ตอนที่ 1215 จะให้ข้าขำหรือทำโง่ดี??
เย่ว์หยางไปพบเทวีเสรีภาพอิงหลัวและพบว่านางผิดปกติไปเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้นางจะต่อต้านเขา
แม้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหญิงงามอู๋เหินและเย่ว์หวี่จะพยายามเกลี้ยกล่อมนางแต่นางก็ไม่หวั่นไหวจนกระทั่งสาวน้อยสองคนอี้หนานและเย่ว์ปิงไม่รู้ใช้วิธีการใดกลับโน้มน้าวใจนางได้ จากนั้นเย่ว์หยางมีสัมพันธ์กับนางที่ไม่ดี และด้วยเวลาที่ไม่เพียงพอจึงไม่ได้ผสานร่างเทพธิดาให้กับนาง แต่เนื่องจากการรู้แจ้งขอบเขตใหม่ของเขา ตอนนี้เย่ว์หยางไปหานางอีกครั้งและคิดว่าทุกอย่างจะง่ายขึ้นเพราะนาง เพราะนางเคยเห็นด้วยมาก่อน
คาดไม่ถึงว่าเทวีเสรีภาพอิงหลัวจะปฏิเสธ
“ทำไม?” เย่ว์หยางพูดไม่ออก
“ไม่บอกเหตุผลได้ไหม?” เทวีเสรีภาพอิงหลัวดูเหมือนไม่เต็มใจจะบอกความจริงกับเย่ว์หยางสีหน้าของนางแปลกไปเล็กน้อย
“ไม่ ถ้าข้าไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมแล้วกลับไปข้าคงนอนไม่หลับ พอนอนไม่หลับก็หายใจไม่ออก หัวใจคงระเบิด กายระเบิดระเบิดทุกอย่าง!”เย่ว์หยางทำอะไรไม่ถูก และบอกชัดเจนว่าเขาจะต่อรวมประสานร่างให้นาง ในเวลานั้นเขาต้องการจะยืมร่างนางสร้างเทพ แม้ว่าความคิดนี้จะไร้เดียงสาไปเล็กน้อยแต่ความจริงเขาใส่ใจนาง
“เจ้ามักจะก้าวร้าวเสียมารยาทอยู่เรื่อย” เทวีเสรีภาพอิงหลัวไม่ต้องการสบตาเย่ว์หยาง
“อะไรนะ? ถ้าข้าก้าวร้าวจริงๆ ข้าคงไม่พูดเสียงอ่อนอย่างนี้แน่ข้า...” เย่ว์หยางแทบจะเป็นบ้า
“เหตุผลที่ข้าปฏิเสธเพราะในสายตาเจ้ามีประกายบางอย่างทำให้ข้ากระสับกระส่าย” เทวีเสรีภาพอิงหลัวกัดริมฝีปากนางจากนั้นนางให้คำตอบเบาๆ
“ประกายตาหรือ?” เย่ว์หยางรีบส่องกระจกดูเงาหน้าตนเองก็พบว่ายังดูเหมือนมนุษย์ ไม่ได้กลายเป็นมนุษย์หมาป่าในคืนพระจันทร์เต็มดวง
“ไม่ ไม่ใช่ประกายอย่างนั้น...” เทวีเสรีภาพอิงหลัวโบกมือและอธิบายอย่างไม่เกรงใจ “อย่างไรก็ตามข้ารู้สึกอึดอัดอึดอัดจนยากจะอธิบาย ข้าไม่สามารถแสดงออกมาได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามมันเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากข้าไม่รู้จะทำอย่างไร ขอให้ข้าสงบใจสักครู่”
“เจ้ากลัวหรือ? เจ้ากลัวข้าใช่ไหม?” เย่ว์หยางแปลกใจว่านางมองเห็นเขาเป็นเสือใหญ่กินคน?
“.....” เทวีเสรีอิงหลัวส่ายศีรษะ
“ไม่เชื่อใจกันหรือ?” เย่ว์หยางตกใจ หมดกันเขากลายเป็นวายร้ายในสายตานางไปแล้ว
“.......” อย่างไรก็ตาม เทวีเสรีภาพอิงหลัวยังคงส่ายหน้า
“เรื่องความปลอดภัยใช่ไหม?” เย่ว์หยางเดาไม่ถูก เดาความคิดของอิสตรีไม่ต่างกับงมเข็มในมหาสมุทร ใครจะเดาได้ถูก
“....” เทวีเสรีภาพแสดงมารยาทต่อเย่ว์หยางอย่างงดงาม “ข้าสัญญากับน้องอี้หนานและน้องเย่ว์ปิงไว้ อิงหลัวรักษาสัญญาแน่ ตอนนี้อิงหลัวอารมณ์สับสนวุ่นวายยากจะร่วมมือได้จริง ค่อยมาครั้งต่อไปได้ไหม?”
ความหมายของนางคือนางจะไม่กลับคำแน่นอน นางจะให้ความร่วมือกับเย่ว์หยางเพื่อรวมกับร่างเทพพร้อมกับเย่ว์หยางแน่นอน
อย่างไรก็ตามนางไม่พูดถึงสาเหตุที่นางปฏิเสธเย่ว์หยางเวลานี้
เป็นความรู้สึกที่งุนงงสับสน
ไม่ต้องพูดถึงเย่ว์หยาง
แม้ว่าเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าการกระทำที่แปลกประหลาดนี้คงทำให้เกิดอาการงุนงงเวียนศีรษะเป็นแน่
เย่ว์หยางจำต้องออกมาและเมื่อเขาออกมาที่ประตู จู่ๆ เขาหันกลับทันทีเขาทำเหมือนมนุษย์หมาป่าในคืนพระจันทร์เต็มดวงจ้องมองอิงหลัวที่มาส่งเขาที่ประตู ความเคลื่อนไหวฉับพลันนี้ทำให้เทวีเสรีภาพอิงหลัวตกใจผงะและประหลาดใจว่าเขาต้องการพูดอะไร
ใครจะรู้เย่ว์หยางไม่ได้พูดอะไรและหันหน้าจากไป
ขณะที่เทวีเสรีภาพใช้มือทาบอกประกายตามีความสุข เขาวิ่งกลับมาอีกครั้งมองตานางด้วยความประหลาดใจ
“เจ้า, เจ้ามีปัญหาอะไร?”เทวีเสรีภาพอิงหลัวทำให้เขาสับสน ไม่สามารถพูดอะไรได้ เขาหันกลับมามองสองครั้งนั่นหมายความว่ายังไง?
“เมื่อครู่นี้ ท่านให้ข้าเดาไม่ใช่หรือ? ให้ข้าคาดเดาว่าหมายถึงอะไรและมันทำให้ท่านรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นท่านจึงรู้สึกถึงอารมณ์ของข้า!” เย่ว์หยางมองดูเทวีเสรีภาพเขารู้สึกอารมณ์ดีและหัวเราะขึ้นทันที
“.....” เทวีเสรีภาพพูดไม่ออก เจ้าผู้นี้ยังทำตัวเป็นเด็กอีกหรือนี่?
“ไปก็ได้” เย่ว์หยางออกไปตามธรรมดาเขาเตรียมจะเดินออกไป
“รอเดี๋ยว” อิงหลัวตะโกนเรียกให้เขาหยุด“รอบตัวเจ้าไม่เคยขาดแคลนหญิงงาม พวกเจ้าพูดคุยหัวเราะหยอกเย้ามีความสุขกันทุกวันทำไมต้องมาสนใจข้าอิงหลัวด้วย? ข้าอิงหลัวเป็นเช่นนี้เสมอมา ไม่จำเป็นต้องมาสมเพชเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าเลยทำไมเจ้าต้องมาพูดใส่ความคิดข้าอิงหลัวด้วย? เจ้าเคยคิดถึงความรู้สึกของข้าบ้างไหม?”
“หา...” ครั้งนี้เป็นเย่ว์หยางที่พูดไม่ออก เพราะเขาไม่เคยคิดเรื่องนี้
เขามักรู้สึกเสมอว่าเขามีเจตนาดี
ให้ผสานร่างเทพกับร่างเทวีเสรีภาพอิงหลัวเพื่อให้นางกลับเป็นสตรีที่สมบูรณ์อีกครั้งจะได้ไม่จำเป็นต้องสนับสนุนช่วงชีวิตที่เหลือของนางต่อไป
แม้ว่าความตั้งใจเช่นนี้จะถูกต้องแต่เย่ว์หยางไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของอิงหลัว เขาคิดเอาเองตามสัญชาตญาณว่าเนื่องจากว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดี ทำไมนางถึงไม่เต็มใจยอมรับ นอกจากนี้เขาไม่สนใจนางเขาแค่เพียงช่วยเหลือคนอื่น เป็นการยากที่จะทำเรื่องดีๆ ถ้าหญิงสาวนางนี้ไม่ยอมรับความช่วยเหลือนั่นอาจเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแดนสวรรค์ได้
เทวีเสรีภาพเข้ามาใกล้นางจ้องมองเด็กหนุ่มข้ามโลก ปากของนางจากที่เคยพูดอ่อนโยน นางตะโกนลั่น “เจ้ามักจะทำเช่นนี้เสมอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ข้าน่ะหรือ? ทำไมเจ้าถึงไม่ถามข้าก่อน?”
เย่ว์หยางเอนร่างถอยหลังและปาดเหงื่อด้วยความรู้สึกผิด “ข้าไม่ได้ถามหรือ? อาจจะถามก็ได้ ข้าให้ทุกคนถามท่าน”
อิงหลัวเพ่งจนตาแทบติดชิดกับเย่ว์หยางจมูกทั้งสองชนกันริมฝีปากห่างไม่ถึงสองนิ้ว “ใช่เจ้าให้คนอื่นถามข้า แล้วเจ้าเล่า? เจ้ามาถามข้าด้วยตนเองหรือไม่? เจ้าให้ทุกคนรู้เรื่องเกี่ยวกับข้า บอกเรื่องข้ากับทุกคนว่าเจ้ากับข้าได้ทำความตกลงกันอย่างครอบคลุม แต่เจ้าก็ไม่ได้มาพูดคุยกับข้าอิงหลัวตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบนี่คือสิ่งที่ข้ารู้สึกไม่สบายใจ เจ้าได้ตัดสินใจแทนข้าทุกอย่าง แม้ว่าข้าจะรู้ว่าเจ้ามีความตั้งใจที่ดียอดเยี่ยมและใช้ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่เจ้าไม่รู้เจ้าไม่พยายามทำความเข้าใจข้าอิงหลัวข้าหวังอยู่อย่างเดียวว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะสามารถจัดการชีวิตของเจ้าด้วยตัวเองได้! ก่อนหน้านี้ข้าอิงหลัวทำงานหนักเพื่อความสุขของคนอื่นมาตลอดชีวิต จนกระทั่งเจ้าพูดว่าทุกอย่างที่ข้าทำไม่มีอะไรนอกจากความสุขที่ข้าต้องการ นั่นไม่ใช่ความสุขที่ทุกคนได้รับจริงๆ เจ้าบอกให้ข้าปลดปล่อยตัวเองปล่อยให้ผู้คนในโลกนี้ได้ทำงานด้วยตนเองเพื่อหาความสุขของเขาและให้ข้าอิงหลัวใช้ชีวิตอย่างอิสระ..... เจ้าบอกข้าโดยทำนองนี้ แต่เจ้ากลับไม่ทำหรือว่าเจ้าไม่ให้โอกาสข้า! เจ้าคงไม่รู้สินะว่านี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดสำหรับข้าอิงหลัว เจ้ายินดีจะทำทุกอย่างให้สำเร็จเพื่อข้าแต่กลับไม่พยายามเข้าใจว่าสิ่งนี้ทำให้ข้าต้องสูญเสียศรัทธาดั้งเดิมไปทั้งสูญเสียความฝันไปโดยไม่รู้ตัว”
“ข้าไม่รู้” เย่ว์หยางปาดเหงื่อ “ความรู้สึกที่ท่านมีต่อข้ามักจะมั่นคงมากกว่าเจตจำนงราชันย์ของข้า ข้าจึงไม่รู้ว่าท่านพูดอะไร”
“เจ้าไม่ต้องการเข้าใจรับรู้” เทวีเสรีภาพอิงหลัวจ้องมองเย่ว์หยาง “เจ้าเชื่อแต่สาวๆ ที่เจ้าพามาจากหอทงเทียน”
“ไม่” เย่ว์หยางรีบป้องกันตัวเอง “ไม่มีเรื่องเช่นนั้นแน่นอน”
“เจ้า..โก..หก!” ตาของอิงหลัวดูเหมือนจะมองผ่านหัวใจคนได้และเห็นว่าเย่ว์หยางมีเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก
“บางทีดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นแต่ความจริงเจ้าเป็นแค่ภาพลวงตา” เย่ว์หยางพยายามยกตัวอย่างหมิงเยี่ยกวง แต่แม่สาวผู้นั้นก็ไว้ใจยากเช่นกัน หลังจากคลุกคลีกันมานานจนกระทั่งนางกลายเป็นเทพ นางจึงเปิดความในใจที่แท้จริงของนาง อีกตัวอย่างคือชิงผิงสาวเผ่ามนุษย์มัจฉาเผ่าต้องสาบผู้ทรยศหอทงเทียนถ้าไม่ใช่เพราะในช่วงสุดท้ายนางยอมสละร่างกายและชีวิตเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความเชื่อใจจากเขาและตอนนี้นางนอนรักษาตัวฟื้นฟูร่างกายอยู่ในหอยมุกของไห่หลาน! อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือไป่ลู่เจ้าแคว้นมรกตเดิมทีนางใช้ตัวเองเป็นหมากหนึ่งแต่ต่อมานางยอมตัวแต่งงานทางการเมืองแน่นอนว่านั่นเป็นเหตุการณ์หลังมีสัมพันธ์กับนางและลี่เยี่ยนที่เปลี่ยนร่างเป็นสองพี่น้องฝาแฝด
คิดจนจบ
เย่ว์หยางคิดถึงเรื่องเหล่านี้จริงจัง
คนที่เขาไว้วางใจมากที่สุดยังคงเป็นสาวๆจากหอทงเทียน พวกนางถ้าไม่ใช่คนรักของเขาก็เป็นญาติพี่น้องความสัมพันธ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่แรก เห็นพวกนางเติบโตอย่างปิงเอ๋อและอี้หนาน พวกนางอยู่ใกล้เคียงเขามาตลอดตั้งแต่แรกที่เผชิญกับศัตรูอย่างสือจินโหว อย่างไรก็ตามเสวี่ยอู๋เสียได้ต่อสู้ร่วมกับเขาในทุกการต่อสู้ ในการต่อสู้แต่ละครั้งมีองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสาวงามโล่วฮัว จุ้ยมาวอี้แต่ละครั้งจะมีพวกนางร่วมต่อสู้ด้วย
ในแดนสวรรค์เขาต้องระมัดระวังทุกอย่างตามสัญชาตญาณไม่เหมือนกับหอทงเทียน
ไม่ว่ามองผิวเผินจะดูดีเพียงไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงข้อนี้ได้
แม้ว่าเขาจะจริงใจต่อแดนสวรรค์แต่ก็มิอาจเทียบได้กับหอทงเทียน อย่าว่าแต่เย่คง เจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลางที่จะต้องเติบโตต่อสู้ด้วยกัน
เย่ว์หยางยิ่งคิดก็ยิ่งหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
ในที่สุดก็ไม่มีทาง
ไม่มีทางใช้เล่ห์กล!
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นจูบเทวีเสรีภาพอิงหลัวอย่างดุเดือดทันที ในขณะที่นางตกใจเขาฉวยโอกาสจูบนางจนนางแทบหายใจไม่ทัน ก่อนที่เขาจะปล่อยให้นางได้หายใจดวงตาของเขาจ้องมองนาง เขาพูดเสียงดังมากกว่านางถึงสิบเท่า “ใช่แล้ว, ข้าเป็นคนแบบนี้! ท่านพูดไม่ผิดข้าจัดการทุกอย่างให้ท่าน รวมทั้งชีวิตในโลกคัมภีร์ รวมทั้งการหลอมรวมกับร่างเทพธิดา ข้าแค่อยากจะทำ อยากจะทำแค่นี้เท่านั้น ทำไมน่ะหรือ? ทำไมท่านถึงต้องทราบเหตุผลให้ได้? ดีเหมือนกัน ข้าจะบอกท่าน ฟังให้ดี ข้ารังเกียจที่จะเห็นท่านดูสูงส่งศักดิ์สิทธิ์และดูใจดี ข้าไม่ได้มีความสุขกับความเดียวดายของท่านไม่ได้มีความสุขกับชีวิตที่ไม่แยแสอะไรของท่าน ข้าไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่ท่านมีท่านทำให้ข้ารู้สึกละอายใจ ทำให้ข้ารู้สึกต่ำต้อย ด้วยการมีอยู่ของท่านได้เพิ่มความเห็นแก่ตัวข้าถึงสิบล้านเท่า แค่ปล่อยให้จิตสำนึกที่ไม่มีอยู่ของข้าปล่อยจิตสำนึกของข้าให้จมดิ่งและรู้สึกทรมานอย่างรุนแรงทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ข้าต้องหาเหตุผลมาเป็นหมื่นๆ เพื่อเอามาอธิบายว่าข้าถูกแต่ท่านตีตกเหตุผลเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย! ข้าไม่ต้องการ และไม่สามารถเป็นคนดีได้ แต่ด้วยการมีอยู่ของเทวีเสรีภาพทำให้ข้าดูแย่! สำหรับคนอย่างท่านข้าคิดว่าผิด มันผิดปกติที่สตรีผู้ไม่มีร่างกาย ไม่มีแม้กระทั่งอารมณ์และความต้องการ ดังนั้นข้าต้องการเปลี่ยนแปลงท่าน ให้ท่านเป็นสตรีที่แท้จริง ทำให้ท่านเห็นแก่ตัวและพยายามอย่างหนักเพื่อความสุขของท่าน ข้าต้องการทำให้ท่านเป็นสตรีที่แท้จริงปล่อยให้ความรู้สึกความต้องการของสตรีได้แผดเผาทรมานกายและใจของท่าน จากนั้นข้าจะได้รับการปลอบประโลมเพื่อให้ข้าได้บรรลุเป้าหมายของข้า เพื่อให้ข้าได้นอนหลับเป็นสุขและฝันสบาย! ตอนนี้ท่านยังมีคำถามอีกหรือไม่? ข้าแค่อยากจะทำสิ่งนี้ ทำให้ท่านเป็นสตรีที่แท้จริง ให้ท่านยอมจำนนต่อความต้องการของข้าปล่อยให้โลกของท่านที่ไม่มีความสุขไม่มีตัวตนและอิสรภาพให้เป็นของคนอื่นต่อไป และทุกอย่างจะกลายเป็นความรักของท่านทีละน้อยจะทำให้ท่านไม่มีเวลาคิดว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร ท่านต้องทำโง่กับชีวิตของข้าเข้าใจไหม?”
เทวีเสรีภาพอิงหลัวตาโตมองดูเย่ว์หยาง นางรู้สึกเหมือนเห็นคนบ้า
เช่นเดียวกับเย่ว์หยางที่เปิดเผยหัวใจแผนการที่นำเสนออย่างสมบูรณ์
นางหัวเราะทันที
ใบหน้าที่สูงส่งน่าเลื่อมใสมีความยินดีและอ่อนหวาน นางถามเย่ว์หยางที่ทำให้เขาต้องตกใจตะลึง “จะให้ข้าขำหรือทำโง่ดี?”