บทที่ 10 ข้อเสนอ
บทที่ 10 ข้อเสนอ
“เข้ามา!”
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นฟลินน์คิดว่าผู้ที่มาคือลูกค้า เมื่อจัดแจงเสื้อผ้าของเขาให้เรียบร้อยดูเป็นมืออาชีพแล้วเขาจึงอนุญาตให้อีกฝ่ายเข้ามา
หลังจากกลับมาจากสนามยิงปืนเดรคเขาก็รออย่างใจจดใจจ่อ
แม้ว่าคาฟฟี่จะบอกว่าด้วยความสามารถของการเป็นนักแม่นปืนของเขาจะสามารถดึงดูดความสนใจขององค์กรลับและได้รับการคัดเลือกอย่างแน่นอนแต่เขายังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า
อย่างไรก็ตามคาฟฟี่ไม่ได้เป็นสมาชิกขององค์กรลับการแสดงฝีมือนักแม่นปืนระดับปรมาจารย์อาจสามารถดึงดูดองค์กรลับได้แต่นั่นเป็นเพียงการคาดเดาของคาฟฟี่และอาจไม่เป็นความจริง
พรึ่บ!
ประตูของสำนักงานประเมินถูกเปิดออกโดยหญิงสาวในชุดสีดำอายุประมาณ 20 ปีที่กำลังเดินเข้ามา
ผู้หญิงคนนี้มีผมยาวระหลังสีน้ำตาลลอนและสวยมาก
เมื่อเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ฟลินน์อดไม่ได้ที่จะงุนงงเล็กน้อย
ผมอยู่บนโลกนี้มา 20 ปีแล้วและเคยเห็นสาวงามในโลกนี้มาไม่น้อยมีบางคนสวยกว่าดาราในชาติที่แล้วเสียอีกแต่ไม่มีใครเทียบกับผู้หญิงตรงหน้าได้เลย
ใบหน้าของอีกฝ่ายราวกับปฏิมากรรมชิ้นเอกของพระเจ้าไร้ตำหนิแม้แต่น้อย
ไฝน้ำตาใต้ตาข้างซ้ายของอีกฝ่ายยิ่งขับเน้นเสน่ห์ของอีกฝ่ายหนึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
‘น่าเสียดายเธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สามารถจะแต่งงานด้วยได้…’ ฟลินน์คิดกับตัวเอง
ในฐานะผู้ประเมินเขาสังเกตเห็นแล้วว่าชุดสีดำของอีกฝ่ายมีราคาแพงเพียงใด
เสื้อผ้าทำจากผ้าไหมสีดำราคาแพงกว่าทองคำหลายสิบเท่ามันถูกสั่งทำโดยช่างตัดเสื้อชั้นนำและมีการฝังเพชรขนาดเท่าหัวแม่มือสามเม็ดที่หน้าอก
ประเมินราคาคร่าวชุนี้มีมูลค่าหลายร้อยปอนด์ทองคำเสื้อผ้าบนร่างของอีกฝ่ายอาจเทียบได้กับเงินทั้งหมดของเขาหรืออาจแย่กว่านั้นเล็กน้อย
ผู้หญิงแบบนี้ไม่ใช่คนที่เขาจะแต่งงานด้วยได้อย่างน้อยก็ในตอนนี้
เขาเชิญหญิงสาวคนนั้นนั่งบนโซฟาชงชาดำที่ดีที่สุดให้เธอหนึ่งถ้วยแล้วถาม
“สวัสดีครับ คุณผู้หญิงต้องการจะประเมินเครื่องประดับโบราณรึเปล่าครับ”
“ไม่! ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อประเมินราคาเครื่องประดับโบราณ” ลินดี้จิบชาดำอย่างสง่างามดูเหมือนว่ารสชาติแย่กว่าที่คิดเธอจึงวางมันลงและพูดว่า
“ฉันขอแนะนำตัว ฉันชื่อลินดี้ ฮอลโลว์วินจากสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร”
เมื่อฟลินน์มองมาที่ลินดี้เธอสบตาเขากลับฟลินน์ตะลึงกับความงามในระยะประชิดนี้
เธอไม่ได้เก้อเขินในเรื่องนี้
เธอมั่นใจมากเกี่ยวกับเสน่ห์ของตัวเองมากและปฏิกิริยาแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ
“สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร?” ฟลินน์ถามอย่างงุนงงปนสงสัย
เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับกระทรวงทรัพยากร, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักกิจการพลเรือนแห่งราชอาณาจักรและหน่วยงานอื่นๆ แต่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรเลย
“หน่วยงานของเราเป็นหน่วยงานลับแห่งอาณาจักร ดังนั้นคนธรรมดาจึงไม่รู้ถึงการมีอยู่ของพวกเรา”
“ส่วนใหญ่รับผิดชอบเหตุการณ์ลึกลับเช่นสัตว์ประหลาดคืนชีพที่คุณพบเมื่อไม่นานมานี้ก็อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของเราด้วย” ลินดี้อธิบาย
“สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร… สัตว์ประหลาดฟื้นคืนชีพ?” เมื่อได้ยินคำพูดก่อนหน้าฟลินน์รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ในฐานะหนึ่งในสามอาณาจักรใหญ่ราชอาณาจักรไฮเดลเบิร์กต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลึกลับซึ่งเข้าใจได้ไม่ยาก
แต่ตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลึกลับมาหาเขาด้วยตัวเองอย่างที่คาฟฟี่เดาเพราะการยิงปืนระดับปรมาจารย์ที่เขาแสดงให้เห็นพวกเขาจึงมาชักชวนให้เขาเข้าร่วม?
แต่เมื่อได้ยินคำหลังฟลินน์รู้สึกไม่สบายใจ
แม้ว่าเรื่องศพของอาจารย์จะถูกปกปิดเอาไว้แต่ดูเหมือนว่าจะปิดไม่มิด ถึงตอนนี้องค์กรลับที่รับผิดชอบเรื่องลี้ลับของอาณาจักรได้รับรู้แล้ว
เกรงว่าคนอื่นๆ ที่ถูกฝังอยู่ในสุสานของจักรพรรดิเช่นเดียวกับอาจารย์ก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์เดียวกัน
สถานะขององค์กรลับแห่งอาณาจักรยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
คงไม่ใช่คนที่มาออกคำสั่งปิดปากหรือสอบสวนเรื่องการใช้ปืนอย่างผิดกฎหมายหรอกนะ?
“ถ้าคุณต้องการฆ่าซอมบี้ ฉันเกรงว่าวิธีเดียวที่จะทำได้คือใช้ปืนไม่ต้องกังวลฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมต้องห้ามของพวกคุณ ถึงคุณต้องการสอบสวนมันก็ไม่ใช่หน้าที่ฉัน”
ดูเหมือนจะเห็นว่าฟลินน์กำลังคิดอะไรอยู่ขณะที่ลินดี้พูด
“แล้วเหตุผลที่คุณมาคืออะไร” ฟลินน์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่ไม่นานก็ประหม่าจนหัวใจเต้นแรง
ถ้าเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมผิดกฎหมายก็เป็นไปได้มากที่เธอมาที่นี่เพื่อดึงตัวเขาเข้าร่วมองค์กร แต่ฟลินน์ยังไม่กล้ายืนยันว่ามันเป็นอย่างนั้นแน่นอน
ไม่ว่าเขาจะสามารถเข้าไปในโลกลึกลับนั้นได้หรือไม่ก็จะถูกเปิดเผยทันที
“พูดอย่างนี้สิคุณซอร์คคุณมีความสามารถที่จะเป็นหนึ่งในพวกเรา” ลินดี้พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเล็กน้อย
“ในนามของสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรฉันขอเชิญคุณเข้าร่วมและเป็นหนึ่งในพวกเรา” เมื่อได้ยินคำเชิญฟลินน์รู้สึกโล่งใจ
ในที่สุดเขาก็ได้รับคำเชิญให้เข้าสู่อลค์กรลึกลับนั้น
การคาดเดาของคาฟฟี่นั้นถูกต้องและเงินที่ใช้ไปเพื่อแสดงความเป็นนักแม่นปืนของเขาก็คุ้มค่าซึ่งเพราะในที่สุดก็ได้รับความสนใจจากองค์กรลับจริงๆ
แม้ว่าเขาจะรอไม่ไหวจนแทบนั่งไม่ติดที่จะเข้าร่วมแต่เขาก็ยังพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อควบคุมตัวเองและพูดว่า
“นี่เป็นการติดต่อครั้งแรกของผมกับองค์กรลับเช่นนี้ ก่อนที่ผมจะตอบคุณรับ ผมยังมีคำถามสองสามข้อที่จะถาม”
สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรเป็นองค์กรลับที่มีภูมิหลังอย่างเป็นทางการไม่ควรเป็นองค์กรลับที่ชั่วร้ายแต่เขายังคงหวังที่จะทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กรก่อนตัดสินใจ
“แน่นอน” ลินดี้เห็นด้วย
ปฏิกิริยาของฟลินน์เป็นปฏิกิริยาของคนปกติ แม้ว่าพวกเขาจะมีภูมิหลังอย่างเป็นทางการก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนจะเข้าร่วมโดยไม่ลังเล
เว้นแต่จะเป็นคนประเภทที่อุทิศตนเพื่ออาณาจักรแต่คนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะปรากฏในกองทัพไม่ใช่ในหมู่คนธรรมดา
“ฉันจะได้อะไรและต้องจ่ายอะไร” ฟลินน์ถามคำถามแรกและมันก็เป็นคำถามที่เขากังวลมากที่สุดเช่นกัน
“คุณจะได้รับเงินเดือนสูงรวมถึงสิทธิพิเศษในการถือปืนแต่ไม่จำกัดเพียงการถือปืน ด้วยราคานี้คุณจะต้องจัดการกับเหตุการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรแน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่อันตราย”
“ฉันจะไม่โกหกคุณว่าไม่มีอันตรายเพราะการโกหกแบบนั้นจะถูกเปิดโปงได้ทันทีเมื่อคุณสะกิดและสำนักงานความมั่นคงฯ คงไม่จ้างคุณมาเพื่ออ่านหนังสือพิมพ์ทั้งวันอย่างแน่นอน” ลินดี้กล่าวตรงไปตรงมา
“นอกจากสำนักงานความมั่นคงฯ แล้วมีองค์กรลับอื่นอีกไหม?” ฟลินน์
ยังคงถามต่อเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ตามที่คาดหวัง
“ใช่นอกจากสำนักงานความมั่นคงฯ แล้วยังมีองค์กรลับอื่นๆ อีกแต่พวกเขาล้วนไม่ใช่ของรัฐบาล”
“พูดตามตรงคุณมีความสามารถมากจากการฝึกฝีมือจนถึงระดับปรมาจารย์ในเวลาเพียงสองปี ยังมีห้าองค์กรอื่นๆ ที่สนใจในตัวคุณ”
“อย่างไรก็ตามฉันรับรองได้ว่าด้วยความสามารถเดียวกันสวัสดิการของสำนักงานความมั่นคงฯ นั้นดีที่สุดอย่างแน่นอนเพราะงบประประมาณทั้งหมดของเราได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากอาณาจักรไฮเดลเบิร์ก” ลินดี้กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
เมื่อมีอาณาจักรเป็นประกันเธอมีความมั่นใจมากพอที่จะยืนยันเช่นนั้น
“ผมพอเข้าใจแล้ว” ฟลินน์พยักหน้าจากคำถามสองข้อถึงตอนนี้เขามีความเข้าใจทั่วไปเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการเข้าร่วมสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาได้ตัดสินใจในใจอย่างแน่นอนแล้ว
“ผมเต็มใจเข้าร่วมกับสำนักงานความมั่นคงฯ”
โดยไม่ต้องคิดเลยว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในหมู่องค์กรลับทั้งหมดอย่างแน่นอน
หากคุณต้องการไม่ถูกรังแกจากองค์กรอื่นเมื่อเข้าสู่โลกลึกลับ คุณต้องเข้าร่วมองค์กรขนาดใหญ่เช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ
สำหรับการเข้าร่วมในการจัดการเหตุการณ์ลึกลับ หลังจากเข้าร่วมคนอื่นๆ อาจลังเลแต่เขาเต็มใจ
ท้ายที่สุดหากยังต้องการได้รับคะแนนลึกลับก็ต้องสัมผัสกับเหตุการณ์ลึกลับ
เหตุผลที่เขาต้องการเข้าสู่โลกลึกลับก็เพื่อติดต่อกับเหตุการณ์ลึกลับ
“ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรา”
ลินดี้ยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบของฟลินน์และชักนำคนที่มีความสามารถพิเศษแบบนี้เข้าสู่สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรได้สำเร็จ
รอยยิ้มทรงเสน่ห์และออร่าบนร่างของเธอซึ่งสวยมากอยู่แล้วก็ยิ่งเปล่งประกายมากขึ้นไปอีก
รูปร่างที่มีเสน่ห์ ริมฝีปากสีแดงน่าดึงดูดใจ
ราวกับดอกกุหลาบสีดำผลิบานเต็มไปด้วยเสน่ห์สุดขีดจนอดไม่ได้ที่จะโน้มลงเกาะชายกระโปรงของเธอ
ฟลินน์อดไม่ได้ที่จะจ้องมองอย่างว่างเปล่าอีกครั้งและมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็วก่อนสงบใจลง
“คุณว่างไหมถ้าว่างฉันจะพาคุณไปสำนักงานหลักเพื่อลงทะเบียนให้เสร็จและนำคุณเข้าสู่โลกลึกลับ” ลินดี้ถามด้วยรอยยิ้มอดกลั้น
“ว่าง ผมว่าง” ฟลินน์ตอบอย่างรวดเร็วแม้ว่าเขาจะไม่ว่างแต่เขาก็ต้องว่าง
นับตั้งแต่เขาพบกับสัตว์ประหลาดฟื้นคืนชีพเขาก็เฝ้ารอช่วงเวลานี้มาถึงอยู่ตลอด เทียบกับเรื่องนี้เรื่องอื่นไว้ค่อยว่ากัน
ฟรึ่บ!
ขณะนี้ประตูสำนักงานประเมินราคาฯ ถูกผลักเปิดออกอย่างกระทันหัน
เมื่อประตูเปิดออกผู้คนจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้ามาในสำนักงานจนแน่นขนัดและสำนักงานเดิมที่กว้างขวางมีสภาพไม่ต่างจากปลากระป๋อง
คนเหล่านี้มีทั้งชาย หญิง คนแก่และเด็ก พวกเขาล้วนมีออร่าที่ไม่สามารถบรรยายได้
“คุณมาช้าไปแล้วเพราะฟลินน์ ซอร์คได้ตกลงเข้าร่วมสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรเรียบร้อย” เมื่อเห็นคนที่เปิดประตูเข้ามา ลินดี้พูดด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่เหนือกว่า
“ฮึ่ม! ถ้าไม่ใช่เพราะลูกไม้ของสำนักงานความมั่นคงฯ ของคุณเรามาถึงเวลานี้ได้ยังไง”
ชายชราถือไม้เท้าประดับอัญมณีตะคอกอย่างเย็นชา จากนั้นค่อยเหลือบสานตามองไปที่ฟลินน์แล้วถาม
“ที่เธอพูดเป็นความจริง?”
“เป็นความจริง ผมตกลงเข้าร่วมสำนักงานความมั่นคงฯ เรียบร้อยแล้ว” ฟลินน์พยักหน้า
ถ้าเขาเดาถูกคนเหล่านี้น่าจะมาจากองค์กรลับอื่นๆ และพวกเขาก็มาที่นี่เพื่อชักชวนเขาด้วย
อย่างไรก็ตามเขาตกลงที่จะเข้าร่วมกับสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
ยิ่งไปกว่านั้นตามความคิดของเขาเมื่อเทียบกับองค์กรลับเหล่านี้ การจัดการกับเหตุการณ์ลึกลับของและการเข้าถึงข้อมูลสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรน่าจะทำได้ดีกว่า ดังนั้นมันต้องเหมาะสมกับเขามากกว่าองค์กรลับที่คนเหล่านี้สังกัดอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย
“คุณยังไม่ได้ร่วมงานอย่างเป็นทางการใช่ไหม ผมเป็นสมาชิกของสมาคมทองคำซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรขนาดใหญ่ไม่ต่างกัน คุณสนใจร่วมงานกับเราไหม” ชายผู้มีฟันทองคำเต็มปากถามฟลินน์ด้วยรอยยิ้ม
“นิคคิง ฟลินน์ ซอร์คเข้าร่วมสำนักงานความมั่นคงฯ แล้ว คุณกำลังพยายามแย่งคนจากสำนักงานความมั่นคงฯ งั้นเหรอ”
ใบหน้าสวยของลินดี้เปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อเธอได้ยินชายฟันทองพูด ดวงตาของเธอเผยให้เห็นสีดำสนิท
“ไม่ใช่ว่าคุณยังไม่ได้ร่วมงานอย่างเป็นทางการเหรอ นี่ไม่นับว่าเข้าร่วมสำนักงานความมั่นคงฯ ก็ไม่น่าจะถือว่าละเมิดข้อตกลง”
เมื่อเห็นดวงตาสีดำดูลึกลับของลินดี้ ชายฟันสีทองที่ชื่อ นิค คิงได้ครุ่นคิดเกี่ยวกับข่าวลือของรองผู้อำนวยการของสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
เขารู้สึกเสียดายอย่างมากและรีบอธิบาย
“แม้ว่าผมจะยังไม่ได้เข้าทำงานอย่างเป็นทางการ แต่ในเมื่อผมตกลงไปแล้ว ผมย่อมรักษาสัญญา”
ฟลินน์พูดอย่างรวดเร็ว
ไม่ต้องพูดถึงสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรเป็นองค์กรลับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขา
แม้ว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นเขาก็จะไม่มีวันเสียใจเพราะมันจะทำให้สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรต้องรำคาญอย่างแน่นอนและตกเป็นเป้าของสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหากเขาเข้าสู่โลกลึกลับในอนาคต
เมื่อเห็นคำกล่าวของฟลินน์ นิคคิงและสมาชิกคนอื่นๆ ขององค์กรลับก็รู้ว่าคำขอร้องนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะสำเร็จ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องล้มเลิกคำขอร้องเหล่านั้น
หลังจากนั้นไม่นานมีหลายคนที่ออกไป ฟลินน์กับลินดี้ก็เดินออกจากสำนักงานเตรียมไปที่สาขาหลักของสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรในเมืองคอนสตันท์