ตอนที่แล้วตอนที่ 1249 นี่คือการต้อนรับของเรา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1251 เพื่ออิสรภาพ

ตอนที่ 1250 หมัดเดียวทำลายทุกอย่าง


เย่ว์หยางมองดูบัณฑิตวัยกลางคน

คนทรยศหอทงเทียนผู้นี้ไม่ตื่นเต้นยังคงวางหมากทดสอบโดยไม่สนใจความทุกข์ทรมานของบุตรชายตนเอง

“อำมหิตมากจริงๆ สมกับที่เป็นนักยุทธศาสตร์อันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จริงๆ  เพื่อวางแผนอย่างอื่นปล่อยให้ลูกตนเองกลายเป็นหมากที่ถูกทิ้ง” เย่ว์หยางสรรเสริญเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟาง เด็กน้อยในนิทานไม่สามารถเอาชนะหมาป่าได้ สำหรับเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางนั้น เย่ว์หยางไม่รู้ว่าเขามีบุตรมากกว่าร้อยคนคุณชายหลี่หมิงผู้นี้เป็นเพียงหนึ่งในร้อยคนถ้าเขาถูกตัดทิ้งออกไปก็ยังไม่นับว่าสูญเสียเท่าใด

ไม่ต้องพูดถึงคุณชายหลี่หมิงต่อให้ทิ้งลูกทั้งหมดก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

จะมีลูกใหม่อีกสักร้อยคนในอนาคตก็ยังได้

ในแดนสวรรค์เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางอาจเป็นอะไรไปก็ได้ แต่ไม่มีปัญหาเรื่องขาดบุตรแน่นอน!  ถ้าคุณชายหลี่หมิงดิ้นรนหนีออกไปได้ก็อาจพูดได้ว่าเป็นลูกชาย  แต่ถ้ากล่าวถึงตอนนี้ นั่นคือหมากที่ถูกทิ้ง!

คุณชายหลี่หมิงร้องโหยหวนแต่เจ้าอ้วนไห่กับพวกกลับฟังด้วยความพอใจ

พวกเขารู้สึกว่าเสียงร้องนั้นน่าเบื่อเล็กน้อย

ถ้าเพิ่มขุนพลเทพไท่หยางคอยร้องประสานเสียงเขาเชื่อว่าคงจะสมบูรณ์แบบ

หลังจากลงมือกับคุณชายหลี่หมิงจนพอใจแล้วเย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่หันมาทางขุนพลเทพไท่หยาง  คาดว่าเจ้าอ้วนไห่ยังคงค้นคว้าต่อว่าหอกทองน่าจะสร้างแรงเสียดสีได้ดีกว่า  ตอนนี้เสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัวนางนวลสายลมและเย่คง พี่น้องตระกูลหลี่ค่อยๆตีวงล้อมรอบขุนพลเทพไท่หยางที่ยังยืนอยู่อย่างสงบ

“เฮอะ!”  ขุนพลเทพไท่หยางแค่นเสียง “ถ้าเจ้าคิดว่าข้าจะพ่ายแพ้และถูกทรมานเหมือนเจ้าขยะนั่น  อย่างนั้นเจ้าคิดผิด!”

“มีความแตกต่างด้วยหรือ?”  เย่คงไม่รู้สึกว่ามีอะไรแตกต่าง

“พวกเจ้าได้รับพรจากนางพญาดอกหนามมงกุฎทองร่างกายเจ้ายังไม่ทันต่อสู้อย่างดุเดือดก็ฟื้นตัวได้เร็ว  แต่พวกเจ้ามีข้อบกพร่องอย่างร้ายแรง”  ขุนพลเทพไท่หยางพูดต่อ“เจ้าไม่ได้เสริมพลังโจมตี ตัวเจ้ามีแค่พลังป้องกันเท่านั้น!”

“พอเลย”เสวี่ยทันหลางเคลื่อนไหวได้เร็วที่สุดและบุกโจมตีขุนพลเทพไท่หยาง

“ตราบใดที่เจ้าเข้าใกล้ข้าไม่ได้พวกเจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับหนูที่คลานไปคลานมา!”  ขุนพลเทพไท่หยางโยนบอลแสงลงบนพื้น

เขามีความมั่นใจเพียงพอ

ต่อให้มีนางพญาดอกหนามมงกุฎทองและกลุ่มเด็กหนุ่มอยู่ข้างหน้าเขาเขาก็ไม่กลัว

ในฐานะขุนพลเทพพลังของเขาคือสิ่งที่นักสู้ปราณฟ้าไม่อาจคิดได้ อย่าว่าแต่เด็กหนุ่มข้างหน้าเขาพลังสูงสุดก็ไม่เกินปราณฟ้าระดับห้าทั้งยังเป็นนักสู้รุ่นเยาว์ ขุนพลเทพจะปล่อยให้ตัวเองถูกรังแกได้อย่างไร?  ต้องการโจมตีเขาเหมือนกับหลี่หมิงน่ะหรือ?  น่าขัน พวกเขาเข้าใจว่าพลังของขุนพลเทพคืออะไร?

พลังลำแสงถูกยิงลงพื้นทำให้เกิดการระเบิดใหญ่อีกครั้ง

เกิดแรงระเบิดใต้เท้าเสวี่ยทันหลางอีกครั้ง

เพียงแต่ตอนนี้ไม่เหมือนก่อน

ครั้งก่อนเสวี่ยทันหลางพยายามอย่างดีที่สุดพยายามช่วยชีวิตสหายร่วมกลุ่มของเขาทั้งหมดพ้นอันตรายและตนเองผู้แข็งแกร่งที่สุดตกลงไปในช่องมิติไร้ที่สิ้นสุดแทน  แต่ตอนนี้แตกต่างออกไป

เสวี่ยทันหลางไม่ได้ระเบิดพลังบินออกมา  เท้าของเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม

ขณะที่เกิดระเบิดใหญ่เขายังคงจับจ้องขุนพลเทพไท่หยางราวกับว่าเพิ่งพบศัตรูครั้งแรก

“บึ้ม!”

พลังงานงานของระเบิดบอลแสงนั้นมหาศาลทั้งกรวดและโคลนถูกแรงระเบิดกวาดลอยขึ้นเหมือนกับรูปดอกเห็ดไม่แพ้กับครั้งก่อนเพียงแต่ที่แตกต่างกันก็คือบนพื้นมีหญ้าสีเขียวปกคลุม ไม่ได้เกิดรอยฉีกขาดของมิติเพราะแรงระเบิดแต่อย่างใดอีกทั้งความแปรปรวนในพื้นที่ก็มีน้อยมากเหมือนเป็นเวทีขนาดยักษ์กลางอากาศ

รอจนเมฆรูปดอกเห็ดขนาดมหึมาแผ่ขยายลามออกไป  แรงระเบิดกวาดผ่านหญ้าเขียวบริสุทธิ์

สิ่งที่เหลือตกค้าง

พลังค่อยๆจางลงและสลายไปในที่สุด

หลุมยักษ์ที่อยู่ภายใต้เท้าของเสวี่ยทันหลางเริ่มกลับมีสีเขียวปกคลุมเร็วขนาดเห็นได้ด้วยตาเปล่าพื้นที่ซึ่งถูกระเบิดออกไปกลายเป็นมิติว่างเปล่ากลับกลายเป็นสีเขียว

“เจตจำนงของนางพญาดอกหนามมงกุฏทองแข็งแกร่งทรงพลังจริงๆ!” ขุนพลเทพไท่หยางมองดูพื้นที่เจตจำนงของตั่วตั่วอย่างเย็นชา  เสียงของเขาเริ่มดังขึ้น ในที่สุดก็ดังขึ้นเหมือนกับฟ้าผ่า  “ในเมื่อระเบิดพื้นใช้ไม่ได้อย่างนั้นมาดูกันว่าท้องฟ้าจะใช้ได้หรือไม่? เจ้าบีบบังคับให้ข้าลงมือ พวกเจ้าจะได้รู้ความพิโรธของขุนพลเทพ!  เจ้าเคยเจอลำแสงสุริยันต์ไหม?”

ขุนพลเทพไท่หยางชูมือเหนือหัวกลั่นสร้างบอลกลุ่มสว่างเหมือนดวงอาทิตย์

นี่ไม่ใช่พลังงาน

นี่ไม่ใช่ทักษะแฝงเร้นและสนามพลัง  แต่เป็นอสูรพิทักษ์ของเขา เป็นอสูรสายองค์ประกอบธาตุอสูรสุริยันต์ ภายใต้เจตจำนงเจ้านาย มันยิงลำแสง 36สายเหมือนกับหอกเทพเจ้าไปที่เสวี่ยทันหลางองค์ชายเทียนหลัวและพี่น้องตระกูลหลี่กับพวกที่กำลังมองดูจากพื้น

ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น แต่อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและตั่วตั่วผู้เงียบตลอดเวลาก็ไม่ยกเว้นลำแสงทั้งหมดพุ่งลงมาเหนือศีรษะของพวกเขา

เย่คงตอบสนองไวที่สุดเขากระโดดขึ้นไปในอากาศและกระแทกเข้าไปที่เนินเขาสีเขียวเตรียมอาศัยเนินเขานี้ป้องกันพลังแสงอสูรสุริยันต์ที่ทรงพลังนี้

คาดไม่ถึงว่าลำแสงสุริยันต์นี้สามารถเคลื่อนไหวในลักษณะบิดตัวได้

มันไม่ได้กำหนดทิศทางเป็นแนวตรงแต่อย่างใด

มันพุ่งเป็นแนวโค้ง

และภายใต้เจตจำนงของขุนพลเทพไท่หยางมันจับเป้ารูปร่างของเย่คงเพื่อไล่ติดตามได้

ซี่ๆๆๆๆ....เนินเขาสีเขียวที่สัมผัสลำแสงสุริยันต์ไหม้เกรียมและระเบิดออก  เย่คงพลอยมอดไหม้ไปด้วย วินาทีต่อมาเสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัว พี่น้องตระกูลหลี่เจ้าอ้วนไห่และอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและแม้แต่ตั่วตั่วทุกคนยืนนิ่งกับที่ถูกลำแสงสุริยันต์ทำลายแตกสลาย

โลกสีเขียวทิ้งร่องรอยไหม้เป็นลวดลายตัดกันที่ดูไม่ออก

“เฮอะ, นี่คือผลลัพธ์จากการยั่วโทสะขุนพลเทพอย่างข้า!” ขุนพลเทพไท่หยางสำรวจยืนยันหาจุดที่ตั่วตั่วอยู่มองดูเห็นเป็นหลุมแหว่งเว้าเพราะแรงระเบิดขนาดใหญ่ว่างเปล่าคาดว่าคงถูกระเบิดกลายเป็นผุยผงหญ้าสีเขียวไม่มีการฟื้นฟูอีกต่อไป แม้แต่พื้นที่สีเขียวในเวลานี้มีเปลวไฟลุกโหมภายใต้ลำแสงสุริยันต์เขามองดูโลกตกอยู่ในทะเลเพลิง สายตาของเขาคืนอารมณ์หยิ่งผยองเขาถ่มน้ำลายลงใต้เท่าอย่างเหยียดหยาม “เจ้าพูดอะไรกัน อัจฉริยะหายากในรอบหลายร้อยปีของหอทงเทียน  นางพญาดอกหนามมงกุฎทองที่กล่าวกันว่าไร้เทียนทาน  โจมตีทีเดียวก็ตายกันหมด  เจ้าพวกคนหอทงเทียนคุยโต งี่เง่าน่าเบื่อนัก!”

หลังจากพูดเหยียดหยามเขาเคารพบัณฑิตวัยกลางคนที่ยังคงจมอยู่ในภวังค์ “ท่านเจ้าตำหนักใหญ่  ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว  โปรดออกคำสั่ง!”

เขาไม่พูดอะไร

แต่สีหน้าของเขาแสดงถึงความเย่อหยิ่งทำนองว่า‘คิดจะเล่นงานเขา เป็นเรื่องยาก’

บัณฑิตวัยกลางคนยังคงไตร่ตรองกับการทดสอบหมากและไม่ตอบคำขอ  ขุนพลเทพไท่หยางรอดูอย่างสงบแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยคิดว่าเพราะเหตุใดเจ้าตำหนักใหญ่จึงต้องไตร่ตรองอยู่นาน  นี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องคิดนานขนาดนั้น?  คุณชายสามตระกูลเย่ว์หยางน่ากลัวขนาดนั้นจริงๆหรือ?

ขุนพลเทพไท่หยางมองดูเย่ว์หยางอีกครั้ง  เข้าต้องการเห็นสีหน้าที่ตกใจและเศร้าโศกของเด็กหนุ่มข้ามโลก  แต่น่าเสียดาย ที่เขาต้องผิดหวัง

หน้าของเย่ว์หยางไม่มีอาการตกใจ

ไม่มีอาการเศร้าโศก

เขารินน้ำชาโดยไม่ต้องคิดอะไรและดื่มด้วยท่าทีสบายๆสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นภาพอาการที่แตกต่างกับบัณฑิตวัยกลางคนที่กำลังเค้นสมองคิดหนัก เย่ว์หยางทำให้ขุนพลเทพไท่หยางไม่สบายใจอย่างหนักแม้ว่านางพญาดอกหนามมงกุฎทองซึ่งเป็นอสูรพิทักษ์จะไม่ตายจริงๆ  แต่ก็โดนโจมตีระเบิดพลังใส่อย่างรุนแรง อีกทั้งอาจารย์และสหายของเขาถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว  เขายังคงดื่มชาได้อยู่อีกหรือ? นี่เขาคิดอะไรอยู่กันแน่?

คุณชายสามตระกูลเย่ว์หรือเย่ว์ไตตันผู้ถือกันว่าเป็นปาฏิหาริย์แห่งหอทงเทียนนี้ เป็นคนโง่หรือเปล่า?

เย่ว์หยางดื่มชาโดยไม่สนใจเขา

มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

มีเสียงไพเราะน่าสนใจดังขึ้นที่ด้านหลังของขุนพลเทพไท่หยาง  “ข้าเองก็อยากให้เจ้าได้ภูมิใจเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย  แต่ข้ามิอาจทนดูตัวร้ายขี้โกงอย่างเจ้าได้  การฆ่าคนอย่างเจ้าทำให้มือข้าแปดเปื้อนเสียเปล่าๆ ข้าจะเปลี่ยนอสูรพิทักษ์ของเจ้าให้เป็นปุ๋ยของข้า!”

ขุนพลเทพไท่หยางตกใจเมื่อเห็นตั่วตั่วยืนอยู่ด้านหลังเขา

ไม่เพียงแต่ตั่วตั่วเท่านั้นอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า เสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัวเย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่ยังอยู่กันครบและในท้ายที่สุดมีนกนางนวลสายลมและเจ้าอ้วนไห่ที่อยู่ข้างๆ คุณชายหลี่หมิง

“อะไรกัน?” ขุนพลเทพไท่หยางสับสนเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วพวกเขาฟื้นคืนสภาพและกลับมาที่ด้านหลังเขาได้อย่างไร?

“วีดดดดด!”

เสียงกรีดร้องในท้องฟ้าดังด้วยความหวาดกลัวเหมือนกับหนูที่พบเจออสรพิษ

ขุนพลเทพไท่หยางเงยหน้ามองดู

เขาหรี่ตาลงอย่างรวดเร็ว

จนตาตี่เหมือนเข็ม

เขามองเห็นภาพที่น่ากลัวเหลือเชื่อ

มีต้นดอกหนามยักษ์ใหญ่เอื้อมมือออกไปในท้องฟ้าใหญ่และยึดจับอสูรสุริยันต์ที่สามารถปล่อยลำแสงครั้งละหลายสิบสายในแต่ละครั้งมันใช้มือจับยกขึ้นเหมือนหยิบชิ้นเค้กและกัดกินจนเว้าแหว่งพร้อมกับกลืนลงคอเหมือนกับขนมหวาน

ยักษ์ที่น่ากลัวนี้มองดูเหมือนสตรีดอกหนามปากขนาดใหญ่อ้าออกและกลืนอาหารลงคอ

มองดูราวกับเมืองมืด

ศีรษะของขุนพลเทพไท่หยางเหมือนกับถูกต่อยอย่างรุนแรงเลือดกำเดาไหลออกเป็นสาย และในสายตาของเขามองเห็นดาวทองเต็มไปหมด เขาพยายามประคับประคองร่างไม่ให้ล้มลง และใช้พลังงานข่มอาการบาดเจ็บทางวิญญาณ! แม้จะน่าเหลือเชื่อ แต่ตอนนี้เขามั่นใจว่าอสูรพิทักษ์สุริยันต์ของเขาถูกดอกหนามยักษ์กลืนกินลงไปแล้ว  การกลืนกินแบบนี้ไม่ใช่การย่อยสลายตายไปแต่เป็นการผนึกล่วงหน้าทำให้อีกฝ่ายสิ้นหวัง พลังส่วนใหญ่ถูกลิดรอน ร่างกายที่เหลือถูกผนึกไว้ในร่างของยักษ์ดอกหนามและเป็นส่วนหนึ่งของนางตลอดกาล

อสูรพิทักษ์ไม่ได้ตายแต่ถูกดอกหนามปีศาจยักษ์กลืนและอยู่ในสภาพถูกผนึกไว้

นี่

คือผลลัพธ์ที่น่ากลัวที่สุด!

ขุนพลเทพไท่หยางผู้สูญเสียอสูรพิทักษ์ต้องการเห็นตั่วตั่วเขาไม่เข้าใจนางพญาดอกหนามมงกุฏทอง ทำไมนางถึงมีพลังผนึกของเทพ และนั่นไม่ใช่แค่พลังผนึกด้วยตนเอง แต่เป็นพลังผนึกจากปีศาจดอกหนามยักษ์ตามเจตจำนงของนาง  นี่หมายความว่ากระไร? หรือว่าสาวน้อยนางพญาดอกหนามมงกุฏทองนี้จะเป็นเทพจริงๆ?

“ในนามของข้า ข้าขอมอบพลังหนามโบราณแก่พวกเจ้า!” ตั่วตั่วไม่มีเวลาพูดเรื่องไร้สาระกับขุนพลเทพไท่หยาง  นางซัดจุดแสงแหลมคมไปตกต้องที่ร่างของเย่คงเจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลางทันที

จากนั้นกลายเป็นแสงเทพหายไปในท้องฟ้ากว้างใหญ่โดยตรงทันที

ตั่วตั่วจากไป

เจ้าอ้วนไห่แสยะยิ้มปรากฏร่างขึ้นมาอีกครั้ง เขาวิ่งรี่เข้าหาขุนพลเทพไท่หยางแล้วพูดอย่างเป็นกันเอง  “ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า  เจ้าสูญเสียอสูรพิทักษ์และเจ้าไม่สามารถบังคับมันได้ต่อไป  อะไร?ทำตาแบบนั้นโกรธใช่ไหม?  อยากทุบตีข้าหรือ?มาตรงนี้เลย ไม่ต้องลังเลใจ เจ้าอยากเล่นงานเราคุณชายตรงไหน?  จะตบหน้าหรือเปล่า? ก็ได้  สู้ให้เต็มที่ไม่ต้องเกรงใจข้า!”

“ไสหัวไปตายซะ!”  หัวของขุนพลเทพไท่หยางยังคงมึนงง เขาเห็นว่าเจ้าอ้วนงี่เง่าเอะอะยั่วยุเหมือนอีกาก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปปล่อยหมัดกระแทกใบหน้าที่กำลังยิ้มของเจ้าอ้วนไห่ทันที

วินาทีต่อมา

ขุนพลเทพไท่หยางรู้สึกว่ามีพลังหมัดแทรกซึมผ่านจมูกของเขาเองอัดเข้ากับกระดูกใบหน้าทะลวงเข้าสมอง

ขุนพลเทพไท่หลางมึนงงแทบสลบและพบว่าเจ้าอ้วนไห่งี่เง่าน่าตายที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาเป็นเพียงภาพลวงตารอยยิ้มที่เห็นนั้นไม่เพียงแต่ไม่เป็นอันตรายเท่านั้น  แต่ยังคงโดดขึ้นๆ ลงๆ แสดงอาการยั่วยุเหมือนหมีใหญ่คำรามด้วยความภูมิใจ “ทุบตีข้าต่อไปได้เลย ถ้าเป็นไปได้จงใช้ความพยายามมากกว่านี้ เอ้า..ไปต่อยตรงไหนกัน?  หากเจ้าไม่คิดจะตบหน้าข้าก็สามารถอัดกำปั้นที่หน้าอกข้าโดยตรงทำลายอวัยวะภายในได้  ไม่ แค่นี้ยังแรงไม่พอ  ทำไมไม่ทุบตีข้าเล่าน้องชาย?    ลงมือให้หนัก ทำให้ดีๆ ข้าอยากโดนทุบตี!”

“ไปตายซะ!”  ขุนพลเทพไท่หยางรู้สึกว่าเสียงนี้น่ารำคาญยิ่งกว่าแมลงวันที่กรีดร้องหน้าเขาทำให้ใจของเขาสับสน ในท่ามกลางผู้คนหลายคน สายฟ้าบ้าง หมัดบ้างกระแทกใส่เขา

เจ้าอ้วนน่าตายปากดีนัก

เขาใช้หนึ่งหมัดต่อยกลางเป้า

จากนั้นขุนพลเทพไท่หยางที่มาดดูดีหันหน้าเผชิญหน้ากับเจ้าอ้วนไห่ตัวของเขารู้สึกเจ็บปวดเมื่อพบว่าที่เป้ากางเกงอวัยวะบางส่วนดูเหมือนแตกเสียหาย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด