ตอนที่แล้วตอนที่ 1251 เพื่ออิสรภาพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1253 จักรพรรดิอสูรคือใคร?

ตอนที่ 1252 ใครกล้ารังแกน้องข้า


เย่ว์หยางอยู่ในระหว่างการเล่นและกำลังไตร่ตรอง

เขาไม่สามารถเดินหมากได้

บัณฑิตวัยกลางคนรอคอยอย่างสงบและอดทนสำหรับหมากที่กำหนดแล้วว่าจะต้องชนะในท้ายที่สุด เขาไม่มีเหตุผลต้องรำคาญเสียใจ ตราบใดที่เขาแพ้อย่างรวดเร็วอย่างนั้นเขาจะรู้สึกหงุดหงิดและกระสับกระส่ายเหมือนอย่างเย่ว์หยาง ในตอนนี้เขารู้สึกอึดอัดจนต้องทุบโต๊ะโวยวายออกมาบ้าง  “หมากไร้สาระอะไรอย่างนี้ความรู้สึกมีน้อยมากไม่รู้สึกถึงหมากหยกที่ดีกว่านี้แล้วหรือ  ตัวหมากเน่าอย่างนี้จับไปแล้วจะมีแรงบันดาลใจอะไรได้!”

ทุกคนรู้ว่าการเล่นหมากรุกไม่เกี่ยวอะไรกับตัววัสดุหมากสีผิวของชิ้นหมากส่วนเหล่านี้ไม่ส่งผลอะไร

เขารู้สึกว่าคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องทุกประเภท

จะพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว!

เย่ว์หยางดูเหมือนเป็นคนแบบนี้...บัณฑิตวัยกลางคนเปลี่ยนมุมมองลองคิดว่าตัวของเขาเป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์  และเมื่อเผชิญกับสุดยอดนักสู้ต่างๆหลายคนเช่นเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ จักรพรรดิอสูรจักรพรรดิทอง ราชันย์ไร้ใจ  เขารู้สึกว่าศีรษะพองโตแทบระเบิด  อย่าว่าแต่สองสามคนที่กล่าวข้างต้นเลยห้าจอมภพจากแดนสวรรค์ส่วนต่างๆ ทั้งตะวันออก ตะวันตก และใต้  คนเหล่านี้ไม่ใช่จะตอแยกันได้ง่ายๆ

ในอดีตจักรพรรดิออวี้ต้องยอมเสียสละตนเองยอมผนึกสามจอมภพแดนสวรรค์ตะวันตก

ในเวลานี้ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางต้องเผชิญกับห้าจอมภพแดนสวรรค์พร้อมกันแต่ยังต้องเผชิญห้าสุดยอดฝีมืออย่างเทียนอี้ จักรพรรดิไร้เทียมทาน จักรพรรดิอสูรจักรพรรดิทองและราชันย์ไร้ใจ ทั้งสิบคนเหมือนกับขุนเขาใหญ่ทั้งสิบ แค่คนใดคนหนึ่ง ก็เพียงพอจะพิชิตเขาได้ทั้งหมดแล้ว  แต่ตอนนี้มาถึงสิบคนพร้อมกันเหตุการณ์เศร้าครั้งนี้ยากจะหลีกเลี่ยง

บัณฑิตวัยกลางคนคิดว่าถ้าเขาเป็นเย่ว์ไตตันต้องมาถือไพ่เช่นนี้ไว้ในมือ ภายใต้แรงกดดันของศัตรูทั้งสิบมีผลสุดท้ายคือตายอย่างเดียว

ไม่มีทางชนะ

ต้องการจะชนะหมากนี้ปืนป่ายขึ้นสวรรค์ยังจะง่ายเสียกว่า!

คิดว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์คงจะคิดหาทางเอาชนะไม่ได้  และเขาคิดว่าตนเองไม่มีเหตุผลใดที่จะแพ้

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้บัณฑิตวัยกลางคนคิดว่าเขาสามารถวางใจลงได้บ้างเล็กน้อยสำหรับหมื่นปีที่หดหู่วางแผนอย่างรอบคอบรอคอยผลแห่งชนะอย่างใจเย็นหลังจากที่ได้ฝึกฝนฝีมือมานานเป็นหมื่นปี บัดนี้เป็นเวลาที่ควรชื่นชมยินดีต่อความเจ็บปวดและความเกรี้ยวกราดของศัตรูเป็นการโต้ตอบระบายความผิดหวังเมื่อหมื่นปีที่แล้ว บัณฑิตวัยกลางคนเงยหน้ามองท้องฟ้าและยิ้มอย่างสดชื่น  ในอดีตคนที่เข้าใจผิดเหล่านี้คนโง่เหล่านี้ปฏิเสธจะสนับสนุนตัวเขาให้ขึ้นเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของหอทงเทียนไม่ใช่หรือ?  หากจิตวิญญาณวีรบุรุษของพวกเจ้าอยู่ไม่ไกลจงใช้สายตาของพวกเจ้ามองดู เป็นเพราะความดื้อรั้นและความผิดพลาดของพวกเจ้า  พวกเจ้าพลาดผู้สืบทอดที่ดีที่สุดไป เพราะหอทงเทียนจะต้องถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง  ความสง่างามจึงต้องหยุดยั้งเพียงเท่านี้

นี่คือทางเลือกของพวกเจ้า

เป็นเพราะพวกเจ้าเป็นเพราะพวกเจ้าไม่เลือกข้า หอทงเทียนจึงมีสภาพดังทุกวันนี้ ทุกอย่างเป็นความผิดของพวกเจ้า!

หอทงเทียนเอยในเมื่อข้าไม่ได้มันมา คนอื่นก็จะไม่ได้เช่นกัน! ในเมื่อข้าไม่ได้รับ อย่างนั้นข้าจะทำลายมันเอง ข้าจะทำบ้านเกิดที่สวยงามแห่งนี้กลายเป็นนรกที่แท้จริง เปลี่ยนให้เป็นนรกที่โหดร้ายเลือดนองเป็นท้องธารทำให้คนนับล้านล้านถูกฝังร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้าย

บัณฑิตวัยกลางคนค่อยๆกำหมัดช้าๆ เหมือนกับว่ากุมชะตาของหอทงเทียนไว้ได้แล้ว

ปัง

เย่ว์หยางหยิบตัวหมากชิ้นหนึ่งวางบนกระดานหินทันที

มีเสียงดังผิดปกติ  แม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่ได้โกรธ  แต่ก็เหมือนกับไม่ตั้งใจ

เมื่อบัณฑิตวัยกลางคนเห็นเช่นนี้ใบหน้าของเขามีรอยยิ้ม เขาผายมือแนะนำ “เด็กน้อย, เล่นหมากรุกอย่าหุนหันพลันแล่น  เจ้าก็รู้ว่าบางครั้งมือข้างเดียวสามารถกำหนดทิศทางของรูปเกมทั้งหมดความอดทนและความสังเกตเป็นเรื่องสำคัญมากเจ้าแน่ใจนะว่าต้องการทำตามตาเดินนี้? แน่ใจหรือเปล่า? นี่เห็นว่าเจ้าเป็นสหายรุ่นหลังหรอกนะ ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจกับการเดินผิด เจ้าควรคิดดูให้ดีแล้วค่อยเดินหมากก็ยังไม่สายเกินไป!”

“เป็นคนรุ่นหลังของเจ้านั่นเป็นเรื่องน่าอับอาย ดีที่สุดอย่าไปพูดถึงมัน” เย่ว์หยางจ้องมองบัณฑิตวัยกลางคนตาคมกร้าวเหมือนดาบ “เราคุณชายกำลังเล่นหมากรุก  เจ้าก็ชอบไม่ใช่หรือ  ถ้ารู้สึกอึดอัด เจ้าฆ่าตัวตายได้!”

“คนกำลังจะชนะย่อมไม่ฆ่าตัวตายแน่นอน  การฆ่าตัวตายเป็นเรื่องของคนแพ้”  บัณฑิตวัยกลางคนหัวเราะลั่น

“ข้ายังไม่แพ้!”  เย่ว์หยางตะโกนลั่น

“ตอนนี้เจ้ายังไม่แพ้ แต่คาดว่าคงเร็วๆ นี้”บัณฑิตวัยกลางคนไม่คิดว่าเป็นไปได้ที่เจ้าเด็กนี่จะมีโอกาสกู้สถานการณ์กลับมา เขามองดูหมากบนกระดานและชี้ไปที่ตัวหมากสีขาวบนโต๊ะหินยิ้มให้เย่ว์หยาง “หมากนี้ของข้าคือจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อใหญ่พอจะกินหมากบนกระดานได้ทุกตัวเจ้ามีหมากใช้ขัดขวางหมากใหญ่นี้ได้หรือ?”

“ข้ายังมีหมากใหญ่อยู่ตัวหนึ่ง!”  เย่ว์หยางขยับบอกไม่ให้บัณฑิตวัยกลางคนก่อกวนการเดินหมากของเขา

“หมากของเจ้าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนเชียว?” บํณฑิตวัยกลางคนไม่คิดว่าหมากนี้จะมีพลังพอหยุดหมากที่เข้มแข็งทรงพลังอย่างจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อของเขาได้

สามารถป้องกันจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อได้มีแต่นางพญาผู้พิชิตเฟ่ยเหวินหลี

น่าเสียดายนี่ไม่ใช่นาง

แม้ว่าการเดินหมากนี้จะถูกนางขัดขวางอย่างนั้นก็ยังมีเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ จักรพรรดิอสูรจักรพรรดิทองและราชันย์ไร้ใจ? ใครยังจะขัดขวางได้อีก?

เย่ว์หยางเตรียมวางหมากสีดำเพื่อต้อนหมากอีกฝ่ายให้กลับเข้าที่เดิมพร้อมกับเตือนอย่างจริงจัง  “อย่าแตะต้องหมากนี้ของข้า! ตามธรรมชาติข้าก็เป็นอย่างนี้ หมากของเจ้าคือจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ คิดว่าใหญ่พอแล้วใช่ไหม?  แต่หมากของข้าในอดีตเคยกวาดมาทั่วอาณาจักรสวรรค์มาแล้ว  มังกรปีศาจจะคอยขัดขวางจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเอง  นี่คือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากข้า!”

“มังกรปีศาจ?” บัณฑิตวัยกลางคนไม่เข้าใจเย่ว์ไตตันรู้จักกับเจ้าโง่อย่างมังกรปีศาจได้อย่างไร เขาขมวดคิ้วพูดกับเย่ว์หยาง“พื้นเพอย่างเจ้า ไม่ รู้ จัก มังกร ปีศาจ!”

“ข้าไม่รู้จักมังกรปีศาจหรือ?  ข้าปล่อยเขาออกมาเองแล้วจะไม่รู้จักเขาได้อย่างไร?” เย่ว์หยางพูดเยาะเย้ยคืน “ในโลกนี้นอกจากข้ายังจะมีใครอื่นที่ปลดผนึกเขาได้ นอกจากเราคุณชายผู้นี้ใครเล่าที่มากอดขาข้าขอให้ข้ายอมรับเป็นพี่น้อง นั่นเป็นเพราะเขาร้องขอต้องการเป็นพี่ใหญ่ข้าเขาบอกว่านั่นคือความฝันของเขา!”

“ต่อให้มังกรปีศาจเป็นพี่ใหญ่เจ้าเขาก็มาหอทงเทียนไม่ได้ และเป็นไปได้น้อยมากที่เขาจะเป็นศัตรูกับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ!”  บัณฑิตวัยกลางคนหัวเราะลั่น

“ทำไมล่ะ?” ครั้งนี้เป็นเย่ว์หยางที่ไม่เข้าใจบ้าง

“เพราะเขาเพิ่งออกจากผนึกยังไม่ฟื้นฟูพลังสุดยอดของตนเอง” บัณฑิตวัยกลางคนหัวเราะลั่นและส่ายศีรษะ “ตอนนี้เขาต้องซ่อนตัวเพื่อฟื้นฟูพลังตนเอง  ต่อให้เจ้าต้องการพบเขา ก็ไม่มีทางหาเจอได้”

“ข้าแจ้งเขาไม่ได้หรือไง?แจ้งผ่านคัมภีร์อัญเชิญ!” เย่ว์หยางว่าเขาส่งข้อความแจ้งไปแล้วง่ายๆ

“เป็นไปไม่ได้!”  บัณฑิตวัยกลางคนส่ายหน้า “มีแต่เฉพาะคนสำคัญของหอทงเทียนเทียนเท่านั้นถึงจะแจ้งส่งผ่านข้อมูลจากคัมภีร์อัญเชิญได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นการเรียกระดมกำลังหรือการส่งข้อมูลเหมือนเจ้า  นอกจากนี้ไม่มีวิธีอื่น! หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง มังกรปีศาจไม่ใช่คนหอทงเทียนเขาไม่มีทางรับข้อมูลจากเจ้าได้ และข้อมูลนี้จะส่งไปไม่ถึงเขาเพราะหอทงเทียนทั้งหมดรู้จักแต่เจ้าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ส่วนมังกรปีศาจไม่มีใครรู้จัก! ในที่สุดสิ่งที่ข้าต้องการจะบอกก็คือ กุญแจของหอทงเทียนก็คือความทุ่มเทของข้า เพราะหลังจากที่ใช้ไปแล้วจะทำให้ตลอดหนึ่งปีในหอทงเทียนไม่สามารถส่งแจ้งข้อมูลได้อีกครั้ง คัมภีร์อัญเชิญของหอทงเทียนทั้งหมดจะหยุดทำงานส่วนนี้หนึ่งปีเพื่อฟื้นฟูพลังงานเชื่อมต่อ  อย่ามองข้าแบบนั้น คุณชายสามตระกูลเย่ว์  บางทีเจ้าอาจคิดว่าข้าไม่ใช่คนฉลาด  แต่ความเป็นจริงข้าไม่ได้โง่กว่าเจ้าไม่ช้ากว่าเจ้า ข้าแค่ไม่ได้มีชะตาเป็นที่รักของสวรรค์เหมือนกับเจ้าเท่านั้น!”

บัณฑิตวัยกลางคนกินเบี้ยสีดำที่เย่ว์หยางเพิ่งวางบนกระดานและโยนออก

เขาคิดว่า

การเดินตานี้เป็นหมากที่สูญเปล่า

อย่างไรก็ตามในทันใดนั้นมีมือยื่นออกมาจากช่องว่างของโลกและสวรรค์ทันทีและจับตัวหมากรุกไว้ได้อย่างง่ายดายพร้อมกับโยนกลับมายังตำแหน่งที่เย่ว์หยางเคยวางไว้อย่างนุ่มนวล

ขณะนั้นเองบุรุษวัยกลางคนหน้าเปลี่ยนสีมีเสียงเกียจคร้านเสียงหนึ่งดังขึ้น “ความจริงข้าไม่ใช่คนจมูกยาวยุ่งเรื่องของคนอื่น  แต่ถ้ามีคนมารังแกถึงหน้าประตูบ้านขู่เด็กที่หน้าบ้านข้า ในฐานะพี่ใหญ่ไม่มีเหตุผลใดที่ข้าจะไม่ลุกขึ้นเพื่อพูดอะไรเสียบ้าง  แม้ว่าข้าจะถูกผนึกมาแสนปีแต่มิใช่ว่าข้าจะไม่มีอยู่จริงไหม?  ปกติแล้วข้ามักจะเป็นฝ่ายแกล้งรังแกคนอื่น คาดไม่ถึงว่าผ่านไปแสนปีกลับมีคนมารังแกข้าถึงหน้าบ้าน  ถ้าผู้เฒ่าเทพมังกรทองรู้เข้าเกรงว่าเขาคงมาตีข้าจนขาหัก!”

“มังกรปีศาจ!” บัณฑิตวัยกลางคนร้องตกใจ “เป็นเจ้าจริงๆ!”

“ข้ารู้สึกอายจริงๆที่ทำให้การคำนวณของเจ้าล้มเหลว  เจ้าฉลาดแต่น่าเสียดายที่เจ้าไม่เคยคาดคิดว่าข้าจะซ่อนตัวฟื้นฟูพลังอยู่ในหอทงเทียนใช่ไหม?  เด็กน้อยถ้าเจ้าต้องการเล่นเกมระหว่างครอบครัว ข้าเป็นผู้อาวุโส ตามความเป็นจริงแล้ว ข้าไม่สามารถทำอะไรได้มาก แต่เจ้าไม่อาจกล่าวหาว่าข้าไม่มีอยู่จริงหากเจ้าต้องการกลั่นแกล้งว่าข้าไม่มีตัวตนก็ต้องรอให้ข้าตายก่อนแล้วค่อยมายืนโม้คุยโตบนหลุมศพของข้า” เสียงที่ฟังดูเกียจคร้านที่ยืนอยู่ต่อหน้าบัณฑิตวัยกลางคนเหมือนกับกำลังสอนเด็กๆ  บัณฑิตวัยกลางคนมีอายุมานานหมื่นปีเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาที่มีอายุนานแสนปีก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อย

สีหน้าของบัณฑิตวัยกลางคนเปลี่ยนไป  แต่เขายังคงสงบได้

มีเพียงมังกรปีศาจผู้เดียวที่พลังยังห่างจากระดับสุดยอดก็เท่ากับไม่มีอะไร เขายังจะสามารถขัดขวางจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อได้หรือ?  ยากจะกล่าวได้ ต่อให้สามารถขัดขวางได้เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้, จักรพรรดิอสูร จักรพรรดิทองและราชันย์ไร้ใจพวกเขาคงไม่งอมืองอเท้าดูอยู่เฉยๆ แน่!

และได้กวาดล้างมังกรปีศาจที่อยู่ในสภาพอ่อนแออย่างนี้นับเป็นโอกาสที่ดีในรอบหลายพันปีใครกันแน่ที่ควรจะตื่นเต้น

บางทีการต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่นับเอาคุณชายสามตระกูลเย่ว์เท่านั้นแต่ยังถือโอกาสกำจัดมังกรปีศาจในรวดเดียวได้ด้วย

“เด็กน้อย ข้าคือพี่ใหญ่ของเจ้า ข้าเคยกอดต้นขาเจ้านิดหน่อย แต่ข้าเคยร้องไห้ด้วยหรือ?  นั่นมันเรื่องตื่นเต้นกระมัง?”  เสียงเกียจคร้านดังขึ้น  “ข้าดีต่อเจ้ามากและจำได้ว่าพูดคำสองสามคำต่อหน้าเทพมังกรทอง จะดีที่สุดควรให้เจ้าได้แต่งงานกับธิดาผู้งดงามที่สุด  ถ้าข้ามีลูกสาวข้าจะพิจารณาว่าจะให้แต่งงานกับลูกชายเจ้าดีไหม?”

“ไปเลย” เย่ว์หยางสบถด้วยความตื่นเต้น “ท่านก็เหมือนกันท่านต้องการจะแต่งงานกับเจ้าหญิงมังกรสักคน ก็ไม่ควรไปติดคุกนานๆ รีบๆไปจากที่นี่เลย”

“เจ้าเด็กบ้า ข้าอุตส่าห์เป็นห่วงเด็กน้อยเจ้า!”  มังกรปีศาจรู้สึกพูดไม่ออก

“ใครจะสนใจเล่า ท่านมีความสามารถก็ไปฆ่าเทียนอี้เลย!” เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องสนใจว่าใครจะรับสาวงาม

“ข้าก็อยากไปฆ่าเทียนอี้ตอนนี้  แต่ก็ยังมาพล่ามเสียเวลาอยู่ที่นี่แทนที่จะตรงไปที่ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์โดยตรงแต่เจ้าเด็กที่ไหนไม่รู้พล่ามหวังจะให้เราผู้เฒ่าเข้ามาในนี้เพื่อไม่ต้องถูกรังแก”  มังกรปีศาจกลัวว่าเย่ว์หยางจะส่งมอบภารกิจอีกเขาหยุดพูดและหายไปทันทีโดยไม่พูดต่อ

“เดินตาหมากแรกเจ้าก็พบเห็นอยู่แล้วตอนนี้เราคุณชายเดินหมากตาที่สอง ใครบอกว่าข้าแพ้กันเล่า?”  เย่ว์หยางตบหมากดำกลับไปบนโต๊ะหินอีกครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด