ตอนที่ 1226 ดาวตกราชสีห์
มังกรพิรุณขนาด108 กิโลเมตรว่าโดยทฤษฎีคือสุดยอดหุ่นรบไร้เทียมทาน
ถ้าไม่มีร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวง
และหุ่นรบหรือยานรบทั่วทั้งแดนสวรรค์ไม่มีใดเทียบได้ ในยุคสมัยโบราณดึกดำบรรพ์นั้นเป็นเวลานานเกินกว่าจะรู้สถานการณ์โดยเฉพาะเจาะจงได้แต่ในช่วงเวลาไม่กี่หมื่นปีที่ผ่านมาตามบันทึกประวัติศาสตร์ไม่เคยมีหุ่นรบใดที่เหมือนกับมังกรพิรุณ ก่อนที่เขาจะสร้างมันได้เย่ว์หยางไม่แม้แต่จะรู้ว่าเขาสามารถทำให้สำเร็จในระดับนี้ได้
ความจริงความดีความชอบหลักในการให้กำเนิดมังกรพิรุณนั้นอยู่ที่เทพธิดากระบี่ฟ้านางสร้างด้วยปราณกระบี่เทพและพลังปั่นป่วนที่อยู่ในอัญมณีสร้างโลก ไม่มีนางเย่ว์หยางที่ไม่สามารถควบคุมพลังได้ในตอนนั้นคงไม่มีทางสร้างมังกรพิรุณได้สำเร็จเหมือนอย่างทุกวันนี้แน่นอน
แม้ว่าสามารถผลิตสร้างมันขึ้นมาได้แต่เป็นไปไม่ได้ที่มันจะมีความสำเร็จไปถึงระดับสุดยอดเทพมังกรหรือมนุษย์ได้
โฮกกกกกก!
มังกรพิรุณบินทะยานภายใต้การนำทางของเจตจำนงของเย่ว์หยางทำให้มันทะยานก้าวหน้าอย่างบ้าคลั่ง
มังกรทะยานฟ้าสั่นสะเทือนไปทั้งโลก
สำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวงไม่อาจข่มยับยั้งมังกรพิรุณและเย่ว์หยางที่บินได้อย่างรวดเร็วได้อีกต่อไป ภายใต้การผนึกพลังมังกรและมนุษย์มีพลังทะยานฟ้าที่มิติเวลามิอาจขวางกั้นได้
เมื่อเผชิญหน้ากับการรุกล้ำของมังกรพิรุณเทพปีศาจเว่ยกวงซึ่งควบคุมร่างอวตารขนาดดวงดาวรู้สึกได้ถึงการมีอยู่และคุกคามของฝ่ายตรงข้ามได้ถ้าเขาไม่มาที่ขุนเขาเหนือขุนเขา แต่เป็นที่หอคอยเหนือหอคอยของหุบเขามนุษย์อย่างนั้นการใช้พลังผ่านร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงก็คงไม่ดีเท่ามังกรพิรุณขนาด108 กิโลเมตร แต่เมื่อมาถึงหุบเขาโลกธาตุไม่มีกฎสวรรค์คอยจำกัดพลังอย่างหุบเขามนุษย์ เว่ยกวงเหมือนปลาที่ได้น้ำพลังทะยานขึ้นมากกว่าสิบเท่าตรงกันข้ามกับมังกรพิรุณที่กลายเป็นเหมือนกับปลาไหลตัวน้อย!
“บึ้มมมม!”
ท้องฟ้ามืดครึ้มอย่างรวดเร็ว
จากนั้นฝ่ามือของร่างอวตารทะลุออกมาจากท้องฟ้าและกดลงกับพื้น
เทพปีศาจเว่ยกวงอาศัยความได้เปรียบของร่างกายขนาดมหึมาไม่ต้องการให้เย่ว์หยางและมังกรพิรุณมีโอกาสตั้งหลักได้เขาจึงใช้ฝ่ามือขนาดใหญ่ตบลงกับพื้น
ท้องฟ้าแตกเป็นกระจายจากการถูกโจมตีด้วยความเร็วสูง ประกายไฟเผาไหม้จนมิอาจใช้ดวงตามองได้ กระแสอากาศไหลรุนแรงยิ่งกว่าพายุพัดเป็นร้อยเท่าแรงระเบิดกระจายออกจากศูนย์กลางกวาดออกไปรอบด้านกินพื้นที่ใหญ่หลายร้อยกิโลเมตร
ฝ่ามือของร่างอวตารกดลงมายังไม่ทันถึงพื้นพื้นดินก็บิดเบี้ยวแตกระเบิดกระจาย
ยอดเขาโค่นถล่ม
เขาหินทะลายราบลงกับพื้น
ต้นไม้ใหญ่ถูกถอนรากถอนโคนพื้นที่ป่าขนาดใหญ่หายไปไม่เหลือ
แม่น้ำและทะเลสาบระเบิดกระจายเป็นฝอยนับล้านหายไปในอากาศ
“โจมตี!”
เย่ว์หยางผู้ต่อสู้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับมังกรพิรุณมีประสบการณ์ต่อสู้อย่างลำบากหนักหน่วงมานับไม่ถ้วน อารมณ์ของเขาดีขึ้นจิตใจแข็งแกร่งขึ้นราวกับเหล็กกล้าแต่เขาอดไม่ได้ที่จะถูกล่อลวงจากฉากภาพมหาโลกาวินาศข้างหน้านี้ เงาแห่งความตายนั้นมาพร้อมกับมือใหญ่โตครอบคลุมหัวใจของเย่ว์หยาง
ในช่วงวิกฤตที่สำคัญเย่ว์หยางผู้มีเจตจำนงราชันย์ต่อต้านพลังกดดันที่อันตรายของเทพปีศาจเว่ยกวงที่ทำให้เกิดความกลัวอยู่ภายใน
มือยักษ์อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรมีพลังทำลายล้างโลก
เย่ว์หยางควบคุมมังกรพิรุณ
ไม่มีการล่าถอย
พายุอวกาศที่บดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่างแต่มังกรพิรุณบุกทะลวงเข้าปะทะ
ฝ่ามือของร่างอวตารภายใต้สำนึกเทพและพลังกดดันของเทพปีศาจเว่ยกวงครอบคลุมมังกรพิรุณอย่างมั่นคงเย่ว์หยางกัดฟันแน่นไม่ยอมแพ้ ควบคุมมังกรพิรุณตะลุยหาฝ่ามือยักษ์ร่างอวตารที่กวาดสร้างหลุมลึกขนาดใหญ่หลายร้อยกิโลเมตรก่อนที่ฝ่ามือมหึมาจะตบลงกับพื้น
การสนองตอบของเทพปีศาจเว่ยกวงรวดเร็วเพียงไหน
สำนึกเทพของเขาตื่นเต้นเล็กน้อย
ฝ่ามือยักษ์ที่ตบลงอย่างหนักหน่วงบนพื้นทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในโลกได้ยกขึ้นมาอีกครั้งเตรียมเหยียดคลี่นิ้วเพื่อจับมังกรพิรุณไว้ในเงื้อมมือ
มังกรพิรุณแหวกว่ายอากาศอย่างดุเดือดในท่ามกลางคลื่นระเบิดอย่างบ้าคลั่งหลบหลีกการคว้าจับของร่างอวตาร
เทพปีศาจเว่ยกวงไม่ยินยอมพร้อมใจเขากวาดมือไล่ตามเพื่อจับมังกรพิรุณ
เย่ว์หยางที่กระตือรือร้นสู้ ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ
วกมังกรพิรุณกลับไปสู้
ร่างที่เรียวยาวเชิดตัวขึ้นบนและพุ่งกลับไปยังด้านหลังเหมือนลูกศรคมกล้าแหวกอากาศพุ่งกลับมาทะลวงนิ้วหัวแม่มือของยักษ์อวตารในขณะที่เกิดการปะทะกัน หัวของมังกรนั้นเอนเอียงหลบหลีกแรงกระแทกและตัวมังกรเลื่อนเลื้อยผ่านหัวแม่มือร่างอวตาร ด้วยพลังแรงระเบิดในครั้งนี้ร่างของมังกรพิรุณยังพุ่งบินไปข้างหน้าต่อไป
นิ้วหัวแม่มือของร่างอวตารเทพปีศาจถูกหางมังกรกวาดโจมตีแตกร้าวที่ข้อต่อรุนแรง
เทพปีศาจเว่ยกวงยิ่งโมโหมากกว่าเดิม
เขาไม่คำนึงถึงอาการบาดเจ็บที่นิ้วพยายามฝืนตัวไล่ล่าจับมังกรพิรุณให้ได้
เย่ว์หยางกลั่นพลังระเบิดดวงดาวเป็นเวลานานและพ่นออกมาจากปากมังกรพิรุณพลังระเบิดถูกยิงอัดเข้าไปในรอยต่อที่แตกร้าวของหัวแม่มือร่างอวตารแม้แต่ดวงดาวก็ยังระเบิดกระจายได้ นี่คือระเบิดที่ทรงพลังอย่างมิต้องสงสัย ถ้าเย่ว์หยางใช้เพื่อต่อสู้กับจ้าวสุริยาหรือจีอู๋ลี่ผลของมันก็จะไม่รุนแรงมากเกินไป ที่สำคัญพลังที่ควบกลั่นรวมตัวและความตั้งใจโจมตีแบบนี้เป็นการยากที่จะทำอันตรายศัตรูที่อยู่ห่างออกไปเป็นพันๆไมล์ ไม่ว่าจะมีประสิทธิภาพเพียงไรก็ช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตามอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงถึงจะว่องไวเพียงไรเป็นไปไม่ได้ที่ตัวประหลาดขนาดยักษ์จะหลบหนีพ้นการโจมตีของศัตรู
หัวแม่มือขนาดหลายสิบกิโลเมตรของร่างอวตารอย่าว่าแต่เย่ว์หยางเลย แม้แต่คนตาบอดที่ยิงระเบิดดวงดาวได้ก็โจมตีถูกได้ง่าย
หลังจากพลังคลื่นระเบิดผ่านไป
หินทรายปลิวว่อนเต็มไปหมด
ฝุ่นธุลีกวาดไปทั่วพื้นและกระจายบดบังทั้งพื้นฟ้าและพื้นโลก
แต่เมื่อพายุกวาดฝุ่นสลายไปเย่ว์หยางพบว่า หัวแม่มือของร่างอวตารที่ควรจะหัก ก็ยังคงอยู่ตรงหน้าเขาแม้ว่ารอยร้าวรูปใยแมงมุมจะขยายเพิ่มจากข้อต่อนิ้ว แต่พลังระเบิดดวงดาวไม่สามารถทำลายนิ้วหัวแม่มือของร่างอวตารที่โดนหางมังกรพิรุณฟาดใส่
นี่เป็นเพียงหัวแม่มือของร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวง...หากเขาต้องการโค่นล้มร่างอวตารของเว่ยกวงให้ได้ พลังแค่นี้นับว่ายังอ่อนด้อยเกินไป
ร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงใช้มือทั้งสองจับมังกรพิรุณให้ได้
มือทั้งสองงอเข้าหากันป้องล้อมมังกรพิรุณมาที่อกของเขา
เย่ว์หยางตะลึงนิ่ง
เหมือนรูปปั้น
ขณะที่ร่างอวตารจับร่างของมังกรพิรุณและเตรียมพร้อมจะทำลายทันใดนั้นมีเสียงดังราวสายฟ้าฟาดมาจากหัวของมังกรพิรุณมันพ่นปราณกระบี่สีแดงฉีกสวรรค์และทำลายดิน
กระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียนทำให้ท้องฟ้าเรืองแสงสีแดงเต็มไปด้วยพลังปราณกระบี่สดใสพลังสังหารและเจตจำนงราชันย์ของเย่ว์หยางเล็งตรงไปที่อวตารทันทีปราณกระบี่ตัดมิติและเวลา ก่อนที่สำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวงจะทันได้ตอบสนองพลังกวาดผ่านเป้าหมายที่เย่ว์หยางเล็งและโจมตีสร้างบาดแผลให้กับหัวแม่มือครั้งแล้วครั้งเล่า
หัวแม่มือแตกหักออกเป็นสองส่วนตรงบริเวณข้อต่อ
เย่ว์หยางฉวยโอกาสดิ้นหลุดเป็นอิสระจากการจับเย่ว์หยางมังกรที่ผสานร่างกับมนุษย์ทะยานขึ้นท้องฟ้าด้วยความเร็วสุดชีวิตไปยังส่วนหัวของร่างอวตารที่ยังมองไม่เห็น
ร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงอ้าปากยักษ์ที่น่ากลัวเหมือนจะกลืนมังกรพิรุณน้อยที่ยาวเพียง108 กิโลเมตร
มังกรพิรุณพยายามเปลี่ยนทิศทางทะยานร่างไปข้างหน้าปรับเปลี่ยนเส้นทางอย่างไม่หยุดยั้งโดยไม่ยอมย้อนหลัง
สู้อย่างขลาดเขลาไม่ใช่เย่ว์หยาง
ในที่สุดก่อนที่ฟันยักษ์น่ากลัวจะปิดลงมังกรพิรุณก็ทะลุผ่านริมฝีปากศิลาออกมาได้
หน้าของร่างยักษ์อวตารมีหลุมรอยแตกลึกเป็นร้อยเป็นพัน
จมูกของร่างอวตารถูกมังกรพิรุณยิงหินขนาดใหญ่เข้าใส่
มีตัวคั่นสะพานยาวที่จมูก
มังกรพิรุณโจมตีที่หว่างคิ้วของร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงและยิงปราณกระบี่ส้มเฉิงหงกวนเพื่อทำลายทุกอย่าง
แม้ว่าเทพปีศาจเว่ยกวงจะมีพลังมากกว่าแต่ไม่ใช่ง่ายที่จะโจมตีมังกรพิรุณที่พุ่งเข้ามาใกล้พร้อมกับปราณกระบี่ส้มอย่างแม่นยำการบาดเจ็บผิวเผินของร่างอวตารนั้นไม่ร้ายแรงแต่พลังปราณกระบี่บริสุทธิ์ทะลวงทะลุแนวป้องกันจู่โจมใส่สำนึกเทพซึ่งซ่อนอยู่ในร่างอวตารโดยตรง
หลังจากถูกโจมตีบ้างเทพปีศาจเว่ยกวงรู้สึกอับอายที่เป็นฝ่ายถูกโจมตีเขาใช้มือตบที่หน้าร่างอวตารด้วยความรำคาญ
ศิลาที่แตกรวมอยู่ในมือของมัน
มังกรพิรุณและเย่ว์หยางหนีอย่างร้อนรน ร่างอวตารคำรามลั่นและเป่าก้อนหินที่รวมอยู่ในมือพ่นใส่มังกรพิรุณในท้องฟ้าราวกับดาวตก
เย่ว์หยางยืดร่างมังกรพิรุณตรงและควบคุมมังกรให้ดำดิ่งศีรษะลง
เพื่อลดพื้นที่ระดมยิง
เทพปีศาจเว่ยกวงไม่ต้องการปล่อยให้เขาหลบหนีไปได้ ใช้สำนึกเทพกักมังกรพิรุณซึ่งมีความยาวถึง 108กิโลเมตร แม้ว่าร่างกายของมันจะเพรียวยาว แต่ก็ยังเป็นเป้าที่ใหญ่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีจากอุกกาบาตที่เทพปีศาจเว่ยกวงนำ! ที่สำคัญยิ่งกว่าร่างอวตารได้เหยียดแขนออกมารอไว้แล้วเมื่อเย่ว์หยางหนีพ้นจากระยะฝนดาวตก แขนนั้นจะกวาดกลับมาจับเขาไว้ได้
“ฝนดาวตกช่างน่ากลัว!” แม้ว่าเย่ว์หยางจะปากแข็งแต่เขารู้ว่าการถูกอุกกาบาตชนนั้นไม่สบายดีอย่างแน่นอนมีแนวโน้มว่าจะทำให้ร่างอวตารจับเขาได้สำเร็จ
“ปังปัง!”
เย่ว์หยางควบคุมมังกรพิรุณพุ่งผ่านฝนหินดาวตก
ถ้ามีทางเลือกที่สองเขาจะไม่ยอมเสี่ยง
น่าเสียดายนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด
แม้ว่าเขาจะสามารถหลบหลีกจากกลุ่มอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดและเร็วที่สุดได้ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มีอุกกาบาตลูกค่อนข้างเล็กที่เขามิอาจเลือกหลบได้
อุกกาบาตนับไม่ถ้วนชนใส่หัวมังกรพิรุณด้านหลังอุกกาบาตรขนาดเล็กมีอุกกาบาตใหญ่จำนวนมากที่เฉียดปีกมังกรพิรุณและมันทะยานฝ่าสายฝนอุกกาบาตเบี่ยงซ้ายบ้างหลบขวาบ้าง หากความตั้งใจของเย่ว์หยางมั่นคงเพียงพอแต่มีสมาธิต่ำ เกรงว่าเขาคงถูกฝนอุกกาบาตขนาดใหญ่ฝังเขาทั้งเป็นไปแล้ว
ที่มีพลังมากกว่าฝนอุกกาบาตก็คือนิ้วหัวแม่มือยักษ์ที่หักพัง
ความยาวยี่สิบกิโลเมตรเทียบได้กับดาวเคราะห์น้อย
เมื่อมันกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
ทุกอย่างที่อยู่บนพื้นสลายหายไป
แรงระเบิดที่เกิดขึ้นส่งผลต่อมังกรพิรุณและยิงฝนอุกกาบาตขึ้นท้องฟ้า....มังกรพิรุณและเย่ว์หยางถูกกระหนาบระหว่างสองพลังทำลายล้างเริ่มเคลื่อนไหวอย่างยากลำบากโดยไม่ตั้งใจ เขาเพิ่งหลบพ้นจากร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงอยู่หยกๆ แต่ตอนนี้กลับมีแรงระเบิดกวาดใส่เขา
เทพปีศาจเว่ยกวงยินดีที่เห็นว่าชิ้นส่วนจากร่างอวตารรุมกระหนาบโจมตีมังกรพิรุณร่วมกับฝนอุกกาบาต
เพียงแค่ใช้พลังเทพบดขยี้อัดใส่กลุ่มหินนี้
จากนั้นศัตรูที่น่ารังเกียจนี้
จะหายไป
อุกกาบาตมากมายแผ่ขยายกลับยิงมาชนร่างใหญ่อวตารสำหรับเรื่องนี้เทพปีศาจเว่ยกวงเพิกเฉยความคิดทั้งหมดของเขาอยู่ที่มังกรพิรุณและเย่ว์หยาง
อุกกาบาตก้อนหนึ่งพุ่งชนกระหม่อมของร่างอวตาร
ตอนแรกเทพปีศาจเว่ยกวงคิดว่าเป็นฝนดาวตกที่พุ่งกระจายออกมาเขาจึงไม่สนใจ
อย่างไรก็ตามอุกกาบาตทั้งหลายย้อนกลับมาด้วยความเร็วมากขึ้น
มีหินอุกกาบาตก้อนหนึ่งพุ่งใส่กระหม่อมของร่างอวตาร
ร่างอวตารกำมือแน่นและตระหนักว่านั่นเป็นพลังที่โจมตีตัวของเขาเอง ศีรษะของหันไปมองท้องฟ้าไกลเป็นครั้งแรกที่สำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวงพบเห็นดวงดาวสว่างสุกสกาวในท้องฟ้าโดยเฉพาะกลุ่มดาวนักษัตรสิบราศีและดวงดาวลึกลับอื่นที่ไม่รู้จักทั้งที่เห็นและไม่เห็นเชื่อมโยงกันอยู่ในท้องฟ้าอุกกาบาตที่ลุกไหม้เผาฝ่ามือของเทพปีศาจเว่ยกวงเป็นฝีมือของเย่ว์หยางที่เหมือนกับผีสิงในร่างมังกรพิรุณ
หมู่ดาวสิบสองนักกษัตรในท้องฟ้าดูเหมือนจะโคจรช้าลง
ดวงดาวเหล่านี้ขยับขับเคลื่อนไปจุดหนึ่ง
พลังดวงดาวก็เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งจุด
เมื่อกลุ่มดาวราชสีห์โคจรมาใกล้แนวศีรษะที่ด้านบนท้องฟ้าสำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวงพบว่ามีกลุ่มแสงกำลังยิงมาหาเขาด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึง
สำนึกเทพแผ่ขยายออกไปไกลและกระตุ้นกลุ่มแสงที่น่ากลัวเทพปีศาจเว่ยกวงประหลาดใจที่พบว่ากลุ่มแสงนั้นกลายเป็นอุกกาบาตพุ่งออกมาจากขุนเขาเหนือขุนแห่งหุบเขาโลกธาตุ กลุ่มแสงนั้นได้รับผลจากการถูกเรียกมาความเร็วจะเพิ่มขึ้นโดยอาศัยพลังจากกลุ่มดาวราชสีห์สนับสนุน พอเข้าระยะพันกิโลเมตรก็เริ่มเร่งความเร็วกลายเป็นฝนดาวตกที่น่ากลัว
ถ้ามีกลุ่มดาวตกเพียงไม่กี่ร้อยลูกเทพปีศาจเว่ยกวง
อาจไม่สนใจ
อย่างไรก็ตามถ้ามีดาวตกร่วงลงมาโดยพลังสนับสนุนของกลุ่มดาวราชสีห์ แม้พลังจะไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีจำนวนมากพอจะฝังเขาได้ร้อยเท่า
เจ้าเด็กนี่เพิ่งแทงปราณกระบี่ในหว่างคิ้วของเขาแต่ทำเครื่องหมายโจมตีบนศีรษะเขา?
เจ้าเด็กนี่ยังไม่เข้าสู่ระดับเทพแต่หลอกสำนึกตรวจสอบ และเรียกพลังฝนดาวตกได้อย่างไร
ยิ่งกว่านั้นยังมีฝนดาวตกเป็นจำนวนมาก
ฝนดาวตกทั้งหมดตกลงบนขุนเขาเหนือขุนเขา เขาเกรงว่าขุนเขาเหนือขุนเขาจะถูกทำลาย! เจ้าเด็กนี่บ้าไปแล้วหรือเปล่า? หรือว่าเขารู้ว่าตัวเขาไร้เทียมทานจึงล่อลวงให้เขาถูกหลอกจากนั้นตนเองก็ลงมืออย่างบ้าระห่ำหรือเปล่า?
เทพปีศาจเว่ยกวงขยายสำนึกเทพออกไปพบว่าฝนดาวตกถูกเรียกมาโดยพลังกลุ่มดาวราชสีห์เขาไม่รู้ว่ามีดาวตกมากกี่ล้านลูก
ไร้ขอบเขตที่สิ้นสุด
โลกจะถล่มทลายอย่างแท้จริง!