ตอนที่แล้วตอนที่ 64 แผนการผงาดขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 66 ราชันคืออะไร

ตอนที่ 65 ฟักทองแห่งความขลาด


ตอนที่ 65 ฟักทองแห่งความขลาด

หลังจากเปิดหน้าต่างอัญเชิญทหารแล้ว หลิน ยู ก็ตรวจสอบดู

ทหารที่อัญเชิญออกมาได้ยังคงเป็นหน่วยเดิมอยู่ แต่ขีดจำกัดเพิ่มขึ้นเป็น 120 ตัว มันเพิ่มเป็น 2 เท่าจากเมื่อก่อน

เมื่อพิจราณาว่าหลังจากที่เขาเลื่อนระดับ หอคอยทหารเป็นระดับ 6 แล้วเขาสามารถวิจัยและอัญเชิญมันออกมาได้โดยตรง

เขาจะไม่ได้ใช้พลังเวทย์ ทั้งหมดไปกับการอัญเชิญ

ท้ายที่สุด ตอนนี้เขาเหลือพลังเวทย์เพียง 3000 แต้ม เขาต้องประหยัดพลังเวทย์เอาไว้ก่อน

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก็มีพืชเพียง 10 ตัวที่ได้รับการอัญเชิญออกมา

เมื่อมองไปที่กลุ่มแสงด้านหน้าหลิน ยู เขาก็ได้ใช้ความสามารถกลายพันธุ์กับ 1 ในนั้นทันที

[คุณได้ใช้ความสามารถกลายพันธุ์กับทหารระดับ 5 ใช้พลังเวทย์ 100 แต้ม คุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่ ? ]

"ใช่"

แสงสว่างห่อหุ้มเหล่ากลุ่มแสงที่อยู่ตรงหน้าหลิน ยู ได้เปลี่ยนรูปของมันให้กลายฟักทอง

เขาตกตะลึงทันที ไม่คาดคิดว่าจะได้เป็นทหารประเภทใหม่ที่ยังไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน

เขารีบตรวจสอบข้อมูลของมันทันที

[ชื่อ : ฟักทองแห่งความขลาด]

[เผ่าพันธุ์ : พฤกษา ]

[ระดับ : ระดับ 5 (0/250)]

[ความแข็งแกร่ง : 0]

[ร่างกาย : 50]

[ความว่องไว : 200]

[วิญญาณ : 150]

[สกิล : ฟักทองหลบหลีก (ถอนรากออกและกลิ้งหลบด้วยความเร็วสูง) , หว่านเมล็ด (กระจากเมล็ดฟักทองไปยังพื้นที่ๆกำหนด มันสามารถเติบโตได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย สามารถนำมากินได้)]

[หมายเหตุ : มันขี้ขลาดอย่างมากจะวิ่งหนีทันทีเมื่อเจออันตราย]

หลิน ยู "..."

เมื่อเห็นค่าสถานะของฟักทองแห่งความขลาดตรงหน้าเขา ในหน้าของ หลิน ยู ก็ปรากฏเส้นเลือดดำ

ฟักทองแห่งความขลาด

มันเป็นพืชที่ขี้กลัว

เพื่อที่ให้มันหลบหนีง่าย ตัวมันเลยมีแต่ความว่องไว

เขาไม่คิดเลยว่าจะมีพืชที่แปลกแบบนี้อยู่ทหารพื้นฐานที่ถูกปลดล๊อก นี้มันเรื่องบ้าอะไรเนี้ย

แต่ทันใดนั้น หลิน ยู ก็ค้นพบข้อดีของฟักทองแหละความขลาดนี้

สกิล หว่านเมล็ด

แถมมันยังเติบโตได้แม้สภาพแวดล้อมที่เลวร้าย

นี้มันสิ่งที่เขาขาดมากที่สุดในดินแดนของเขาไม่ใช่หรือ?

แม้ว่าฟักทองจะไม่ใช่อาหารหลัก แต่ว่ามันก็ถือว่าเป็นอาหารอยู่

อีกทั้งยังมีปริมาณน้ำตาลสูงมากจึงเหมาะกับนำไปปลูกให้ฝูงชน

"งั้นเรา มาลองหว่านเมล็ดที่นี้กัน!"

หลิน ยู ชี้ไปที่พื้นที่โล่งข้างๆ เขาบอกกับเจ้าฟักทองจอมขลาดนี้

หลังจากได้รับคำสั่งฟักทองแห่งความขลาดก็ถอนรากของมันออกจากพื้น กลิ้นมาที่เท้าของ หลิน ยู หว่านเมล็กสีเหลืองออกมาตรงหน้าเขา มันหายจมไปในดิน

จากนั้นเจ้าฟักทองก็นำรากของมันก็แทงลงไปในดินบิดไปมาอยู่ข้างๆแปลงฟักทอง ดูมีความสุขนิ่งนัก

หลิน ยู มองไปยังฟักทองเหล่านั้นด้วยท่าที ประหลาดใจ

ใข้เวลาเพียงไม่กี่นาที ดอกตูมๆก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นมันโตขึ้นอย่างช้าๆ ภายใต้แสงแดดอ่อนๆ

หลิน ยู รู้ว่าเพราะเมล็ดพวกนี้มันถูกปลูกอยู่รอบๆต้นไม้แห่งชีวิต มันจึงเติบโตได้อย่างรวดเร็จ

ถ้าหากเขานำไปปลูกในเมืองหวงซา มันคงไม่เติบโตไวแบบนี้

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็คิดที่จะให้ชาวเมืองปลูกอยู่ดี

เพราะท้ายที่สุดแล้ว พืชธรรมดาไม่มีทางที่โตขึ้นที่นี้ได้ มีเพียงเมล็ดพันธุ์จากเขาเท่านั้นถึงสามารถปลูกได้

หลิน ยู ไม่คาดคิดว่าสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายแบบนี้ จะถูกข้อดีของเผ่าพฤกษาของเขาแก่ปัญหาได้อย่างง่ายดาย

ต่อไป

หลิน ยู ยังคงกลายพันธุ์วิญญาณพืนที่เหลืออีก 9 ตัว

ผลลัพธ์มันเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้ มันมีความหลากหลายมากขึ้นในการกลายพันธุ์ มีทั้งข้าวสาลีที่กลายพันธุ์ มันฝรั่งกลายพันธุ์ แม้แต่ฟักทองก็มีมาเพิ่ม

พวกมันสามารถเติบโตได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ซึ่งพวกจะมาช่วยขยายแปลงเพาะปลูกให้กับเขาได้

ส่วนที่เหลืออีกครึ่งพวกมันกลายพันธุ์เป็นพืชสายต่อสู้ที่เขาคุ้นเคย แต่ไม่มีพืชชนิดใหม่ออกมา

คาดว่าเพราะจำนวนทหารที่เขากลายพันธุ์น้อยเกินไป

ดูเมื่อวานเราจะทดลองเรื่องนี้ได้อีกครั้ง หลังจากที่เรารวบรวมพลังเวทย์ได้มากกว่านี้ในอนาคต

สำหรับพลังเวทย์ที่เหลืออีก 1000 แต้ม เขาก็เก็บไว้ก่อนเผื่อกรณีฉุกเฉิน

ในกรณีฉุกเฉินนั้น เขาสามารถอัญเชิญมังกรปิศาจพฤกษาระดับ 5 และ แม่มดลวงตา ระดับ 5 ออกมาได้เลย

ในตอนนี้ปัญหาเรื่องของความปลอดภัยและอาหารได้รับการแก้ไขแล้ว

ต่อไปคือเรื่องของการสร้างเมืองหวงซาขึ้นมาใหม่รวมถึงสำรวจทรัพยากรต่างๆ การรวบรวมข้อมูล พร้อมทั้งสำรวจบริเวณโดยรอบ

มีหลายสิ่งที่ต้องทำมากมาย หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลนัก

ถ้าพูดถึงเรื่องดีๆ หลังจากที่สะสมค่าประกบการณ์อยู่ในดินแดนมาหลายวัน ชิงถัง ก็ได้รับการเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 6 ได้สำเร็จ ราชาปิศาจเห็ดก็ก้าวขึ้นสู่ระดับ 5 เช่นกัน

จากการที่ ชิงถัง เลื่อนเป็นระดับ 6 ทำให้ป่าเถาวัลย์ขยายออกไปเพิ่มจาก 100 เมตรเป็น 200 เมตรก่อตัวเป็นป่าที่น่าหวาดกลัวล้อมรอบดินแดนของเขาเอาไว้

ถ้ามองจากระยะไกล เขาต้องคิดว่ามันเป็นรากของต้นไม้แห่งชีวิตแน่ๆ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

มาพูดถึงราชาปิศาจเห็ด

ความรุนแรงของระเบิดเห็ดของมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก ระเบิดของมันทำให้เกิดหลุดขนาดยักษ์ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

และด้วยความตื่นเต้นของมัน ถ้าหาก หลิน ยู ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นมันคงได้ระเบิดเมืองหวงซาเป็นจุลไปแล้ว

เขามองไปที่ราชาปิศาจเห็ดที่กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่ไกลๆ

หลิน ยู ยิ้มกว้างออกมา เข้าส่งมังกรปิศาจพฤกษา ออกไป เพื่อแจ้งกับ เซียว ฉางกุ้ย ว่าให้ส่งผู้ช่วยของเขาเข้ามา ขณะเดียวกันก็ให้เหล่าพืชกลายพันธุ์ทั้งหลายเริ่มผลิตเมล็ดออกมาให้พร้อมที่จะแจกจ่ายให้กับชาวเมืองนำไปเพาะปลูก

ผ่านไป 10 นาที

เซียว ฉางกุ้ย พาลูกน้องเขามารอที่ด้านนอกของป่าเถาวัลย์เขาเดินเข้าไปข้างในด้วยความหวาดกลัว

เถาวัลย์ที่ดูน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ ได้หลีกทางให้พวกเขาเดินเข้ายังดินแดนของ หลิน ยู

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้ง 2 ก็เข้ามาถึงในดินแดน

"ทำไมคุณถึงมาอยู๋ที่ ผมบอกให้ผู้ช่วยของคุณมาไม่ใช่หรือ?"

หลิน ยู ที่กำลังเก็บเมล็ดอยู่มองไปที่พวกเขา 2 คน

"เรียกนายท่าน ถ้าหากเป็นเรื่องนี้เกี่ยวกับท่านแน่นอนว่าข้าต้องมาด้วยตัวเอง"

เซียว ฉางกุ้ย ชอบพูดอย่างเป็นทางการขณะแอบสังเกตสภาพแวดล้อม ดวงตาของเขาก็ตกตะลึง

ที่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นดินแดนยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แม้แต่ราชันคนก่อนหน้านี้ดินแดนของเขาก็ยังไม่ถึงขนาดนี้

โดยเฉพาะพืชแปลกๆ จำนวนมากในดินแดน ทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้าง รีบโค้งคำนับ หลิน ยู ด้วยความเคารพทันที

"ข้าไม่ทราบว่าทำไมนายท่านถึงเรียกข้ามาที่นี้"

"ออ ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่จะให้เมล็ดพันธุ์กับคุณ เพื่อให้คุณนำกลับไปแจกให้ชาวเมือง เพื่อให้พวกเขาเริ่มทำการเพาะปลูก"

เมื่อพูดจบ หลิน ยู หยิบกระเป๋าใหญ่ขึ้น 2 3 ใบพวกมันทำจากหนังสัตว์ วางไว้ที่ด้านหน้าของ เซียว ฉางกุ้ย

"นี้มัน..."

เซียว ฉางกุ้ย และผู้ช่วยของเขามองไปที่ หลิน ยู ด้วยสีหน้าที่มึนงง

"นี้คือเมล็ดข้าวสาลี ฟักทอง และมันฝรั่ง ที่ฉันทำขึ้นมาเป็นพิเศษ พวกมันสามารถปลูกได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย"

"ห่ะ.. มันสามารถปลูกที่นี้ได้!?"

เซียว ฉางกุ้ย และผู้ช่วยของเขาตกใจมากมองไปเมล็ดที่อยู่ในกระเป๋า 3 ใบนี้ด้วยความเหลือเชื่อ

ต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมพวกเขาถึงมีชีวิตที่ย่ำแย่

สาเหตุหลักๆมาจากสถาพแวดล้อม

ตอนนี้ หลิน ยู ได้มอบเมล็ดพันธุ์ที่สามารถปลูกได้ในสถาพแวดล้อมแบบนี้ ดังนั้นจะไม่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นได้ยังไงกัน มันตื่นเต้นซะจนแทบจะพูดไม่ออก

"อ้อ ใช่ ฉันยังมีซากมอนสเตอร์เหลืออยู่อีก 2 3 ที่นี้ คุณคงต้องให้ใครพามันกลับไปด้วย คืนนี้เราจะมาทำอาหารให้ชาวเมืองกันเถอะ"

เมื่อพูดแบบนั้น หลิน ยู ก็นำซากของมอนเตอร์ที่เขาเก็บไว้ก่อนหน้านี้ในกระเป๋ามิติออกมาด้วยเสียงโครมคราม ออกมาหลายตัวกองเป็นเนินอยู่ตรงหน้าเขา

ด้วยขนาดที่ใหญ๋ขนาดนี้มันจึงไม่เป็นปัญหาเลยที่จะเลี้ยงคนมากกว่า 500 คน

สิ่งนี้ทำให้ เซียว ฉางกุ้ย และพวกช่วยของเขาอยู่ในอาการตกใจ

เขาพูดอย่างตื่นเต้น "ได้ ได้เลย ผมจะไปเรียกคนเอาเกวียนลากไป ขอบคุณนายท่านสำหรับรางวัล!"

หลังจากที่ขอบคุณเขาเสร็จแล้ว เขาก็รีบจากไปอย่างมีความสุข

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็กลับไปที่เมืองเพื่อกระจายข่าวเรื่องนี้ออกไป ก่อให้เกิดความโกลาหกไปทั่วทั้งเมือง พวกเขาทั้งหมดระดมกำลังกันไปลากเจ้าเนื้อยักษ์ออกมา!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด