ตอนที่ 2 สวมบทบาท
เมื่อ ฉื้อโถว ได้ยิน ซื่อต้าเฉิน เรียกน้องสาวของเขาที่ชื่อชุนหยาคนนี้ว่าลูกสาว ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจพ่อของเขาไม่เคยเรียกเด็กผู้หญิงที่ชื่อชุนหยาว่าลูกสาวเลยตั้งแต่เธอเกิดมา ตรงข้ามกันเขามักจะเสียงดังกับเธอและเมื่อเขาอารมณ์ดี ชุนหยาจะถูกเรียกว่าเด็กขี้แพ้เท่านั้น
"ท่านพ่อเรียกชุนหยา ว่าลูกสาวจริงหรือ?หรือท่านพ่อบ้าไปแล้ว" ฉื้อโถว คิดในในกลับไปกลับมา ว่ามันอาจมีอะไรผิดพลาดไป
ส่วน ซื่อเสี่ยวหยุน ไม่รู้อะไรทั้งนั้นเธอเพียงแค่เฝ้าดูฉื้อโถวเด็กผู้ชายที่อ้างว่าเป็นพี่ชายของเธอ ที่ประตูด้วยความประหลาดตลอดเวลา เธอเหลือบมองไปที่ลานบ้านขยับม้านั่ง 2 ตัวที่ตั้งอยู่ แล้วพูดขึ้นมาว่า : “พี่ชาย ท่านมานั่งก่อนสิ”
ฉื้อโถว ซึ่งยังไม่หายจากอาการตกใจที่ทุกคนเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน และเขานั่งลงอย่างกระสับกระส่าย รู้สึกทำตัวไม่ถูก เขากลืนน้ำลายและถามว่า: "ชุนหยา เจ้าเป็นอะไรไป ข้าเคยคิดว่าเจ้ากับท่านพ่อไม่ค่อยถูกกันเสียอีก ปกติพ่อเราชอบดุด่าเจ้า"
ซื่อเสี่ยวหยุน เงียบและหลังจากคิดอยู่พักหนึ่งก็พูดว่า : "อ๋อ.. ข้าดูเหมือนจะถูกอะไรกระแทกที่หัวและดูเหมือนจะสำลักน้ำมากเกินไปและข้ารู้สึกสับสนเล็กน้อยจำอะไรไม่ได้เลยพี่เล่าให้ข้าฟังได้ไหม”
ฉื้อโถว เริ่มมีท่าทางประหม่าและพูดว่า: “ข้าจะทำอย่างไรดี เจ้าต้องการให้ข้าขอยืมเงินท่านย่า เพื่อขอให้ไป๋หลางหมอผีจากหมู่บ้านถัดไปมาตรวจดูว่าเจ้ากับท่านพ่อมีบางอย่างผิดปกติหรือไม่”
หลังจากพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืนและกำลังจะไปยืมเงินย่าของเขาจริง ๆ
ซื่อเสี่ยวหยุน รีบคว้าตัวเขาไว้และพูดว่า: “ไม่ต้อง มันไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก ข้ารู้สึกเหมือนจำอะไรไม่ได้เลยเท่านั้นเอง ทำไมตอนนี้ข้าจำเรื่องพี่ชายและทุกคนที่นี่ไม่ได้ คิดไม่ออกเลยด้วยซ้ำ?ท่านเล่าเรื่องของบ้านเราให้ข้าฟังก็พอ”
ฉื้อโถว : “แล้วตอนนี้เจ้าสบายดีใช่ไหม? ไม่เจ็บที่คอแล้วเหรอ?และชื่ออะไรของเจ้า? ที่ท่านพ่อเรียกเจ้าว่าเสี่ยวหยุน เมื่อกี้”
ซื่อเสี่ยวหยุน ระงับอารมณ์และจับแขน ฉื้อโถว ที่กำลังตื่นเต้นและพูดว่า : “แค่เล่าก็พอ ว่าทำไมข้าถึงจำอะไรไม่ได้ พี่ชายอย่าตื่นเต้นไปเลย ข้าแค่วิงเวียนนิดหน่อย ข้าอาจจะหายถ้าข้าจำทุกอย่างที่บ้านเราได้ เอาล่ะพี่สามารถบอกข้าเกี่ยวกับสถานการณ์ที่บ้านได้ไหม แล้วข้าจะจัดการความคิดของข้าเอง และถ้าสิ่งที่อยู่ในหัวของข้าตรงกับที่ท่านพูด ก็ไม่จำเป็นต้องจ้างหมอให้เสียเงิน ข้ารู้ว่าครอบครัวของเราไม่มีเงิน!” ซื่อเสี่ยวหยุน สูดหายใจ
ฉื้อโถวพยักหน้าและเริ่มพูด: “ใช่ บ้านเราไม่มีเงิน ท่านพ่อเราเป็นหนี้การพนันยังมีหนี้ที่เคยยืมจากอารองและหนี้ของครอบครัวของอาสามก็ยังไม่ได้จ่าย และท่านพ่อก็ยังเป็นหนี้การพนันอีกสิบห้าตำลึง เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้เราถูกเจ้าหนี้ไล่ตามจึงต้องให้ที่ดินสองไร่สุดท้ายที่บ้านเพื่อใช้หนี้แก่พวกเขา ท่านแม่ร้องไห้เสียใจถึงแลัยังโกรธเคืองต่อว่าท่านพ่อรุนแรงมาก จนท่านพ่อทุบตีท่านแม่อย่างรุนแรง” ฉื้อโถว ถอนหายใจ นั่งลงและค่อย ๆ คุยเรื่องครอบครัวกับน้องสาวของเขา
“เราเป็นลูกหลานของสกุลซือ พ่อของเราคือ ซือต๋า พอจะคิดออกไหม?”
เวลานี้ซื่อเสี่ยวหยุนรู้ทันทีว่าพ่อของเธอต้องเป็น ซือต๋า คนนี้และเธอพยักหน้าช้า ๆ
ตามที่ ฉื้อโถว เล่ามาทั้งหมด ซื่อเสี่ยวหยุน ก็สามารถปะติดปะต่อเหตุการณ์อย่างคร่าว ๆ ได้พอสมควร พวกเขาอาศัยในหมู่บ้านนี้ และพ่อของเขาก็มักจะเข้าเมืองไปเล่นการพนันที่บ่อนเสมอ ซือต๋าคนนี้เป็นคนไม่ดีในหมู่บ้าน เขาบอกทุกคนว่าจะไปทำงาน แต่อันที่จริงเขาจะไปขโมยไก่และสัตว์เสี้ยงของชาวบ้านหลายต่อหลายครั้ง ต่อมาเขาติดการพนันมากขึ้น หลังจากพ่อและแม่ของเขาที่อยู่บ้านหลังเก่าช่วย เขาใช้หนี้การพนันหลายครั้งจนตะกูลซือจนลงเรื่อย ๆ ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขาหมดหวังกับซือต๋าคนนี้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงให้ที่ดินสามไร่และช่วยกระท่อมมุงจากหลังนี้ให้ และให้ครอบครัวของซือต๋าแยกบ้านจากพวกเขาออกมา
เดิมทีบ้านของพวกเขาเป็นบ้านหลังใหญ่ของตระกูลซือ ที่พี่น้องสามครอบครัวอยู่ด้วยกัน และยังเป็นบ้านบรรพบุรุษด้วย อาคนที่สองชื่อซือฝามีภรรยาชื่อนางหลี่สือ อาคนที่สามซือจื้อที่มีภรรยาชื่อนางโจวฉี
ยังมีปู่ชื่อ ซือติงเฉิง และท่านย่าชื่อซือไค่ ทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่ ส่วนแม่ของพวกเขาคือนางจางหรือซือจาง มีลูกสามคนคือ ซือฉื้อโถว ซึ่งอายุ 13 ปีในตอนนี้ ซือชุนหยาอายุแปดขวบ ซือเถี่ยโถว อายุสามขวบ
เมื่อพ่อของพวกเขาเป็นนักพนันเช่นนี้ ครอบครัวของพวกเขาขาดอาหารเป็นเวลาสองวันแล้วเพราะพ่อของเขาเล่นการพนันจนมีหนี้สินมากมาย และท่านย่าขอให้อาสะใภ้ทำอาหารเพื่อแบ่งให้หลาน ๆ และเรียก ฉื้อโถวไปกินข้าวที่บ้านเก่าทุกครั้งแม่ว่าพวกเขายากจนเช่นกันแต่ก็ปล่อยให่หลาน ๆ อดข้าวไม่ได้
ปีที่แล้วมีตั๊กแตนระบาดพืชผลในนาเสียหายหนักมาก ทุกหลังคาเรือนขาดแคลนอาหาร แต่ลูกชายทุกคนของตระกูลซือได้รับการจัดสรรที่ดินเพื่อเก็บไว้ทำกินในยามแก่เฒ่าน้องชายทั้งสองคนยังคงทำนานและมีข้าวกินอยู่บ้างแม้ว่าจะเสียหายหนักเช่นกัน มีเพียงซือต๋าที่ต้องเสียที่ดินสองไร่เพื่อใช้หนี้พนัน และเขาไม่มีที่ทำกินอีกต่อไปโชคดีที่ยังมีบ้านให้อาศัย
เมื่อเช้านี้ ฉื้อโถว กินข้าวอยู่ที่บ้านเก่าเขาคิดว่าจะกินเองครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่งเขาจะเอากลับบ้านไปให้น้องสาวและแม่ของเขา ก่อนจะเริ่มกินอาหาร เขาได้ยินเสียงเพื่อนบ้านวิ่งไปเรียกใครบางคนด้วยเสียงที่ตะโกนไม่หยุด นั่นคือเสียงของหยานซีเพื่อของชุนหยา และยังเป็นเพื่อนบ้านของพวกเขาด้วย เธอบอกว่ามีคนกระโดดลงไปในบ่อน้ำที่บ้านซือ ฉื้อโถวรู้ว่ามันต้องเกี่ยวกับที่พ่อและแม่ของเขาทะเลาะกันเรื่องที่ดินที่เสียไปเมื่อวานนี้ เขาคิดว่าแม่ของเขาอาจจะเป็นคนที่กระโดดลงไปเพื่อต้องการตายเขาจึงรีบวิ่งกลับบ้าน แต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าไม่ใช่แค่แม่ของเขาเท่านั้น แต่รวมถึงพ่อและน้องสาวของเขาด้วย และเวลานั้นเขาก็กลัวจนอ่อนแรง
โชคดีที่เขายังตั้งสติได้ และเขาเคยจับปลาและกุ้งในแม่น้ำใหญ่มาก่อน และทักษะทางน้ำของเขาก็ดีมาก อย่างแรกเขาต้องช่วยแม่ของเขา และให้คนข้างบ่อผูกเชือกที่ตัวของเขาเพื่อดึงเขาขึ้นมาด้วย จากนั้นเขาดำดิ่งลงไปในบ่อน้ำเพื่อช่วยเหลือชุนหยา น้องสาวของเขาเป็นคนแรกตามด้วยแม่และพ่อของเขา
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยคร่าว ๆ แต่สิ่งที่ ฉื้อโถว ไม่สามารถเข้าใจได้ก็คือเป็นไปได้ที่แม่ของเขาจะกระโดดลงไปในบ่อน้ำ แต่คนอย่างพ่อของเขาจะทิ้งตัวเองลงไปในบ่อน้ำได้อย่างไร และเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของเขา? เขาคิดไม่ออกจริง ๆ
หลังจากที่ ฉื้อโถว พูดจบ ซื่อเสี่ยวหยุน ก็เข้าใจสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่อย่างคร่าว ๆ ครอบครัวนี้มีบ้านมุงจากที่ทรุดโทรมหลังนี้ ไม่มีที่ดินทำกิน ไม่มีอาหาร และพ่อของเธอสำหรับที่นี่เขาเป็นนักพนัน รวมถึงยังมีลูก ๆ ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอีกสามคนในครอบครัวของเขายังต้องอดอยากเพราะความไม่เอาไหนของหัวหน้าครอบครัวนั่นเอง
ซือเสี่ยวหยุน เข้าใจเรื่องราวที่ ฉื้อโถว เล่ามาพอสมควร ซื่อต้าเฉิน พ่อของเธอคือ ซือต๋า
ก่อนที่ ซือต๋า คนเดิมนั้นจะหายไปจากร่างปัจจุบันนี้ เขาก็ได้พบกับเหตุการณ์ที่ราวกับว่าตายแล้วเกิดใหม่เช่นกัน ซื่อต้าเฉินที่อยู่ในร่างปัจจุบันของ ซือต๋า ก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดนั้นและความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ในสมองของเขาบางส่วนยังเป็นของซือต๋าคนเดิม
เมื่อ ฉื้อโถวเล่าทุกอย่างให้ซื่อเสี่ยวหยุนหรือชุนหยาในความเข้าใจของเขาฟัง พ่อแม่ของเธอที่อยู่ในห้องก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้วเช่นกัน จู่ ๆ จางหลานจื้อที่สวมเป็นนางจาง ก็มีความโมโหขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจราวกับว่าเธอมีความทรงจำของนางจางอยู่ในหัวของเธอด้วยเช่นกัน ทั้งสองคนวิ่งเป็นวงกลมและส่งเสียงดัง
“เจ็บจริง ๆ ไม่ใช่นะ ผมไม่กล้าเป็นหนี้พนันหรอกที่รัก นี่ผมเอง...เฮ้! อะ อะ อะ อะ อะ อะ อะ อะ โอ๊ย!” ซื่อต้าเฉิน อยากวิ่งหนีออกไปข้างนอกแต่เขากลัวว่าฉื้อโถวและซื่อเสี่ยวหยุน ที่อยู่ข้างนอกจะได้ยินและทำได้แค่เบี่ยงตัวหลบการทุบตีจากภรรยา พลางร้องขอความเมตตาอย่างขี้ขลาด
จางหลานจื้อหรือนางจางขณะนี้ กำลังโมโหมากหลังจากได้ยินทั้งหมดและเธอเก็บความโกรธนี้ไม่ได้อีกต่อไป : “มันยากแค่ไหนที่เราทุกคนจะลาพักร้อนและไปเที่ยวได้พร้อมกัน ในที่สุดฉันก็ได้รู้สถานการณ์นี้ทำให้ฉันต้องมาอยู่ที่นี่ และตอนฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าฉันพบว่าร่างกายของเธอคนนี้เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำมันคือฝีมือของ ซือต๋า คนนี้นี่เอง หลังจากได้ยินคำพูดของฉื้อโถว ปรากฎว่าความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ในสมองของสามีภรรยาคู่นี้กลับมาเช่นกัน:”ไม่ใช่แค่เล่นการพนันแต่ยังเป็นหนี้ก้อนโตอีกด้วยเหรอ? หืม มาให้ฉันตีเดี๋ยวนี่!”
กระท่อมมุงจากนี้ไม่เก็บเสียงที่เล็ดลอดเลย ดังนั้น ฉื้อโถว ที่นั่งอยู่นอกประตูกับซือเสี่ยวหยุน ซึ่งคือชุนหยาน้องสาวของเขา จึงได้ยินเสียงข้างในนั้นอย่างชัดเจน
ฉื้อโถว รู้สึกกลัวเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเขาต้องมีอะไรผิดปกติเล็กน้อยกับครอบครัวของเขา เห็นได้ชัดว่ามีการร้องขอความเมตตาและเสียงร้องไห้เบา ๆ ในห้องนั้น แต่เสียงนั้นคือเสียงของพ่อเขาเหรอ? : “ไม่ ไม่ มันต้องมีบางอย่างผิดปกติ” ฉื้อโถว คิดในใจปกติต้องเป็นพ่อที่ทุบตีแม่และพวกเขา
ซื่อเสี่ยวหยุนหรือชุนหยา นั่งอยู่บนม้านั่งด้วยใบหน้าสงบนิ่ง ตอนนี้เธอก็โกรธมากเช่นกัน ใครคือพ่อที่แย่คนนั้นเล่นการพนันและยังทำร้ายครอบครับแบบนี้ได้อย่างไร ! สมควรแล้วที่แม่จะทุบตีผู้ชายที่ชื่อซือต๋า เธอลืมไปแล้วว่าในร่างซือต๋านี้คือพ่อของเธอ
แต่ในเวลานี้ ฉื้อโถว เริ่มกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่มองไปที่น้องสาวที่สงบนิ่งของเขา เธอกำลังฟังเสียงคำอ้อนวอนที่ร้องขอการให้อภัยของพ่อที่ดังมากขึ้นเรื่อย ๆ ในบ้าน
เขาจึงตัดสินใจว่าเขาต้องไปที่บ้านเก่าเพื่อหาใครสักคน ถ้าเมื่อเช้านี้เขาตกลงไปในบ่อน้ำด้วย เขาก็คงจะถูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิงเหมือนพ่อแม่ของเขาด้วยเช่นกัน
เมื่อเห็นว่า ฉื้อโถว กำลังจะออกไป ในที่สุด ชุนหยา ก็ลุกขึ้นจากม้านั่ง เดินไปที่ประตูห้อง และผลักมันออกไป และตะโกนเข้าไปข้างใน: “ท่านแม่ ไม่เป็นไรนะคะ ช่างเถอะค่ะ ท่านพ่อรู้ว่าผิดแล้ว เรามาจากอนาคตนะอย่าลืมเราไม่ใช่พวกเขา”
“ใช่ ใช่ ใช่ แม่แค่เห็นภาพความทรงจำบางอย่างของเธอคนนี้ตอนที่เด็กผู้ชายคนนั้นเล่าเรื่องทั้งหมด แม่ผิดไปแล้วจริง ๆ ขอโทษ..แม่จะใจเย็นลง”
"อย่าตีอีกเลยนะที่รัก และมือของคุณจะเจ็บนะ” ซือต้าเฉิน ปีนขึ้นบันไดและค่อย ๆ ปีนลงมาทันที
จางหลานจื้อหรือนางจาง ที่ผมยุ่งเหยิงในตอนนี้เนื่องจากเธอเหนื่อยและโมโหมากเกินไป จึงถอนหายใจ และพูดว่า: “ถ้ามีครั้งหน้าอีกฉันจะตัดของคุณให้สุนัขกินซือต๋า!”
ซื่อต้าเฉิน กล่าวด้วยใบหน้าที่ประจบสอพลอและมองภรรยาอย่างน่าสงสาร : “จะไม่มีครั้งต่อไปแล้วจริง ๆ และอันที่จริง ผมไม่รู้อะไรด้วยซ้ำนะที่รัก แต่ผมรู้ว่าคุณโมโหที่อดไปเที่ยว ผมขอโทษ”
ฉื้อโถว ที่แอบมองทั้งสามคนอยู่ เขาถอยหลังไปสองก้าวและต้องการวิ่งออกไปข้างนอก : “นี่มันไม่ถูกต้อง ไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน” เขาค่อนข้างกลัว!และมั่นใจว่าทั้งสามคนต้องถูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิง: “ข้าต้องไปหาอารอง!”
เมื่อเห็นว่า ฉื้อโถว กำลังจะวิ่งออกไป ซื่อต้าเฉิน ก็คิดว่าเขาต้องรั้ง ฉื้อโถวไว้ก่อนจะเกิดอะไรมากกว่านี้เขาจึงตะโกน: “ฉื้อโถว! มานี่ก่อนสิอย่าเพิ่งไป!”
เมื่อได้ยินแล้ว ฉื้อโถว หยุดเท้าของเขาทันที ใบหน้าที่มืดมนของเขาเปลี่ยนเป็นสีซีดและหันหน้าไปมองพ่อที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยในคนเดียวกันและพูดว่า : “ท่านพ่อ..เอ่อ...นั่นสิ...ใช่ ๆ เถี่ยโถว ยังอยู่ที่บ้านของท่านย่า ข้า...ข้าจะไปรับเขากลับมา” ซื่อต้าเฉิน รู้ว่าพวกเขาทั้งสามคนอาจทำให้ ฉื้อโถว เกิดความสงสัย ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะเป็น ซือต๋า ตราบใดที่ยังอยู่ที่นี่และเขาพูดว่า : “ไม่ต้องกังวลที่เห็นพวกเราแปลกไป พ่อแค่อยากจะบอกพวกเจ้าว่าประสบการณ์หลังจากรอดชีวิตกลับมาครั้งนี้ ในที่สุดพ่อก็คิดได้ และพ่อจะไม่เล่นการพนันหรือทำผิดต่อลูก ๆ อีกในอนาคต เราจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น”
จางหลานจื้อ หรือนางจาง ก้าวไปข้างหน้าและจับมือของ ฉื้อโถว เหมือนลูกชายแท้ ๆ ของเธอและพูดว่า: “แม่รู้ว่าเจ้าคงจะกลัว แต่อย่ากลัวเลย แม่ไม่เป็นไรจริง ๆ” หลังจากพูด เธอก็ลูบมือหยาบของ ฉื้อโถว อย่างอบอุ่น
ซื่อเสี่ยวหยุนหรือชุนหยา มองพ่อและแม่ของเธอจากด้านข้าง พร้อมกับยิ้มชื่นชมทักษะการแสดงของสองคนนี้อยู่ในใจ
“การแสดงเป็นธรรมชาติมาก ๆ พ่อกับแม่เป็นนักแสดงได้เลยนะเนี่ย”
จู่ ๆ พ่อของเธอก็รู้ตัวและปรับตัวได้ ส่วนแม่ของเธอก็อ่อนโยนและใจดีกับ ฉื้อโถว เหมือนกับเป็นลูกชายจริง ๆ ช่างเป็นภาพที่สวยงามของแม่ผู้เปี่ยมด้วยความรักและลูกชายที่กตัญญู ชุนหยายิ้มและส่ายหน้าเบา ๆ
ดวงตาของ ฉื้อโถว เต็มไปด้วยน้ำตาในเวลานี้ ทุกครั้งที่พ่อของเขาแพ้พนันหรือเมากลับมาเขาจะต้องพาลโมโหคนทั้งครอบครัว และทำการทุบตีแม่และน้องสาวของเขาจนเป็นเรื่องธรรมดาเขาไม่เคยใจดีเช่นนี้
และทุกครั้งที่ถูกทุบตี แม่จะกลัวและขี้ขลาดมากมักจะแอบร้องไห้อยู่ข้างสนามเท่านั้นเมื่อเขาถูกพ่อตีรุนแรงแม่ก็ไม่กล้าเข้าไปห้าม เพราะยิ่งแม่ห้ามพ่อก็ยิ่งเฆี่ยนตีเขารุนแรงขึ้น
ในขณะนี้ เขามองไปที่พ่อของเขาที่มีสติมากขึ้น และแม่ของเขาที่กุมมือที่หยาบ ๆ ของเขาอย่างอบอุ่น เขาจะไม่หลั่งน้ำตาได้อย่างไร? พ่อกับแม่ช่างเปลี่ยนไปเกินที่เขาฝันไว้มาก ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ฉื้อโถว มีทั้งความดีใจและสับสนในขณะนี้