ตอนที่ 22
อเล็กซ์ตรวจสอบสิทธิอีกไม่กี่อย่าง และผู้จัดการก็นำถุงเงินมามอบให้กับเขา
" นี้ขอรับ 15 เหรียญทอง "
อเล็กซ์ที่ได้ฟัง เขาก็ประหลาดใจเล็กน้อย และให้เข้าใจแล้วว่าทำไม เจ้าผู้จัดการหัวหมอคนนี้ต้องการเอาระดับสมาชิกมาแลก ราคาเจ้าปลานั่นสูงถึง 30 เหรียญทอง
" ท่านบอกข้าได้ไหม ว่าปลาตัวนั้นทำไมราคาถึงแพงขนาดนี้ "
" โอ้ ท่านไม่รู้จักปลาเนวี่สินะ คืองี้ มันเป็นปลาวิเศษที่หาค่อนข้างยาก เพราะพวกมันกินเหยื่อที่พิเศษมากๆ ดังนั้นความหายากมันจึงเพิ่มขึ้น …. "
" …. แถมที่ท่านจับมาได้ก็เป็นระดับพิเศษ ซึ่งมันเป็นที่ต้องการของรองหัวหน้าสมาคมนักปรุงยาในเวลานี้พอดี ข้าจึงขายให้เขาไป … "
" …. ส่วนที่ท่านหาปลาตัวนี้มาได้ยังไง ไม่ต้องห่วง ทางสมาคมไม่ต้องการบังคับถามที่มาของวัตถุดิบ โลกใบนี้มีเรื่องราวประหลาดมากมาย เราในฐานะมืออาชีพก็เข้าใจ …. "
" …. แต่ถ้าท่านต้องการแบ่งปันความรู้ ทางสมาคมก็จะมอบรางวัลเพื่อตอบแทนท่านแน่นอน "
อเล็กซ์ที่ได้ฟังก็เข้าใจ ส่วนเรื่องพวกความเป็นมืออาชีพพวกนี้ เขาก็พอเข้าใจบ้างอยู่แล้ว
แต่ภายในแววตาของผู้จัดการ ก็มีความต้องการที่จะให้อเล็กซ์มอบความรู้ ที่จะหาเจ้าปลาเนวี่ระดับพิเศษมาเหมือนกัน
แต่อเล็กซ์จะกล่าวได้ยังไง ? ว่าเขาเพียงแค่ลงไปในน้ำ และต่อยหมัดใส่พวกมันจนหมดสภาพและจับตัวมา
วิธีการนี้ ถ้าขืนบอกคนอื่นไป แล้วพวกเขาจะทำได้หรอ ? แถมมันจะเป็นการเปิดเผยความลับของเขาด้วย เขาจึงไม่อยากบอกรายละเอียดในเรื่องนี้
" มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ ถ้าผมยืนยันได้ ผมจะมาแบ่งปันข้อมูลให้กับสมาคมแน่นอน "
อเล็กซ์เลือกวิธีพูดที่เป็นกลาง ไม่ทำให้แน่ชัดหรือพยายามปกปิดสิ่งใดเอาไว้ เมื่อเขาได้รับเงินมา เขาก็เริ่มถามหาถึงวิธีการขนส่งปลา เพื่อให้สะดวกในการเดินทางไปจับปลามาจำนวนมาก
เรื่องกระเป๋ามิติเลิกคิดไปได้เลย เพราะราคาพวกมันแพงแบบมหาศาล แถมจำนวนของพวกมันก็มีน้อยและถูกครอบครองโดยบุคคลระดับสูงทั้งนั้น หากให้ไปถามซื้อก็คงไม่ได้การตอบรับกลับมาอยู่ดี
ทางออกที่อเล็กซ์มีก็คือเช่าหรือซื้อเรือลำใหญ่ เพื่อบรรทุกปลาที่จะหามาได้ หรืออาจจะอาศัยเรือนักตกปลาคนอื่นไปด้วยกัน
แต่ว่านั่นจะทำให้เขากลายเป็นเป้านิ่ง และเคลื่อนไหวได้ลำบาก เพราะต้องมาพะวงเรือที่เชื่องช้า เขาอาจจะถูกตลบหลังเอาได้
ทางแก้สิ่งนี้ก็คือเสียเงินจ้างคนคุ้มกันให้ดี แต่สิ่งนั้นก็มีข้อเสียมากกว่าข้อดี อเล็กซ์มีความลับและต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้มีคนอื่นมาเข้าใกล้เพื่อสืบข้อมูลและการกระทำของเขา
' เห้อ การเริ่มต้นช่วงแรกๆก็เป็นแบบนี้แหละ เราลืมความยากลำบากช่วงแรกๆซะหมดเลย '
ก่อนที่อเล็กซ์จะมาโผล่ที่นี้ เขาแข็งแกร่งและมีอุปกรณ์ที่ช่วยจับปลามากมาย รวมถึงถึงถุงมิติ
แถมเขายังมีผู้เล่นเป็นเพื่อนที่ช่วยเหลือกันได้ พวกเขาอาจะช่วยกันเฝ้าเรือหรือคุ้มกันได้
แต่คราวนี้เขาค่อนข้างโดดเดี่ยวจึงเคลื่อนไหวลำบาก ด้วยการมีเพียงชีวิตเดียว การจะหันหน้าไปทางไหน ก็ดูจะอันตรายไปหมด
' แผนการจับปลาจำนวนมากก็คงต้องทิ้งไป เหลือเพียงจับพวกปลาวิเศษราคาแพงก็พอ '
อเล็กซ์มีความสามารถที่ทำให้เคลื่อนไหวในน้ำได้ดีที่สุด การจะหาปลาหายากสำหรับเขาไม่ใช่เรื่องยากเลย ขอแค่มีเวลาที่เพียงพอเท่านั้น
อเล็กซ์เดินเข้าไปยังอีกโซนหนึ่งภายในสมาคม ซึ่งมีเพียงสมาชิกสมาคมเท่านั้นที่เข้ามาด้านในนี้ได้
ในสถานที่แห่งนี้ มีโต๊ะและเก้าอี้ให้เหล่าสมาชิกมานั่งพักผ่อน และแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการตกปลากัน รวมทั้งเป็นสถานที่หาคนไปร่วมตกปลาด้วยกัน ถือได้ว่าเป็นคอมมูนิตี้ของนักตกปลามืออาชีพ
แต่อเล็กซ์ก็เดินผ่าน โดยไม่สนใจคนอื่น เขาไปยังมุมหนึ่งที่มีป้ายขนาดใหญ่
บนป้ายมีกระดาษแปะเอาไว้หลายใบ ซึ่งมันเป็นใบคำร้องจากบุคคลภายนอก ว่าต้องการปลาชนิดไหน ให้ราคาเท่าไหร่และจำนวนแค่ไหน
ซึ่งสมาคมก็จะเป็นคนรับเรื่องและนำมันมาแปะเอาไว้ สมาคมจึงทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้ผสานงานให้กับทั้งสองฝั่ง
ถ้าทำตามใบคำร้องได้สำเร็จ ก็จะมีคะแนนมอบให้ จนมีคะแนนมากพอที่จะได้เลื่อนขั้นสมาชิก ที่จะมีสิทธิพิเศษอย่างอื่นมอบให้เพิ่มเติม
พวกด้านล่างของกระดาน จะเต็มไปด้วยความต้องการปลาที่ค่อนข้างธรรมดา พวกเขาส่วนใหญ่อาจจะเป็นภัตตาคาร หรือร้านอาหารทั่วไปรวมถึงบรรดาพ่อค้าด้วย
ปลาระดับพิเศษถือเป็นวัตถุดิบที่มีคนต้องการในทุกวัน เพราะพวกเขาต้องกินอาหารทุกวัน การเปลี่ยนแปลงเมนูปลาก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ
สำหรับคนที่มีฐานะขึ้นมาหน่อย พวกเขาไม่กลัวที่จะใช้เงินที่มีอยู่แล้ว กลัวแต่มันจะไม่มีที่ให้ใช้เงินซะมากกว่า
ขึ้นมาด้านบนหน่อยก็จะเป็นปลาทั่วไป ที่มีความต้องการเป็นปลาระดับ ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นประเภทที่หายาก
ส่วนด้านบนสุด เป็นปลาวิเศษแทบทั้งสิ้น และมีปลาเนวี่อยู่บนป้ายด้วย ซึ่งพวกเขาต้องการมันทั้งแบบ ธรรมดา พิเศษและยิ่งใหญ่
อเล็กซ์เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ต้องการปลา โอแมน ระดับยิ่งใหญ่ รางวัล 250 เหรียญทอง
ซึ่งก็แปลกเหมือนกัน ที่ไม่ได้ระบุว่าผู้ส่งคำร้องขอนี้เป็นใคร ดูเหมือนจะเป็นผู้มีอิทธิพลที่ไม่ต้องการแสดงตัวออกมา
ซึ่งส่วนใหญ่จะมีชื่อพวกรองสมาคม หรือสมาชิกระดับสูงของแต่ละองค์กรปรากฏความต้องการอยู่ตลอด
นี้แสดงให้เห็นว่า สมาคมนักตกปลาก็มีลู่ทางเป็นของตัวเอง และอาจจะร่ำรวยได้ในอนาคตเหมือนกัน
อเล็กซ์ตรวจสอบกระดานคำร้องขอเสร็จ เขาก็พบเพียงปลาไม่กี่ชนิดที่รู้จัก แต่แผนที่ที่จะพบพวกมันรอบเมือง เขาก็ยังไม่รู้ ได้แต่เก็บไว้ในความทรงจำ เผื่อไปหาพวกมันเจอในอนาคต
ถัดมาอเล็กซ์ก็มาถึงอีกกระดานหนึ่ง ซึ่งกระดานนี้มีคำร้องที่ค่อนข้างแปลก
มันเป็นกระดานคำร้อง ขอให้สมาคมนักตกปลา ส่งคนไปร่วมกับพวกสมาคมนักผจญภัยหรือนักล่า
เพื่อกำจัดสัตว์น้ำอันตรายในพื้นที่ต่างๆรอบเมือง และพื้นที่ที่เป็นแหล่งทรัพยากรของอาณาจักร
' งานพวกนี้ค่อนข้างรายได้ดี แต่เรายังอ่อนแอเกินไป คงสร้างผลงานไม่ได้มาก คงเป็นภาระและเสียเวลาเราเปล่าๆ '
อเล็กซ์ตรวจสอบกระดานทั้งสอง ก็ทำให้เขาพออนุมานข้อมูลคร่าวๆ เพราะเขาก็เคยอาศัยเมืองที่คล้ายๆกันหลายแห่ง
ถัดมาอเล็กซ์ก็ไปซื้อแผนที่ที่มีความละเอียดขึ้น เพื่อที่จะได้หาแหล่งหาปลาโดยรอบให้หลากหลายขึ้น เพื่อไม่ให้พวกศัตรูเขามาดักซุ่มโจมตีได้ เพราะถ้าหากเขาอยู่แต่ที่เดิม ศัตรูอาจจะนำกำลังพลจำนวนมาก มาดักรอรุมกินโต๊ะได้
กระรอกนั้นมีโพรงหลายรูไว้หลบหนี อเล็กซ์ก็ชื่นชอบในวิถีของกระรอก เพราะนั้นถือเป็นพื้นฐานด้านเอาชีวิตรอดในโลกอันวุ่นวาย โดยเฉพาะโลกที่เขาอยู่ในเวลานี้
อเล็กซ์หมดธุระกับสมาคมนักตกปลา เขาจึงเดินออกมาและคิดว่าจะไปหาทางใช้เงินที่มีให้เป็นประโยชน์ในด้านต่างๆ
แต่ระหว่างที่เขากำลังเดินไปตามท้องถนน ก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งแต่งกายด้วยชุดเกราะเต็มตัวมาขวางทางเขาเอาไว้ ท่าทางไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน
คนด้านหน้ากลุ่มเป็นชายที่ดูยังหนุ่มแน่น ใบหน้าดูหล่อเหลาแต่ที่แก้มและหน้าผากมีรอยแผลเป็นและรอยเย็บ ที่ทำให้เขาดูดิบเถื่อนกว่าปกติ แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ต่อสู้ที่โชกโชนพอสมควร
" ต้องการอะไร ? "
" หึๆ เจ้าสินะ ที่เป็นคนที่เจ้ากระทิงต้องการตัว "
" ถ้าใช่ แล้วยังไง ? "
" ฮ่าๆ ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่ห้าวหาญ แต่เจ้ารู้ไหม คนกล้าหาญแบบเจ้า มักจะมีอนาคตที่สั้นมากๆ …. "
ชายหนุ่มในชุดเกราะโน้มตัวเข้ามาใกล้ พร้อมใช้วาจาที่แฝงไปด้วยความข่มขู่และคุกคาม ทั้งๆที่พวกเขาพึ่งเจอหน้ากันครั้งแรก
" …. ประวัติของเจ้านั้นถูกขุดจนกระจ่างหมดแล้ว เจ้าเป็นเพียงเด็กกำพร้าในสลัม ไร้เส้นสายหรือชาติกำเนิด แต่เมื่อปลุกคลาสขึ้นมาได้ ก็แข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว …. "
" …. สามารถเอาชนะการต่อสู้ติดต่อกัน 10 ครั้ง ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แถมด้วยอายุของเจ้าที่ยังน้อย ถือว่ามีพรสวรรค์มากทีเดียว … "
" …. แต่ตอนนี้รู้ไหม เจ้ามีค่าหัวในโลกใต้ดินด้วยนะ ราคาพึ่งขึ้นไปถึง 50 เหรียญทอง และมีคนต้องการเงินจำนวนนั้นมากทีเดียว "
อเล็กซ์ที่ได้ฟังก็ไม่ได้แปรเปลี่ยนสีหน้าท่าทาง แต่ภายในใจเขาก็คาดไม่ถึงเรื่องนี้เช่นกัน
สมัยเขาเป็นผู้เล่น เรื่องราวล่าค่าหัวผู้เล่น มักจะมีในหมู่ของผู้เล่นกันเอง เพราะ NPC มองว่าพวกผู้เล่นเป็นอมตะ จะตั้งค่าหัวก็คงไร้ความหมาย
แต่มันก็มีกรณีที่ตั้งค่าหัวผู้เล่นเช่นกัน แต่นั้นต้องเป็นเรื่องใหญ่โตมากๆ
ไม่คิดว่าในฐานะ NPC จะถูกตั้งค่าหัวรวดเร็วขนาดนี้
แถมค่าหัวมันควรจะมีแต่พวกอาชญากรสิ ที่ถูกตั้งจากทางการ แต่พวกใต้ดินพวกนี้มันกับมีการตั้งค่าหัวกันเอง
" ฮ่าๆ บอกได้เลย เมื่อเจ้าออกจากกำแพงเมืองในเวลานี้ จะมีคนจำนวนมากตามล่าเจ้าแน่ ….. "
" ….. แต่ข้ามีข้อเสนอ จ่ายเงินให้พวกเรา 100 เหรียญทอง กองทหารรับจ้าง เขี้ยวหมาป่า จะคุ้มกันชีวิตของเจ้าเอง "
ชายหนุ่มกล่าวพร้อมแสยะยิ้ม ซึ่งมันเป็นท่าทีที่แสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าที่ชัดเจน ราวกับพวกเขาเป็นหมาป่า และอเล็กซ์เป็นแกะที่อ่อนแอไร้ทางสู้
" แต่ว่า มันก็ยังมีอีกข้อเสนอหนึ่งเช่นกัน เจ้าจงมาอยู่กับกองทหารรับจ้าง เขี้ยวหมาป่าซะ มาอยู่ใต้ข้า นายน้อย เพอกิ้น คนนี้ และข้าจะคุ้มครองดูแลเจ้าอย่างดี …. "
" …. ดูได้จากคนคุ้มกันข้า พวกเขาล้วนได้รับอุปกรณ์ในระดับสูง ตราบใดที่เจ้าแสดงผลงานและมีความภักดี "
' หึ นี้คงเป็นจุดประสงค์หลักมากกว่า '
การกล่าวถึงเงิน 100 เหรียญทองเพื่อให้พวกมันคุ้มกัน ก็คงเป็นแค่เรื่องเพ้อเจ้อที่นำมาเพิ่มมูลค่าของเรื่องราว
นี้มันกลยุทธ์เดียวกับเจ้าเงาสังหารอะไรนั่นเลย ที่เป็นตัวแทนของลูกพี่กระทิงของมัน กลยุทธ์ของพวกนักต้มตุ๋นหรือไม่ ก็มาเฟียอันธพาลชัดๆ
" ข้าปฏิเสธ แม้จะถูกไล่ล่า ข้าก็ไม่สนใจ ไอกองทหารรับจ้างลูกหมาป่าอะไรของเจ้าหรอกนะ ขอโทษด้วย "
เพอกิ้นที่กำลังยิ้มอย่างเหนือกว่าก็ชะงัก แม้จะคิดว่าอีกฝ่ายมีโอกาสจะปฏิเสธ แต่ไม่คิดว่าจะหักหน้ากันแบบนี้
" ไอเด็กสวะ แกกล้าดูถูกกองทหารรับจ้าง เขี้ยวหมาป่า งั้นเหรอ "
พวกนักรบข้างกายก็รีบแสดงความภักดี เตรียมทำท่าจะชักอาวุธกลางเมือง เพื่อแสดงแสนยานุภาพของทหารรับจ้างของตัวเอง
แต่อเล็กซ์เพียงทำหน้าไร้เดียงสามองอยู่เฉยๆอย่างนิ่งๆ เพราะเขารู้ว่าทั้งหมดนี้มันเป็นเพียงแค่บลัฟกระจอกๆ
กองทหารรับจ้าง แม้จะเก่งกาจขนาดไหน แต่มันไม่กล้าชักอาวุธในเขตเมืองแน่ เรื่องนี้เขามั่นใจอย่างมาก
" ดี ทางสวรรค์มีไม่เลือก แต่อยากเลือกลงนรก คราวนี้ดูเหมือนข้าจะเสียเวลาและความรู้สึกมากทีเดียว ข้าจะจดจำเรื่องนี้เอาไว้อย่างดีเลย "
ดวงตาของเพอกิ้นเต็มไปด้วยความโกรธที่อัดแน่นอยู่ภายใน และเขาหันหลังเดินออกไปพร้อมกับนักรบที่ติดตาม ที่มีการทิ้งดวงตาข่มขวัญเอาไว้
อเล็กซ์ไม่สนใจสายตาโง่ๆนั่น และมองพวกนั้นหายไป ถัดมาเขาก็คิดว่าตัวเองได้ศัตรูมาเพิ่มอีกหนึ่งแล้ว แถมดูจะแข็งแกร่งและอิทธิพลทีเดียว
ในสมัยเป็นผู้เล่น อเล็กซ์ก็พอจดจำได้ในช่วงเริ่มต้นของเกม กองกำลังที่เหล่าผู้เล่นมีเรื่องด้วยมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ
ไม่ใช่พวกอาชญากร ไม่ใช่นักล่าหรือนักผจญภัย ไม่แม้กระทั่งทหารของเมือง
แต่เป็นพวกกองทหารรับจ้างต่างหาก พวกมันล้วนเป็นกองกำลัง ที่มักมีความเทาๆอยู่ในตัว และถูกรังเกียจจากหลายๆสมาคม รวมถึงพลเรือนทั่วไป
เพราะในบางครั้งพวกมันหันไปรับเงินจากพวกอาชญากร เพื่อส่งของเถื่อน ค้ามนุษย์ และอาศัยการหลบเลี่ยงบางอย่างเพื่อไม่ลดค่า Goodness เหมือนที่อเล็กซ์ทำกับชายหัวโล้น ตราบใดที่ไม่ถูกจับได้ พวกมันก็ยังคงเสนอหน้าอย่างปกติ
แถมพวกมันก็มีความแข็งแกร่งและเส้นสาย ตามใดที่พวกมันไม่หาเรื่องภายในเมือง พวกมันก็จะไม่ผิดกฏหมายอาณาจักร นี้ถือว่าเป็นช่องโหว่ที่ไม่ว่าอาณาจักรไหนในโลกก็มักจะมี
' เรื่องนี้ถึงยังไงก็ต้องเกิด เรื่องค่าหัวไม่ยาก เราเพียงรอต้อนรับพวกที่จะมาล่าเราให้หมด ถือเป็นการฝึกฝนไปในตัว ถ้าสู้ไม่ได้ก็แค่หนี … '
' …. ส่วนพวกทหารรับจ้าง พวกแกทำงานเพราะเงิน มาดูกันในอนาคตว่าใครจะรวยกว่ากัน '
อเล็กซ์โยนเรื่องของพวกศัตรูทิ้งไปจากหัว เขาเคยเจอศัตรูที่ร้ายกาจกว่านี้เป็นร้อยเท่า เจ้าพวกนี้แทบจะคุกคามเขาไม่ได้เลย ถ้าเทียบกับศัตรูอันตรายเหล่านั้น
ซึ่งในเวลานี้เขาก็ยังอยู่ในเมือง แถมมีบัตรแสดงตัวตนแล้วด้วย เขาจะได้รับความคุ้มครองจากทหารในเมืองอย่างเต็มที่
อเล็กซ์ปล่อยวางพวกศัตรูเสร็จ เขาก็เดินทางมาจนถึงเขตการค้า ที่นี้ค่อนข้างรุ่งเรือง
มีบริษัท หอการค้า ร้านของสมาคมต่างๆ หรือร้านขายของมากมาย ผู้คนก็จับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก ถือเป็นภาพที่เจริญรุ่งเรืองไม่น้อย
อเล็กซ์ตรงเข้าไปยังร้านปรุงยาร้านเดิม ที่เขาเคยมาซื้อน้ำยาสมาธิ เมื่อพนักงานเห็นก็จดจำเขาได้ในทันที
" ท่านลูกค้า ยินดีต้อนรับ ท่านต้องการสิ่งใดหรือไม่ ? "
อเล็กซ์ตรวจสอบยาที่พวกเขามีทั้งหมดในร้านอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่พบสิ่งใดน่าสนใจอีกเช่นเคย