ตอนที่แล้วตอนที่ 1222 ความฝันไม่รู้จบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1224 ฆ่า ฆ่าไม่ปราณี!

ตอนที่ 1223 เป็นหรือตาย?


ทางด้านสนามรบขุนเขาเหนือขุนเขา

พายุสงครามสงบลงในที่สุด

ในท่ามกลางโลกที่แตกสลายมีเพียงคนผู้เดียวเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ นั่นคือจีอู๋ลี่ที่รู้จักกันในนามอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่คนลึกลับก็ยังปรากฏตัวออกมาลงมือทำร้ายเขา แต่ขณะนี้ร่างกายเขาเต็มไปด้วยบาดแผลรอยบอบช้ำลึกล้ำนับไม่ถ้วนมองดูน่าสยดสยอง  ต่อหน้าผู้คนอื่นจีอู๋ลี่จะสูงส่งเทียบได้กับเทพเจ้า  เลือดของเขาหยดลงบนพื้น กระดูกซี่โครงหักกระดูกมือแตกจนมิอาจกำหมัดได้

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างนี้

และนี่

ทุกอย่างนี้เป็นฝีมือของศัตรูในชีวิตอีกคนหนึ่งของเขา  ไม่ใช่เย่ว์ไตตันที่จีอู๋ลี่ระบุตัวไว้  แต่เป็นศัตรูที่เขาแทบละเลยและเป็นศิษย์ของคนลึกลับ หนึ่งในสามจอมภพแดนสวรรค์ตะวันตก จิ่วเซียว!

“น่าเสียดาย!”  มีเสียงดังเหมือนภูตพรายถูกดูดหายเข้าไปในหลุมดำอย่างแปลกประหลาด  “ปรากฏว่าเจ้ามีพลังมหาศาลซ่อนเอาไว้ มิน่าเล่าเจ้าถึงกล้าคุยโวอย่างไม่ละอายปาก  อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นการต่อสู้จะอยู่กับเจ้าตลอดไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตข้าสัญญาเลยว่าจะตามพัวพันเจ้าอย่างไม่มีวันจบ!”

“จิ่วเซียว”จีอู๋ลี่ได้ยินอย่างนั้นดวงตาของเขาปรากฏแววโกรธทันที แต่เขารีบสงบอารมณ์ทันที

เขาสูดหายใจลึก

พยายามควบคุมอารมณ์หลังจากได้รับบาดเจ็บจากพลังโจมตี

เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูส่วนตัวจีอู๋ลี่ยอมพูดก่อนโดยไม่ใช้อารมณ์โกรธนำหน้า แต่พยายามโน้มน้าวอย่างดีที่สุด  “ในอดีตที่ผ่านมาเราเป็นเหมือนพี่น้องกันไม่ว่าเจ้าจะมีอคติหรือเกลียดชังข้าในเรื่องใด ข้าก็ยอมอดทนเจ้าอยู่เงียบๆ ไม่ได้โต้ตอบโต้เถียงเจ้า อย่างไรก็ตามก่อนที่เจ้าจะระบายอารมณ์แก้แค้นตามความพอใจของเจ้า  ข้าอยากจะบอกความจริงเจ้าสักสองสามคำ  ไม่ว่าเจ้าจะยินดีรับฟังหรือไม่ข้าอยากให้เจ้าเปิดโอกาสให้ข้าแสดงความจริงใจ!  จิ่วเซียว!  การต่อสู้ครั้งนี้มันทำให้ใจข้าหดหู่ข้าเชื่อว่าเจ้าก็รู้สึกทรมานเหมือนกัน เราทั้งหมดเป็นอัจฉริยะ เป็นกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในแดนสวรรค์ เรามีสติปัญญาและรู้วิธีปกปิดตัวตนและความแข็งแกร่งไม่ให้ภายนอกเห็น หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งในบางมุมมองเราคล้ายกันมาก เหมือนกับพี่น้องฝาแฝด!”

เสียงของจิ่วเซียวเย็นชาและดังออกมาจากหลุมดำอย่างน่าประหลาด  “ข้าไม่ปฏิเสธว่าเจ้ากับข้ามีความคล้ายกัน หึหึพูดให้ถูกเราเจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัวมากกว่า!  เราไม่เคยเชื่อใจคนอื่นต่อให้เป็นอาจารย์ที่ได้รับการยอมรับนับถือในใจมากที่สุดก็ตาม จีอู๋ลี่! เจ้ายังคิดจะโน้มน้าวใจข้าอีกหรือ เจ้าไม่เข้าใจหรือยังไง?”

จิ่วเซียวเยาะเย้ยตรงๆ  “เจ้ากับข้าไม่สามารถเชื่อใครได้นอกจากตัวเอง ทำไมเจ้าถึงคิดว่าทำให้ข้าเปลี่ยนใจได้? น่าขัน, อย่าวว่าแต่ตัวเจ้าเลย ต่อให้เป็นน้องชายฝาแฝดของข้า ถ้าโลกนี้มีจิ่วเซียวอีกคนหนึ่งข้าจะไม่มีวันเชื่อเขา!”

“เห็นด้วย, เราทุกคนถนัดมือซ้ายเพราะไม่วางใจมือขวา!” จีอู๋ลี่ไม่ปฏิเสธ

“เมื่อเป็นเช่นนั้นทำไมเจ้าถึงพูดไร้สาระอยู่อีก?” จิ่วเซียวตะโกนเย้ยหยัน

“ข้าไม่คิดเรื่องจะโน้มน้าวเจ้า  ข้าเพียงแค่ต้องการให้ข้อมูลที่สำคัญที่สุดกับเจ้า”  จีอู๋ลี่แหงนหน้าหัวเราะ  “เราทุกคนล้วนแต่ฉลาด  เราก็ควรเข้าใจถึงความเป็นจริงกันทุกคนด้วยการต่อสู้กันระหว่างเรามีแต่สูญเสียกันทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน  ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งล้มตายลงอีกฝ่ายหนึ่งจะต้องได้ผลกระทบบาดเจ็บเสียหายอย่างหนัก”

“เจ้าหมายความว่าใครบางคนจะได้รับประโยชน์จากการต่อสู้ระหว่างเรา?”  จิ่วเซียวยิ้มและกล่าว  “ถ้าเจ้ากำลังจะพูดถึงซิวคง อย่างนั้นเจ้าไม่ต้องเปลืองน้ำลายกล่าว”

“ซิวคงก็เป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง และเขาถูกลิขิตว่าจะต้องประสบความสำเร็จระดับสูง”จีอู๋ลี่ส่ายหน้ากล่าว “แต่เขาไม่ใช่คนที่ไล่ล่าเรา!”

“ไม่ใช่ซิวคงอย่างนั้นก็เป็นหมิงเยี่ยกวงใช่ไหม?” จิ่วเซียวถอนหายใจเล็กน้อย “ถ้าเจ้าพยายามเปลี่ยนเป้าหมายของเจ้าไปที่หมิงเยี่ยกวง ข้าเสียใจด้วยความคิดที่ไร้เดียงสาของเจ้าจะไม่มีทางบรรลุได้!  สำหรับหมิงเยี่ยกวงข้าแค่ต้องการพูดเรื่องเพียงสองเรื่อง  ประการแรกไม่ว่าเจ้าจะขัดขวางอย่างไรเจ้าก็ไม่สามารถขัดขวางความก้าวหน้าของนางได้ นางจะก้าวหน้าไปเป็นเทพในอนาคต ประการที่สองถ้าเจ้าคิดว่าข้าจะเปลี่ยนจากเกลียดเจ้าไปเป็นหมิงเยี่ยกวงนั่นเป็นข้อผิดพลาดใหญ่  ต่อให้หมิงเยี่ยกวงปกครองแดนสวรรค์ตะวันตกข้าก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับนางมากเกินไป นางไม่ใช่ศัตรูของข้าในก่อนหน้านี้ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็น และจะไม่ใช่ศัตรูในอนาคตด้วย ความจริงต่อหน้าคนอื่นข้าจะทำตัวเหมือนเป็นคู่แข่งนางเพื่อให้คนภายนอกมองเห็นภาพลวงตาในระหว่างสามจอมภพแดนสวรรค์  แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าจะต้องต่อสู้กับหมิงเยี่ยกวงหรือซิวคงข้าเพียงแค่ตื่นตัวและระวังสองคนนี้ แต่จะไม่เป็นศัตรูกับพวกเขา!”

“จะเป็นยังไงเล่า ถ้าข้าพูดถึงเย่ว์ไตตัน?”  จีอู๋ลี่ยิ้มทันที “เจ้าได้อยู่ได้ต่อสู้ในวิหารเทพจักรพรรดิอวี้มาก่อนควรจะเข้าใจว่าระดับความเติบโตของเขาน่ากลัวเพียงไหน!”

“ข้าต้องการฆ่าเขาจริงๆ!” จิ่วเซียวยอมรับว่าเย่ว์หยางคือศัตรูที่น่ากลัว

“หากเรายังสู้กันต่อไปอย่างนั้นคุณชายสามตระกูลเย่ว์จะเติบโตอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายไร้แรงกดดัน!” จีอู๋ลี่พยายามโน้มน้าว “เขาคือความหวังของหอทงเทียน เราควรจะฆ่าเขาก่อนแล้วค่อยมาต่อสู้ตัดสินชะตากันระหว่างเรา”

“เจ้าคิดสวยหรูจริงๆ!”  จิ่วเซียวเหยียดหยามเขา

“ว่าไงนะ?” จีอู๋ลี่ไม่เข้าใจทำไมจิ่วเซียวถึงไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขา

“คิดจะให้ข้าต่อสู้กับเย่ว์ไตตันต่อใช่ไหม?  จะให้ข้ากระตุ้นกลุ่มคนที่อยู่ในหอทงเทียนจากนั้นก็ทำเช่นเดียวกับจักรพรรดิอวี้ในปีนั้น ปล่อยให้เย่ว์ไตตันและกลุ่มนักสู้หอทงเทียนทุ่มเทกำลังผนึกข้าเอาไว้ แต่ครั้งนี้ข้าไม่มีอสูรพิทักษ์ที่ภายนอกรอข้าอีกแล้ว  จีอู๋ลี่! เจ้าคืออัจฉริยะอันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์บางทีเจ้าอาจรวมแดนสวรรค์เป็นหนึ่งได้ แต่รากฐานของข้าถูกเจ้ายึดไปแล้ว” จิ่วเซียวยิ้มกว้างแปลกประหลาดทันใดนั้นรอยยิ้มของเขาเหมือนมีดเชือดเฉือน  “จีอู๋ลี่! เจ้าคิดผิดแล้ว คิดว่าจะหลอกข้าได้เป็นครั้งที่สองหรือ? ความรุ่งเรืองของหอทงเทียนเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย?  การเติบโตของเย่ว์ไตตันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย?  ข้าจิ่วเซียวไม่ใช่เป้าหมายแรกของพวกเขา  ตราบใดที่ข้าไม่สนใจพวกเขาพวกเขาก็จะไม่มองหาเป็นศัตรูกับข้า ไม่ว่าจะเป็นหอทงเทียนหรือเย่ว์ไตตันผู้ที่มีพรสวรรค์มากกว่าเจ้า  เป้าหมายของพวกเขาคือเจ้าและตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  ที่สำคัญคือเขาเป็นศัตรูของเจ้า  ทำไมข้าจึงต้องเข้ามายุ่งเรื่องนี้มากไปกว่านี้ด้วย?  เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ?  ข้าจะไม่ไปสถานที่ผีสางอย่างหอทงเทียนอีกไม่ว่าเจ้าจะใช้คำพูดอะไร หรือใช้แดนล่มสลายแห่งทวยเทพ บันไดสวรรค์สมบัติโบราณหลอกล่อก็ตาม ข้าเชื่อว่ามีของเหล่านี้อยู่ที่นั่น แต่ข้าทราบอย่างชัดเจนว่าบางอย่างในโลกนี้ไม่ใช่ของๆ ข้า  สิ่งใดที่มิใช่ของข้า  ข้าก็มิอาจบังคับได้  หากคัมภีร์เทพจะตกเป็นของข้าต่อให้ข้าไม่ทำอะไรก็ตาม โชคชะตาจะพาข้าไปทำให้ได้รับคัมภีร์อัญเชิญชั้นเทพได้  เจ้าคิดว่าข้าจะโลภหนักเท่าเจ้าหรือ?  ฮ่าฮ่าฮ่า จีอู๋ลี่เอย...ความจริงแล้วเจ้าเป็นคนโง่ที่สุดในโลก  ทุกคนล้วนรู้ว่าของวิเศษระดับเทพเลือกเจ้านายเป็นเช่นนี้ตลอดไป ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรก็ตาม เจ้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติพอจะได้รับคัมภีร์เทพหรือ?เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าด้วยหรือ?”

“ชื่ออัจฉริยะอันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ต้องหลุดลอยไปเจ้าไม่อายบ้างหรือ?”

“อยู่ต่อหน้าตงฟาง เจ้านับเป็นตัวอะไรได้?”

“แม้ว่าเจ้าไม่ได้พูดถึงตงฟางเกี่ยวกับสติปัญญาที่ยอดเยี่ยมยังไม่ต้องพูดถึงอาจารย์ของเจ้าผู้มีภูมิปัญญาและพรสวรรค์อย่างแท้จริง  ยังมีสองสามคนที่หนุนอยู่เบื้องหลังเจ้า  เจ้ามีเจ้าตำหนักสูงสุดเป็นอาจารย์  เจ้าอยู่ในสามตำหนักใหญ่เป็นหนึ่งในเจ้าตำหนักผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าคิดว่าเจ้าเหนือกว่าเจ้าตำหนักอีกสองคนหรือ? ถ้าเจ้าไม่มีโอกาสที่ดีที่สุดเพราะเจ้าตำหนักสูงสุดประทานให้เจ้า  เจ้ายังจะมีความสำเร็จถึงทุกวันนี้หรือ?  จีอู๋ลี่! นี่คือส่วนที่ข้าดูแคลนเจ้ามากที่สุด เสียทีที่เจ้ามีสภาพแวดล้อมในการเติบโตที่ดีที่สุดและมีทักษะแฝงเร้นเติบโตที่ดีที่สุดจริงๆ!”

“เอาเถอะ, ข้าพูดมาพอแล้ว ข้าไม่ชอบกลิ่นแบบนั้นเห็นเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ข้าจะไม่พูดให้มากไปกว่าเจ้า เชิญเจ้ารักษาความผยองว่าเหนือกว่าสหายคนอื่นต่อไปได้เลย  ความเย่อหยิ่งของเจ้าได้บดบังสายตาเจ้ามานานสายตาของเจ้าเห็นผู้อื่นได้แต่เฉพาะผิวเผินเท่านั้นไม่มีทางเห็นเนื้อในของคนอื่น บางทีเจ้าอาจลืมไปนานแล้วว่านางพญาผู้พิชิตกวาดชัยชนะไปทั่วแดนสวรรค์ในปีนั้น สิ่งที่ตามมาเจ้ากลับคิดว่าจะรวบรวมแดนสวรรค์ได้อย่างไร? ในตอนนี้ข้าจะไม่พูดอะไรถึงเย่ว์ไตตันหรือหมิงเยี่ยกวงอีก  สุดท้ายข้าอยากจะเตือนเจ้าว่าถ้านางพญาผู้พิชิตปรากฏตัวอีกครั้ง ถ้าเจ้าคิดว่าจะต้อนนางจนเหมือนสุนัขตกน้ำและหลงทางขอบอกเลยว่าเจ้ากำลังฝันกลางวัน!”

เสียงของจิ่วเซียวค่อยๆจางหายไปจนกระทั่งไม่ได้ยิน

หลุมดำที่ใกล้แตกทำลายในท้องฟ้าแตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อยหายไปในท่ามกลางความว่างเปล่า

จีอู๋ลี่ยืนลอยค้างอยู่ในกลางอากาศเขาถูกจิ่วเซียวเย้ยหยันดูถูกก็ยิ่งมีสีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด เขารู้ว่ายากจะโน้มน้าวศัตรูผู้ดึงดันคนนี้ได้  แต่อย่างน้อยก็หว่านความขัดแย้งระหว่างจิ่วเซียวและเย่ว์ไตตันได้กลายเป็นพลังสามเส้าคอยถ่วงดุลกันได้

น่าเสียดายที่จิ่วเซียวไม่ยอมหลงกล

ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าทั้งจิ่วเซียวและเย่ว์ไตตันต่างรอเล่นงานเขาทั้งคู่

แม้แต่ในอนาคตยังมีหมิงเยี่ยกวงและนางพญาผู้พิชิตซึ่งไม่รู้ว่าจะปรากฏตัวออกมาอีกเมื่อใด

เขายืนอยู่ในกลางอากาศเงียบๆและพูดไม่ออกอยู่นาน เขาไม่ได้โกรธเพราะคำพูดของจิ่วเซียวไม่ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้อย่างหนักก่อนหน้านั้น  ตรงกันข้ามเมื่อครู่นี้เขายังดีกว่าจิ่วเซียวอยู่เล็กน้อย เขาไม่ได้ใช้ไม้ตายสุดท้ายและรอให้จิ่วเซียวทุ่มพลังโจมตีอยู่นาน

จีอู๋ลี่ชนะการต่อสู้  แต่เขาไม่มีความสุข

เพราะสำหรับเขาชัยชนะเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว

เขาไม่ได้บดขยี้ร่างจิ่วเซียวอย่างเต็มที่เนื่องจากเขายังรู้สึกได้ถึงความล้มเหลวและตื่นตัว! จิ่วเซียวเคยถูกจักรพรรดิอวี้ผนึกไว้นานหลายพันปีก็ยังมีพลังมากมายขนาดนั้น เขาแทบถูกบังคับให้ใช้ไม้ตายก้นหีบต้องบอกว่าจิ่วเซียวเป็นคู่แข่งที่เทียบได้กับคุณชายสามตระกูลเย่ว์!

“นายท่าน, เราควรจะเลื่อนเป็นระดับเทพดีกว่า!  เราอยู่ในชั้นกึ่งเทพนานเกินไปแล้ว!” เสียงที่น่ากลัวดังออกมาจากด้านข้างของจีอู๋ลี่

“ถ้าเราทุกคนเลื่อนระดับเป็นนักสู้ชั้นเทพผ่านพลังต้องห้ามกันทุกคนเราจะสามารถเอาชนะจิ่วเซียวได้” อู่หวังพยักหน้ารับรอง

“เรายังมีเลือดทาสแสนคนบวกกับขุนเขาเหนือขุนเขาที่นี่แล้ว นับว่าเพียงพอ”

“หลังจากดูดซับพลังต้องห้าม ก็น่าจะเป็นช่วงสุดท้ายที่ตงฟางและหอทงเทียนต่อสู้กันจนถึงที่สุดเรารอคอยโอกาสแล้วค่อยฆ่าช่วงชิงชัยชนะสุดท้ายถ้าท่านมีพลังเทพก็จะทำให้การต่อสู้นี้ราบรื่นไม่มีปัญหาแน่นอน  นายท่านอย่าได้ลังเลอีกต่อไป”

“......” จีอู๋ลี่ขมวดคิ้วประเมินผลได้และผลสูญเสียอยู่นาน

มิทราบเวลาผ่านไปนานเท่าใด

หลังจากรักษาตนเองจนใกล้จะหายดีเขากล่าว “การเลื่อนชั้นเป็นระดับเทพเป็นเรื่องจำเป็นแต่ก่อนอื่นข้าต้องการดูเว่ยกวงฆ่าเย่ว์ไตตัน คนผู้นี้ถ้าไม่ถูกกำจัดออกไป  แดนสวรรค์จะอยู่ไม่เป็นสุข!  แม้ว่าจิ่วเซียวจะน่ากลัวแต่ก็ไม่มากไปกว่าเย่ว์ไตตันอย่างแน่นอน ถ้าจิ่วเซียวเป็นหมาป่าเดียวดาย เย่ว์ไตตันก็เป็นพยัคฆ์ร้ายที่สามารถกลืนกินทั้งภูเขาได้รอให้เสือร้ายนี่เติบโตขึ้น ทั้งแดนสวรรค์จะไม่สามารถเติมเต็มความอยากของเขาได้!”

อสูรสยองขวัญและอสูรอู่หวังเห็นด้วยกับคำพูดของจีอู๋ลี่แต่ทั้งคู่ละอายใจเล็กน้อย “เทพปีศาจเว่ยกวงทรงพลังก็จริง แต่น่าเสียดาย”

จีอู๋ลี่ยิ้มมีสีหน้าภูมิใจ  “วางใจได้! ก่อนที่ข้าจะเข้าหุบเขามนุษย์ข้าได้ส่งคนไปหาคนผู้หนึ่งให้ช่วยปลดผนึก... เดิมทีข้าต้องการจะกินพลังของเทพปีศาจเว่ยกวง  แต่น่าเสียดาย มีเหตุเปลี่ยนแปลงหลายอย่างดังนั้นถ้าเจ้าเด็กนี่มา ครั้งนี้ข้าต้องฆ่าเจ้าเด็กนี่ทั้งเป็น!”

ขณะนั้นเย่ว์หยางพักผ่อนอย่างสบายใจในโลกคัมภีร์

เขากำลังเพลิดเพลินกับเนื้อย่างเลิศรส

เย่ว์หวี่ปิ้งแล้วป้อนให้เขาอู๋เหินก็ช่วยป้อน และแม้แต่จุ้ยมาวอี้ก็ช่วยป้อนให้เขา แม้แต่เป่าเอ๋อกระทั่งหนิวหนิวก็ยังช่วยกินช่วยป้อนเช่นกันในที่สุดเขามองดูขาไก่ที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนย่างจนไหม้เกรียม เขาอดเรอออกมามิได้ก่อนที่แม่เสือจะเอาขาไก่ยัดใส่ปากเขา “อย่าบอกนะว่าจะให้ข้ากินขาไก่ย่างนั่น ข้าจะเป็นราชาพุงกางไร้เทียมทานอยู่แล้ว  โอวพระเจ้า, เจ้าใส่เกลือไปกี่กิโลกันแน่  เจ้าน่าจะลดเกลือกับน้ำตาลได้ไหม?  ถ้าจะมีอะไรน่ากลัวยิ่งกว่าความตายก็คงจะเป็นเรื่องเค็มแทบตายนี่แหละ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด