บทที่70
“เขา เขาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” นามิพึมพำกับตัวเอง ดวงตาเธอจ้องไปทางรีเวิร์สเม้าท์เทน
“วางใจได้ กัปตันรอน เขาจะไม่เป็นไรหรอก” มากิโนะบีบมือตัวเอง นิ้วของเธอขาวเล็กน้อยจากแรงบีบ เธอกัดริมฝีปากแล้วกล่าว “เขาแข็งแกร่งมาก จะมีอะไรผิดพลาดได้ยังไง”
“อืม” คายะที่ยืนอยู่ข้างเรือในชุดขาว ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความไว้วางใจในตัวรอน แม้ว่าจะมีความกังวล แต่เธอก็พูดอย่างหนักแน่น “คุณรอนจะต้องไม่เป็นอะไร เราต้องเชื่อในตัวเขานะคะ”
“แต่ แต่…” โนจิโกะลังเลแล้วพูด “คนที่เขาสู้ด้วยคือหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัดใช่ไหม?”
“โนจิโกะ!” นามิหันหน้าไปทางพี่สาวของเธอ “รอนจะต้องไม่เป็นอะไร!”
“อืม” เมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของนามิ โนจิโกะเลยผงกศีรษะและหยุดพูดอะไรต่อไป
ทาชิงิที่อยู่ข้าง ๆ กัดริมฝีปากของเธอและมองไปที่รีเวิร์สเม้าท์เทนด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ
อาปิสกอดมังกรน้อยและมองดูภูเขาอย่างเงียบ ๆเช่นกัน แต่ไหลของเธอกระตุกเล็กน้อย เป็นการบ่งบอกว่าเธอกำลังร้องไห้
ตุบ! เมื่อสาว ๆหลายคนกำลังกังวลเกี่ยวกับกัปตันของพวกเธอ ร่างหนึ่งก็ตกลงมาจากยอดเขาลงมาอยู่ต่อหน้าต่อตาทุกคน
“เอ๊ะ!” เมื่อคายะเห็นเขา เธอก็ร้องออกมาด้วยความตกใจทันทีและน้ำตาก็ไหลเป็นสาย “คุณรอน ทุกคนดูสิ คุณรอนกลับมาแล้ว!”
“เขาไม่เป็นไร!” มากิโนะถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกแล้วเช็ดน้ำตาที่หางตา “ดีแล้ว”
“เขาไม่เป็นไร ไม่เป็นอะไรจริง ๆ มันยอดเยี่ยมเลย” นามิและโนจิโกะหัวเราะร่า
“ว้าว!” ในเวลานี้ อาปิสก็ร้องออกมาเสียงดัง
“ฮะ? เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ?” รอนมาถึงแมรี่และกระโดดลงไปบนดาดฟ้าเรือ เห็นสาว ๆแต่ละคนเปียกปอน เขาเกาหัวแล้วถามพวกเธอ “พวกเธอร้องไห้ทำไม”
“คุณรอน คุณสบายดีนะคะ” คายะโผเข้ากอดรอนแน่น ศีรษะเล็ก ๆของเธอฝังอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“โอ๋ ๆ ไม่ต้องร้องนะ ทุกอย่างโอเคดี!” รอนคิดอยู่ครู่หนึ่งและรู้ได้ทันทีว่าทำไมพวกเธอถึงกังวล พวกเขาต้องเห็นมิฮอร์คลงมาจากด้านบนอย่างปลอดภัยแต่เขาไม่ปรากฎตัว พวกเธอเลยคิดว่าเขาถูกมิฮอร์คฆ่า
รอนกอดคายะและนำเธอไปไว้ด้านข้างตัวเอง อาปิสที่กำลังร้องไห้เขาก็เดินเข้าไปอุ้มอาปิสไว้ในอ้อแขนด้วยมือข้างที่ว่าง “สาวน้อย เธออย่าร้องไห้ ไม่ใช่ว่าฉันกลับมาแล้วเหรอ?”
“อื้อ คุณรอน คุณกลับมาได้ยังไง ฉันคิดว่าคุณคง...” อาปิสหยุดร้องไห้แต่ยังคงสะอื้นเล็กน้อย
“คิดว่าฉันตายแล้วเหรอ?” รอนถามด้วยรอยยิ้ม
“อืม”
“อืม”
ไม่ใช่แค่อาปิสเท่านั้นแต่สาว ๆคนอื่น ๆก็พยักหน้าเช่นกัน
“เป็นไปได้ไง” รอนอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าแล้วกล่าวขึ้น “กัปตันของพวกเธอเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แล้วฉันจะถูกฆ่าได้ยังไง เชื่อฉันสิ ฉันจะไม่มีวันแพ้และจะไม่มีวันถูกฆ่า!”
“อื้ม” อาปิสและคายะพยักหน้า “คุณรอนเก่งที่สุด!”
นามิและมิกิโนะรวมถึงสาว ๆคนอื่น ๆเบ้หน้า แต่ก็อดที่จะหัวเราะมาไม่ได้
ผู้ชายคนนี้เป็นห่วงคนอื่นและมั่นใจในตัวเองจริง ๆ
“นั่น...” ทาชิงิมองรอนด้วยสีหน้าซับซ้อน และแทนที่เธอจะพูดในสิ่งที่ต้องการ กลับถามคำถามอื่น “นายชนะตาเหยี่ยวได้ไหม?”
“แน่นอนว่าฉันชนะอยู่แล้วสิ... เฮ้ อย่าลืมเดิมพันของเรานะ” รอนยักคิ้วให้ทาชิงิ จากนั้นก็อุ้มเด็กสาวทั้งสองคนไว้บนแขนทั้งสองข้างและพาสาว ๆคนอื่นเข้าไปในห้องโถงเรือ
“หมอนี่ ตอนนี้ยังมีอารมณ์มาพูดเรื่องนี้อีก” ทาชิงิกัดฟันของเธอแน่น
ห้องโถงเรือ รอนได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้กับทุกคนฟัง ซึ่งมันทำให้สาว ๆอุทานออกมา
“หมายความว่า... ตอนนี้นายเป็นนักดาบอันดับหนึ่งของโลกจริง ๆเหรอ?” ทาชิงิมองรอนด้วยสายตาตกตะลึง ชายหนุ่มตรงหน้าเธอ อายุไล่เลี่ยกัน อายุเพียงสิบเก้าปีได้กลายเป็นนักดาบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
“แล้ว... นายก็กำลังจะบอกว่านายได้เรียนรู้ฮาคิเกราะกับฮาคิสังเกตอะไรนั่นด้วยการมองเพียงครั้งเดียวด้วยเหรอ?” ทาชิงิถามออกมาอีกครั้ง
“ใช่” รอนยักไหล่เบา ๆ “มันค่อนข้างใช้ง่าย ฉันเรียนรู้มันหลังจากมิฮอร์คใช้เพียงครั้งเดียว”
“มันง่ายที่จะเรียนรู้...” ทาชิงิทนไม่ไหว วิ่งกลับไปแล้วนั่งที่มุมห้องแล้วนั่งซึมก้มหน้าก้มตา ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
“เกิดอะไรขึ้นกับพี่ทาชิงิน่ะ?” อาปิสอยู่ในอ้อมแขนของรอน เธอมองไปที่ทาชิงิที่นั่งซึมอยู่ที่มุมห้องอย่างไม่เข้าใจ
“เธออาจจะต้องใช้เวลาสงบสติอารมณ์สักพักน่ะนะ” รอนครุ่นคิด นามิ โนจิโกะ คายะและอาปิสไม่รู้ว่าฮาคิทั้งสองประเภทคืออะไร แต่ทาชิงิในฐานะทหารเรือต้องรู้เรื่องนี้แน่ ดังนั้นเธอเลยเหมือนถูกรอนโจมตีอย่างหนักหน่วง
“ฮาคิเกราะและฮาคิสังเกต ดูเหมือนว่า...” มากิโนะพึมพำ เธอเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่รู้จักฮาคิเหมือนทาชิงิ เพราะว่าเธอมาจากหมู่บ้านฟูซาและรู้จักผมแดง แน่นอนว่าเธอควรจะรู้จักฮาคิมาบ้าง ดังนั้นมากิโนะเลยต้องปาดเหงื่อเพราะรอนเรียนรู้มันได้ภายในการดูครั้งเดียว
หลังจากนั้นไม่นาน นามิก็ถามขึ้น “รอน เราจะไปกันต่อเลยไหม?”
“แน่นอน แม้จะช้าไปบ้างแต่เราก็ยังต้องเข้าไปที่แกรนด์ไลน์” รอนลุกขึ้นและพาคายะกับอาปิสไปที่ดาดฟ้าเรือ ณ ที่แห่งนั้น พายุฝนได้พัดผ่านไปแล้ว
แมรี่ได้ออกเรืออีกครั้งและมุ่งหน้าไปยังรีเวิร์สเม้าท์เทน แมรี่วิ่งไปตามกระแสน้ำที่ไหลกลับหัว พวกเขากำลังมุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
“ว้าว! เยี่ยมสุด ๆไปเลย!” ภายใต้การปกป้องของรอน คายะเห็นภาพที่น่าเหลือเชื่อนี้่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
“บรรยากาศสวยมาก!” นามิทัดผมและตะลึงงันกับฉากวิวที่เกิดขึ้นนี้
“ว้าว! ฮ่าฮ่า สนุกจังเล๊ย!” อาปิสกอดมังกรน้อยในมือแล้วหัวเราะร่า
“ฉากแบบนี้คงมีให้เห็นแค่ในรีเวิร์สเม้าท์เทนสินะ” มากิโนะเองก็ยังยิ้ม เธอไม่เคยมาที่นี่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นสถานที่แปลกประหลาดเช่นนี้ แถมน้ำทะเลยังไหลย้อนกลับได้ด้วย
แมรี่แล่นไปตามกระแสคลื่น แต่ในเวลานี้รอนไม่ได้เห็นวาฬลาบูน แม้จะน่าเสียดายแต่ก็ช่วยไม่ได้
รอนช่วยสาว ๆบังคับหางเสือเรือให้แล่นออกไปให้ได้ ในขณะนั้นเองเขาก็เหลือบไปมองประภาคารใต้รีเวิร์สเม้าท์เทน เขาเห็นชายแก่ยืนมองพวกเขาโดยเอามือไพล่หลังแล้วมองดูเรือพวกเขาจากไป
“ในที่สุดเราก็มาถึงแกรนด์ไลน์!!” นามิโห่ร้องและหัวเราะร่าเสียงดัง “นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา”
“ผจญภัย ผจญภัย!” อาปิสกระโดดโลดเต้นอย่างสมวัย
“กิ๊ว!” มังกรน้อยก็ร้องออกมาด้วยเช่นกัน
“ฮะฮะ!” คายะเห็นท่าทางเข้ากันดีของอาปิสและมังกรน้อยก็ปิดปากหัวเราะอย่างน่ารัก
“ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของนามิแล้วล่ะ” รอนวางคายะลงและเหยียดตัวบิดขี้เกียจ จากนั้นก็เดินไปนอนลงที่เก้าอี้นอน ทำตัวขี้เกียจอีกครั้งหนึ่งอย่างมีความสุข
เขาไม่ได้อยากขี้เกียจ แต่เขาแค่ไม่มีอะไรทำเท่านั้นเอง
“ระบบ การตื่นของฮาคิคืออะไร?” รอนถาม
“โฮสต์ การตื่นของฮาคิก็คล้ายการตื่นของผลปีศาจ มันเป็นความสามารถที่จะตื่นขึ้นเมื่อความสามารถถูกใช้จนถึงขีดสุด” (อาจจะหมายถึงริวโอหรือเปล่า?)
“เหรอ? แสดงว่าตอนนี้ยังเปิดใช้งานมันไม่ได้ใช่ไหม?” รอนสงสัย “หรือว่าฉันต้องฝึกมันอย่างหนัก?”
“โฮสต์เพียงแค่เปิดใช้มันเท่านั้น” ระบบกล่าว
“ฮ่าฮ่า ฉันชอบความเรียบง่ายของนายจัง” ระบบของเขาเป็นระบบที่ไม่มีความซับซ้อน ไม่มีข้อจำกัดต่าง ๆมากนัก มันเหมือนกับนิสัยของรอนมากและไม่เหมือนกับระบบอื่น ๆที่ต้องทำหลาย ๆอย่างเพื่อให้ได้พลังมา
“อย่างนั้นก็เปิดใช้งานเลยแล้วกัน” รอนกล่าว
“โฮสต์ได้เปิดใช้งานฮาคิระดับสูงทั้งสองประเภทแล้ว โปรดเปิดแผงข้อมูลเพื่อดูด้วยตัวเอง” ระบบตอบกลับมา
“เอาล่ะ เปิดแผงสถานะ!” รอนหยุดพูดแล้วมองดูหน้าต่างสถานะที่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า