ะ

“ขอให้ข้าได้เตือนเจ้าไว้ก่อนว่าพลังของห้าจอมภพนั้นไม่อ่อนด้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อห้าจอมภพสู้ด้วยกันโปรดอย่าลืมพวกเขาสามารถเป็นตัวหมากได้ พวกเขาไม่มีความเสียใจเมื่อเป็นหมากที่ถูกกินนั่นคือข้อสรุปสำคัญ  ถึงเวลานั้นแม้เสียใจก็สายเกินไป!” บัณฑิตวัยกลางคนเตือนเย่ว์หยาง

“ถ้าเจ้าไม่ไม่บอกข้าเกือบลืมไป  ใครบางคนจากห้าจอมภพไม่ต้องการให้ข้ากังวล” เย่ว์หยางหยิบเข็มทิศสามพิภพออกมาและเทเลพอร์ตจากไปทันที

บัณฑิตวัยกลางคนไตร่ตรอง

หลังจากไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะเขาค่อยๆ เอื้อมมือหยิบหมากที่เป็นตัวแทนของมังกรปีศาจที่เย่ว์หยางเพิ่งใช้ตอนนี้

ในตอนแรกเขาตกใจและประหลาดใจมากแต่ในที่สุดคิ้วของเขาคลายตัวและเขายิ้มออก กลับกลายว่าเป็นของปลอม ไม่มีมังกรปีศาจเข้าร่วมในการต่อสู้ไม่เช่นนั้นหมากชิ้นนี้จะไม่มีทางหยิบขึ้นมาได้เลย!  เจ้าเด็กนี่ใช้อสูรศึกมาหลอกข้า เขาสามารถซ่อนทักษะแฝงเร้นหมากรุกของข้าได้หรือ?  เหลือเชื่อจริงๆ!  อย่างไรก็ตามการโกงหมากรุกไม่มีประโยชน์หากเจ้าเด็กนั่นหลอกลวงหมากตานี้ ก็ต้องสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวงต่อเป็นสิบตา เขากล้าพอจะเมินหลีกเลี่ยงเจ้าตำหนักสูงสุดและราชันย์ไร้ใจ แต่คาดว่าเจ้าหลบจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อไม่พ้นแน่?เจ้าคิดว่าราชันย์ไร้ใจแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จะยอมออกมาสู้เพราะการบุกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์?   เจ้าวางแผนสวยหรู แต่น่าเสียดายที่เจ้าไม่รู้ว่าราชันย์ไร้ใจเป็นใครเขาทำอะไรไว้ให้กับตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ความคิดที่รอบคอบของเจ้าจะมีหลายชั้นนับไม่ถ้วนได้อย่างไร...   ห้าสุดยอดฝีมือที่เจ้าตั้งใจจะใช้นางพญาผู้พิชิตเข้าสู้ มิน่าเล่าเจ้าถึงอยากจัดการจักรพรรดิทองและราชันย์ไร้ใจ  เจ้ายังคงมีความคิดอย่างนี้! แผนหลายชั้นของเจ้าล้มเหลวแน่นอน แต่ข้าชอบแบบนี้ เพียงแต่โลกและสวรรค์แบบนี้ก็คือเกมหมากรุก ชัยชนะชีวิตทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา

บัณฑิตวัยกลางคนรำพึง

มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆในภาพ หน้าของเขาผ่องใสรู้สึกพอใจและมีความสุข เหมือนกับยอดศิลปินมองดูผลงานชิ้นโบว์แดงของตน

“นี่เป็นสิ่งจำเป็นต้องจัดการต่อไปข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเด็กเจ้าเล่ห์พลิกสถานการณ์การต่อสู้ได้”  บัณฑิตวัยกลางคนสงบจิตใจได้ทันที เขาดึงตัวหมากที่เป็นตัวแทนของมังกรปีศาจกลับมาอีกครั้งและมองดูหมากอย่างระมัดระวัง จากนั้นค่อยๆ วางหมากในตำแหน่งที่ถูกต้องเบาๆ  หลังจากเห็นว่ารูปแบบหมากสมบูรณ์แบบแล้วเขากลายเป็นแสงสีทองหายไปในความว่างเปล่า

ขณะเดียวกัน

เย่ว์หยางกลับไปที่ประตูวังเทียนหลัว

เมื่อเขาเทเลพอร์ตกลับมาทหารองครักษ์ที่เฝ้าประตูวังลอบถอนหายใจ

นี่เป็นเพราะมีศัตรูที่แข็งแกร่งมากมาถึงด้วยพลังของพวกเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันความปลอดภัยของฝ่าบาทได้  ตอนนี้เย่ว์หยางกลับมาแล้ว ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาคือแขกห้าคนที่ไม่ได้รับเชิญ  แม้ว่าจะไม่รู้ว่ามีระดับพลังเพียงไหนแต่แม้กระทั่งองครักษ์ประจำตำหนักที่อ่อนแอที่สุดก็ยังเข้าใจว่าทั้งห้าคนนี้เป็นนักสู้จากแดนสวรรค์แน่นอนสามารถทำลายโลกได้เพียงแค่ยกมือขึ้นเท่านั้น  ที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นนายทหารที่จิตใจแข็งแกร่งดุจเหล็กเขาไม่อาจยืดตัวตรงได้ ได้แต่ก้มหน้างอตัวคุกเข่าเหมือนกับถูกขุนเขาใหญ่ห้าลูกกดทับ ทุกครั้งที่ร่างกายสั่นสะท้านก็แทบค้ำยันร่างไม่อยู่จนกระทั่งเย่ว์หยางกลับมาถึง เขาจึงล้มลงกับพื้น

เย่ว์หยางมองดูจากด้านซ้ายอสรพิษเก้าหัวหนอนเก้าหัว วิหคเก้าหัว ปีศาจเก้าหัวและอสูรเก้าหัว

เขาใช้จักษุญาณทิพย์มองดูก็สามารถมองเห็นว่าร่างหลักที่แท้จริงของเผ่าภูตบูรพาเหล่านี้  แต่เขาไม่สามารถพบเจอว่าใครคือจักรพรรดิอสูร!  ในเผ่าเก้าหัวทั้งห้าคนนี้หรือว่าอสรพิษเก้าหัวจะเป็นจักรพรรดิอสูร? ตามสถานะวิหคเก้าหัวอยู่ตรงกลางดูเหมือนจะสมเหตุผลมากกว่า! ถ้ามองดูจากสภาพร่างกายมีแนวโน้มว่าอาจเป็นปีศาจเก้าหัวก็ได้และอาจจะเป็นอสูรเก้าหัวก็เป็นไปได้มาก

เผ่าอสูรเก้าหัวทั้งห้าคนนี้มองอย่างผิวเผินไม่เพียงแต่คุ้นเคย แต่ร่างก็ยังคุ้นเคย แม้แต่พลังก็แทบจะเหมือนกัน

อสรพิษเก้าหัวดูคล้ายกับหนอนเก้าหัวมาก  วิหคเก้าหัวมีปีก ปีศาจเก้าหัวก็มีเช่นกัน  และปีศาจเก้าหัวมีร่างกายคล้ายกับเต่าดำ  แต่อสูรเก้าหัวก็ยังคงเหมือนกันใครเป็นจักรพรรดิอสูรที่แท้จริงกันแน่

ถ้าจักรพรรดิอสูรที่แท้จริงอยู่ในกลุ่มทั้งห้าคนนี้อย่างนั้นเย่ว์หยางคงต้องระวังให้มากขึ้น

เพราะถ้าด้วยพลังจักษุญาณทิพย์ในปัจจุบันของเย่ว์หยางยังไม่สามารถมองเห็นพลังของจักรพรรดิอสูรได้  อย่างนั้นตาเดินครั้งต่อไปคงเล่นได้ยาก!  อย่างน้อยพลังของจักรพรรดิอสูรก็เหนือกว่าที่เย่ว์หยางคาดไว้มาก!  ที่ขุนเขาเหนือขุนเขาบุรุษลึกลับนับว่าแข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว และเทพปีศาจเว่ยกวงก็เล่นงานเย่ว์หยางจนแทบหายใจไม่ทันแต่พลังของพวกเขาก็ยังอยู่ในการคาดการของเย่ว์หยาง

ถ้าพลังของจักรพรรดิอสูรเหนือกว่าบุรุษลึกลับหรือเทพปีศาจเว่ยกวงมากอย่างนั้นศึกนี้ก็ยากจะทนทานได้!

“พวกเจ้าใครคือจักรพรรดิอสูร?” เย่ว์หยางมองแล้วมองอีกก็แทบจะมองไม่เห็น

“แล้วเจ้าคิดว่าใครเล่า”  อสรพิษเก้าหัวที่ยืนอยู่ทางด้านซ้ายยิ้มและมองเย่ว์หยาง  “เจ้าเป็นเด็กที่น่าสนใจ  ดังนั้นถ้าเจ้ายินดีจะแบ่งสมบัติแดนล่มสลายแห่งทวยเทพให้เราครึ่งหนึ่งอย่างนั้นเราจะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน!”

“ฝันไปเถอะ!”  เย่ว์หยางปฏิเสธ

“แดนล่มสลายแห่งทวยเทพไม่ใช่ของเจ้า ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่าเจ้ามีความสัมพันธ์เล็กน้อยกับเรา ทำไมเราต้องมามัวเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระกับเจ้า  ฆ่าเจ้าในท่าเดียวก็สิ้นเรื่อง” เสียงของหนอนเก้าหัวแทบจะคล้ายกันกับอสรพิษเก้าหัว แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่สามารถจำแนกความต่างกัน  แต่เย่ว์หยางมั่นใจว่าหนอนเก้าหัวนี้ไม่ได้มีเสียงเหมือนกับอสรพิษเก้าหัว

“ฆ่าข้าในท่าเดียว?”  เย่ว์หยางหัวเราะ  เขาชูนิ้วทั้งห้า  “มาลองดูก็ได้!”

“ฆ่าเจ้าไปคงไม่ใช่เรื่องดีแน่  คาดว่าจะมีมือคอยช่วยอยู่ที่นี่  จะมีคนรอปิดผนึกเราเราไม่สามารถกินเพื่อให้เกิดการสูญเสียนั้นได้ คนเก่าแก่ของเผ่าภูตบูรพานั้นไม่มีใครอยู่หนุนหลังเรา ผนึกนั้นยังเป็นขนาดเบาแต่ก็น่ารำคาญจริงๆ เป็นไปได้ว่าอาจจะฆ่าเราได้ เราไม่ยอมถูกหลอก” เสียงของวิหคเก้าหัวแหลมและดุ “แต่ตราบเท่าที่เจ้าไม่ถูกฆ่าเอาแค่ให้เจ้าคลานหาฟันตัวเองก็คงไม่เป็นปัญหา แนวทางพื้นฐานอย่างนี้เรายังควบคุมได้”

“วันนี้พวกเจ้าจะทุบตีข้าให้ถึงกับคลานหาฟันตัวเอง บางทีพรุ่งนี้ข้าอาจนำคนไปที่หน้าประตูบ้านฆ่าคนในเผ่าของเจ้า  เจ้าคือเผ่าเก้าหัวเจ้าแน่ใจนะว่าจะสู้กับข้าได้?” เย่ว์หยางแค่นเสียงเยือกเย็น

“การใช้แดนล่มสลายแห่งทวยเทพเพื่อล่อลวงเป็นเรื่องยิ่งใหญ่เสียงของปีศาจเก้าหัวนั้นชัดเจนที่สุด และเขาดูใจดีที่สุด

“หลายอย่างไม่ใช่ของๆเจ้า พวกเจ้าก็ไม่ควรมาเอา” เย่ว์หยางถอนหายใจ

“เราไม่รับ แค่รอให้เจ้าไปเอาสมบัติจากนั้นค่อยแบ่งกับเราครึ่งหนึ่ง เราไม่โลภมากของแค่ครึ่งหนึ่ง!” อสูรเก้าหัวบอกว่ายังพอมีทางหนึ่งเช่นวิธีจับเย่ว์หยางซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด เหตุผลที่พวกเขาล่วงหน้ามายังวังเทียนหลัวก็คือเร่งรีบตัดหน้าจักรพรรดิทองและราชันย์ไร้ใจจับตัวเย่ว์หยางก่อนและจากนั้นหาทางเอาสมบัติของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ พวกเขาเป็นเผ่าภูตบูรพาระดับสูง มีกฎมากมายในแดนบูรพา พวกเขามีความชัดเจนที่สุดคือถ้าต้องการฆ่าเย่ว์หยางโดยไม่มีเหตุผลแม้แต่น้อยแล้วชิงสมบัติผลก็คือไม่ได้อะไร แต่ถ้าพวกเขาเอาชนะเย่ว์หยางเจ้าเด็กนี่ได้ก็ไม่น่าเป็นปัญหาใหญ่อะไรผู้เดียวที่ต้องระวังก็คือจักรพรรดิทองและราชันย์ไร้ใจ

“เจ้าคิดว่าข้าจะยอมร่วมมือโดยไม่มีการสู้ใช่ไหม?”  เย่ว์หยางแค่นเสียง

“แน่นอนว่าไม่”  อสรพิษห้าหัวส่ายหน้าและมองเย่ว์หยางจริงจัง “แต่เรามีเวลามากพอ เราจะทรมานเจ้าช้าๆ จนโค่นเจ้าลง  เดิมทีเผ่าเก้าหัวต้องการเพียงหนึ่งเดียว แต่เราทั้งห้ามารับสมบัติจากแดนล่มสลายแห่งทวยเทพไม่คิดว่าจะล้มเหลว”

“อย่างนั้นมาพนันกัน  ถ้าเจ้าชนะ ข้าไม่มีอะไรจะพูด  แต่ถ้าข้าชนะอย่างนั้นพวกเจ้าต้องออกไปจากหอทงเทียนทันทีและอย่ากลับมาที่นี่อีก  หอทงเทียนที่นี่คือถิ่นของข้า!”  เย่ว์หยางค่อยๆกลั่นสร้างกระบี่ดำกุยจ้างกระบี่ขาวซวงหัวและกระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียนต่อหน้าทั้งห้าและเดิมพันสู้กับศัตรูถึงหนึ่งต่อห้า

*** *** ***

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด