ตอนที่แล้วตอนที่ 65 ฟักทองแห่งความขลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 67 เส้นเลือดแร่

ตอนที่ 66 ราชันคืออะไร


ตอนที่ 66 ราชันคืออะไร

การเพาะปลูกไวกว่าที่เขาคิดไว้มาก

เมื่อใกล้จะ มืดแล้ว หลิน ยู ก็ได้รับข่าวว่าการเพาะปลูกได้เสร็จแล้ว

พวกเขา ปลูกมันตรงแนวกำแพงด้านนอกเมือง มันเป็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ เอาไว้ใช้กันลมและทราย

สิ่งที่ทำให้ หลิน ยู อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา คนเหล่านี้คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตที่ยากลำบาก ทำให้พวกเขาคุ้นเคยกับการทำงานหนัก

เมื่อฟ้าเริ่มมืดลง หลิน ยู จึงส่งมังกรปิศาจพฤกษา บินไปเหนือเมืองหวงซา เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของชาวเมือง

คาดไม่ถึงว่าเมื่อเขาจะไม่มีเสียงร้องเพลงหรือการเฉลิมฉลองอย่างมีชีวิตชีวาเลย

ตรงกันข้ามทุกคนต่างพากันถือถุงผ้าและรีบกลับบ้านของตนด้วยสีหน้าที่มีความสุข

"แม่คะ มีเนื้อให้กินบ้างไหมคะ"

บนถนน เด็กผู้หญิงตัวเล็ก มองไปยังถุงผ้าที่อยู่ในมือของแม่ของเธอที่อยู่ข้างๆ

ใบหน้าของหญิงสาวมีสีเหลือง เธอผอมจนแก้มของเธอตอบเข้าไปข้างใน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสุขที่เปี่ยมล้น

เธอพูดเบาๆ "แน่นอนลูก นายท่านส่งเนื้อมาให้เรามากมายในวันนี้ โดยบอกว่ามันเป็นรางวัลสำหรับพวกเราที่เพราะปลูกพืชผลได้สำเร็จ คืนนี้เราจะนำมันออกมาทำน้ำซุปซักหน่อย แล้วเก็บส่วนที่เหลือไว้ทำเป็นเนื้อตากแห้ง เอาไว้กินภายภาคหน้า"

"เยี่ยมไปเลย วันนี้ฉันจะได้กินน้ำซุปเนื้อด้วย!"

สาวน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

ราวกับว่าการดื่มน้ำซุปนี้มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ

ฉากที่คล้ายกันจำนวนมากปรากฏขึ้นทั่วทุกมุมของถนนในเวลานี้ ดังนั้น หลิน ยู จนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว มือกำแน่นจากนั้นจึงค่อยๆคลายมันออก

ชาวบ้านเหล่านี้...

คงจะผ่านชีวิตที่ยากลำบากมาอย่างแสนสาหัส

พวกเขาไม่เต็มใจที่จะกินเนื่อสัตว์ทั้งหมดที่ได้รับ จึงเลือกที่จะเก็บไว้และกินมันอย่างช้าๆ

โชคดีที่ เซียว ฉางกุ้ย ได้บอกว่านี้คือรางวัลที่เขามอบให้ชาวเมืองเนื่องจากได้เพาะปลูกพืชผลของพวกเขาสำเร็จ คิดว่ามันจะช่วยทำให้พวกเขาสบายใจยิ่งขึ้น

หลิน ยู อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ขณะเดียวกันก็เกิดอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้ออกมา

ราชันคืออะไรกัน?

ราชันนั้นเป็นทั้ง นายเหนือหัวและเสาหลักของดินแดน

เมื่อเทียบกับในอดีต หลายสิ่งหลายอย่างที่เขาได้เผชิญอยู่ในตอนนี้ บางทีตัวเขาอาจจะเรียกได้ว่าเป็น ราชัน อย่างแท้จริงแล้ว

ยิ่งกว่านั้น เขายังหวังว่าจะให้ผู้คนในเมืองหวงซามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมอบพลังศรัทธาให้กับเขา

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลิน ยู ก็เปิดดูข้อมูลอาณาเขต พบว่า พลังศรัทธาที่พวกด้านล่างอาณาเขตเป็นขึ้นมา 3 จุด

ดูเหมือนว่าการกระทำของเขาในวันนี้ จะทำให้เหล่าชาวเมืองรู้สึกว่านี้หล่ะ ราชันของพวกเขา เคารพเขาในฐานะนายเหนือหัวจากใจจริง ที่สุดแล้วพลังศรัทธาก็จะเพิ่มขึ้น

ไม่น่าแปลกใจเลยทำไมเขาถึงรู้สึกว่าแข็งแกร่งขึ้นมาเล็กน้อย

หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไปแบบนี้ คงอีกไม่นานที่เขาจะสะสมพลังศรัทธาได้ครบ 500 แต้มเพื่อเลื่อนระดับ

เขาปิดข้อมูลอาณาเขตลงไป จากนั้นเปิดช่องแชทภูมิภาคขึ้นมา

เรื่องจากท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืดแล้ว ข่าวสารในช่องก็เริ่มมากขึ้น ราชันหน้าใหม่หลายคนปรากฏตัวขึ้น

"พี่น้อง ผมขอถามหน่อย ผมอยู่ที่นี้มาได้ 1 วันและ ทำไมพลังศรัทธาถึงไม่เพิ่มขึ้นเลย"

"ฉันก็เหมือนกัน ฉันได้รับอาณาเขตที่มีประชากรถึง 5000 คน แต่มันไม่เพิ่มขึ้นเลยแม้แต่แต้มเดียว"

"เจ้าหน้าใหม่ พลังศรัทธาไม่ใช่ว่ายิ่งคนเยอะก็ยิ่งเติบโตเร็วนะ รู้จักความเชื่อมั่นไหม นายต้องทำให้พวกเขาศรัทธาในตัวนาย"

"นี้คิดว่ากำลังเล่นเกมคนเดียวอยู่งั้นเหรอ นายรู้ไหมว่าราชันคืออะไร อย่าเป็นราชันถ้าหากจัดการคนของตัวเองไม่ได้"

"ฮ่าๆ อย่าไปหัวเราะเยอะพวกหน้าใหม่เลย พวกเขาเพิ่งมาถึง เขาจะไปรู้ได้ยังไงกัน"

"ใช่แล้ว ตอนที่ฉันมาที่นี้ครั้งแรก ฉันก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือน ตอนนี้ก็ถึงตาของพวกนายแล้วพวกหน้าใหม่ หัดลองเองซะบ้าง"

"ข้อความละ 100 พลังเวทย์ ออกจากแชทนี้กันเถอะ..."

แน่นอน เป็นอย่างที่ เหล่า โม่ บอก มีราชันหลายคนที่อยู่ในอาณาจักรก่อนพวกเขา

ทันทีที่พวกเขาเห็นราชันหน้าใหม่ พวกเขาก็เริ่มล้อเลียนทันที โดยบอกพวกราชันหน้าใหม่เหล่านั้นให้ทำอะไรเองซะบ้าง

อย่างไรก็ตาม หลิน ยู ก็ยังได้ข้อมูลสำคัญจากการสนทนาของพวกเขา

การเพิ่มพลังศรัทธาไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรเพียงอย่างเดียว

แม้ว่าจำนวนจะมีผล แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือพวกเขาต้องรู้สึกว่าราชันคนนี้สามารถที่จะนำพวกเขาให้อยู่รอดในดินแดนนี้ได้

เช่นเดียวกับผู้คนของเขาในตอนนี้

ช่างเป็นวันที่มีความสุข

เขารู้วิธีที่จะได้รับมันแล้ว ด้วยพลังศรัทธาที่เพิ่มขึ้น 3 จุดนี้หมายความว่าเขาได้นำหน้าราชันหน้าใหม่เหล่านั้นทั้งหมดแล้ว

หลังจากดูช่องแชทภูมิภาคกับช่องแชทโลกอยู๋ระยะหนึ่งเขาก็ไม่พบกับข่าวเกี่ยวกับการปิดกั้นภูมิภาคเลย

การสืบหาเบาะแสจากที่นี้คงไม่ง่ายนัก

สุดท้ายแล้ว ราชันที่เป็นตัวการ เขาไม่ใช่คนโง่ จะเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปได้ยังไง

ด้วยความผิดหวัง หลิน ยูปิดช่องแชทก่อนจะไปทำอย่างอื่น

ท้ายที่สุดเขาเพิ่งจะย้ายมาที่นี้ มีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ไม่มีเวลามาดูคนคุยกันหรอก

เขาหลับไปในที่สุด

....

เช้าวันรุ่งขึ้น

หลิน ยู ตื่นขึ้นในตอนเช้า

หลังจากที่อาบน้ำสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เขาก็เดินลงมาที่ด้านล่าง

หลังจากที่สะสมพลังเวทย์มา 1 คืนเต็นๆ ดอกบัวเพลิงโลกันต์ได้มอบพลังเวทย์ให้เขามากว่า 300 แต้ม

[ชื่ออาคาร : ดอกบัวเพลิงโลกันต์]

[ระดับอาคาร : ระดับ 6]

[ได้รับทรัพยากร : 30 พลังเวทย์/ชั่วโมง ]

[หมายเหตุ : ดอกบัวที่ผลิตพลังเวทย์สามารถที่จะเติบโตได้ในทุกสภาพแวดล้อม ระดับของมันขึ้นอยู่กับระดับดินแดน]

ดอกบัวเพลิงโลกันต์เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 6 พลังเวทย์ที่ให้ผลิตให้ต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้นเป็น 30 แต้ม

แม้ว่ามันจะมาก แต่มันก็เหมือนน้ำ 1 หยดในถังสำหรับเขา

มันไม่พอที่จะใช้สร้างอาคารใหม่

เช่นเดียวกับเกาะป้องกันดินแดน ที่เขาเพิ่งค้นพบ

[ชื่ออาคาร : เกาะป้องกันดินแดน]

[คำแนะนำสิ่งปลูกสร้าง : เมื่อดินแดนถูกโจมตี ระบบจะเปิดเกาะป้องกันอัตโนมัติเพื่อป้องกันดินแดน ความแข็งแกร่งขึ้นอยู่กับจำนวนชาร์จ ยิ่งระดับดินแดนสูงมากเท่าไร ปริมาณพลังเวทย์ที่ใช้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และจำเป็นต้องชาร์จใหม่หลังจากเกาะเปิดการใช้งาน]

[การใช้ชาร์จเกาะ : (ระดับดินแดน*1000)พลังเวทย์/ครั้ง]

[วัสดุที่ใช้ : หิน 500 หน่วย ผงเวทย์ 500 หน่วย พลังเวทย์ 2500 แต้ม]

หลิน ยู ตั้งหน้าตั้งตารอเกาะป้องกันนี้มานานแล้ว

พอหาเจอในรายการสร้างเมื่อวานนี้เขาก็ดีใจอยู่นาน

ตราบใดที่เขามีโล่นี้ ดินแดนของเขาก็จะปลอดภัยมากขึ้น

ไม่ต้องกังวลว่าดินแดนจะถูกบุกโจมตีจนถูกทำลาย

พลังเวทย์ 6000 แต้มที่ต้องใช้เพื่อชาร์จสำหรับดินแดนระดับ 6 นั้น ถือว่ายอมรับได้ สุดท้าย มันจะเปิดในช่วงที่วิกฤตจริงๆเท่านั้น

แต่ผงเวทย์นี้ทำไมนิ่งงันไป เขาไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนเลย หลังจากกินอาหารง่ายๆ หลิน ยู จะติดต่อหา ซู๋จง ผู้ช่วยของ เซียว ฉางกุ้ย ถามเขาเกี่ยวกับบริเวณโดยรอบ

"เรียนนายท่าน ท่านต้องการถามว่ามีมอนสเตอร์และผงเวทย์หาที่ได้จากที่ไหนใช่ไหม" ซู๋จง ที่ยืนอยู่ตรงหน้า หลิน ยู ด้วยความเคารพ

"ใช่" หลิน ยู พยักหน้า "เนื่องจากคุณอยู่ที่นี้มานาน น่าจะพอรู้อะไรบ้างใช่ไหม"

"แน่นอนว่าข้าน้อยรู้ว่ามีการขายผงเวทย์กับพ่อค้าที่สัญจรไปมาเป็นครั้งคราว ส่วนมอนสเตอรนั้นสามารถหาได้ในส่วนลึกของโกบีเท่านั้น"

"แล้วมีพ่อค้าจะแดนใดผ่านมาที่นี้บ้าง"

หลิน ยู รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้ยิน

"เพราะที่นี้เป็นทางแยกระหว่างอาณาจักรหวงหวู่ กับ อาณาจักรเย่วฮวา บางครั้งก็จะมีพ่อค้าเดินทางจากมากอาณาจักรหวงหวู่ข้ามโกบีเพื่อทำการค้าขาย ข้าวของหลายอย่างของเราซื้อมาจากพ่อค้าเหล่านั้น"

"พรมแดนระหว่าง 2 อาณาจักร?"

"ใช่ หากผ่านโกบีไปที่นั้นคืออาณาจักรเย่วฮวา" ซู๋จง ตอบด้วยความเคารพ "แต่ข้าน้อยได้ยินว่าเมื่อเร็วๆ เกิดความวุ่ยวานขึ้นภายในส่วนลึกของโกบี ทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าไปใน โกบีได้ กว่าพ่อค้าจะมาน่าจะต้องใช้เวลาอีกนาน"

"อย่างนี้นี่เอง"

หลิน ยู ตระหนักได้ทันที

เขาไม่คิดว่าหลังจากข้ามโกบีไป มันจะกลายเป็นอีกอาณาจักร 1 ดูเหมือนว่าที่นี้จะค่อนข้างอยู๋ห่างไกล

แต่มันก็เป็นโอกาศครั้งยิ่งใหญ่ของเขาเช่นกัน

หากเขาสามารถเปิดการค้าขายระหว่าง 2 อาณาจักรได้ แน่นอนว่ามันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาดินแดนของเขา นี้มันดีซะยิ่งกว่าราชันที่ได้รับมอบหมายถึงดูแลอาณาเขตที่มั่งคั่ง!

แต่ทันใดนั้น หลิน ยู ก็นึกคำถามได้และพูดว่า :

"เดี๋ยวนะ ถ้ามันเป็นไปตอบที่คุณบอก โกบีต้องเต็มไปด้วยมอนสเตอร์แน่ๆ แล้วพ่อค้าพวกนั้นเดินทางข้ามมาได้ยังไงกัน"

"นายท่าน ท่านไม่รู้เกี่ยวกับผู้ฝึกตนงั้นหรือ?"

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด