NH-ตอนที่ 22 ต้องการใช้คอร์มอนสเตอร์ระดับ 1 หรือไม่?
ลุกซ์ ตระหนักได้ทันทีว่าพวกทหารยามของหมู่บ้านนั้นเก่งกาจเพียงใดในการปกป้องหมู่บ้านลีฟ
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดการระบาดของมอนสเตอร์ และ พวกเขาทั้งหมดก็ล้วนเป็นทหารผ่านศึกในพื้นที่นี้
ถึงกระนั้นจำนวน อันเดด ที่แท้จริง ก็ยังเป็นอุปสรรคที่ไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยประสบการณ์เพียงอย่างเดียว นอกจาก อันเดด ระดับต่ำ แล้ว ลุกซ์ ยังสังเกตุเห็น อันเดด ที่แข็งแกร่งกว่าบางตัวที่ปะปนไปอยู่ในฝูงอันเดดที่ตอนนี้เข้ามาใกล้ฐานของกำแพงป้องกันของหมู่บ้าน
“ชาวต่างชาติทั้งหมด เล็งไปที่โครงกระดูกและซอมบี้ที่อยู่ข้างหน้า!” อารอนได้ออกคำสั่ง “ส่วนที่เหลือ ให้เล็งไปที่ ดรักเกอร์! และฆ่าให้ได้มากที่สุด อย่าให้มันผ่านกำแพงของหมู่บ้านเข้ามาได้!”
ดรักเกอร์ นั้นคล้ายกับซอมบี้ แต่มันมีความแตกต่างที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง ก็คือ พวกมันมีสีผิวสีฟ้าและสวมชุดเกราะน้ำหนักเบา นอกจากนี้พวกมันยังแข็งแกร่งกว่าอันเดดทั่วไปและเป็นมอนสเตอร์ระดับ 1 ที่เทียบเท่ากับ มือใหม่แรงค์ D
_____
<ดรักเกอร์>
- อันเดด
- มอนสเตอร์ระดับ 1
ค่าพลังชีวิต : 2,500/2,500
มานา : 400/400
ความแข็งแกร่ง : 50
สติปัญญา : 20
ความอดทน : 50
ความเร็ว : 40
ความคล่องแคล่ว : 40
สกิล : ฟาดฟัน
_____
ลุกซ์ รู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงมุ่งเน้นไปที่การโจมตี โครงกระดูกและซอมบี้ ซึ่งเขาสามารถสังหารมันได้ด้วยการโจมตี 2-3 ครั้ง โดยใช้สกิลขว้างอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นไม่กี่นาที กองกระดูกก็เริ่มกองกันอยู่ที่ตรงฐานของกำแพงป้องกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ ลุกซ์ จะได้ทันหายใจ เขาก็อ้าปากค้างขณะที่อันเดด ได้ใช้กองกระดูกเป็นสะพานในการปีนขึ้นมาบนกำแพงของหมู่บ้านซึ่งสูงเพียง 3 เมตร
พวกอันเดดบางตัวถึงกับใช้พวกเดียวกันเป็นบันไดเพื่อพังการป้องกันของพวกมัน
อารอนได้ตะโกนออกคำสั่งและสั่งให้ทุกคนพยายามหยุดอันเดดที่พยายามเข้ามาให้ได้มากที่สุด แต่มันก็ไร้ผล
เสียงกรีดร้องที่ดังมาจากเหล่าคนแคระตัวน้อยได้ดังไปถึงหูของ ลุกซ์ ซึ่งเขาก็หันไปทางด้านซ้ายทันทีเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ดรักเกอร์ ได้ปีนขึ้นมาบนหลังเชิงกำแพงได้สำเร็จ และ แทงเข้าที่หน้าอกของผู้พิทักษ์เมืองคนหนึ่งด้วยดาบ
อารอน รีบพุ่งเข้าไปใส่ ดรักเกอร์ และ ส่งมันบินลอยกลับไปหากองทัพอันเดดด้วยการโจมตีที่ทรงพลังของค้อนมิธริลของเขา
ทหารยามของเมืองที่ถูกแทงโชคดีที่ดาบไม่ได้แทงลึกเกินไปเพราะมีการป้องกันจากชุดเกราะของเขา
ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม คิดว่าทหารคนนั้นจะถอยกลับทันที เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ คนแคระคนนั้นยังคงสู้ต่อไป
ลุกซ์ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายแสดงท่าทีเจ็บปวดออกมา แต่เขาก็พยายามบังคับฝืนตัวเองให้เหวี่ยงกระบองไปที่ อันเดด เหล่านั้น ในขณะที่มือของเขาพยายามกดหน้าอกที่เปื้อนเลือดเอาไว้
“ใครก็ได้รีบรักษาเขาที!” ลุกซ์ ตะโกนขณะที่ เดียโบล ปัดป้องการโจมตีด้วยดาบที่ ลุกซ์ ไม่สามารถป้องกันได้ เนื่องจากความเป็นกังวลเกี่ยวกับสภาพของทหารยาม
ชายหนุ่มผมแดงรู้ว่าแม้โลกนี้จะคล้ายกับเกม แต่มันก็ไม่ใช่แบบนั้น
ในเอลิเซียม ทุกคนไม่ใช่ NPC แต่เป็นคนที่มีลมหายใจจริงๆ ซึ่ง เอลิออน ก็ตอกย้ำข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้กับเขาตั้งแต่ก่อนที่เขาจะมาถึงโลกที่แปลกประหลาดนีี้ โดยหวังว่า ลุกซ์ จะไม่ปฏิบัติต่อทุกสิ่งราวกับว่าเขากำลังเล่นเกม RPG
“สนใจสิ่งที่อยู่ข้างหน้าของนายก็พอ!” หนึ่งในทหารรักษาการณ์เมืองที่กำลังต่อสู้ใกล้ลุกซ์ ได้ตะโกนและทุบโล่ของเขาลงบนหัวของซอมบี้ “เขาจะไม่เป็นไรหลังจากได้ดื่ม หนึ่งหรือสองแก้ว หลังจากนั้น ดังนั้นจงแกว่งดาบบ้า ๆ พวกนี้ต่อไป!”
ลุกซ์ กำลังจะโต้เถียง แต่ดาบของโครกระดูกได้ฟันเข้ามาที่ใบหน้าของเขาเพื่อขัดขวางไม่ให้เขาทำเช่นนั้น ลุกซ์ ได้ยก ดอว์น ขึ้นทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี และ ใช้ โล่โจมตี เพื่อทุบศีรษะของโครงกระดูกเป็นชิ้นๆ
‘พวกเราจะยื้อได้จนครบชั่วโมงในสถานการณ์เช่นนี้ได้ยังไง!’ ลุกซ์ กัดฟันแน่นขณะที่เขาและเดียโบล ฟันเข้าใส่พวกมอนสเตอร์ในตอนนี้
ทุกคนต่างก็ต่อสู้ด้วยทุกสิ่งที่พวกเขามี ไม่ว่าจะเป็น ทหารรักษาการณ์ของเมือง โคเล็ตต์และสมาชิกปาร์ตี้ของเธอ รวมถึงคนแคระคนอื่น ๆ โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ
ลุกซ์ สั่งให้ หมาป่าพงไพรของเขา ไปคว้าจับเด็กคนแคระที่ตกลงมาจากกำแพงและสั่งให้พาเธอไปที่หมู่บ้านเพื่อรักษา แม้ว่าจะมีนักบวชมากกว่า 10 คนที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ แต่ก็มีคนมากเกินไปที่ต้องการได้รับการรักษา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเวลามากพอที่จะรักษาทุกคน
ในส่วนของพวกเขา ทหารรักษาการณ์เมือง ได้พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องเด็ก ๆ ที่กำลังต่อสู้เคียงข้างพวกเขา สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และ ในขณะที่คนอื่น ๆ ได้เสียชีวิตไปพร้อมกับเหล่าเด็ก ๆ ที่พวกเขาปกป้อง เนื่องจากพวกอันเดดตอนนี้ได้ตั้งหลักที่แนวป้องกันแรกของพวกเขาแล้ว
โคเล็ตต์ และ แมทตี้ ได้ถูกซอมบี้จำนวนมากผลักให้ล่าถอยออกไป ในขณะที่ ทหารรักษาการณ์เมืองก็มุ่งความสนใจไปที่ดรักเกอร์ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อชาวต่างชาติมากกว่าพวกอันเดดระดับต่ำ
เมื่อเห็นว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บในลักษณะนี้มากขึ้น อารอน จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสั่งให้ทุกคนล่าถอยและใช้กลยุทธ์การรบแบบกองโจรกับพวกอันเดด
“แล้วพวกชาวบ้านล่ะ?” โคเล็ตต์ กล่าวถามทหารรักษาการณ์เมืองคนหนึ่งที่ช่วยพวกเขาล่าถอยออกมาจากแนวหน้า “พวกเขาอพยพไปแล้วงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วสาวน้อย” ทหารรักษาการณ์เมืองได้ตอบกลับ “ตอนนี้พวกเขาได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในที่หลบภัยใต้ดิน วางใจเถอะ ที่นั่นปลอดภัยกว่าที่ที่พวกเราอยู่มาก ดังนั้น รีบไปกันได้แล้ว อย่าปล่อยให้พวกอันเดดกัดเธอ!”
เวลาได้ผ่านไปหลายนาที หลังจากที่ฝ่ายป้องกันปะทะเข้ากับฝูงอันเดด ชาวบ้านบางคนเลือกที่จะไม่ได้หนีไปยังศูนย์หลบภัย แต่ตัดสินใจต่อสู้กับพวกอันเดด โดยใช้หน้าไม้ยิงใส่พวกมันจากหลังคาบ้าน
คนอื่น ๆ ที่อยู่บนพื้น พวกเขาก็เหวี่ยงขวานไปทางซ้ายและขวาเพื่อปกป้องครอบครัวของพวกเขาในขณะที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่หลังกำบัง
ลุกซ์ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเคลื่อนย้ายพวกคนแคระที่ได้รับบาดเจ็บไปทางด้านหลังของสนามรบ ที่ตอนนี้มีนักบวชคอยรักษาอยู่
ในบางครั้ง ก็มีเพียง หมาป่าพงไพร หรือ ลุกซ์ เท่านั้นที่แบกคนแคระได้ เพราะเขากลัวว่าคนป้องกันเหล่านี้จะคิดว่า เดียโบล เป็นศัตรู โดยไม่ได้ตั้งใจ
แม้ว่า เดียโบล จะเป็นโครงกระดูกขาวที่บริสุทธิ์และโดดเด่นกว่าอันเดดตัวอื่น ๆ แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่ามันเป็นอันเดด เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เขาได้สั่งให้สิ่งมีชีวิตมีชื่อของเขาได้ต่อสู้เคียงข้างกับปาร์ตี้ของโคเล็ตต์ในขณะที่เขาพยายามปกป้องทุกคนอย่างสุดความสามารถ
เดียโบล ได้เสียชีวิตไปแล้วทั้งหมด 3 ครั้ง สำหรับความพยายามในการปกป้อง ลุกซ์ และ คนแคระคนอื่น ๆ จากฝูงอันเดด ที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดอาละวาด
ขณะที่ ลุกซ์ กำลังอุ้มเด็กชายคนแคระที่ถูก นักรบโครงกระดูกแทง เขาก็พบว่าตัวเองนั้นถูกขัดขวางโดย ดรักเกอร์ ที่เพิ่งสังหารทหารรักษาการณ์เมืองไปคนหนึ่ง แม้ว่า มอนสเตอร์ระดับ 1 นี้ จะไม่มีแขน แต่มันก็ยังเป็นมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาในตอนนี้จะรับมือได้
ถ้าเกิดเขาทิ้งเด็กชายคนแคระและวิ่งหนีไป มันก็พอจะช่วยชีวิตเขาได้ แต่เด็กชายจะต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอนภายใต้การคืบคลานเข้ามาของมัน
ขณะที่ ลุกซ์ กำลังตัดสินใจอย่างบ้าคลั่ง ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ร่างของ ดรักเกอร์ ก็ระเบิดเป็นเปลวไฟ จนเหลือเพียงคอร์มอนสเตอร์สีฟ้าอยู่เบื้องหลัง
“รีบไปเร็ว” เสียงคุ้นเคยได้ดังมาถึงหูของ ลุกซ์ “ฉันจะซื้อเวลาให้เธอเอง”
ลุกซ์ จ้องมองไปที่หญิงชราคนแคระที่ถือไม้เท้าในมืออย่างไม่เชื่อสายตา
“คุณย่าแอนนี่?” ลุกซ์ พึมพัมออกมา
“ใช่ เป็นฉันเอง” แอนนี่ กล่าวพูดขณะที่เธอเปิดขวดเล็ก ๆ และเทยาครึ่งหนึ่งลงบนบาดแผลของเด็กชายก่อนที่จะปล่อยให้เขาดื่มส่วนที่เหลือ
ไม่กี่วินาทีต่อมา สีหน้าเด็กชาย ก็ดีขึ้นแม้ว่าจะยังปรากฏอาการสั่นเทาก็ตาม
“รีบไปจากที่นี่ ฉันจะต้านมันไว้เอง” แอนนี่ สั่งขณะที่เธอเคาะปลายไม้เท้าลงบนพื้น ทันใดนั้น ลูกบอลไฟเล็ก ๆ หลายลูกก็หมุนวนรอบตัวของเธอ และ เธอก็เข้าเผชิยหน้ากับโครงกระดูกนับ 10 ที่พุ่งมาทางพวกเขา
“รีบไปหลบหลังหมู่บ้านเร็ว” ลุกซ์ กล่าวพูดกับเด็กชายคนแคระที่ยังไม่หายดีพอที่จะสู้ต่อ “ฉันจะไปช่วยคุณย่าแอนนี่”
เด็กชายคนแคระพยักหน้าขณะที่เขารีบวิ่งออกจากตำแหน่งของพวกเขา
“เด็กโง่ ฉันบอกให้เธอหนีไปไม่ใช่เหรอ?” แอนนี่ พูดขณะที่เธอชี้นิ้วไปที่พวกโครงกระดูกที่กำลังเข้ามา “ลูกบอลไฟ!”
ทันใดนั้น ลูกบอลทรงกลมเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบร่างกายของ แอนนี่ ก็ถูกยิงออกไปยัง โครงกระดูกหลาย 10 ตัวที่เข้ามาใกล้ สิ่งนี้ได้ทำลายหัวของพวกมันจนหมดสิ้น
ร่างของโครงกระดูกได้พังทลายและไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกเลย
“เธอพยายามได้ดีมาก เด็กน้อย” แอนนี่ หยิบลูกแก้วสีน้ำเงินที่ดรักเกอร์ทำตกเอาไว้ขึ้นมา และ มอบให้กับลุกซ์ “นี่ถือเป็นรางวัลความพยายามของเธอที่ตัดสินใจช่วยเหลือทุกคน”
ลุกซ์ จ้องมองไปที่ ลูกแก้วสีน้ำเงิน โดยต้องการจะปฏิเสธความปราถนาดีของหญิงชรา แต่ แอนนี่ กลับไม่คิดให้เขาปฏิเสธ
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะหยุดอยู่แค่นี้ ดังนั้นจงใช้คอร์มอนสเตอร์นี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมาสักนิดเถอะ” แอนนี่ ได้กล่าวออกมา “อย่างที่เธอเห็น วันนี้เป็นค่ำคืนที่วุ่นวาย และ ฉันอาจจะเปิดร้านไม่ได้ในตอนเช้าเพราะมอนสเตอร์เหล่านี้”
หญิงชรามองไปที่พวกอันเดดที่กำลังรุมหมู่บ้านของเธอด้วยสายตาที่เกลียดชัง
“ถ้าเสร็จแล้วก็ตามฉันมาก็แล้วกัน” แอนนี่สั่ง “ถ้าเธอโชคดี เราอาจจะได้รับคอร์มอนสเตอร์ เพิ่มเติม จากดรักเกอร์ที่เราเจอระหว่างทางก็ได้”
ขณะที่ แอนนี่ เดินจากไป ลุกซ์ ก็จ้องมองไปที่ คอร์มอนสเตอร์ในมือก่อนที่จะตัดสินใจ
_____
<ติ๊ง!>
<คุณต้องการใช้คอร์มอนสเตอร์ระดับ 1 หรือไม่>
<ใช่/ไม่ใช่>
“ใช่” ลุกซ์ ตอบอย่างมุ่งมั่น เขารู้ว่าคุณย่าแอนนี่พูดถูก ถ้าเขาต้องการช่วยเหลือผู้คนมากกว่านี้ เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นก่อน