ตอนที่ 67 เส้นเลือดแร่
ตอนที่ 67 เส้นเลือดแร่
"ผู้ฝนตน?" หลิน ยู ตกตะลึง "ยังมีผู้ฝึกตนอยู่ในโลกนี้ด้วยหรือ?"
"อะไรนะ? นายท่านไม่รู้เรื่องนี้งั้นเหรอ?" ซู๋จง ถามด้วยท่าทางที่มึนงง
"ในอาณาจักรหวงหวู่ของเรา นอกจากผู้ที่ถูกเลือกโดยเทพเจ้าอย่างราชันแบบท่านแล้ว ยังมีคนธรรมดาจำนวนมาก พวกเขาที่อาศัยอยู่ที่นี้ตั้งแต่เด็ก พวกเขาได้รับพลังในการสื่อสารกับเทพเจ้าผ่านการฝึกฝน พวกเขาจะค่อยๆพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ คนเหล่านั้นคือผู้ฝนตน"
"แน่นอนว่า มันมีช่องว่างระหว่างผู้ฝึกตนกับผู้ถูกเลือกแบบนายท่าน ไม่เพียงแต่พวกเขาจะฝึกฝนได้ช้า อีกทั้งยังไม่สามารถอัญเชิญทหารออกมาได้แบบนายท่าน"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซู่จง ก็ไม่ลืมที่จะประจบ หลิน ยู
อย่างไรก็ตาม หลิน ยู ไม่ได้สนใจเรื่องนี้
แต่เขากลับตกใจกับสิ่งที่ ซู่จง พูดมากกว่า
คนธรรมดาของที่นี้สามารถบ่นเพาะพลังได้ด้วยเหรอ?
ถ้าเขาเดาถูก คนธรรมดาที่ ซู่จง กล่าวถึงน่าจะเป็นชาวพื้นเมืองของทวีปดึกดำบรรพ์
จากนั้นพลังในการสื่อสารกับเทพเจ้าคือการได้รับพลังของระบบ
กล่าวอีกอย่างคือ คนเหล่านี้สามารถที่จะได้รับการฝึกฝนและยกระดับตัวเองได้
เพียงแต่พวกเขาจะไม่มีดินแดน ไม่สามารถอัญเชิญทหารออกมาได้ รวมถึงการเพิ่มระดับอย่างรวดเร็วเหมือนกับพวกเขาได้
นี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว
ดูเหมือนว่าโลกนี้มันจะไม่ง่ายเหมือนที่เขาคิดไว้ มันมีระบบเพาะปลูกของตัวเอง
ลองคิดดูซิ
ทวีปดึกดำบรรพ์เป็นศูนย์กลางของโลกทั้งใบ มีมอนสเตอร์อยู่ทุกหนแห่ง ดังนั้นพวกเขาจะเป็นเพียงคนธรรมดาได้อย่างไร
หากพวกเขาสามารถซึมซับความแข็งแกร่งเหล่านี้ได้ ความแข็งแกร่งของดินแดนของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
มันน่าเสียดาย
เนื่องจากเขาอยู่ในที่รกร้างห่างไกล พวกเขาไม่มีแม้แต่ผู้ฝึนตนมาเป็นผู้นำ
เขาคาดว่ากันพื้นที่ขนาดใหญ่นั้นมีผู้ฝึกตนมากมายเข้าไปยึดครองอยู่....
หลังจากนั้นไม่นาน
หลิน ยู ถาม ซู่จง เกี่ยวกับโลกใบนี้อีกครั้ง เขาค่อยๆมีความเข้าใจเกียวกับสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่ตอนนี้แล้ว
อาณาจักรหวงหวู่ที่เขาอยู่ในตอนนี้
เป็นหนึ่งใน 10 อาณาจักรภายในจักรวรรดิเซิ่งเหยา*
****จักรวรรดิเซิ่งเหยา หรือก็คือ จักรวรรดิเหยาศักดิ์สิทธิ์
พวกเขาอยู่ตรงชายขอบของทวีปดึกดำบรรพ์เลยทีเดียว
เนื่องจากมันอยู่ในพื้นที่รกร้างและห่างไกล มันจึงถูกเรียกว่า อาณาจักรหวงหวู่ และเป็น 1 ใน 10 อาณาจักรที่อ่อนแอ่ที่สุด
ภายในอาณาจักรนั้น มีเมืองอยู่ทั่วทุกแห่งหน ถูกควบคุมโดยราชันต่างๆทั้งน้อยใหญ่ พวกเขาแข่นขันกันอย่างดุเดือดเพื่อแย่งชิงทรัพยากรต่างๆ
มีความขัดแย้งกันบ่อยครั้งระหว่างเมืองต่างๆ
หากต้องการอยู่รอดในสภาพแวดล้อมแบบนี้ เขาต้องพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ
มันจำเป็นที่เขาต้องเข้าไปสำรวจในส่วนลึกของ โกบี อีกทั้งเขายังสามารถหาพลังเวทย์ได้จากที่นั้นอีกด้วย
เมื่อเขาคิดได้แล้ว หลิน ยู จึงให้ ซู่จง กลับไปก่อน
เข้าออกจากดินแดนไปพร้อมกับพืชระดับ 6 4 ตัวรวมทั้งหลิงซีด้วย
สำหรับกองกำลังป้องกันดินแดนนั้น จะถูกมอบหมายไว้ให้ ราชาปิศาจเห็ด กับ ชิง ถัง และกองกำลังระดับ 5 ที่เขาเพิ่มได้อัญเชิญมาใหม่
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาอยู่ในสถานที่ๆห่างกัน เขาจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีราชันคนอื่นมาโจมตีดินแดน
....
หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุด หลิน ยู ก็มาถึงส่วนลึกของโกบี
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ
ลึกเข้าไปในส่วนลึกของโกบีนั้น มี มันมีรอยเลื่อนของภูเขาหินขนาดใหญ่
มันสูงกว่าหลาย 10 เมตรทั้ง 2 ฝั่งมีขนาดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
หากเขาต้องการไปต่อเขาต้องไต่ภูเขาหินขึ้นไป
ไม่น่าแปลกใจทำไมถึงไม่มีมอนสเตอร์บุกเข้าโจมตีเมืองหวงซา มันถูกป้องกันด้วยปราการภูเขาหินธรรมชาตินี้เอง
หลิน ยู ยืนขึ้น
เขาสามารถเห็นพื้นที่โล่งที่ไม่มีที่สิ้นสุดตรงรอยเลื่อนภูเขาหิน ดูเหมือนว่าที่นั้นจะไม่รกร้างอย่างที่คิด
มันมีวัชพืชขึ้นรกเหล่าพืชเขตร้อนขึ้นบดบังจนเขามองแทบไม่เห็น
ด้วยความสูงหลาย 10 เมตรนั้นมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา เขาปึนลงไปพร้อมกับกองทัพพืชอย่างง่ายดาย จากนั้นจึงเดินหน้าต่อไป
หลังจากเดินไปได้ 10 นาที ในที่สุดเขาก็พบเข้ากับมอนสเตอร์ตัวแรก
ไฮยีน่าระดับ 3 วิ่งผ่านมา
[ชื่อ : ไฮยีน่าทะเลทราย]
[เผ่าพันธุ์ : สัตว์ร้าย ]
[ระดับ : ระดับ 3]
[ความแข็งแกร่ง : 42]
[ร่างกาย : 37]
[ความว่องไว : 45]
[วิญญาณ : 38]
[สกิล : กัดกระชาก]
[หมายเหตุ : มอนสเตอร์ที่เติบโตในทะเลทรายโกบี มันเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วมีแรงกัดที่รุนแรง]
"เนื้อสุนัขนี้ของดีเลย หยุดมันไว้อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้"
เมื่อเห็นไฮยีน่า เหล่านั้นวิ่งผ่านมาดวงตาของ หลิน ยู ก็เปล่งประกายขึ้นทันที เขารีบเข้าไปล้อมมันพร้อมกันกองทัพพืช
ไฮยีน่ารู้สึกได้ถึงภัยคุมคาม มันหันหลังและรีบวิ่งหนีไปในทันที
มีหรือทหารพืชของ หลิน ยูจะปล่อยให้พวกมันหนีไปได้
มังกรปิศาจพฤกษาบินโฉบลงมาจากด้านบนอย่างรุนแรง กลายเป็นภาพติดตามโจมตีใส่ไฮยีน่า
ไฮยีน่าไม่ทันได้ตอบสนอง คอของมันก็ขาดออกจากตัว ล้มลงกับพื้น
[สังหารไฮยีน่าระดับ 3 ได้รับพลังเวทย์ 10 แต้ม]
เสียงดังขึ้นในหัวของ หลิน ยู
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ไปพร้อมกับหลิง ซี และ นางพญาปิศาจโลหิตอีก 2 ตัว นำร่างของไฮยีน่าเข้าในไปเก็บไว้ในกระเป๋ามิติอย่างมีความสุข
"ไม่เลวเลย คืนนี้ฉันได้เมนูเพิ่มแล้ว"
ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า ของ หลิน ยู จากนั้น เขาเดินสำรวจหามอนสเตอร์ไปทั่วทุกแห่ง
หลังขากเลื่อนขั้นสู่ระดับ 6 ความจุของกระเป๋ามิติของเขาก็เปิดขึ้นเป็น 200 หน่วย มันไม่เป็นปัญหาในการเก็บซากมอนสเตอร์หลายร้อยตัว
ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาทั้งวันในการสำรวจทะเลทรายโกบี ออกล่ามอนสเตอร์อย่างต่อเนื่อง รวบรวมพลังเวทย์พร้อมกับซากศพของมอนสเตอร์ตามทาง
เมื่อเขาเดินทางลึกเข้าไป ระดับของมันสเตอร์ที่เขาพบก็สูงขึ้นเรื่อยๆ แถมจำนวนของมันยังเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก สุดท้ายเขาได้พบกับมอนสเตอร์ระดับ 6 ถึง 2 ตัว
โชคดีที่เหล่าพืชรอบตัวเขามีความแข็งแกร่งที่เพียงพอ
ในท้ายที่สุด พวกมันทั้งหมดถูกเขาจัดการโดยที่ไม่เกิดปัญหาใดๆ ได้รับพลังเวทย์มามากกว่า 200 แต้ม พร้อมกับซากมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ 2 ตัว เขาหยุดที่จะเข้าไปในส่วนลึกและล่าอยู่ในบริเวณนี้
จนถึงช่วงหัวค่ำ
หลิน ยู นำกองทัพพืชของเขากลับเมือง หวงซา และเรียก เซียว ฉางกุ้ย มา
"นายท่าน เหตุใดท่านถึงได้มาที่นี้ด้วยตัวเอง"
เซียว ฉางกุ้ย นำผู้ช่วยของเขารีบเข้ามาทักทาย หลิน ยู ที่เพิ่งเข้ามาในเมือง
"พอดีฉันเพิ่งกลับมาจากข้างนอกหน่ะเลยแวะมาดู ว่าแต่การเก็บสถิติเป็นอย่างไรบ้าง" หลิน ยู ถาม
เซียว ฉางกุ้ย ตอบอย่างเร่งรีบว่า "เรียนนายท่าน สถิตินั้นได้เสร็จตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว แต่เนื่องจากท่านไม่อยู่ในดินแดนข้าจึงเก็บเอาไว้กับตัวก่อน"
"จริงเหรอ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยเอาให้ฉันก็ได้ ออ มีอีกเรื่องที่อยากถาม มีเส้นเลือดแร่เหล็กกับแร่ทองแดงบริเวณใกล้ๆ บ้างไหม"
"เส้นเลือดแร่" เซียว ฉางกุ้ย คิดก่อนจะตอบ "ท่านคงจะหมายถึงสถานที่ผลิตแร่ ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ มันมีเหมืองมากมายอยู่ใต้ภูเขาใกล้ๆนี้ ซึ้งทั้งหมดถูกขุดโดยราชันคนก่อน"
"จริงเหรอ?"
หลิน ยู ดูมีความสุข
เดิมที เขาแค่ถามแบบไม่คิดอะไร แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีเส้นเลือดแร่อยู่ใกล้ๆที่นี้ด้วย ถึงมันจะถูกขุดโดยราชันคนก่อนหน้านี้
เมื่อนึกถึงมัน เขาก็พูดทันที "เยี่ยมไปเลย คุณช่วยบอกทุกคนทีว่า ใครก็ตามที่เต็บใจจะช่วยฉันเก็บแร่ สามารถมารับเนื้อสัตว์ 10 ปอนด์ได้จากฉันทุกวัน ขอเป็นคนที่ขยันอดทน และสุขภาพร่างกายแข็งแรง"