บทที่ 933 (54) ขั้นที่สามพิเศษ(ตอนฟรี)
บทที่ 933 (54) ขั้นที่สามพิเศษ
“ฟุ่บ! วืดด~~”
ลูกบอลแฮนด์ดี้แคปลอยอยู่ในอากาศ ถ้าพูดให้ถูก มันกำลังลอยอยู่เหนือฝ่ามือของจี้เฟิง
จี้เฟิงเหยียดมือขวาออกไปข้างหน้าโดยหงายฝ่ามือออก และลูกบอลแฮนด์ดี้แคปก็ลอยอยู่เหนือฝ่ามือของเขาหลายสิบเซนติเมตร ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยบนฝ่ามือของจี้เฟิง ลูกบอลแฮนด์ดี้แคป ก็กระเด้งขึ้นลงและหมุนอย่างรวดเร็วไปพร้อมๆกัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลูกบอลแฮนด์ดี้แคปเป็นสีโลหะและมันหมุนเร็วมาก ดังนั้นเมื่อคุณมองดู คุณจะไม่เห็นว่าลูกบอลกำลังหมุน แต่ดูเหมือนลูกบอลโลหะที่ถูกแช่แข็งมากกว่า!
เมื่อมองไปยังลูกบอลแฮนด์ดี้แคปที่หมุนอย่างรวดเร็ว จี้เฟิงรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เขายกมือซ้ายขึ้นมาและขยับนิ้วเล็กน้อย
“ฟุ่บ—!”
ทันใดนั้นลูกบอลแฮนด์ดี้แคปอีกลูกก็กระดอนขึ้นจากพื้นแล้วตกลงบนมือขวาของจี้เฟิงโดยไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ จากนั้นมันก็ลอยขึ้นและหมุนคู่กับลูกบอลแฮนด์ดี้แคปก่อนหน้านี้ราวกับไข่มุกสองเม็ดที่สวยงาม
ทันทีหลังจากนั้น นิ้วมือข้างซ้ายของจี้เฟิงยังคงเคลื่อนไหว และลูกบอลแฮนด์ดี้แคปลูกอื่นๆก็กระดอนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทั้งหมดก็ลอยอยู่เหนือมือขวาของเขาและมันก็หมุนอย่างรวดเร็ว
“หวู่ม~~!” ลูกบอลแฮนด์ดี้แคปมากกว่าสิบลูกเด้งขึ้นมา สีหน้าของจี้เฟิงจริงจังมากขึ้น เขาจัดการกับลูกบอลแฮนด์ดี้แคปเหล่านี้ให้มันหมุนอย่างรวดเร็วกลางอากาศ และยังบังคับให้มันไขว้กันไปมา ความเร็วนั้นเร็วมาก หากมีคนมาเห็น คงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างมาก
“ตึ้ง—!”
จี้เฟิงกระทืบเท้าของเขาลงบนพื้น ทันใดนั้นก็มีเสียงกระทบกันและทันทีหลังจากนั้นลูกบอลแฮนด์ดี้แคปทั้งหมดก็ลอยขึ้น และมืออีกข้างของจี้เฟิงก็เหยียดออก ตอนนี้มือทั้งสองข้างของจี้เฟิงกำลังควบคุมลูกบอลแฮนด์ดี้แคปทั้งหมดในเวลาเดียวกัน
ด้วยการขยับนิ้วอย่างรวดเร็ว ลูกบอลแฮนด์ดี้แคปยังคงเคลื่อนไหวไปยังทิศทางต่างๆภายใต้การควบคุมของเขา
บินเป็นเส้นตรง บอลสองลูกบินชนกัน บินไขว้กัน...
นี่เป็นภาพที่สวยงามมาก ลูกบอลแฮนด์ดี้แคปทั้งหมดกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันเป็นเหมือนกับเอลฟ์ตัวเล็กๆที่กำลังบินไปมาอยู่รอบๆตัวของจี้เฟิง มันน่าเหลือเชื่อมาก!
ครู่ต่อมา จี้เฟิงสะบัดข้อมือของเขา ทุกๆอย่างเงียบลงอย่างกะทันหัน แต่เป็นเพียงเวลาสั้นๆ จากนั้นลูกบอลแฮนด์ดี้แคปทั้งหมดก็ตกลงสู่พื้น บ้างก็กระเด้งกระดอน บ้างก็กลิ้งและกระทบกระทั่งกันจนเกิดเสียงดังหลากหลายรูปแบบขึ้นพร้อมๆกัน
รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจี้เฟิง เขาหันหน้าไปมองก้อนแสงกลมๆที่แกว่งขึ้นลงช้าๆอยู่ข้างๆเขาและถามด้วยรอยยิ้ม “คุณสมอง! เป็นยังไงบ้าง? แบบนี้ถือว่าฉันผ่านแล้วหรือยัง?”
แน่นอนว่าก้อนแสงกลมๆนั่นก็คือสมองหมายเลข 1 และมันก็พูดขึ้นว่า “ครับมาสเตอร์! คุณผ่านการประเมินแล้ว และตอนนี้ถือได้ว่าเราเริ่มขั้นตอนที่ 3 ของกระบวนการแล้ว”
“เยี่ยม!”
จี้เฟิงหัวเราะอย่างมีความสุขและกำหมัดอย่างตื่นเต้น “การฝึกอย่างหนักในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้ไร้ประโยชน์สินะ ในที่สุดฉันก็ผ่านการทดสอบขั้นที่ 3 แล้ว”
ตั้งแต่ครั้งแรกที่จี้เฟิงได้รู้จักกับลูกบอลแฮนด์ดี้แคป เขาไม่เคยหยุดฝึกซ้อมเลยแม้แต่วันเดียว จากที่ตอนแรกเริ่มฝึกซ้อมอย่างรีบร้อน มันทำให้เขาไม่สามารถเข้าใกล้ลูกบอลแฮนด์ดี้แคปได้เลย และต่อมา เขาก็เริ่มที่จะสามารถควบคุมลูกบอลแฮนด์ดี้แคปได้ จากหนึ่งลูก เป็นสองลูกและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เขาสามารถควบคุมลูกบอลแฮนด์ดี้แคปทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย และสามารถทำให้ลูกบอลแฮนด์ดี้แคปเหล่านี้เคลื่อนไหวไปยังทิศทางต่างๆได้ตามที่เขาต้องการ!
เมื่อเทียบกับตอนแรก ความสามารถของจี้เฟิงในการจัดการกระแสไฟฟ้าชีวภาพในร่างกายของเขาพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจนนับครั้งไม่ถ้วน!
เขามั่นใจว่าหากมีลูกบอลแฮนด์ดี้แคปเหล่านี้อยู่รอบตัวเขาจริงๆ เขาสามารถคอนโทรลพวกมันให้ยิงออกไปได้ราวกับปืนกล และแทบจะไม่มีอะไรหยุดเขาได้!
ลองจินตนาการเล่นๆดูว่า หากคุณพกหินก้อนเล็กๆติดตัวไว้ และใช้ไฟฟ้าชีวภาพเพื่อควบคุมพวกมันทั้งหมดให้ยิงออกไป ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร? ความรุนแรงที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าปืนกลเลย นั่นไม่เท่ากับว่าคุณมีอาวุธสงครามพกติดตัวอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ผิดกฎหมายหรอกหรือ?
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่แอบรู้สึกทึ่ง พลังของกระแสไฟฟ้าชีวภาพนั้นทรงพลังเกินไปจริงๆ!
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับมาสเตอร์!” สมองหมายเลข 1 กล่าวอย่างผู้มีอารยธรรม
จี้เฟิงเองก็เหมือนจะค้นพบจุดนี้ด้วยเช่นกัน จากหุ่นยนต์ AI อย่างชัดเจนในตอนเริ่มต้น จนถึงตอนนี้สมองหมายเลข 1 เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ เขามีมนุษยสัมพันธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป ปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อจี้เฟิงดูเป็นธรรมชาติขึ้น บางทีนี่อาจเป็นโปรแกรมที่สมองหมายเลข 1 ถูกตั้งเอาไว้ แต่ในความคิดของจี้เฟิง มันอาจไม่เป็นเช่นนั้น บางทีการพัฒนาในการมีมนุษยธรรมของสมองหมายเลข 1 อาจจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้นในอนาคตก็เป็นได้!
พูดง่ายๆคือ อาจมีความเป็นไปได้ที่สมองหมายเลข 1 จะสามารถพัฒนาและเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด!
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆคงจะดีมาก
“คุณสมอง ในเมื่อฉันผ่านการประเมินขั้นที่สามแล้ว จากนี้เราจะทำอะไรต่อ?” จี้เฟิงถามด้วยรอยยิ้ม “ต้องเรียนรู้ทักษะขั้นที่สามอย่างเป็นทางการหรือเปล่า?”
ตามข้อบังคับที่สมองหมายเลข 1 กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การจะเข้าสู่ขั้นตอนที่สามได้อย่างเป็นทางการจะต้องสามารถควบคุมบอลแฮนด์ดี้แคปได้อย่างเชี่ยวชาญแล้วเท่านั้น และมันจะมีความคืบหน้าอย่างชัดเจนในการจัดการกระแสไฟฟ้าชีวภาพ อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ขั้นที่สามไม่ได้หมายความว่าการเรียนรู้ขั้นตอนที่สามได้เริ่มขึ้นแล้ว
ตอนนี้เขาอาจจะเป็นคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในการที่จะเรียนรู้ทักษะของขั้นที่สามได้เท่านั้น และตามความเข้าใจของเขา การฝึกลูกบอลแฮนด์ดี้แคปนี้เป็นการรวมความรู้ความสามารถและเจาะลึกของสองขั้นตอนแรก
ขั้นแรกที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของยิมนาสติกชุดแรกคือการออกกำลังกายและปรับปรุงสภาพร่างกายให้ได้ตามความต้องการพื้นฐานของโปรแกรม ส่วนขั้นที่สอง ส่วนใหญ่เป็นการสะสมพลังงานไฟฟ้าชีวภาพ และในขณะเดียวก็มีการวางรากฐานสำหรับขั้นตอนที่สาม
จี้เฟิงเดาว่าตั้งแต่ที่มีการฝึกบอลแฮนด์ดี้แคปที่แสนยากนี้ ไม่น่าจะเชื่อมต่อกับการฝึกในขั้นตอนที่สามเหมือนอย่างสองขั้นตอนแรก แต่สิ่งที่เขารู้คือการฝึกขั้นที่สามนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับการจัดการพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพอย่างแน่นอน
สมองหมายเลข 1 กล่าวว่า “มาสเตอร์ ขั้นต่อไป คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการกระแสไฟฟ้าชีวภาพ และหลังจากขั้นตอนนี้จบลง คุณจะได้ฝึกฝนการควบคุมและจัดการกระแสไฟฟ้าชีวภาพขั้นสูงสุด!”
ขั้นสูงสุด?
เมื่อจี้เฟิงได้ยินแบบนี้ เขาก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีและรีบถามว่า “แล้วยังไงอ่ะ? ฉันต้องออกกำลังกายแบบไหน?”
“พรึ่บ—!”
ฉากที่อยู่ตรงหน้าเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และภายในพริบตา จี้เฟิงก็อยู่ท่ามกลางป่าทึบ มีต้นไม้สูงอยู่เต็มไปหมด กิ่งก้านและใบไม้เรียงซ้อนกันจนเหมือนหลังคาบดบังแสงแดดจนแทบไม่มีแสงสว่างส่องเข้ามาเลย นอกจากนั้นยังมีเสียงคำรามของสัตว์ดังขึ้นอยู่รอบๆตัวเขา ดูแล้วเหมือนเขาอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์จริงๆ
“โอ้โห! โคตรจะสมจริงเลย!” เมื่อมองไปยังฉากตรงหน้า จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความชื่นชมและตื่นเต้น
ที่นี่ไม่ได้แสดงผลให้สัมผัสได้แค่ทางสายตาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการได้ยิน กลิ่นและบรรยากาศด้วย คุณจะสัมผัสได้ว่านี่คือป่าบริสุทธิ์ที่แท้จริง
ถ้าจี้เฟิงไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ในพื้นที่ฝึกฝนจริงๆ เขาจะต้องตกตะลึงอย่างมาก เพราะเดิมทีเขาอยู่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่สร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็ก แต่จู่ๆเขาก็ปรากฏตัวในป่าที่เป็นธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ได้อย่างไร?
ใครจะเชื่อว่าสิ่งที่สร้างขึ้นจากภาพมายามันจะสมจริงได้มากขนาดนี้?!
“คุณสมอง แล้วยังไงต่อ?” จี้เฟิงถามด้วยความประหลาดใจ “คุณพาฉันมาที่ป่าดงดิบทำไม?”
“มาสเตอร์ ตามแผนการฝึกที่โปรแกรมกำหนด ต่อไป มาสเตอร์จะต้องพึ่งพาความสามารถของมาสเตอร์เพื่อออกจากป่านี้ให้ได้” สมองหมายเลข 1 กล่าว “สิ่งที่สมองต้องเตือนมาสเตอร์ คือในป่าแห่งนี้มีสัตว์ร้ายซ่อนอยู่ สัตว์เหล่านี้มีความดุร้ายมากและเป็นอันตรายต่อมาสเตอร์อย่างมาก แต่จุดอ่อนของพวกมันคือกระแสไฟฟ้าชีวภาพ พวกมันกลัวกระแสไฟฟ้าชีวภาพ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว พวกนั้นไม่กลัวอาวุธใดๆ...”
“กลัวไฟฟ้าชีวภาพอย่างนั้นเหรอ?” จี้เฟิงผงะและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องใช้ไฟฟ้าชีวภาพเป็นหลักน่ะสิ? นี่คือวิธีออกกำลังกายไฟฟ้าชีวภาพ?”
“ครับมาสเตอร์” สมองหมายเลข 1 กล่าว
จี้เฟิงพยักหน้าทันทีและหัวเราะ “ฮ่าๆ ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด แต่ก็เป็นวิธีที่ดี! ไปกันเถอะ!”
“กรี๊ซซซซ~~!”
ก่อนที่จี้เฟิงจะทันได้ไปไหน สัตว์ดุร้ายก็คำรามเสียงดังและพุ่งออกมาจากป่าใกล้ๆ เมื่อจี้เฟิงเห็นรูปลักษณ์ของมันอย่างชัดเจน เขาก็ต้องตกตะลึง นี่มันตัวอะไร?
สัตว์ร้ายตัวนี้ดูเหมือนหมูป่าที่มีเขี้ยวแหลมคม นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่คล้ายฟันเลื่อยสองแถวที่หาง ดูคมมาก มองแวบแรกก็รู้ได้เลยว่ามันไม่ได้เป็นสัตว์ใจดีกินพืชแน่นอน!
ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์ร้ายตัวนี้สูงและบึกบึนพอๆกับวัว การวิ่งของมันเหมือนการเคลื่อนตัวของเนินเขาลูกย่อมๆ!
ดวงตาของจี้เฟิงเบิกกว้างทันที “คุณสมอง นี่เป็นสัตว์ร้ายที่ฉันต้องจัดการอย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่ครับมาสเตอร์ นี่เป็นเพียงระดับต่ำสุดเท่านั้น หลังจากนี้ยังมีสัตว์ร้ายที่ทรงพลังมากกว่านี้อีก ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะครับมาสเตอร์” สมองหมายเลข 1 กล่าว
“สัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้อีกงั้นเหรอ...” หัวใจของจี้เฟิงเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย แค่เห็นเขาก็รู้แล้วว่าสัตว์ร้ายที่เหมือนกับหมูป่าตัวนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะจัดการได้ง่ายๆ และตอนนี้มันก็กำลังพุ่งตัวออกมาด้วยความเร็วที่เร็วมาก และเขาก็ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องรับมือกับมันยังไง
“กรี๊ซซซซ~~!”
ในขณะที่จี้เฟิงกำลังคิดอยู่ สัตว์ร้ายมันไม่ได้หยุดรอและให้เวลาเขาได้คิดมากนัก มันพุ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงร้องแปลกๆ
“ตึ้ง—! ตึ้ง—!”
กีบเท้าของสัตว์ร้ายเหยียบลงบนพื้นจนเกิดเสียงดังเหมือนกับกลองยักษ์ พื้นถึงกับมีการสั่นสะเทือนเล็กน้อย
ดวงตาของจี้เฟิงส่องประกาย เขาถอยหลังไปสองก้าวอย่างรวดเร็วและตั้งท่าเตรียมต่อสู้ และในขณะที่สัตว์ร้ายกำลังจะโจมตีเขา เขาก็ฉีกตัวหลบไปด้านข้างเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดจะหนีหรือหลบให้พ้นไปเสียทีเดียว เพราะในขณะที่สัตว์ร้ายพุ่งเลยตัวเขาไปเล็กน้อย เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและใช้กำปั้นทุบไปที่ด้านข้างของสัตว์ร้ายอย่างรุนแรง
“ตู้ม—!”
เกิดเสียงกระแทกดังขึ้น และสัตว์ร้ายตัวนั้นก็เซถลาไปเล็กน้อยแต่เพียงไม่นานมันกลับมายืนอย่างมั่นคง
จี้เฟิงถึงกับตัวแข็งทื่อไปทันที
‘มันจะแข็งแกร่งอะไรขนาดนี้เนี่ย?!’
แน่นอนว่าจี้เฟิงรู้ดีว่าหมัดของเขานั้นทรงพลังมากเพียงใด แม้แต่ก้อนหินก็ไม่อาจต้านทานหมัดที่ซัดเต็มแรงของเขาได้ แต่สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย?!
“ฉันชักจะอยากรู้แล้วว่าแกจะทนทายาดได้ซักแค่ไหน!” จี้เฟิงตะคอกอย่างเย็นชาและแทนที่สัตว์ร้ายจะเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหา เขากลับเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหาสัตว์ร้ายเสียเอง!
“กรี๊ซซซซ~~!!”
สัตว์ร้ายกรีดร้องด้วยเสียงที่แปลกประหลาดอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันจะโกรธกับการกระทำของจี้เฟิงมาก มันพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม
“วิ้ววว~~!”
ในเวลานี้ สัตว์ร้ายและมนุษย์กำลังจะปะทะกัน และหางที่เป็นฟันเลื่อยที่อยู่ข้างหลังมันก็เหวี่ยงไปมา ทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวแหวกอากาศ
“ฟุ่บ—!”
จี้เฟิงทิ้งตัวลงสไลด์กับพื้นเพื่อหลบอย่างรวดเร็ว แต่หัวใจของเขาแอบตื่นตระหนกเล็กน้อย ดูเหมือนว่าสัตว์ร้ายตัวนี้จะใช้ส่วนหางของมันต่อสู้ได้ด้วย!
วินาทีต่อมา จี้เฟิงลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปหาสัตว์ร้ายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาใช้ความเร็วสูงสุดพร้อมกับฟาดหมัดใส่สัตว์ร้าย และในเวลาเพียงไม่กี่นาทีนั้น จี้เฟิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาต่อยสัตว์ร้ายไปมากแค่ไหนจนมันล้มลง
สัตว์ร้ายร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด การโจมตีของจี้เฟิงส่งผลให้ความเร็วของมันลดลงเล็กน้อย แต่นอกเหนือจากนั้น มันไม่ได้รับความเสียหายอื่นใดเลย หมัดและเท้าของจี้เฟิงแทบจะไร้ประโยชน์เมื่อใช้มันกับสัตว์ร้ายตัวนี้!
....จบบทที่ 933 ~