ตอนที่ 1229 เสียงสวรรค์ปรากฏ คนผู้นั้นกลับมาแล้ว
เขามีเวลาชั่วธูปไหม้หรือ?
สำหรับคนทั่วไปชั่วเวลาธูปไหม้คาดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าเขาเป็นนักแม่นปืนที่มีความเชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตามนี่อาจเป็นเวลาที่ไม่ค่อยนาน ถ้ามันถูกใช้กับคนที่แข็งแกร่งระดับเย่ว์หยางจะไม่มีปัญหาใดกับการทำลายภูเขาหลายสิบลูก ก่อนนั้นเขาไม่สามารถทำอะไรอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงได้เขาสามารถทุบภูเขาได้ด้วยนิ้วเดียวอย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้สาวกิเลนปิงหยินใช้สมบัติแสงสีรุ้งย่อขนาดร่างไร้ศีรษะเหลือเพียงหมื่นเมตรได้ในที่สุด!
ไม่ใช่เพียงเท่านี้สาวน้อยไตตันเสี่ยวเสี่ยวเอินยังเพิ่มพลังแข็งแกร่งดุจเพชร และพลังอมตะอีกด้วย
หลังจากเย่ว์หยางพาร่างอ่อนแอของปิงหยินกลับไปแล้วเขาเรียกมังกรพิรุณออกมาจากใต้ดินอีกครั้ง
ร่างเงายังไม่กล้าเริ่มเคลื่อนไหว
นางกลัวปิงหยินมากแต่ตอนนี้นางเห็นว่าปิงหยินจากไปแล้ว และนางกลับมามีความต้องการสู้อีกครั้ง
“กิเลน อสูรศักดิ์สิทธิ์ในอสูรอมตะสามารถทำลายเวทวิเศษของนางเฒ่า แต่น่าเสียดายที่นางเป็นอสูรอมตะวัยเด็ก คิดจะปราบปีศาจเฒ่าอย่างข้ายังห่างไกลนัก!” นางรู้ว่าปิงหยินใช้พลังไปมากกับการข่มเทพปีศาจเว่ยกวง แต่ไม่ได้ป้องกันนางทำให้นางรู้สึกพอใจ
พบกับศัตรูที่เป็นเผ่าบูรพาอมตะไม่เพียงแต่ทำให้อีกฝ่ายต้องสูญเสียพลังเท่านั้นแต่กลับทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอลงอย่างมาก
ลองคิดดู
นี่คือเกียรติที่ยิ่งใหญ่
ในแดนสวรรค์จะมีสักกี่คนที่ได้รับเกียรติขนาดนั้น? แม้จะเป็นอสูรอมตะแต่นั่นคือกิเลนเผ่าพันธุ์อมตะ!
ร่างเงาดำบินขึ้นไปในท้องฟ้าอย่างรวดเร็วและโบกมือสองสามครั้งคลื่นศิลาไฟหลายแสนก้อนพุ่งไปยังศีรษะของเย่ว์หยางราวกับพายุฝนคะนอง
“นังแม่มดเฒ่าชั่วร้ายคู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!” ไม่รู้ว่าข้างๆ ตัวเย่ว์หยางมีหญิงงามปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อใด การปรากฏตัวของนางเปลี่ยนให้ทั้งโลกเต็มไปด้วยทะเลดอกไม้ แรงระเบิดบนพื้นดินสลายหายไปมีแต่ดอกไม้ส่งกลิ่นหอมเต็มไปทั่วพื้นที่ สตรีงามมองดูเหมือนเป็นนางไม้ แน่นอนว่านางคือเทพธิดาบุปผาตั่วตั่วผู้งดงามสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตประเภทพฤกษาทุกชนิดในโลกได้
คลื่นศิลาไฟหนาแน่นพอๆกับฝนตกพุ่งลงมาหมายจะระเบิดร่างของเย่ว์หยาง
ตั่วตั่วแหงนหน้ามองฟ้า
นางชูมือ
คลื่นระเบิดศิลาไฟทั้งหมดกลายเป็นดอกไม้หลากหลายสีสันโปรยปรายไม่มีพลังทำลายล้างต่อไป
แพนดอราติดอยู่ในสภาพงุนงงนางสับสนเล็กน้อย นางมีพี่สาวด้วยหรือ? นางไม่มีพี่สาว! นางมีพี่สาวหรือ?! ไม่น่ามีพี่สาว... รอจนเย่ว์หยางและมังกรพิรุณทลายพื้นขึ้นมาสมทบ เด็กสาวยักษ์ไตตันเสี่ยวเสี่ยวเอินก็เริ่มบุกทันทีและนางบดขยี้ใส่ร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงที่ร่วงหล่นลงมาตั้งแต่ยังไม่ถึงพื้นนางจับร่างยักษ์ไว้ได้
ร่างไตตันสูงพันเมตรสั่นคลอนศัตรูขนาดหลายพันเมตรได้
ศักยภาพนางไม่ด้อยไปกว่าร่างอวตารขนาดดวงดาว
พลังของนางน่ากลัวยิ่งกว่าภูเขาไฟหมื่นลูกระเบิดพร้อมกัน มันแข็งแกร่งพอๆ กับร่างอวตารขนาดดวงดาวของเทพปีศาจเว่ยกวงนางใช้หินก้อนใหญ่โจมตี
หลังจากร่างไร้หัวของร่างอวตารหดขนาดลงก็ถูกโจมตีที่หน้าอกและซี่โครงขณะนั้นเทพปีศาจเว่ยกวงถึงได้เข้าใจว่าสาวไตตันนี้ได้รับพลังเสริมสองอย่างไม่สนใจพลังกดดันของเทพสำนึกเทพที่ข่มนางเลยสักนิด พลังกดดันจากสำนึกเทพไม่มีผลต่อนาง
อย่างน้อยเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปจนกว่าจะคืนสภาพร่างกายเดิม
สมบัติแสงเจ็ดสีนั่นไม่ธรรมดา
ไม่เพียงแต่มีพลังบีบอัดที่น่ากลัวแต่ยังเชื่อมโยงกับพลังภูตนางฟ้าพิเศษ
กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือตราบใดที่อานุภาพของแสงวิเศษเจ็ดสียังไม่หายไปเขาจะไม่สามารถใช้พลังกดดันสาวไตตัน มีวิธีเดียวที่จะเอาชนะนางได้ ใช้พลังทำลายล้างที่โหดเหี้ยมรุนแรงฆ่าสาวไตตันอย่างอำมหิตทันที
นี่คือความเป็นไปได้เท่านั้น
หรือไม่ก็ทำตัวเหมือนเต่าหดหัวอยู่ในกระดองตลอดเวลาที่ถูกแสงวิเศษเจ็ดสีนี้ข่มอยู่ตลอดเวลารอให้ร่างอวตารคืนสภาพไม่ถูกจำกัดพลังดังเดิมจากนั้นค่อยฆ่าเด็กสาวไตตันตันข้างหน้านี้ก็ได้
ถ้าเทพปีศาจเว่ยกวงเป็นจงหัวหรือจีอู๋ลี่ เชื่อได้ว่าเขาคงไม่ถือสาและเลือกใช้วิธีหลัง
น่าเสียดายที่เทพปีศาจเว่ยกวงเป็นเทพตนหนึ่ง
เขาคือเทพปีศาจ
เขามีปณิธานราชันย์ มีเกียรติของตนเองเมื่ออยู่ต่อหน้าเด็กสาวไตตัน ร่างเขาหดเล็กลงแล้วเขาจะยอมเป็นเต่าหดหัวในกระดองหรือ? นั่นไม่ใช่เขา!
“ไปให้พ้น!” เทพปีศาจเว่ยกวงมีปฏิกิริยาตอบสนองจนถึงขีดสุด ร่างอวตารไร้ศีรษะขนาดหมื่นเมตรเพิ่งกระแทกลงกับพื้นในวินาทีต่อมาเขาควบคุมร่างอวตารไร้ศีรษะกลิ้งไปกับพื้นสามรอบก่อนจะยืนขึ้นได้ เว่ยกวงมองไปที่สาวยักษ์และเห็นนางบุกเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งเขาใช้แขนข้างที่ไม่มีนิ้วหัวแม่มือผลักใส่เสี่ยวเสี่ยวเอิน
ร่างขนาดหมื่นเมตรของสาวไตตัน
เทพปีศาจเว่ยกวงมีความมั่นใจเพียงพอ
สิบเท่า
นี่คือช่องว่างที่ไม่มีทางผ่านได้แน่นอนแค่ลำพังร่างอวตารก็มีพลังเทพไม่มีสิ้นสุดและไร้เทียมทาน
“โอว!”เด็กสาวไตตันเสี่ยวเสี่ยวเอินตรงรี่เข้ามาข้างหน้าเขาและจับมือข้างที่ไม่มีนิ้วหัวแม่มือของเขาสลายพลังฝ่ามือของเขาแต่พลังแฝงที่เหลือยังกดร่างนางจมลงไปในพื้นถึงระดับเข่าทันที หากไม่มีอุบัติเหตุใดๆนางจะกดร่างของเทพปีศาจเว่ยกวงลงพื้นได้ในไม่กี่วินาที อย่างไรก็ตามขณะที่เทพปีศาจเว่ยกวงคิดว่าเขาลงมือประสบผล เสี่ยวเสี่ยวเอินตวาดลั่น และนิ้วมือของร่างอวตารระเบิดด้วยพลังเหลือเชื่อ ทันใดนั้นฝ่ามือยักษ์ที่ไม่มีนิ้วถูกจับแล้วบิดตวัดทั้งไหล่ถูกเหวี่ยงทุ่มลงพื้นข้างหน้าอย่างรุนแรง
ไม่ต้องรอให้เทพปีศาจเว่ยกวงได้ทันตั้งตัวเสี่ยวเสี่ยวเอินหมุนตัวกลับอีกครั้ง
บิดมือข้างที่ไม่มีหัวแม่มืออย่างดุดัน
นิ้วที่เหลืออีกสี่นิ้ว
ถูกบิดหมด
แม้แต่ฝ่ามือและข้อมือก็ถูกบิดจนผิดรูป
เทพปีศาจเว่ยกวงโกรธจัดตวัดขาเตะเสี่ยวเสี่ยวเอินกระเด็นและขุดหินขนาดสองสามกิโลเมตรยกขึ้นจากพื้นเตรียมทุ่มใส่ศีรษะเด็กสาวยักษ์
มังกรพิรุณมาถึงและผสานพลังกับเย่ว์หยาง
หางมังกรกวาดเลียดพื้นดินที่แตกแยก
เข่าซ้ายของร่างอวตารไร้ศีรษะขอเทพปีศาจเว่ยกวงระเบิดทันทีเข่าหัวที่มีอยู่ครึ่งเดียวไม่สามารถรับน้ำหนักร่างอวตารไร้หัวได้ ก้อนหินยักษ์ที่เขายักษ์เตรียมจะทุ่มใส่เสี่ยวเสี่ยวเอินกดลงบนร่างของเขาทันทีและช้าเกินกว่าจะโยนออกไป เสี่ยวเสี่ยวเอินจู่โจมต่อเนื่อง นางหวดขาเข้าที่ลำตัวร่างอวตารไร้ศีรษะที่ตอนนี้เข่าเสียหายอย่างหนักมังกรพิรุณของเย่ว์หยางวกกลับมาอีกครั้งและดำดิ่งโจมตีด้วยกระบี่ส้มเฉิงหงกวนทำลายขาและเข่า
เทพปีศาจเว่ยกวงทำลายหินเป็นชิ้นๆ จากนั้นกวาดซัดเศษหินไปทางมังกรพิรุณ
สำหรับเสี่ยวเสี่ยวเอินเพราะนางมีโล่เพชรจึงไม่สนใจผลกระทบจากฝนศิลานางยกเขาศิลาลูกหนึ่งจากพื้นและทุ่มใส่เทพปีศาจเว่ยกวงทำลายขาที่บาดเจ็บจนหักพังถึงเข่า
ในที่สุดเข่าที่ได้รับบาดเจ็บก็หักและขาดออกจากร่างอวตารไร้ศีรษะ
เทพปีศาจคำรามอย่างไม่พอใจ
หากสูญเสียไปนิ้วเดียวอาจมีผลต่อการต่อสู้บ้างเล็กน้อย สูญเสียศีรษะพลังต่อสู้ลดลงไปเพียงเล็กน้อย เสียมือไปข้างหนึ่งพลังได้รับความเสียหายมาก ตอนนี้เสียขารองรับร่างไปอีกข้างหนึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับสาวไตตันและมังกรพิรุณที่โจมตีอย่างบ้าคลั่งเขาจะสู้ต่อไปได้จริงๆ หรือ?
ไม่ต้องพูดถึงคนนอกเขาไม่มีหัวใจเลย...สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเทพปีศาจเว่ยกวงนั้นถนัดในการกลั่นแกล้งรังแกสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กพอร่างอวตารมีขนาดเท่ากันพอใช้พลังก็ใช้ได้เพียงหนึ่งในหมื่นของพลังงานเดิม ก่อนหน้านี้เย่ว์ไตตันขับขี่มังกรพิรุณก็เจ้าเล่ห์มากพอแล้วแต่คราวนี้มีสาวยักษ์ไตตันเพิ่มขึ้นมาอีก เขายังกลัวไม่กล้าต่อสู้อีกหรือ?
“พวกเจ้าคิดหรือว่านี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่ส่งผลต่อพลังของข้างั้นหรือ?น่าขัน!” เทพปีศาจเว่ยกวงยอมยกเลิกการใช้ร่างอวตารต่อสู้ แม้ว่านี่จะเป็นสถานการณ์ที่ปลอดภัยที่สุดแต่สถานการณ์เปลี่ยนไปดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใหม่
ร่างอวตารไร้หัวล้มลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง
เกิดพายุหมุนรุนแรง
มีควันคุกรุ่นไปทุกที่
ก่อนที่ฝุ่นจะตกลงมาทั้งหมดแสงสีทองฉายขึ้นท้องฟ้า เป็นครั้งแรกที่เทพปีศาจเว่ยกวงปรากฏตัวต่อหน้าเย่ว์หยางด้วยร่างสีทองเหมือนเทพเจ้า
เมื่อเขายืนอยู่หน้าเย่ว์หยาง เด็กหนุ่มจากโลกอื่นแปลกใจเมื่อพบว่าร่างสีทองของร่างอวตารสีทองของเทพปีศาจเว่ยกวงมีขนาดใหญ่มากจนบดบังดวงอาทิตย์ข้างหน้าดูลึกลับร่างทองของเทพสูงมากกว่าสองกิโลเมตรทำให้ผู้ยืนมองดูรู้สึกต่ำต้อยและตัวเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่ว์หยางเมื่อยืนต่อหน้าร่างอวตารทองนี้รู้สึกอึดอัดหมายใจไม่ออก
“ใช้ร่างอวตารทองที่เหมือนเทพก็เหมือนกับเป็นการรังแกพวกเจ้า!” เทพปีศาจเว่ยกวงยื่นมือและกวาดกวาดร่างยักษ์ของเสี่ยวเสี่ยวเอินที่บุกโจมตีเขากระเด็นไปหลายสิบกิโลเมตร
และยื่นมืออีกครั้งก็สามารถจับหางมังกรพิรุณที่พยายามจะหนีเอาไว้ได้
จากนั้นกระตุกลงมาที่พื้นอย่างไม่ใส่ใจนัก
โลกสั่นสะเทือน
เย่ว์หยางรู้สึกมึน
ถ้าไม่ใช่เพราะมังกรพิรุณสร้างมาจากโลหะลับเทพสังหารเกรงว่าคงพังพินาศไปในทันทีแล้ว
“เจ้ายังไม่ใช่ระดับเทพแม้แต่น้อยเป็นไปไม่ได้ที่จะมาสู้กับข้า พวกที่มีระดับต่ำกว่าเทพอยู่ต่อหน้าเทพที่แท้จริงก็ไม่ต่างอะไรกับมดเจ้าไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย เจ้าไม่เข้าใจหรือ?” ร่างทองอวตารของเทพปีศาจเตะร่างอวตารไร้ศีรษะอีกร่างกระเด็นเข้าหาเสี่ยวเสี่ยวเอินที่เตรียมจะลุกกลับขึ้นมา
“ข้าเอาชนะเจ้าได้ข้าเชี่ยวชาญรู้แจ้งการสร้าง ทำลาย และความนิรันดร์แล้ว...” เย่ว์หยางตะลึงแต่ความรู้แจ้งที่เทวทูตสาวทั้งสามได้แสดงแก่เขาในโลกไร้ที่สิ้นสุดมาปรากฏในใจของเขาอีกครั้ง
“เจ้าเริ่มจะเข้าใจชัดเจนเดี๋ยวนี้เองหรือ? สายเกินไปแล้ว!” เทพปีศาจเว่ยกวงคำรามเย็นชาแต่ไม่กล้าประมาท
ที่สำคัญทันทีที่สามารถเข้าสู่ระดับเทพ
จะกลายเป็นคู่ต่อสู้ระดับเทพ
เขาจะไม่สามารถล้มอีกฝ่ายได้ง่ายเหมือนเวลาที่ผ่านมาที่เขาภูมิใจนักหนา เขาไม่ต้องการคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันแม้ว่าจะเป็นเพียงเทพที่เพิ่งได้รับการเลื่อนระดับ เพราะเขาไม่มีร่างกายจริงและไม่มีสมบัติวิเศษ...ร่างทองอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงยกมือขวาสูงพร้อมใช้มือข้างนี้คมยิ่งกว่าดาบวิเศษศักดิ์สิทธิ์
ฆ่าเย่ว์หยางที่อยู่ในมังกรพิรุณ
ในช่วงวิกฤตินี้เอง
จู่ๆมีเสียงสตรีที่เย่ว์หยางไม่ได้ยินมานานแล้วดังขั้นเสียงนั้นไพเราะราวกับเสียงสวรรค์ “ต้องการฆ่าเขาหรือ? เจ้าถามความเห็นข้าหรือยัง? เจ้าดูแคลนคนฝีมือระดับต่ำกว่าเทพ อย่างนั้นมาสู้กับข้าดีกว่า ข้าเพิ่งเป็นเทพใหม่รับรองจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน!”