บทที่ 68 : โคลอสเซียมโกคู!
บทที่ 68 : โคลอสเซียมโกคู!
เมื่อเห็นชูโจวพูดคุยอย่างสนิทสนมกับอาจารย์หมิงจู, หลิวเฉียนๆและคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึง!
ชูโจวรู้จักกับอาจารย์หมิงจูจริงๆหรือ, นอกจากนี้เมื่อดูจากบทสนทนาของพวกเขา…..ดูเหมือนว่าสถานะของพวกเขาจะเท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์, สิ่งนี้ทำให้คนในห้องนี้อึ้งจนพูดไม่ออก
อาจารย์ตงฟางหมิงจูคือใคร?....... เธอเป็นอาจารย์ดาวเด่นของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซาท์ไชน่า และยังเป็นหนึ่งในคนหนุ่มสาวที่โดดเด่นที่สุดในเมืองฐานกวางตุ้ง
นอกจากนี้ตระกูลตงฟางของเธอก็ยังเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองฐานกวางตุ้ง, ด้วยองค์ประกอบของสิ่งต่างๆเหล่านี้ เธอจึง ดูเปล่งประกายสุดๆ
ดังนั้นในเมืองฐานกวางตุ้ง บุคคลสำคัญหลายคนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับอนาคตของเธอว่าหากไม่มีอุบัติเหตุใดๆ เธอน่าจะสามารถเลื่อนขั้นเป็นนักรบขั้นราชาได้ในอนาคต
……..นักรบขั้นราชาคือสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่บนยอดพีระมิดของมนุษย์ เเละแต่ละคนล้วนมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวในการทำลายล้างสิ่งต่างๆได้
อีกประการหนึ่ง, ยักรบขั้นราชาทุกคนจะสามารถทะลุขีดจำกัดพลังชีวิตของมนุษย์จนทำให้มีอายุเพิ่มขึ้นถึง 500 ปี
ดังนั้นทุกคนที่มีโอกาสเลื่อนขั้นเป็นนักรบขั้นราชาได้นั้น, ก็เพียงพอแล้วที่จะเรียกว่าอัจฉริยะปีศาจเเละตอนนี้ตงฟางหมิงจูคือหนึ่งในนั้น
การที่หลิวเฉียนๆสามารถมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็เป็นเพราะเธอเป็นศิษย์ของตงฟางหมิงจู, ใครๆหลายค่อคนต้องการปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ของอาจารย์หมิงจูผ่านหลิวเฉียนๆ
เเต่ใครจะไปคิดว่าอาจารย์หมิงจูที่พวกเขามองว่าไร้เทียมทานจะสนิทสนมกับชูโจวและเหมือนจะถือว่าชูโจวมีตัวตนเท่าเทียมกันกับเธอ……...นี่ไม่ได้หมายความว่าชูโจวก็มีศักยภาพที่จะเป็นนักรบขั้นราชาได้เช่นกันหรือ?
“ชูโจวเก่งขนาดนั้นเลยหรอ, แม้แต่คนอย่างอาจารย์ของเราก็ปฏิบัติกับเขาอย่างคนที่ระดับเดียวกัน”
เมื่อมองไปที่ร่างของชูโจว, หลิวเฉียนๆก็รู้สึกเหมือนมองขึ้นไปที่ภูเขาสูงใหญ่…… เธอรู้เสมอว่าชูโจวนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่เธอก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าชูโจวจะยอดเยี่ยมได้ขนาดนี้
ด้านหยางซินและฉีหยานต่างมองหน้ากันและยิ้มอย่างขมขื่น, พวกเขาอยากจะตบตัวเองอย่างแรง พวกเขามีโอกาสที่จะผูกมิตรกับชูโจงเมื่อก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็พลาดโอกาสไปโดยเปล่าประโยชน์…..โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยานซิน, ไม่เพียงแต่เธอจะไม่ริเริ่มผูกมิตรกับชูโจว แต่เธอยังดูถูกชูโจวไปเล็กน้อยด้วย
ด้านเกาไป่เฉิง, เขาแทบรอไม่ไหวที่จะตำหนิตัวเองว่าเป็นคนงี่เง่า ท้าทายใครไม่ท้าดันไปท้าคนที่น่ากลัวเเบบชูโจว……. ตอนนี้เขาแค่หวังว่าเขาจะไม่ต้องรับผิดชอบความผิดครั้งนี้, สำหรับเรื่องของหลิวเฉียนๆเขาคงไม่กล้าคิดถึงเรื่องของเธออีกในอนาคต
จากนั้นอาจารย์หมิงจูก็ไปที่มองเกาไป่เฉิงอย่างเฉยเมย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้จักเกาไป่เฉิง ".....นายลืมเรื่องของวันนี้เเล้วไปซะ"
“อ้อ……. อย่าแม้แต่คิดที่จะแก้แค้นโดยการใช้ผู้อาวุโสของตระกูลคุณ, ชูโจวไม่ใช่คนที่คุณจะสามารถท้าทายได้, และถ้าคุณไม่เชื่อฉันเเล้วผู้อาวุโสของตระกูลคุณเคลื่อนไหว…….. คุณก็จะได้รู้ผลที่ตามมาว่ามันน่ากลัวมากเเค่ใหน” หลังจากอาจารย์หมิงจูพูดจบ, ชูโจวก็ยกเท้าออกจากร่างของเกาไป่เฉิง
เกาไป่เฉิงยืนขึ้นทันทีและพูดอย่างถ่อมตน "อาจารย์หมิงจู, ฉันเข้าใจทุกอย่างครับ, เมื่อกี้ฉันแค่ล้มลงด้วยตัวเองเเละมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณชูโจวเลย"
อาจารย์หมิงจูพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ "พวกนายไปได้เเล้ว..."
เกาไป่เฉิงและเด็กชายอีกคนรีบพยักหน้าเเละจากไปด้วยความตื่นตระหนก
“ชูโจว หมดเรื่องแล้ว” อาจารย์หมิงจูมองไปที่ชูโจวและพูดต่อด้วยรอยยิ้ม "วันนี้ฉันจะพาคุณชมรอบๆ เมืองฐานอย่างกวางตุ้งเอง"
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ชูโจวก็มองไปที่หลิวเฉียนๆทันที…..เขามาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยียนหลิวเฉียนๆ, ไม่ว่าเขาต้องการที่จะไปกับตงฟางหมิงจูมากเเค่ใหนก็ตาม เเต่เขาก็ต้องถามความคิดเห็นของหลิวเฉียนๆก่อน
เมื่อตงฟางหมิงจูเห็นการตอบสนองของชูโจว, เธอก็เข้าใจความคิดของชูโจวในทันที จากนั้นมองไปที่ หลิวเฉียนๆ, หยางซินและฉีหยานพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม
"เฉียนเฉียนและเธอสองคนก็ด้วยกันนะ!"
“ค่ะ อาจารย์” หลิวเฉียนๆยิ้มสดใส
หยางซิน และ ฉีหยานก็มีความสุขมาก พวกเธอไม่เคยคาดคิดว่าอาจารย์หมิงจูจะเชิญพวกเธอเข้าร่วมด้วย
“ตกลงตามนี้นะ” ตงฟางหมิงจูถามชูโจวด้วยรอยยิ้ม
“ตกลงซิ….. งั้นวันนี้ก็รบกวนด้วยนะครับ” ชูโจวตอบด้วยรอยยิ้ม
อาจารย์หมิงจู, พาชูโจวและคนอื่นๆ มาที่ลานจอดรถและให้ขึ้นรถเปิดประทุนสีแดงเข้มที่หรูหราอย่างหาที่เปรียบมิได้
"ฟูมมมมมม!!" พร้อมกับเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ รถเปิดประทุนสีแดงเข้มก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและบินออกจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซาท์ไชน่า
"ชูโจว เมืองนี้มีสถานที่น่าสนใจมากมาย……แต่มีที่เดียวที่คุณไม่ควรพลาด" อาจารย์หมิงจูกล่าวกับชูโจวซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ
"ที่ไหนหรือ?"
"โกคูโคลอสเซียม!" ตงฟางหมิงจูตอบ
"โกคูโคลอสเซียม? โคลอสเซียมที่มีชื่อเสียงระดับโลกเเห่งนั้นหรอ… ฉันเคยได้ยินเรื่องของมันผ่านทางอินเทอร์เน็ต..."
"...ในโคลอสเซียม, มีมอนสเตอร์จำนวนมากถูกจองจำไว้สำหรับนักรบที่ต้องการจะต่อสู้"
"ยิ่งไปกว่านั้น ในทุกๆวันจะนักรบจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อชมการต่อสู้ของนักรบกับมอนสเตอร์….. อย่างไรก็ตาม ตั๋วสำหรับเข้าโกคูโคลอสเซียมมีราคาแพงมาก ว่ากันว่ากำไรต่อปีของที่นี่เกินหนึ่งล้านล้านเหรียญ.. . " ชูโจวตาเป็นประกายเมื่อได้ยินอาจารย์หมิงจูพูดถึงโกคูโคลอสเซียม
โกคูโคลอสเซียม อาจกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานบันเทิงที่เป็นสัญลักษณ์พิเศษในเมืองฐานกวางตุ้งเลยทีเดียว……น่าเสียดายที่ไม่มีวิดีโอการต่อสู้ในโกคูโคลอสเซียมแม้แต่วิดีโอเดียวบนอินเทอร์เน็ต
เห็นได้ชัดว่าทางโคลอสเซียมไม่อนุญาตให้มีการเผยแพร่วิดีโอการต่อสู้ของโกคูโคลอสเซียมบนอินเทอร์เน็ต….. เเต่มันก็เป็นเรื่องปกติ, ตั๋วเข้าชมโกคูโคลอสเซียมนั้นมีราคาแพงมาก ถ้าทุกคนดูวิดีโอออนไลน์ได้ จะมีสักกี่คนที่อยากไปโกคูโคลอสเซียมเพื่อเข้าชมเเละมันจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของโคลอสเซียมอย่างแน่นอน
"สิ่งที่คุณรู้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานการณ์ในโคลอสเซียมโกคู…. อันที่จริงในโคลอสเซียมไม่เพียงแต่มีการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับมอนสเตอร์เท่านั้น แต่ยังมีการต่อสู้ระหว่างมนุษย์ด้วยกันด้วย..."
"การต่อสู้ระหว่างมนุษย์?" ชูโจวผงะเล็กน้อย “ฝ่ายพันธมิตรไม่ว่าอะไรหรือ?”
"พวกเขาทั้งหมดลงนามในข้อตกลงโดยสมัครใจ ภายใต้กฎที่อนุญาตโดยฝ่ายพันธมิตร"
"ยิ่งไปกว่านั้น การจัดตั้งโคลอสเซียมยังได้รับการเสนอโดยเทพนักรบหลายคนในฝ่ายพันธมิตรอีกด้วย"
“ที่เป็นเเบบนี้เพราะพวกเขากังวลว่านักรบในเมืองฐานนั้นจะอยู่สบายเกินไปและค่อย ๆ เสียสัญชาตญาณการต่อสู้ไป ดังนั้นพวกเขาจึงอนุญาตให้มีการสร้างโคลอสเซียมขึ้นมา”
“ในตอนแรก โคลอสเซียมอนุญาตให้มนุษย์และมอนสเตอร์สู้กันเท่านั้น เเต่ในเวลาต่อมา, มีนักรบบางคนที่ไม่สามารถยุติความเกลียดชังได้ก็เลือกที่จะต่อสู้กันจนตายในโคลอสเซียม…… เเละหลังจากเห็นประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ โคลอสเซียมจึงริเริ่มที่จะค้าความตาย กักขังนักโทษและให้ต่อสู้เพื่อความบันเทิง...”
"มีโคลอสเซียมในเมืองหลักหลายแห่งทั่วโลก อย่างไรก็ตาม โคลอสเซียมโกคูในเมืองกวางตุ้งของเรานั้นมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ความมหัศจรรย์มักถือกำเนิดขึ้นที่โคลอสเซียมโกคูเเห่งนี้" ตงฟางหมิงจูเล่าให้ชูโจวฟังเกี่ยวกับประวัติของโคลอสเซียมและเรื่องราวภายในบางส่วน
"ความมหัศจรรย์?" ชูโจวแสดงสีหน้าสงสัย
“เดี๋ยวคุณก็รู้เอง” ตงฟางหมิงจูยิ้มเเละไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มอีก
ในขณะนี้ชูโจวเริ่มสนใจ โคลอสเซียมโกคูอย่างสมบูรณ์
………
โคลอสเซียมโกคู, ไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองฐานกวางตุ้ง……แต่อยู่ในมุมตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง
เเละในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงบริเวณใกล้เคียงของโคลอสเซียม, โคลอสเซียมโกคูทั้งหมดมีพื้นที่มากกว่า 50,000 ตารางเมตร ซึ่งมันใหญ่กว่าสำนักงานใหญ่ของโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กเสียอีก
นอกจากนี้ยังมีโล่พลังงานสีขาวขนาดใหญ่อยู่เหนือโคลอสเซียม ซึ่งมันทำให้ผู้คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ภายในโคลอสเซียมได้
"คนเยอะมาก"
ชูโจวมองไปทางโคลอสเซียมฟโกคูด้วยความตกใจ, เขาเห็นจำนวนรถที่หนาแน่นพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อตัวเป็นกระแสน้ำ พุ่งเข้าโคลอสเซียมจอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งกว่านั้น คนทั้งหมดบนรถเหล่านั้นบางคนมีผมสีดำและผิวเหลือง บางคนมีผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้าและผิวขาว, บางคนมีผมหยิกและผิวดำ และบางคนมีผ้าสีขาวบนศีรษะ……..สไตล์การแต่งตัวของพวกเขาแตกต่างกันมาก, เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้มาจากทั่วทุกมุมโลก
………………………