ตอนที่ 30 เมืองยุ่นเห่ย
เมื่อได้เห็นแบบนี้หวงหลิงและซื่อหมินก็ตกใจ
นี่มันการเพิ่มพลังอะไรกัน? แม้ว่าพวกเธอจะได้สัมผัสกับมันเพียงครั้งเดียวแต่พวกเธอก็รู้สึกพอใจอย่างมาก
ด้วยความช่วยเหลือของยื่อซวนนั้นทำให้พวกเธออาจกล่าวได้ว่าเธอได้รับพลังของเกล็ดน้ำแข็งทมิฬอย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากการกลั่นเกล็ดน้ำแข็งทมิฬอย่างสมบูรณ์ได้แล้ว พวกเธอสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าค่ากระดูกของพวกเธอนั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
จากนั้นหวงหลิงและซื่อหมินได้บอกลา ยื่อซวนและกลับไปที่ห้องของพวกเธออย่างมีความสุข
แม้ว่าการต่อสู้กับลู่หยานรันในวันนี้จะทําให้พวกเธอค่อนข้างตกใจเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่าที่พวกเธอสามารถดูดซับพลังของเกล็ดน้ำแข็งทมิฬได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยความช่วยเหลือของปรมาจารย์ยื่อซวน
'ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคืนนี้ข้าจะฝันถึงปรมาจารย์ยื่อ'
ทั้งสองสาวนอนอยู่บนเตียงและนึกถึงรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของยื่อซวนทำให้พวกเธอรู้สึกถึงเหมือนมีผีเสื้ออยู่ในท้องของพวกเธอ
หากหลินชิงได้รู้ว่าลูกศิษย์ทั้งสองคนของเธอกําลังมีความคิดแบบนี้เธอคงจะกุมหัวเธออย่างทําอะไรไม่ถูกและพูดว่า "มันยากมากที่จะฝึกวินัยกับเด็กผู้หญิงพวกนี้เมื่อพวกเธอได้โตขึ้น"
ในเช้าวันที่สาม อากาศเริ่มมืดครึ้งเพิ่มขึ้นทางทิศตะวันออก
ยื่อซวนได้พาลู่หยานรันและคนอื่นๆขึ้นไปบนนกเพลิงและบินไปยังมณฑลยูนนาน
เมื่อพวกเขาค่อยๆเข้าใกล้หมู่บ้านในความทรงจําของเธอนั้นอารมณ์ของลู่หยานรันก็เริ่มมืดมนเช่นกัน ความสุขที่เธอได้รับจากความก้าวหน้าด้านระดับของเธอก่อนหน้านี้ค่อยๆจางหายไป
และเวลาช่วงเช้าของทั้งวันนั้นก็ได้ผ่านไป
เมื่อตกกลางคืนยื่อซวนก็พาพวกเธอไปหาที่พักผ่อน
ในขณะเดียวกัน ยื่อซวนก็ได้ฝึกฝนประสบการณ์การต่อสู้ของลู่หยานรันอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาคือคนที่เป็นคู่ซ้อมของเธอ
แน่นอนว่าเขาสามารถเอาชนะคนที่อยู่ขั้นที่ห้าของระดับแก่นแท้จริงได้อย่างง่ายดาย
แต่ถึงอย่างนั้น ลู่หยานรันก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของยื่อซวนได้เกินสามรอบ
"ดิ๊ง! ลูกศิษย์ของท่านได้รับประสบการณ์ฝึกการโจมตีโดยตรงจากท่าน ท่านได้รับการตอบแทนแบบสุ่ม 9 เท่า ขอแสดงความยินดีที่ท่านได้รับแต้มประสบการณ์การต่อสู้ความเป็นความตาย 27 แต้ม!"
เมื่อการซ้อมสิ้นสุดลงการแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในใจของยื่อซวน
วินาทีถัดมาเขาได้รับประสบการณ์การต่อสู้ความเป็นความตาย 27 แต้มจากอากาศบางๆในใจของเขา เขาได้รับความเข้าใจเล็กน้อยเกี่ยวกับเส้นทางการฝึกฝนอีกครั้ง "ตามที่คาดไว้ทุกอย่างสามารถปรับปรุงได้จริงๆ!" เมื่อเห็นแบบนี้ ยื่อซวนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
ไม่นานวันที่สองของการเดินทางก็มาถึง
ยื่อซวนและคนอื่นๆ ได้ผ่านภูเขาและป่าไม้อีกครั้ง และเมื่อถึงตอนเที่ยงพวกเขาก็มาถึงมณฑลยูนนานได้ในที่สุด!
ตราบใดที่พวกเขาผ่านป่านรกซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาไปได้ พวกเขาจะสามารถเข้าถึงบ้านเกิดของลู่หยานรันซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจําที่น่าเศร้าของเธอหมู่บ้านหลินชิทางตะวันออกของเมืองยุ่นเห่ย
อย่างไรก็ตามป่านรกนั้นเต็มไปด้วยอันตรายอย่างยิ่ง และมีปีศาจระดับห้าอยู่ภายในป่าด้วยซึ่งเทียบได้กับผู้ฝึกตนระดับรูปแบบการก่อตัวหลัก
ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะเข้าไปในป่านรกและพวกเขาเลือกที่จะอ้อมเส้นทางออกไป
แต่เพียงแค่ยื่อซวนได้ปล่อยออร่าของเขาออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สัตว์ปีศาจระดับห้าในป่านรกสั่นก็สะเทือนทันทีอย่างไม่สามารถควบคุมตัวได้และหมอบลงบนพื้นด้วยความกลัว
นกเพลิงไม่ได้ตรงไปที่หมู่บ้านหลินชิ แต่กลับลงจอดที่เมืองยุ่นเห่ยที่อยู่ใกล้เคียง
ในความทรงจําของลู่หยานรันนั้นเธอจําได้เพียงการปรากฏตัวของโจรอย่างคลุมเครือ แต่เธอไม่ทราบที่มาที่แน่นอนของโจรกลุ่มนั้นและเธอไม่รู้ว่าฐานของพวกโจรนั้นอยู่ที่ไหน
ดังนั้นยื่อซวนจึงวางแผนที่จะสืบข้อมูลบางอย่างในเมืองยุ่นเห่ยก่อน
ผู้ปกครองเมืองยุ่นเห่ยนั้นได้มาถึงขั้นที่เจ็ดของรูปแบบจิตวิญญาณสีม่วง ทันทีที่เขารู้สึกถึงออร่าของนกเพลิงนั้นเขาก็ตกใจทันที
ระดับของนกเพลงินั้นอยู่ในระดับสี่ขั้นสูงและความแข็งแกร่งของมันไม่ได้ต่ำไปกว่าเขาเลย หากมีคนที่ควบคุมสัตว์ร้ายที่น่ากลัวแบบนี้ได้ความแข็งแกร่งของคนๆนั้นจะต้องสูงมากแน่นอน
ผู้ปกครองเมืองยุ่นเห่ยรีบออกไปต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้มทันที
ไม่ว่าจุดประสงค์ของอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรเขาก็ไม่สามารถที่จะขัดใจคนพวกนี้ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาเป็นถึงผู้ปกครองเมืองที่ไร้มารยาทต่อพวกเขา ความไม่พอใจเพียงเล็กน้อยนั้นอาจทำให้พวกเขาทําลายเมืองแห่งนี้ได้เลยด้วยซ้ำ
"ข้าขอทราบได้ไหมว่าพวกท่านนั้นมาจากไหน? ส่วนข้าคือหลินหยวนผู้ปกครองเมืองยุ่นเห่ย คารวะครับนายท่าน!"
หลินหยวนโค้งคํานับด้วยความเคารพไปที่นกเพลิงตัวนั้น
"ข้ามาจากนิกายชิงหยุนชื่อยื่อซวน"
ยื่อซวนมองไปที่หลินหยวนแล้วพูดอย่างใจเย็น ในขณะเดียวกันนกเพลิงตัวนั้นก็กลายเป็นลําแสงและเข้าไปสู่ช่องว่างระหว่างคิ้วของลู่หยานรันทันที
"ข้าไม่คิดเลยว่าจะเป็นท่านปรมาจารย์ยื่อซวน ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานแล้ว ได้โปรดมาที่คฤหาสน์ของข้าก่อนเพื่อเยี่ยมชม และข้าจะปฏิบัติต่อพวกท่านเป็นอย่างดี!"
เมื่อได้ยินการแนะนําตัวของเขาหลินหยวนก็ตกใจ
เขาสงสัยว่าทําไมผู้ฝึกตนคนนี้ถึงยังเด็กมาก นั่นก็เพราะว่าเขาคือยื่อซวนจากนิกายชิงหยุน!
ในราชวงศ์เฉียนอันยิ่งใหญ่นั้นไม่มีใครที่ไม่รู้จักชื่อของยื่อซวน
เขาไม่คิดว่าคนในตํานานนี้จะปรากฏตัวที่เมืองยุ่นเห่ย แต่ทำไมคนที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ถึงได้มาที่สถานที่ห่างไกลแบบนี้ ?
"ข้าไม่ได้อยากรบกวนเจ้ามาก ข้ามาที่เมืองยุ่นเห่ยนี้เพื่อรวบรวมข้อมูลบางอย่างเท่านั้น!" ยื่อซวนกล่าว
"ท่านปรมาจารย์ยื่อซวน โปรดบอกข้าว่าท่านกําลังหาข้อมูลอะไรอยู่ ข้าจะบอกท่านในทุกอย่างที่ข้ารู้" หลินหยวนพูดด้วยความเคารพ
"ข้าต้องการรู้ข้อมูลของพวกโจรทั้งหมดที่ชายแดนของเมืองยุ่นเห่ย!" ยื่อซวนกล่าว
"หือ?" เมื่อได้ยินแบบนี้การแสดงออกของหลินหยวนก็เปลี่ยนไปทันที "ข้าเกรงว่ามันคงเป็นไปไม่ได้" เมื่อได้ยินแบบนี้ยื่อซวนก็สงสัย
ในฐานะผู้ปกครองเมืองยุ่นเห่ย เป็นไปไม่ได้ที่หลินหยวนจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกโจรรอบๆเมืองยุ่นเห่ย
หากพวกโจรในเมืองได้อาละวาดและส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนทั่วไปได้นั้น ในฐานะผู้ปกครองเมืองยุ่นเห่ยเขาจะถูกลงโทษโดยราชวงศ์เฉียนอันยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
แม้ว่าการแสดงออกของยื่อซวนจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่หลินหยวนก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่น่ากลัวอย่างยิ่งและเหงื่อของเขาก็ไหลออกมาที่หลังของเขา "ข้ารู้ข้อมูลบางอย่าง แต่ว่ามันเป็นข้อมูลเมื่อสามปีก่อน เมื่อสามปีก่อนผู้ฝึกตนของนิกายซวนหยินมาได้ที่เมืองยุ่นเห่ยเพื่อเข้ามารับภารกิจกําจัดโจรในเมือง ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองจึงได้ยุติการมีส่วนร่วมในการจับกุมและกําจัดโจรหลังจากนั้น!" หลินหยวนอธิบายอย่างรีบร้อน
นิกายซวนหยินเป็นนิกายที่มีอํานาจมากที่สุดเป็นอันดับสองในราชวงศ์เฉียนอันยิ่งใหญ่ พวกเขามีอํานาจมากพอที่จะเข้าควบคุมภารกิจกําจัดโจรในเมืองโดยใช้หมายจับที่ได้รับจากนิกายของพวกเขาได้