ตอนที่แล้วNH-ตอนที่ 27 อุปกรณ์ที่ได้รับจากเวร่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปNH-ตอนที่ 29 พี่สาวของโคเล็ตต์

ฺฺNH-ตอนที่ 28 เรื่องราวของเอลิเซียม


หลังจากชื่นชมชุดเกราะใหม่ของ เดียโบล มาระยะหนึ่ง ในที่สุด ลุกซ์ ก็รวบรวมชุดเกราะให้กับตัวเอง มันถูกเรียกว่าชุดเกราะ ‘นักรบผู้ไม่ย่อท้อ’

<นักรบผู้ไม่ย่อท้อ>

ข้อกำหนด : แต้มค่าสถานะทั้งหมดจะต้องเกิน 15 หน่วย

- รัดเกล้าของนักรบผู้ไม่ย่อท้อ

+1 ค่าสติปัญญา

- เกราะหนังของนักรบผู้ไม่ย่อท้อ

+15 พลังป้องกัน

- กางเกงหนังของนักรบผู้ไม่ย่อท้อ

+10 พลังป้องกัน

- เกราะแขนของนักรบผู้ไม่ย่อท้อ

+10 พลังป้องกัน

- รองเท้าของนักรบผู้ไม่ย่อท้อ

+10 พลังป้องกัน

<โบนัสเซ็ตนักรบผู้ไม่ย่อท้อ>

- อุปกรณ์ 2 ชิ้น

+3 ความแข็งแกร่ง

- อุปกรณ์ 3 ชิ้น

+3 ความเร็ว

- อุปกรณ์ 4 ชิ้น

+3 ความคล่องแคล่ว

- อุปกรณ์ 5 ชิ้น

+150 พลังชีวิต

+40 พลังป้องกัน

+10 ต้านทานความเสียหายธาตุทั้งหมด

- ลดความเสียหาย 10% จากการโจมตีทางกายภาพ

_____

ลุกซ์ ยังไม่ผ่านข้อกำหนดสำหรับชุดเกราะนี้ แต่ด้วยความช่วยเหลือจาก คอร์มอนสเตอร์ 7 อัน ที่เขามี เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถติดตั้งอุปกรณ์ชุดนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร

สำหรับเซ็ตอุปกรณ์นั้นไม่ใช่ เรื่องง่ายที่จะได้รับ พวกมันสามารถมองหาได้ในดันเจี้ยนบางแห่งในเอลิเซียม ซึ่งจะต้องมีปาร์ตี้อย่างน้อย 6 คนขึ้นไปถึงจะเคลียร์ได้

“ขอบคุณครับคุณย่า” ลุกซ์ เก็บชุดเกราะนักรบผู้ไม่ย่อท้อเข้าไปในแหวนเก็บของ ของเขา

“ด้วยความยินดี” เวร่า พูดขณะที่เธอริบสิ่งของอื่น ๆ ลงในแหวนเก็บของ

ในบรรดาสิ่งของหลายรายการที่เธอครอบครอง มีข้อกำหนดที่สูงมาก และ เหตุผลเดียวที่เธอแสดงให้ลุกซ์ ดูก็เพื่อบอกหลานชายของเธอว่ายังมีไอเทมจำนวนมากที่เขาสามารถใช้ได้เมื่อมีความพร้อม

ลุกซ์เข้าใจเจตนาของคุณย่าของเขา มันทำให้เขามีความสุขมากในใจ แม้ว่าสิ่งของบางรายการเขาจะต้องไปถึงแรงค์มือใหม่ก่อนถึงจะสวมใส่ได้ แต่การรู้ว่ามีสิ่งของเหล่านี้อยู่ ก็ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับเขา

“คุณย่า คุณย่าเองก็เคยเข้าไปในเอลิเซียมตอนที่ยังเด็กใช่หรือไม่?”

“อืม”

“งั้นคุณย่าช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหมว่าหมู่บ้านเริ่มต้นของคุณย่าเป็นอย่างไร” ลุกซ์กล่าวถาม “และที่นั่นมีการระบาดของมอนสเตอร์ไหม”

เวร่ายิ้มขณะที่เธอทำท่าทางให้ลุกซ์เดินตามเธอไป

15 นาทีต่อมา ย่าและหลานชายคู่หนึ่งก็ดื่มชาขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่สวนในบ้านของพวกเขา

“ก่อนที่ย่าจะเล่าเรื่องสมัยเด็กให้หลานฟัง ให้ย่าได้บอกถึงต้นกำเนิดของเอลิเซียมก่อนมาสิ่งนี้ปรากฏขึ้นได้อย่างไร” เวร่า กล่าวขณะที่เธอจ้องมองไปในระยะไกล และ ระลึกถึงความทรงจำในอดีตที่ปรากฏขึ้นในหัวของเธอ “หลังจากสงครามนับร้อยปีของโซไรอัสสิ้นสุดลงในตอนนั้น ภูมิศาสตร์ของโลกทั้งใบก็เปลี่ยนไปตลอดกาล”

“พื้นที่อยู่อาศัยของผู้คนได้ลดลงอย่างมาก หากหลานออกไปจากดินแดนตรงนี้ สิ่งเดียวที่หลานจะเห็นก็คือดินแดนรกร้างที่กว้างใหญ่ เพราะผืนดินส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนไป จนไม่สามารถปลูกพืช มองหาแหล่งน้ำ และ สัตว์ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ เนื่องจากควันพิษที่ปะทุขึ้นจากพื้นดินเป็นครั้งคราว”

“เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและผืนดินไปมากกว่านี้ ผู้ปกครองของประเทศทั้งหมดจึงได้ตกลงกัน พวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่ก่อสงครามขึ้นบนพื้นผิวของโซไรอัสอีกต่อไป เพื่อให้สนธิสัญญานี้มีผลบังคับใช้ พวกเขาได้อ้อนวอนต่อเทพเจ้าที่ได้ละทิ้งโลกไปนี้ไปเพื่อให้ความปราถนาสุดท้ายของพวกเขานั้นเป็นจริง”

“อาจเป็นเพราะความสงสาร หรือเพราะพวกเขาต้องการตัดขาดกับโลกนี้ เหล่าเทพเจ้าจึงเลือกที่จะตกลง นับตั้งแต่นั้นมา กฏระเบียบก็ได้ปกคลุมโลกนี้เอาไว้ และ ป้องกันไม่ให้มีสงครามขนาดใหญ่เกิดขึ้นอีก”

“ตอนนี้ ประเด็นความขัดแย้งเพียงอย่างเดียวก็คือปัญหาเรื่องพรมแดน แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นการปะทะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะไม่มีใครกล้าที่จะละเมิดกฏ เพราะพวกเขาไม่สามารถรับผลกระทบที่ตามมาจากการกระทำของตนเองได้”

เวร่า ได้ดื่มชาก่อนที่จะเล่าต่อ

“หลายปีผ่านไป ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แต่แล้วจู่ ๆ เสียงดังก้องกังวานก็ดังไปทั่วสรวงสวรรค์” เวร่า กล่าวพูดขณะที่เธอมองดูเงาสะท้อนของเธอบนผิวของน้ำชา “ในขณะที่โลกกำลังล่มสลาย เอลิเซียม ก็ปรากฏขึ้น และ วิธีที่จะช่วยโลกได้นั้นก็ถูกค้นพบในเอลิเซียม”

“จากนั้น ประตูเทเลพอร์ตหลายแห่งก็ปรากฏขึ้นทั่วโลก ซึ่งมันอนุญาติให้ทุกคนเข้าถึงเอลิเซียมได้ และ ฐานที่มั่นวิลการ์ดก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อผูกขาด 1 ในเส้นทางเหล่านั้น”

“เพราะเหตุนี้ พวกเขาจึงกลายเป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้ บรรดาหมู่บ้านและเมืองรอบ ๆ ได้ส่งลูกหลานของพวกเขามาที่นี่ด้วยความหวังที่ว่าพวกเขาจะได้รับอนุญาติให้เข้าสู่โลกที่พวกเขาไม่รู้จักและมีความเป็นไปได้อย่างไม่มีสิ้นสุด”

ลุกซ์ ที่ฟังอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วแน่น เขาเติบโตมาในพื้นที่ฐานที่มั่นวิลการ์ด และ ได้เห็นเด็ก ๆ เหล่านี้เดินทางมาที่ฐานที่มั่น ก่อนที่จะจ่ายส่วยและเข้าถึงประตูเทเลพอร์ตเพื่อเข้าไปยังเอลิเซียม

“คุณย่า ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย จะบอกว่าผมโชคดีหรือเปล่านะ” ลุกซ์ กล่าวถาม “เพราะทั้งหมดที่ผมต้องทำก็คือผ่านบททดสอบเพื่อเข้าสู่เอลิเซียม ในขณะที่คนอื่น ๆ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อนที่พวกเขาจะสามารถใช้งานประตูเทเลพอร์ตเหล่านั้นได้ บางทีผมอาจจะไม่ได้สังเกตุเห็นว่าผมได้รับสิทธิพิเศษมากเพียงใดตลอดหลายปีมานี้”

เวร่าหัวเราะเบา ๆ และตอบกลับ “เข้าใจก็ดีแล้ว อาจเป็นเพราะว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับหลานที่จะออกไปด้านนอกกำแพงของฐานที่มั่น ดังนั้นหลานจึงไม่รู้จักสถานการณ์ภายนอกก็ไม่แปลก แต่หลานถือว่าได้รับสิทธิพิเศษนี้อย่างแท้จริง เพราะงั้นหลานไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับการจ่ายค่าธรรมเนียม หรือการเข้าประชุมอย่างเข้มงวด ส่วนข้อกำหนดในการเข้าสู่เอลิเซียมของหมู่บ้านและเมืองอื่น ๆ ในพื้นที่ของเรา พวกเขาจะจ่ายภาษีให้เราเป็นรายไตรมาสเช่นเดียวกัน”

“แต่เพื่อเป็นการตอบแทนสำหรับข้อเสนอเหล่านี้ ฐานที่มั่นมีหน้าที่ปกป้องพวกเขาจากการรุกรานทุกรูปแบบ นี่รวมไปถึงการระบาดของมอนสเตอร์ที่จะเกิดขึ้นทถก ๆ 3-5 ปี บทบาทของเราก็คล้ายกับฐานที่มั่นนอร์เนีย ที่คอยปกป้องหมู่บ้านลีฟ”

ลุกซ์ พยักหน้าอย่างเข้าใจ “ถ้าอย่างนั้นพวกเด็ก ๆ ในหมู่บ้านอื่น ๆ หลังจากเข้าไปในเอลิเซียม พวกเขาจะเป็นอย่างไร?”

“พวกเขาจะสุ่มปรากฏตัวขึ้นจาก 1 ใน 4 หมู่บ้านของพวกเราภายใต้จักรวรรดินาวาร์” เวร่าตอบ “เมื่อพวกเรามาถึงเอลิเซียมครั้งแรก ก็มีตระกูลผู้ปกครองดินแดนที่พวกเราถูกส่งตัวไปอยู่แล้ว”

“ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจสร้างฐานที่มั่นของตัวเองขึ้นมา และ เพื่อให้ได้รับการจัดตั้งฐานที่มั่นในโลกนั้น คนอื่น ๆ จึงตัดสินใจที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับตระกูลผู้ปกครองและได้รับความดีความชอบพอที่จะได้รับตำแหน่งอันสูงส่งซึ่งสามารถทำให้พวกเขาได้รับที่ดินได้”

“ผู้ก่อตั้งฐานที่มั่นวิลด์การ์ด ได้เลือกตัวเลือกที่สองและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้รับความดีความชอบมากพอจนได้รับตำแหน่งไวส์เคานต์ นี่คือวิธีการที่ฝ่ายของเราสามารถมีอาณาเขตของตัวเองในเอลิเซียม และ เติบโตขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนกับหมู่บ้านลีฟ ฝ่ายของเราไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับการระบาดของมอนสเตอร์”

ลุกซ์ พยักหน้าอย่างเข้าใจ “คุณย่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเด็ก ๆ จากอาณาเขตเรากลายเป็นแรงค์เกอร์ ฐานที่มั่นจะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร?”

“เป็นคำถามที่ดี” เวร่า พยักหน้าด้วยความชื่นชมในความอยากรู้อยากเห็นของหลานชายของเธอ “อย่างที่ทราบกันดีว่าตัวตนของแรงค์เกอร์นั้นเป็นกรณีที่พิเศษ พวกเขาเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้มีอำนาจ ดังนั้นพวกเขาจะได้รับการปฏิบัติในแบบที่สมควรได้รับในเรื่องของสถานะและตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม การเป็นแรงค์เกอร์ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้นแต่อย่างใด”

“พวกเขาจะต้องออกไปปฏิบัติภารกิจ เพื่ออาณาจักร จักรวรรดิ หรือ ราชวงศ์ที่พวกเขาสังกัดอยู่เสมอ ลุกซ์ ย่ารู้ว่าหลานน่าจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ เอลิเซียม ไม่ใช่สถานที่ที่สงบสุข แม้ว่าสงครามจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีกต่อไปในโซไรอัส แต่ในเอลิเซียม มันถือเป็นเรื่องปกติเป็นอย่างมาก ที่จะมีการต่อสู้กันระหว่าง ปาร์ตี้ แก๊งค์,เผ่า,กลุ่ม และ กิลด์ เกิดขึ้นทุกวัน”

“มันเหมือนกับว่าผู้คนลืมเหตุผลที่ที่แท้จริงของพวกเขาในการเข้าไปยังเอลิเซียม เพื่อหาทางกอบกู้โลกของพวกเรา ดังนั้นย่าเชื่อว่าหากสถานการณ์นี้ดำเนินต่อไป ทุกคนในโซไรอัส คงเลือกที่จะอพยพไปในเอลิเซียมกันหมดและละทิ้งโลกที่พินาศนี้ไปตลอดกาล”

เวร่าหัวเราะเบา ๆ ขณะที่มองดูหลานชายของเธอแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา

“ลุกซ์ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่หลานจะต้องกังวลในตอนนี้” เวร่ากล่าวพูดขึ้นในทันที “มันเป็นเรื่องที่พวกผู้ใหญ่ต่างหากที่ต้องเป็นกังวล เพราะหน้าที่ของหลานในตอนนี้ก็คือการพัฒนาความแข็งแกร่งให้เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้มอนสเตอร์ระดับ 1 ก็เพียงพอที่จะฆ่าหลานให้ตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เพราะงั้นหลานจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะไปคิดถึงผลกระทบของภาพลักษณ์โดยรวม”

ลุกซ์มองไปที่ย่าของเขาด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน เขารู้ดีว่า เวร่า จะต้องหัวเราะเยาะเขาแน่ ถ้าเขาบอกจุดประสงค์ที่เขาเข้ามาในโลกนี้ก็เพื่อช่วยกอบกู้โลก

อย่างไรก็ตาม ย่าของเขาก็พูดถูก

เขาในตอนนี้ที่ไม่สามารถเอาชนะมอนสเตอร์ระดับ 1 ได้ ไม่มีคุณสมบัติที่จะสร้างผลกระทบต่อโลกที่ใกล้จะล่มสลายนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด