ตอนที่ 56 ภารกิจของหมอผีผู้จารึก
ตอนที่ 56 ภารกิจของหมอผีผู้จารึก
“แล้วแต่เจ้าจะจัดการ”
อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่เอ่ยปากกล่าว ก่อนจะไม่ได้พูดสิ่งใดอีก ส่วนอาจารย์หมอผีดาร์เลเน่เองก็พยักหน้ารับให้นางตัดสินใจ
อาจารย์หมอผีสาวหันไปมองเหล่าศิษย์ที่เป็นผู้จารึกที่อยู่หน้าห้องและเริ่มกล่าวแนะนำตัวเอง
“ข้าคืออาจารย์หมอผีเอวา เป็นอาจารย์หมอผีผู้จารึกที่สถาบันเอลาเดีย แต่ไม่ได้สอนวิชาใด ๆ หน้าที่ของข้าคือเป็นหนึ่งในผู้ช่วยในการเฝ้าระวังบางสิ่งที่นั่น แต่ว่าสถานการณ์ที่เหมืองมรณะกำลังอยู่ในความเสี่ยงที่ไม่อาจจะคาดเดาทำให้ข้าต้องมาที่นี่”
“เรื่องต่อไปคือความเสี่ยงเหล่านั้นคืออะไร พวกเจ้าบางส่วนอาจจะรู้ แต่บางคนคงไม่รู้ เมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบพื้นที่ลี้ลับแห่งหนึ่งภายในเหมือง มันไม่น่าแปลกอะไร เพราะทุก ๆ ปีจะพบหนึ่งถึงสองแห่งอยู่แล้ว แต่ว่าครั้งนี้พื้นที่ลี้ลับนี้กลับเกิดการเปลี่ยนแปลง อาณาเขตของมันจะขยายตัวออกไปไม่หยุด ซึ่งกรณีที่คล้ายกันคือมันกำลังจะยกระดับพื้นที่ลี้ลับที่มีระดับสูงขึ้นไปอีก”
“แต่ว่าเพียงคล้าย มันกลับไม่ใช่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรกับพื้นที่ลี้ลับแห่งนั้น สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือการหยุดมันไม่ให้ขยายตัว โดยการสร้างอักขระวิญญาณหยุดยั้งการขยายตัว เพียงแต่พื้นที่ขนาดใหญ่แบบนั้นต้องเป็นหมอผีแท้จริงระดับ 5 และผู้จารึกระดับ 5 ถึงจะปลดปล่อยพลังครอบคลุมได้”
“ถึงข้าจะไม่ใช่หมอผีแท้จริงและผู้จารึกระดับ 5 แต่ว่ามีวิธีการที่หมอผีผู้จารึกใช้ในการจัดการจารึกในพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่นั้นคือ การใช้หมอผีผู้จารึกคนอื่นเข้าร่วมมือ จึงสามารถสร้างอักขระวิญญาณครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ได้”
“ดังนั้นผู้ที่จะเข้ามาช่วยข้าก็เป็นพวกเจ้าทั้ง 4 คน นี่เป็นคำสั่งภารกิจบังคับจากสถาบันเอลาเดีย แม้จะบังคับ แต่ก็ถือเป็นโอกาส พวกเจ้าจะมีโอกาสได้สัมผัสการทำงานของอักขระวิญญาณระดับ 3 ซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่อเส้นทางผู้จารึกของพวกเจ้า”
“มีคำถามอะไรไหม” อาจารย์หมอผีเอวาถามขึ้นมา แต่ไม่มีใครเอ่ยขึ้นมาทำให้นางกล่าวต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือกันเถอะ ช้าเพียงวินาทีมันก็ยิ่งยากจะควบคุม”
หลังจากจบการอธิบายสั้น ๆ แผนการทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยแบ่งออกเป็นสองส่วน นั้นคือฝ่ายผู้จารึกที่จะทำการหยุดการขยายของพื้นที่ลี้ลับ และอีกฝ่ายนั้นคือพวกต่อสู้กับผีเร่ร่อนที่กำเนิดขึ้นมาจากพื้นที่ลี้ลับ
โดยในฝ่ายต่อสู้ยังมีภารกิจอีกอย่างคือเข้าไปทำลายต้นต่อและตามหาหมอผีฝึกหัดคนที่เข้าไปกวาดล้างพื้นที่ลี้ลับเป็นกลุ่มที่สอง ซึ่งหายตัวไปและยังไม่ออกมา
ลีโอพอได้ยินก็เป็นกังวลถึงเรื่องของจิมในทันที เพราะสหายผู้นี้ได้เข้าไปกับทีมกวาดล้างในครั้งที่สองด้วย
‘ข้าทำได้เพียงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้น’ ลีโอกล่าวในใจ เพราะรู้ว่าพลังของหมอผีฝึกหัดระดับ 2 ไม่แข็งแกร่งพอจะไปตามหาในพื้นที่ลี้ลับที่กำลังขยายตัวแห่งนี้ได้
แผนการถูกอธิบายเสร็จสิ้นทุกคนก็ขึ้นรถไปทันที รถของลีโอยังมีทีม 107 มากับเขาด้วยและหมอผีฝึกหัดระดับ 2 และ 3 ที่รับภารกิจคุ้มกันมาด้วย
จุดหมายที่ลีโอต้องไปนั้นคือชั้นที่ 6 ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ใกล้สุด เนื่องจากระดับพลังของลีโอนั้นน้อยสุดจึงได้รับด้านนี้ไป ส่วนหมอผีฝึกหัดที่เป็นผู้จารึกอีก 3 คนจะต้องนำทีมไปยังชั้นที่ 7 8 และ 9 มันจะล้อมรอบพื้นที่ลี้ลับที่เกิดแถวชั้น 10 โดยชั้น 10 จะยังมีอาจารย์หมอผีเอวาเข้าไปสร้างจุดศูนย์กลางของอักขระวิญญาณด้วยตัวเอง
“หัวหน้าที่นี่มันทำให้ข้ารู้สึกไม่ค่อยดีเลย” ซูซี่ที่ขับรถพาลีโอไป โดยมีรถบรรทุกเหมือง 1 คันนำหน้าและอีก 2 คันตามหลังมา
“มันอันตราย ถ้าเกิดอะไรขึ้นเจ้าต้องพร้อมที่จะพาข้าหนี” ลีโอกล่าวย้ำ ไม่ได้เพียงแค่พูดกับซูซี่ แต่ยังรวมถึงฮานและแฮงแมนที่มาด้วย
“หัวหน้าไม่ต้องห่วงพวกเราจะไม่ลงจากรถและเตรียมรถให้หนีได้ตลอดเวลา” แฮงแมนกล่าวขึ้นมา
“อืม” ลีโอพยักหน้าให้ แม้จะไม่มั่นใจว่าที่กำลังไปจะปลอดภัยหรือไม่ก็ตาม
ตอนนั้นเองรถด้านหน้าก็หยุดลง ก่อนจะมีหมอผีฝึกหัด 4 คนพากันกระโดดลงมาจากรถ หมอผีฝึกหัดทั้งสี่คนเป็นเพียงหมอผีฝึกหัดระดับ 2 ขั้นสูงเท่านั้น มีอีกคนคือหมอผีฝึกหัดระดับ 3 แต่อยู่ในขั้นต่ำชื่อว่า ชิโลห์ และไม่ได้ลงมา
หมอผีฝึกหัดทั้ง 4 คนเหมือนจะค้นพบบางสิ่งจึงลงมาจัดการ
ตอนนั้นไฟของรถบรรทุกด้านหน้าเริ่มกะพริบและก็ดับลง รถบรรทุกเหมือนที่พวกเขานั่งมาด้วยก็มีสัญญาณที่เหมือนกับคันตรงหน้า ไฟเริ่มกะพริบถี่ขึ้น ก่อนจะระบบจะดับลงไป
‘ผี!’ ลีโอจ้องมองอย่างระมัดระวัง แต่ไม่ได้ออกไปจัดการเอง เพราะนี่คือหน้าที่ของผู้คุ้มกันพวกนั้น
ลีโออยากจะเห็นการต่อสู้ของหมอผีฝึกหัดคนอื่น ๆ เพราะที่ผ่านมาเขาเห็นแต่การต่อสู้กับผีของตนเองเท่านั้น
หมอผีฝึกหัดเหล่านี้ไม่มีดวงตาผนึกเทพเช่นลีโอ ดังนั้นเป้าหมายหลักคือการฆ่าพวกมัน ทั้ง 4 ชักดาบอาคมของตนเองออกมา จะเห็นว่าดาบทุกเล่มที่คนเหล่านี้ใช้มีอักขระวิญญาณไฟ 1 ตัวสลักไว้
ดาบที่เต็มไปด้วยเพลิงลอยไปในอากาศและฟันใส่ผีเร่ร่อนที่มีกันอยู่ไม่ต่ำกว่า 5 ตัวได้ออกมาโจมตีพวกเขา เป็นครั้งแรกที่ลีโอเห็นว่าวิญญาณเร่ร่อนเหล่านี้รวมกลุ่มกันสู้
เขายังสังเกตดูทักษะดาบที่คนเหล่านี้ใช้กัน มันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าสิ่งที่จิมสอนเขาซะอีก ลีโอมั่นใจว่าถ้าสู้กันคนเหล่านี้ไม่มีทางสู้เขาได้แน่นอน
“อย่าได้มอง” ลีโอหันไปเตือนทั้งสามคนในรถ เพราะพวกเขาทั้งสามเป็นเพียงคนธรรมดา ถ้าเกิดไปมองในสิ่งที่ไม่ควรเข้าอาจจะบาดเจ็บทางจิตได้
การต่อสู้ไม่ได้เกินมือของทั้งสี่คน เพราะวิญญาณเร่ร่อนเหล่านี้เป็นพวกประเภท 0 ชั้นทั่วไปเท่านั้น หลังจากผีตัวสุดท้ายโดนฟันจนสลายหายไปจนเหลือทิ้งไว้เพียงผงวิญญาณระบบบนรถก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
น่าเสียดายลีโอกล่าวพึมพำต่อผีเร่ร่อนทั้ง 5 ตัวที่ตาย ถ้าเขาจับมันเข้าในโลกมิติดวงตาผนึกเทพได้ก็คงดีไม่น้อย
“ระบบรีบูทแล้ว เราไปต่อกันได้แล้ว” แฮงแมนกล่าวบอก
“รถติดแล้ว” ซูซี่กล่าวรับ
รถบรรทุกคันด้านหน้าก็กลับมาเป็นปกติเช่นกัน
“ข้างหลังไม่เป็นอะไรนะ เมื่อครู่เป็นพวกผีเร่ร่อนที่เข้ามารวมตัวกันเพราะสัมผัสได้ถึงอนุภาควิญญาณที่ปั่นป่วนในอากาศ อีกไม่นานพวกเราก็จะถึงแล้ว”
ชิโลห์ หมอผีฝึกหัดระดับ 3 ผู้ที่เป็นหนึ่งในสองผู้นำขบวนนี้ได้วิทยุมาสอบถามรถคันอื่น ๆ และอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไปในตัวด้วย
ทุกคนก็ตอบกลับไป รวมทั้งลีโอด้วย
ลีโอเองก็เป็นหนึ่งในสองหัวหน้าภารกิจของขบวนรถนี้ด้วย เพราะเขาคือหมอผีผู้จารึก จึงมีอำนาจตัดสินใจไม่น้อยไปกว่ากัน
ไม่นานรถบรรทุกก็พากันขับมาจนถึงชั้น 6 พอมาถึงขนทั้งร่างของลีโอก็ลุกซู่ขึ้นมา นี่เป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายที่อยู่ด้านหน้าอย่างชัดเจน เพียงแต่ว่าลีโอไม่อาจจะถอยหนีไปได้
พวกเขาจอดรถกันอยู่ที่นี่และใช้วิธีเดินเท้าต่อเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร เนื่องจากว่าไม่สามารถเอารถเข้าไปได้ เพราะทันทีที่เข้าใกล้กว่านี้มันจะได้รับผลกระทบจากคลื่นที่ปล่อยออกมาของอนุภาควิญญาณที่หนาแน่นจนไม่สามารถใช้การใด ๆ ได้อีก
คนธรรมดาในทีมก็ต้องอยู่ที่นี่ด้วย พวกเขาไม่สามารถไปต่อได้
รถในขบวนด้านหลังสองคันนั้นบรรทุกสิ่งของไว้ด้วย มันเป็นกล่องขนาดใหญ่ที่มีล้อลาก แต่ว่าก็ยังใหญ่เกินไปกว่าที่จะใช้กำลังที่มีลากไปได้
ตอนนั้นเองชิโลห์ หมอผีฝึกหัดระดับ 3 ก็ลงมาจากรถก่อนจะหยดเลือดลงไปที่กล่องไม้ที่เต็มไปด้วยดิน ลีโอมองอย่างสนใจว่าชายคนนี้กำลังทำอะไร
ตอนนั้นเองเลือดก็ค่อย ๆ รวมตัวกันเป็นเหมือนทางเชื่อมแห่งวิญญาณผสานไปกับดินในกล่อง ดินเริ่มก่อตัวกลายเป็นวัวขนาดใหญ่ตัวหนึ่งที่พุ่งออกมาจากกล่อง
‘ภูติดิน หนึ่งในรูปแบบที่กลายเป็นสัตว์’ ลีโอมองอย่างสนใจ
หมอผีสามารถทำสัญญากับพวกภูติ ผี ปีศาจได้ แต่ว่าตามธรรมเนียมแล้วหมอผีจะทำสัญญากับเพียงภูติเท่านั้น ส่วนผีและปีศาจไม่นิยม เพราะพวกนี้อันตรายเกินไป แน่นอนว่าพวกหมอผีนอกรีตไม่สนใจอยู่แล้ว
แม้ว่าภูติดินที่เป็นวัวตัวนี้จะเป็นเพียงระดับต่ำสุดในบรรดาภูติ เพราะดูจากรูปร่างที่ไม่มั่นคงของมัน แต่ว่าอย่างไรก็ยังเป็นภูติที่มีพละกำลังมาก มันสามารถลากจูงสัมภาระที่ใช้ในภารกิจทั้งหมดได้อย่างไม่ยากเย็น
“ขึ้นไปกันเถอะ พวกเราไม่จำเป็นต้องเดินไป” ชิโลห์กล่าว
ลีโอพยักหน้าตกลง ก่อนจะขึ้นไปบนรถโลหะที่ลากไปโดยภูติดิน มันวิ่งด้วยความเร็วที่มากขึ้นและมากขึ้นจนความเร็วไม่ได้ช้าไปกว่ารถบรรทุกเหมืองเลย
ไม่นานก็มาถึงยังจุดหมายที่พวกเขาต้องการคือที่ชั้น 6 ในตำแหน่ง 2 กิโลเมตรเข้ามา
ที่นั่นจะมองเห็นออกไปไกล ๆ ได้เลยว่ามีกำแพงอนุภาคพลังงานที่กำลังรวมตัวกันและถูกบางสิ่งผลักให้ขยายตัวออกมา มันกวาดพื้นที่เข้าไปด้านในเรื่อย ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมีหวังทั้งเหมืองมรณะได้เปลี่ยนไปเป็นพื้นที่ลี้ลับแน่นอน ถึงตอนนั้นก็ยากจะพูดว่าทุกคนในนี้จะเป็นอย่างไร
“เจ้าพร้อมนะ” ชิโลห์กล่าวถามกับลีโอ
“แน่นอน มาลงมือกันเถอะ” ลีโอกล่าวตอบกลับไป ก่อนจะลงจากรถเพื่อไปเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ มา
