ตอนที่ 26
" ขอบคุณที่ท่านหัวหน้าทหารชักชวน แต่ข้าขอปฏิเสธ ข้าสนใจอิสระมากกว่า "
" งั้นหรือ ไม่เป็นไร… เอาหล่ะ ขุนโจรที่เจ้าจับมาได้มีประโยชน์ต่อพวกเรามาก แต่เจ้าก็ควรระวังตัวนะเอาไว้นะ เจ้านี้มีรอยสักของกองโจร หมอกทมิฬ ซึ่งเป็นกองโจรที่มีขนาดใหญ่มาก …
"
" …. แถมพวกระดับหัวหน้า มีแต่พวกที่ใช้พลังที่แปลกประหลาด พวกมันเคยก่อปัญหาหลายครั้ง แต่เราก็ไม่มีกำลังมากพอไปตามล่าพวกมันได้เลย "
กองกำลังทหารรักษาเมือง พวกเขาส่วนใหญ่ก็ต้องป้องกันเมืองเป็นสำคัญ ส่วนทหารที่จะออกไปลาดตระเวนก็มีกำลังไม่มากเพียงพอ ต่อพื้นที่กว้างมากมาย
ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องมีสมาคมนักล่า สมาคมนักผจญภัยและทหารรับจ้างหรอก
ยิ่งฝ่ายกฏหมายมีอำนาจมากเท่าไหร่ พวกผิดกฏหมายก็จะทรงพลังมากขึ้นตามมาเช่นกัน นี้มันเป็นเหมือนกฏของแสงและความมือ ที่ทั้งสองจะสะท้อนตัดกันอย่างชัดเจน
สำหรับพวกกลุ่มขุนนางในเมือง การคุ้มกันเมืองเป็นประโยชน์กับพวกเขามากกว่าการไปตามล่าโจรด้านนอกหลายเท่า พวกเขาจะไปเสียเวลาทำไม ?
" ข้าเข้าใจ ข้าจะระวังตัว "
อเล็กซ์ที่ได้ฟังคำเตือน ก็กล่าวด้วยความขอบคุณตามมารยาท ซึ่งเขาไม่ค่อยได้ติดตามข่าวในเมืองนี้หรือรอบๆซักเท่าไหร่ เพราะเขามัวแต่สนใจการพัฒนาคลาสตัวเอง
แถมเขาคิดว่าพวกมันก็คงไม่ต่างจากที่เขาเคยรู้ เพราอเล็กซ์ก็เคยเดินทางดินแดนแห่งนี้มาหลายดินแดนและหลายอาณาจักร พวกเขาล้วนมีบางสิ่งที่คล้ายๆกัน
" ดี อาณาจักร โกลด์ไลอ้อน ต้องการคนแบบเจ้า ส่วนนี้คือค่าหัวขุนโจร…. 60 เหรียญทอง "
อเล็กซ์ยื่นมือไปรับถุงที่ใส่เหรียญทองจนแน่น พร้อมหัวใจที่พองโต ไม่คิดว่าการจะไปหาปลาวิเศษเพื่อทำเงิน จะได้เป็นขุนโจรที่ราคาแพงกว่ามากมาแทน แต่มันก็แลกมากับความเสี่ยงที่จะไปกระตุ้นพวกโจรทั่วแผ่นดินเหมือนกัน
ทางกำลังเมืองต้องการขุนโจรพวกนี้จริงๆ เพราะพวกมันมีประโยชน์
อย่างที่เคยบอกไป คลาส โจรกับคลาส ทหารเป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติ พวกเขาได้ขุนโจรมา เป็นๆ ถ้าสังหารมันได้ด้วยตัวเอง ก็อาจจะสามารถกระตุ้นคลาสที่สูงขึ้นได้ ทำให้เมืองมีกำลังพลที่แข็งแกร่งขึ้น
ดังนั้นการจับขุนโจรเป็นๆ จึงเป็นสิ่งที่มีค่ากว่าศพของพวกมันมาก แถมยังสามารถใช้พวกนักสอบสวน ดึงข้อมูลของพวกโจรมาได้ด้วย
อเล็กซ์เก็บเงินและเดินออกจากสำนักคุ้มกันเมืองอย่างอารมณ์ดี
เมื่อออกมาถึง ก็สัมผัสได้ว่ามีคนจับตามอง แต่อเล็กซ์ก็ยียวนด้วยการผิวปากอย่างอารมณ์ดี ทำให้พวกที่จับตามอยู่ทั้งหมั่นไส้และโมโหเป็นการใหญ่
การกระทำของอเล็กซ์นั้น ทำให้เขามีชื่อเสียงในเมืองแห่งนี้และในหมู่เหล่าทหาร แต่ในทางกลับกัน
เขาได้ประกาศสงครามกับเหล่าโจรทั่วแผ่นดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพราะการจับขุนโจรเป็นๆส่งให้ทางการ สิ่งนี้ทำให้แม้กระทั่งโจรคนอื่นๆที่ไม่ใช่สังกัด กองโจร หมอกทมิฬก็โกรธแค้นมาก
นี้เป็นการสนับสนุนกองกำลังทหารโดยตรง ซึ่งจะคุกคามพวกเขาเพิ่มมากขึ้น ด้วยสิ่งนี้มันจึงทำให้พวกโจรทั้งหลาย รู้สึกถูกอเล็กซ์คุกคาม และมีเหตุผลให้ล่าหัวเจ้าเด็กนี้ด้วย
' ตั้งแต่เราแข็งแกร่งขึ้น เราก็สร้างศัตรูเอาไว้มากมาย แต่เป็นอย่างนี้ก็ไม่เลว เราจะได้ไม่เหนื่อยในการไปหาพวกมัน ใครอยากจะมาหาเรื่อง ก็ให้มันเข้ามา เราเพียงแค่จัดการพวกมันให้หมด สู้ไม่ได้ก็แค่หนี '
อเล็กซ์มั่นใจในตัวเองค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้มั่นใจในการต่อสู้ แต่เขามั่นใจในการเอาตัวรอดต่างหาก
เขาพยายามฝึกตัวเองให้พบเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเสมอ เพราะเมื่อพบเจอกับสถานการณ์จริง เขาจะได้เอาตัวรอดได้อย่างชำนาญ
สำหรับพวกที่จ้องจะกินหัวเขาในเวลานี้ พวกมันต้องรีบลงมือด้วยซ้ำ หากเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ พวกมันจะหมดสิทธิ์เป็นภัยคุกคามกับเขาในอนาคต
อเล็กซ์เดินไปตามท้องถนน เขากำลังใช้เวลานี้ครุ่นคิดถึงการใช้เงินยังไงให้มีประสิทธิภาพ
' ความรู้ต่างๆเรามีหมดแล้ว เราไม่ต้องการอาจารย์ ส่วนนี้จึงตัดไป อุปกรณ์เวทมนต์ก็เสียเงินเปล่า เพราะด้วยเงินจำนวนนี้ก็ได้แต่ของคุณภาพต่ำ เราไม่อยากเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยๆ … '
อเล็กซ์ครุ่นคิดโดยการตัดสิ่งต่างๆที่ไม่จำเป็นทิ้งไป ในสมัยเป็นผู้เล่น บางครั้งก็ต้องใช้เงิน เพื่อขอให้ NPC รับเป็นศิษย์หรือค่าวิชาความรู้ อย่างเช่นพวกเวทมนต์ แต่อเล็กซ์มีความรู้จำนวนมากอยู่แล้ว เขาจึงไม่ต้องการในส่วนนี้ จึงเป็นการประหยัดเงินไปได้
ในระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ ก็มีชายหนวดเคราหนาคนหนึ่งเดินสวนเข้ามาทางเขา
อเล็กซ์จับสังเกตุได้ว่า ชายคนนี้เคลื่อนไหวค่อนข้างผิดปกติ จนกระทั่งอีกฝ่ายดูเหมือนจะพยายามเข้ามาชนตัวเขา
' พวกล้วงกระเป๋า ? '
อเล็กซ์เตรียมตัวตอบโต้ทันที ถ้ามันบังอาจมาหยิบถุงเงิน 60 เหรียญทองของเขาไป ถ้าอีกฝ่ายทำเช่นนั้น มันจะถือเป็นการแตะเกล็ดมังกรของจริงเลย เขาอาจจะลงมือมันถึงขั้นพิการเลยทีเดียว
แต่เขาก็ประหลาดใจ เมื่อพบว่าอีกฝ่ายดูเหมือนกำลังพยายามยัดบางอย่างมาให้เขา แทนที่จะพยายามขโมยบางอย่าง
' นี้เป็นทริคใหม่ของพวกโจร ? '
อเล็กซ์ไม่ได้ระมัดระวังเกินเหตุ แต่คลาส นักขโมยไม่สามารถดูถูกได้ด้วยสามัญสำนึก
ในโลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงคลาสต่อสู้ เขาเคยเจอ NPC ที่โครตจะร้ายกาจมาแล้ว
เพียงชั่วพริบตา ของทุกสิ่งของคุณจะหายไปโดยที่แทบไม่รู้ตัว พวกมันถือเป็นตัวตนอันตรายที่ต่างจากการต่อสู้
และที่สำคัญ เจ้าพวกนี้มักมาพร้อมกับคลาสอาชีพ นักแสดง ที่จะสามารถหลอกลวงคนให้ดูอ่อนแอกว่าความเป็นจริงได้ ในอาณาจักร โกลด์ไลอ้อน ก็มีเจ้าพวกที่มีความสามารถนี้อยู่หลายคน
อเล็กซ์จับถุงเงินแน่น แต่สุดท้ายก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งที่อีกฝ่ายมอบให้เขามาเป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้น
อเล็กซ์จึงเดินไปหามุมอับสายตาและกางกระดาษออกมาดู
( มาที่บาร์ บิ๊กบ็อค ในถนนตะวันออกที่ 12 ไปที่เคาน์เตอร์บาร์และเคาะโต๊ะ 3 ครั้งเบาๆและสั่งเบียร์ไม่ใส่น้ำแข็ง ถ้านายอยากรู้เรื่องของพวกแก๊งใต้ดินมากขึ้น ข้าช่วยได้ !!! )
อเล็กซ์เปิดอ่านพร้อมเผยใบหน้าเรียบเฉย เขารีบขยี้กระดาษทิ้งและกลับไปเดินถนนตามเดิม
' พวกขายข่าวหรอ ? หรือนี้อาจจะเป็นกับดัก ? '
อเล็กซ์รู้สึกสนใจ ถึงยังไงที่นัดหมายในแผนที่ ก็ยังคงเป็นภายในเมือง คนที่จะกล้าก่อเรื่องภายในเมืองแทบจะไม่มีอยู่
เว้นแต่จะเป็นพวกคลาสขั้น 3 หรือองค์กรร้ายระดับชาติ แต่ถ้าเป็นพวกนั้น มันคงไม่ต้องใช้กลวิธีซับซ้อนแบบนี้หรอก เพียงมันหายใจด้วยทักษะ อเล็กซ์ก็เป็นฝุ่นแล้ว
อเล็กซ์จึงเดินไปยังถนนที่นัดหมาย และถามผู้คนโดยรอบถึงร้าน ชื่อ บิ๊กบ็อค แต่ก่อนอื่นอเล็กซ์ก็พยายามเดินซิกแซก เพื่อให้หลุดจากสายตา พวกที่อาจจะสะกดรอยเขามา
จนทำให้เขามายืนอยู่หน้าบาร์เก่าๆในถนนห่างไกลผู้คน ที่ป้ายหน้าร้านเป็นรูปเบียร์และกล่องไม้อยู่ด้านหลัง
อเล็กซ์ผลักประตูไม้เข้าไปด้านใน ซึ่งด้านในนี้มีลูกค้ากลุ่มเล็กๆอยู่ 2 - 3 กลุ่ม
พวกเขาเงียบเสียงลงเล็กน้อย เมื่อเห็นอเล็กซ์ที่ยังดูเด็กเข้ามาในบาร์แห่งนี้
อเล็กซ์จึงกวาดตามองไปรอบข้าง แต่ก็ไม่พบพวกที่ดูเป็นภัยหรือคุกคามเลย คนพวกนี้ดูเหมือนพวกนักผจญภัยและพ่อค้ามารวมตัวกัน
อเล็กซ์เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์และเคาะ 3 ครั้งเบาๆ พร้อมกล่าวเป็นรหัสลับ
" เอาเบียร์ไม่ใส่น้ำแข็ง 1 แก้ว "
บาร์เทนเดอร์มองอเล็กซ์ด้วยความสงสัย ว่าเหตุใดเด็กที่ยังโตไม่เต็มที่เช่นนี้ถึงมาสั่งเบียร์กัน ?
แต่เขาก็สัมผัสได้ว่า เด็กคนนี้อาจจะไม่ใช่คนธรรมดา เขาจึงยอมหลับตาข้างหนึ่งและไปนำเบียร์มาให้
อเล็กซ์ค่อนข้างแปลกใจกับท่าทีอีกฝ่าย รหัสลับไม่ได้ผลอย่างงั้นหรือ ?
หรือว่าเราผู้มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานจะถูกหลอกเล่น ?
อเล็กซ์คิดว่าถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าอายเกินไปแล้ว ถ้ามันเป็นเรื่องจริงเขาจะจับไอบัดซบนั่นมาถ่วงน้ำซะ เพื่อลบความอัปยศน่าอายนี้ซะ
อเล็กซ์ขมวดคิ้วด้วยหน้าตาบูดบึ้ง แต่ในตอนนั้นก็มีคนมานั่งที่ข้างเขา
อเล็กซ์หันไปมอง และพบลักษณะที่คุ้นเคย ทำให้เขามั่นใจว่าเจ้านี้คือคนที่เดินชนเขาเมื่อครู่
แต่เจ้านี้มีหนวดและเคราดกหนาขึ้นกว่าครั้งก่อน ดูก็รู้ว่ามันปลอมตัวมา แถมมีฝีมือในด้านนี้ไม่เลว
" ขอโทษด้วยที่ต้องทำให้มันดูลึกลับ เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยหูตาของพวกมัน แถมเจ้าก็ยังถูกจับตามองอีกด้วย "
น้ำเสียงที่ฟังดูแก่ชราดังขึ้นจากอีกฝ่าย แต่อเล็กซ์ที่อยู่ใกล้พอฟังออกว่านี้เป็นการดัดเสียง
" อืม งั้นเจ้าก็บอกมาได้หรือยัง ว่าทำเรื่องยุ่งยากทั้งหมดนี้เพราะอะไร ? "
" หึๆ ฟังดูแล้วเจ้าดูไม่มีความเกรงกลัวอยู่ในหน้าตาและน้ำเสียงเลย บุคลิกก็โดดเด่นเฉิดฉาย แต่เจ้าในเวลานี้ดันไปมีเรื่องให้พวกใต้ดินหมายหัวเอา "
อเล็กซ์โดนอีกฝ่ายใช้คำประเมิน พร้อมพูดเท้าความที่ฟังดูไม่ตรงประเด็น เขาจึงอยากจะรวบรัดเรื่องราว
" ขอสรุป แบบตรงๆ "
" หึๆ เรื่องมันยาว จะสรุปให้มันสั้นๆก็อาจจะพูดคุยกันได้ไม่เคลียร์เปล่าๆ เอาหน่าขอเวลาแค่ไม่นาน "
อเล็กซ์ที่ได้ยินดังนั้น เขาก็ถอนหายใจและคิดว่าจะเสียเวลาฟังซักเล็กน้อย เผื่อมันมีประเด็นไปสู่เรื่องราวน่าสนใจ
เหตุการณ์ในครั้งนี้ อเล็กซ์รู้สึกเหมือนสมัยย้อนกลับไปเป็นผู้เล่นช่วงแรกๆ มันมักจะมีเรื่องราวลึกลับให้เราไปสำรวจ คล้ายกับเหตุการณ์ในตอนนี้
ซึ่งในแง่ผู้เล่นมันก็อาจจะคิดว่ามีภารกิจบางอย่างแฝงอยู่ พวกเขาจึงค่อนข้างกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้
อเล็กซ์จึงยอมที่จะเสียเวลาฟัง ซึ่งระหว่างนั้นเขาก็ยกแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มอย่างไม่ลังเล
" เจ้าดูไม่ระมัดระวังตัวเลยนะ ไม่คิดว่ามันจะมียาพิษอยู่งั้นหรือ ? "
" หึ เพราะข้ารู้ว่ามันไม่มี ถึงกล้าดื่มต่างหาก "
แน่นอนว่าอเล็กซ์นั้นโกหก เขามีทักษะควบคุมจักระที่รักษาค่าสถานะผิดปกติเรื่องพิษได้อย่างสบาย
แถมยังมีความสามารถต้านทานยาพิษและของเสียต่างๆ ภูมิคุ้มกันของเขาดีมาก จนไม่ต้องกลัวพวกยาพิษเลย
อีกฝ่ายหรี่ตามองอเล็กซ์และเขาก็พบว่าอเล็กซ์นั้นไม่ได้โกหก เขาจึงคิดว่าอเล็กซ์อาจจะมีคลาสหรือความสามารถเกี่ยวกับการตรวจพิษ
เพราะโลกนี้กว้างใหญ่มีคลาสและความลับไม่สิ้นสุด แถมเขาก็เคยเจอพวกมีความสามารถแปลกๆมาก็มาก เรื่องแบบนี้จึงไม่ประหลาดใจนัก
" ก่อนอื่น ข้าอยากจะบอกกับเจ้า นี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่ข้าได้พบเจ้า ครั้งแรกคือในสนามต่อสู้ที่เจ้าเอาชนะศัตรูติดต่อกันได้ถึง 10 ครั้งติด ในเวลานั้นข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าจะยิ่งใหญ่ในอนาคต แต่ก็กลัวเช่นกันว่าโลกแห่งนี้จะเกิดสัตว์ร้ายขึ้นมาอีกหนึ่งตัว …. "
" …. หลังจากนั้น เจ้าก็มีข่าวเรื่องออกอาละวาดกับแก๊งใต้ดิน จนสังหารปรมาจารย์นักสู้ไปคนหนึ่ง แต่ข้าก็ยังพบเจอเจ้าเดินตามท้องถนนได้อย่างสบายใจ …. "
" …. และก่อนหน้านี้มีข่าวเรื่องที่กองกำลังใต้ดินเกิดความวุ่นวาย หลังจากนั้นค่าหัวของเจ้าก็ขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว เจ้าบอกได้ไหมมันเกิดอะไรขึ้น ? "
อีกฝ่ายกล่าวเรื่องราวต่างๆอย่างรวดเร็ว จนมาถึงคำถามสุดท้าย ทำให้อเล็กซ์หันไปตอบอย่างไม่แน่ใจนัก
" เจ้าคงอาจจะหมายถึงหลังจากข้าสังหาร ชื่ออะไรซักอย่าง ….เกี่ยวกับเงาสังหาร หล่ะมั้ง "
" งี้นี้เอง เจ้าสังหารมือขวาคนสนิทของเจ้าอสูรฟอรัน อ๋อ ข้าหมายถึงคนที่พวกใต้ดินเรียกว่าลูกพี่กระทิงไงหล่ะ "
อเล็กซ์สังเกตุเห็นว่า ตอนที่พูดถึงชื่ออสูรฟอรัน อีกฝ่ายดูมีความเกลียดชังและความโกรธแค้นมาก เขาจึงถามอย่างสงสัย
" งั้นเจ้าก็มีความแค้นกับเจ้ากระทิงไรนี้ด้วยสินะ "
" ใช่ !!! … "
น้ำเสียงออกจากปากที่เต็มไปด้วยเคราดกหนา แม้จะมองเห็นหน้าไม่ชัด แต่ก็สัมผัสได้ถึงอารมณ์ผันผวนจากน้ำเสียงได้
" …. พ่อของข้าถูกเจ้านั่นสังหาร แถมมันยังทำให้น้องชายข้าพิการจนเขาฆ่าตัวตาย ….. "
" …. ส่วนน้องสาวข้าก็ถูกลักพาตัว ชะตากรรมในตอนนี้เป็นยังไงก็ไม่รู้ แม่ของข้ารับเรื่องทั้งหมดไม่ได้จนเกิดล้มป่วยและเสียชีวิตลง "
อเล็กซ์ได้ฟังเรื่องราวที่แสนหดหู่และรันทดราวกับละครดราม่าหลังข่าว แต่เขาก็เพียงแค่รับฟังและแสดงออกราวกับจิตแพทย์ที่กำลังคุยอยู่กับคนไข้ ไม่ได้รู้สึกใดเป็นพิเศษ
" งั้นที่เจ้ามาหาข้า ก็คือจะชวนให้ข้าร่วมขบวนการบางอย่างที่จะเป็นศัตรูกับเจ้ากระทิงสินะ "
" อึก … "
อีกฝ่ายดูนิ่งงันไปหลังจากเผยอารมณ์ออกมามาก เขาจึงพยายามบกเบียร์ขึ้นมาดื่ม เพื่อสงบอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
แต่เมื่อเขาได้ยินคำถามของอเล็กซ์ เขาก็การแสดงออกแปลกไปเล็กน้อย
" ไม่ …. ข้าไม่มีพรรคพวกหรืออะไรแบบนั้นหรอก ข้ามีเพียงตัวข้าเพียงลำพัง "
อเล็กซ์ที่ได้ฟัง เขาถึงกับหันไปมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ
' ที่แท้เป็นพวกขี้แพ้ที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เพื่อจ้องมองศัตรูแค้น
อเล็กซ์รู้ดังนี้ จึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย